Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
อีกหนึ่งรอยทางของความรัก

ฉันไม่รู้ว่า...ชั่วชีวิตหนึ่งของคนเราจะต้องพบพานเรื่องตื่นเต้นสักกี่ครั้ง?

สำหรับคนบางคน...ความตื่นเต้นไม่ได้ผ่านเข้ามาบ่อยๆ อาจจะเพียงแค่เดือนละครั้ง หลายๆ เดือนครั้งหรือนานกว่านั้น

และสำหรับบางคนชีวิตก็มีอะไรให้รู้สึกตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา

ฉันไม่รู้ว่า...เราจะนับการผ่านเข้ามาของใครบางคนเป็นเรื่องตื่นเต้นได้ไหม?

คงจะได้...เพราะมันเป็นการพบกันโดยไม่คาดฝัน และนำมาซึ่งอะไรอีกหลายๆ อย่างที่ฉันไม่คิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะได้พานพบ

อะไรบางอย่างที่เรียกว่า...ความรัก...




ฉันรู้จักพี่ปลาผ่านโลกไซเบอร์โดยรับรู้แต่เพียงว่า... เขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่อีกคนหนึ่งที่เข้ามารวมกลุ่มกับเพื่อนสาวบนเว็บไซต์ที่ฉันมักจะแวะเวียนเข้าไปอ่านบทความอยู่เสมอ

ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชาย ทำให้ฉันไม่ค่อยกล้าที่จะพูดคุยอะไรกับเขามากนัก นานๆ ครั้ง เราจึงจะพูดคุยกันผ่านกล่องข้อความของเว็บ แต่ก็เป็นเพียงข้อความทักทายสั้นๆ เช่น...

...สวัสดียามเช้า...

...สวัสดีตอนบ่าย...

...สบายดีไหม?...

ใครจะคิดว่าคนที่ผ่านกันไปผ่านกันมา เพียงแค่ในแช็ทบ็อกซ์จะกลายมาเป็นเพื่อนกันในที่สุด

บางที...อาจจะเป็นโชคชะตาที่กำหนดไว้




ในโมงยามของความเหงา...กับช่วงเวลาที่หัวใจค่อยๆ แหลกสลายลงทีละน้อย การมีเพื่อนพูดคุยแม้จะเป็นเพียงเรื่องสัพเพเหระทั่วไปก็ยังดีกว่าการไม่มีใครเลยสักคน

พี่ปลาเพิ่งจะผิดหวังจากความรักมาหมาดๆ เท่าๆ กันกับที่ฉันถูกใครบางคนหมางเมินแบบไม่มีสาเหตุ

คนเหงาสองคนจึงหันหน้าเข้าหากัน ก่อนที่ฉันจะพบว่า...เราสองคนเข้ากันได้ดีในแบบที่ยังต่างเป็นตัวของตัวเอง

ฉันชอบอ่านหนังสือ...พี่ปลาก็ชอบอ่านหนังสือ...

เราฟังเพลงแบบเดียวกัน...ชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน...

และเราก็มองโลกด้วยมุมมองที่คล้ายกันอย่างเหลือเชื่อ

มีใครบางคนเคยพูดไว้... ว่าความอ่อนแอไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะในขณะที่ใครบางคนอ่อนแอ ใครอีกคนหนึ่งจะเข้มแข็งขึ้น...

ความเหงาและความเสียใจของฉันและพี่ปลาจึงเป็นเสมือนยาที่ช่วยสมานใจของกันและกัน

เปลี่ยนให้โลกของคนเหงาสองคน กลายเป็นโลกที่อบอวลไปด้วยมิตรภาพและความรู้สึกดีๆ

แน่นอนว่า...ในระหว่างนั้นอาจมีความกังวลไม่แน่ใจเจืออยู่บ้าง แต่ฉันก็เชื่อว่า...เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความจริงใจระหว่างกัน

ฉันรู้ว่าพี่ปลาค่อนข้างเป็นกังวลถึงฐานะและวัยที่แตกต่าง แต่สำหรับฉันแล้วสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงองค์ประกอบย่อยๆ ที่ไม่อาจบ่งชี้คุณค่าความเป็นมนุษย์ของใคร

แต่ที่แน่ไปกว่านั้น คือการเติบโตแผ่กิ่งก้านใบของต้นไม้ที่ชื่อว่า...มิตรภาพ... ต้องการปฏิสัมพันธ์ที่มากกว่าการคุยกันผ่านโปรแกรมสนทนา อีเมล์ และโทรศัพท์มือถือ

ดังนั้นพี่ปลาจึงเดินทางมาหาฉันในวันหนึ่ง




คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากฉันจะบอกว่า...การพบใครสักคนเป็นครั้งแรกเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นในชีวิต

ฉันนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน และลืมตาขึ้นแทบจะทันทีที่เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นในตอนสาย พี่ปลาส่งข้อความภาพมาถึงฉัน และภาพนั้นก็ทำเอาฉันอยากจะบึ่งรถเขาไปในเมืองทันที

มันเป็นภาพร้านกิ๊ฟท์ช็อปที่ฉันหุ้นกันทำกับเพื่อนสนิทนั่นเอง

ฉันต่อโทรศัพท์ถึงเขา... พี่ปลาหัวเราะห้าวๆ มาตามสายกับอาการเนิร์ดแบบปัจจุบันทันด่วนของฉัน

“ไม่ต้องรีบหรอกครับ พี่ไม่หายไปไหนหรอก”

“แต่มิ่งอยากเจอพี่ปลาเร็วๆ นี่” ฉันบอกออกไปตามที่ใจคิด แล้วก็ได้เสียงหัวเราะห้าวๆ ตอบกลับมาอีกคำรบ

ฉันอาบน้ำอย่างลวกๆ ก่อนจะหยิบเอาชุดเสื้อกระโปรงที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืนออกมาสวม ฉันรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนสวย...แต่ก็มั่นใจในความน่ารักของตัวเองอยู่พอสมควร

ก่อนออกจากห้องฉันสำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง... เงาสะท้อนจากกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง ฉายให้เห็นภาพหญิงสาวร่างเล็กผิวขาวจัด ตัดกับผมตรงยาวสีดำสนิท

ฉันไม่รู้ว่าพี่ปลาคาดหวังอะไรจากการพบกันครั้งนี้บ้าง แต่ฉันก็พร้อมแล้วสำหรับการจะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตอีกครั้ง



ฉันมาถึงร้านก่อนเวลาเล็กน้อย ทว่ายังช้าไปกว่าพี่ปลาที่มายืนคอยอยู่แล้ว
พี่ปลาเป็นผู้ชายตัวใหญ่ ด้วยส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร และน้ำหนักเกือบๆ ร้อยกิโลกรัม ซึ่งเมื่อเทียบกับฉันที่สูงเพียงร้อยห้าสิบสองเซนติเมตร น้ำหนักตัวไม่ถึงห้าสิบกิโลกรัมดี ก็เทียบได้กับเสื้อไซส์เอสเอสกับเสื้อเบอร์เอ็กซ์เอ็กซ์แอลเลยทีเดียว

“พี่ปลาตัวใหญ้...ใหญ่”

“มิ่งก็ตัวเล้ก...เล็ก”

ความแตกต่างทางกายภาพนั้นแลดูชัดเจน แต่ดูจะไม่ใช่ปัญหาเท่ากับ “วัย” ที่ต่างกันมากของเราสองคน

พี่ปลาอายุห้าสิบเอ็ด... ในขณะที่ฉันเพิ่งจะย่างสามสิบ...

ทว่าในกรณีนี้ฉันกลับมองว่ามันเป็น “เรื่องดี” เพราะในยามที่ฉันใจร้อน...เอาแต่ใจ ความเป็นผู้ใหญ่ของพี่ปลาทำให้ เขาอ่อนโยนและใจเย็นอย่างเหลือเชื่อ

นับตั้งแต่รู้จักสนิทสนมกันมา... เราเคยเข้าใจผิดกันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

ฉันพาพี่ปลาไปทานอาหารมื้อเย็นที่ร้านอาหารริมหนองจองคำ ก่อนจะพากันไปเดินเล่นย่อยอาหารในสวนสาธารณะใกล้ๆ

“พี่ปลาเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่มิ่งเคยมีเลย” ฉันบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง บาดแผลจากความรักในอดีตยังคงอยู่ แต่มันก็ตื้นเขินขึ้นมากแล้ว

พี่ปลากุมมือฉันไว้ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“มิ่งเองก็เป็นของขวัญของพี่เหมือนกัน”




ระยะทางจากแม่ฮ่องสอนไปยังฝั่งธนยังคงไกลเท่าเดิม แต่ระยะทางระหว่างหัวใจสองดวงดูจะใกล้กันเข้ามาทุกๆ ขณะ

พี่ปลาเดินทางขึ้นมาแม่ฮ่องสอนทุกสองเดือน สลับการเดินทางเข้ากรุงเทพของฉัน

เราไปดูหนัง... นั่งจิบกาแฟคุยเรื่องจิปาถะ...

ไปเดินเล่นในตัวเมือง... ไปนั่งมองฝนริมทะเลสาบด้วยกัน...

ทุกๆ วินาทีที่อยู่ด้วยกันคือความสุข ฉันไม่รู้ว่าอนาคตของเราจะเป็นเช่นไร การมีใครสักคนอยู่เคียงข้างย่อมดีกว่าความเงียบเหงาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

“พี่ปลาทำมิ่งเสียนิสัย”

ฉันเอ่ยขึ้นมาลอยๆ ขณะเดินจูงมือกันเดินไปตามฟุตบาทในสวนสาธารณะ โดยมีฉันเดินอยู่ข้างบนฟุตบาทและพี่ปลาเดินอยู่บนพื้นถนนเพื่อที่ส่วนสูงของเราจะได้พอดีกันขึ้นมาบ้าง

“ทำไมล่ะครับ พี่ไม่เห็นมิ่งนิสัยไม่ดีตรงไหน”

“ก็เพราะพี่ปลามองไม่เห็นว่ามิ่งนิสัยไม่ดีนี่แหละ รู้ไหมคะว่า... มันทำให้มิ่งเคยตัว ถ้าพี่ปลาไม่อยู่มิ่งคงอยู่กับคนอื่นลำบากแล้วล่ะ”

“ก็ไม่เห็นยากนี่ครับ มิ่งก็อยู่กับพี่ไปเรื่อยๆ”

ฉันหยุดเดิน...จ้องลงไปในดวงตาสีดำเข้มของพี่ปลาอย่างจริงจัง

ไม่รู้ว่าอุปทานไปเองหรือเปล่าที่ฉันคล้ายจะเห็นแววกรุ่มกริ่มในดวงตาที่แลสบมา แต่นั่นคงไม่สำคัญเท่ากับอะไรบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในใจ จนท่วมท้นออกมาเป็นคำพูดในวินาทีถัดมา

“มิ่งรักพี่ปลา...แบบไหนไม่รู้ แต่ก็รักล่ะนะ”

พี่ปลาตอบรับคำบอกรักของฉันด้วยอ้อมแขนอบอุ่น กับริมฝีปากที่แตะลงบนหน้าผากแผ่วเบา

“พี่ก็รักมิ่งจ้ะ”

ฉันไม่รู้ว่า...คำบอกรักนั้นจะเป็นการพาตัวเองผ่านไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรอีกหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คือ...ปีเก่าเพิ่งจะผ่านพ้นไป และปีใหม่ก็กำลังผ่านเข้ามา




การเปลี่ยนผ่านจากปีเก่าไปสู่ปีใหม่ก็คงจะนับเป็นเรื่องตื่นเต้นได้อีกเรื่องหนึ่งเหมือนกัน

ความห่างไกลของระยะทางทำให้ฉันและพี่ปลาเลือกที่ฉลองปีใหม่กับเพื่อนฝูงและครอบครัวของตัวเอง พี่ปลาไปเคาท์ดาวน์กับพี่ชายที่สวนผึ้ง ในขณะที่ฉันติดสอยห้อยตามครอบครัวของเพื่อนสาวไปค้างคืนที่บ้านไร่นอกเมือง

ก่อนการเดินทางฉันส่งอีเมล์ฉบับหนึ่งพี่ปลา...

เพลงรักของโรส ศิรินทร์ทิพย์ที่ได้ยินผ่านคลื่นวิทยุชุมชนเมื่อวันก่อนยังคงติดหู


...ถึงแม้ว่ามันจะไกลสุดไกลแสนไกล
และฉันก็คงจะไปได้เพียงแค่ครึ่งทาง
ในวันที่ฉันได้จับมือของเธอคราวนั้น
ฉันเหมือนได้เห็นทางเดินสู่หัวใจ

แต่จากตรงนี้... จะอีกไกลไหม
จากมือเธอนั้นไปสู่ใจ

ฉันไม่รู้ว่ามันจะนานเท่าไร
เพราะมันดูแสนจะยาวไกล
ไกลสักเพียงไหน No Lo Se

ฉันไม่รู้ว่ามันจะนานเท่าไร
ฉันเองก็พร้อมจะก้าวไป
จะไปสู่กลางใจเธอ
A Tu Corazon…***



ระยะทางกว่าแปดร้อยกิโลเมตร อาจเรียกได้ว่าห่างไกล...แต่นั่นก็ใช้ได้กับเพียงแค่ร่างกาย เพราะการกระจัดระหว่างหัวใจมีมาตราส่วนพิเศษที่ไม่อาจเทียบเคียงได้กับมาตราใดๆ บนโลกใบนี้

สำหรับฉันแล้ว...การเดินทางจากหัวใจดวงหนึ่งไปสู่หัวใจอีกดวงหนึ่ง อาจมีระยะทางยาวไกลยิ่งกว่าการเดินทางจากโลกไปดาวอังคาร อาจจะต้องใช้เวลาในการเดินทางอีกเนิ่นนาน รวมทั้งอาจมีเรื่องไม่คาดฝันรอคอยอยู่ระหว่างทางมากมาย

หากถึงอย่างนั้นฉันกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด เพราะรู้ดีว่า...ตลอดเส้นทางข้างหน้าจะมีมือที่แสนอบอุ่นอ่อนโยนของใครอีกคนเกาะกุมกันไปจนถึงปลายทาง

...ที่หัวใจสองดวงจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป...








***เพลงสู่กลางใจเธอ ขับร้องโดย โรส ศิรินทร์ทิพย์


สวัสดีปีใหม่อีกครั้งหนึ่งนะคะ
ขอเปิดบ้านต้อนรับปีใหม่ด้วยเรื่องสั้นหวานๆ เป็นการประเดิม
กับเรื่องสั้นที่ธารเขียนเพื่อร่วมสนุกในคอลัมน์ ณจินตนาการของ "ลายปากกา" ค่ะ
หวังว่า...จะทำให้เพื่อนๆ ทุกคนมีความสุข ไปกับเทศกาลแห่งความสุขนี้ด้วยนะคะ
HAPPY NEW YEAR 2011 ค่ะ





Create Date : 07 มกราคม 2554
Last Update : 29 ตุลาคม 2554 20:08:07 น. 10 comments
Counter : 1180 Pageviews.

 
ฉันไม่รู้ว่ามันจะนานเท่าใร ฉันเองก้พร้อมจะก้าวไป ไปสู่กลางใจเธอ...^_^


โดย: puii IP: 119.46.227.3 วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:16:57:07 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านค่ะ
แต่มาทักทายคุณธารก่อน


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:21:43:53 น.  

 
เรื่องนี้หวานนิดเดียวเองอ่ะ เหมือนมดตัวเล็กๆ....

แต่มากมายหลายล้านตัว อิอิ



โดย: พี่ ณ IP: 203.146.6.28 วันที่: 9 มกราคม 2554 เวลา:12:04:17 น.  

 
ฟี่อ่านแบบนึกว่ามันเป็นเรื่องจริงค่ะคุณธาร อุ่น ๆ หวาน ๆ


โดย: Paulo วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:9:07:55 น.  

 




โดย: redclick วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:41:08 น.  

 
หวานมากค่ะ อ่านแล้วอากาศอุ่นขึ้นนะ


โดย: BeCoffee วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:18:34:20 น.  

 
ไม่ได้แวะมานานเลย คุณธารสบายดีนะคะ ^^


โดย: Paulo วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:23:26:27 น.  

 
สวัสดีค่ะ มาแอบดูหัวใจในไอหมอก


โดย: redclick วันที่: 9 เมษายน 2554 เวลา:6:31:34 น.  

 
อ่านแล้วนึกว่าเป็นเรื่องจริงเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2554 เวลา:8:14:43 น.  

 
คิดถึงนะคะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:9:34:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธาร นาวา
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จากสายธารลำเล็กๆ
หลอมรวมเป็นกระแสธาราอันกว้างใหญ่
หลั่งริน...ไหลระเรื่อย...
นำพาเอาความชุ่มชื้นฉ่ำเย็นมาสู่หัวใจผู้คน

ลายปากกา
Friends' blogs
[Add ธาร นาวา's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.