|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องสั้น - "วันพ่อ..ของใคร" โดย หมีบางกอก
เสียงพลุดังกระหึ่ม..สะเทือนจนกระจกลั่น...
เขานั่งอยู่หน้าจอทีวีมองดูฝูงชนคลาคล่ำที่เดินอยู่ทั่วถนนราชดำเนินกลางและราชดำเนินนอก แสงไฟที่ระโยงระย้าประดับประดาแพรวพราวชวนตื่นตา คนไทยไม่ค่อยมีโอกาสได้รื่นรมย์กับอะไรแบบนี้มานานแล้วกระมัง หลังจากบรรยากาศที่คุกรุ่นด้วยความขัดแย้งมาเป็นปี
นึกถึงสมัยก่อน..คุณพ่อมักจะจับเขาขึ้นรถขับพาออกไปดูไฟวันเฉลิมเป็นประจำทุกปี อากาศหนาวเย็นให้ความรู้สึกคลาสสิคมากๆ ราวกับอยู่ต่างประเทศ รถสมัยก่อนไม่มีแอร์ เปิดหน้าต่างรับลมเย็นสบาย เป็นที่มาของสำนวนขับรถกินลม ซึ่งสมัยนี้คงเป็นสำนวนที่ไม่มีใครรู้จัก...เพราะอากาศแบบนั้นคงหาไม่ได้แล้วในวันนี้
สงสัยเราจะแก่ไปจริงๆ แล้วกระมัง...จะให้เดินทางฝ่าฝูงชนมากมายขนาดนั้น.. ขอนั่งดูทีวีอยู่กับบ้านอย่างนี้จะดีกว่า
ขณะที่พี่สาวที่เพิ่งเดินขึ้นชั้นบนไป ได้แต่บ่นถึงความไม่พร้อมในการจัดการและความผิดพลาดของโชว์ที่อุตส่าห์คุยนักคุยหนา ทำให้หลายคนที่ตั้งใจมาร่วมงานต้องได้รับความผิดหวัง กระนั้น..ก็ยังชื่นชมในความตั้งใจจริงของชาวบ้านต่างจังหวัดที่เหมารถกันมาเป็นร้อยกิโลเพื่อแสดงความจงรักภักดีกันอย่างถ้วนหน้า จริงสินะ..ยังมีคนที่รักท่านด้วยความบริสุทธิ์ใจอีกมากมาย น่าสนใจอยู่ว่าทำไม?..หรือเป็นเพราะท่านได้แสดงออกซึ่งความเอาจริงเอาจังในการเสียสละเพื่อส่วนรวมในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
มีบางคนพยายามเทียบเคียงกับนักการเมืองที่ได้รับการเทิดทูนเยี่ยงพระเจ้าตอนนี้ เขาก็พยายามนึกต่อ..เอ..มีอะไรที่เขาคนนั้นแสดงออกให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจโดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงบ้างนะ เขาเห็นมาตั้งแต่ยุคสมัยฟองสบู่แตก ขณะที่เขาเองต้องปิดบริษัทขายบ้านช่องใช้หนี้ แต่คนๆ นี้กลับรวยเอาๆ จากการพลิกผันดอลล่าร์ชนิดเย้ยคนไทยทั้งประเทศ มีคนไม่น้อยต้องตายเพราะวิกฤตครั้งนั้น นี่กรรมมันกำลังทำงานของมันอยู่หรือเปล่าหนอ...
ขณะเดียวกันมีอาจารย์มหาวิทยาลัยบางคนออกมาเขียนบทความชื่นชมประมาณว่านี่คือตัวแทนของคนหมู่มากที่ได้รับการเลือกตั้งมาถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่พยายามตั้งตัวเองเหมือนใครบางคน... เขาเองต้องนึกพิศวงในใจ อะไรจะด่วนสรุปเอาง่ายๆ ขนาดนั้น แล้วคนส่วนใหญ่ของประเทศดังที่กล่าวอ้างนั้น คงทราบแต่ข่าวสารที่เขาพยายามโปรปะกันดาด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบเหนือชั้นแค่นั้นกระมัง ก็เหมือนกับที่ฝ่ายนั้นบางคนพยายามโจมตีว่าอย่าเอาแต่ดูข่าวจักรๆ วงศ์ๆ มากไปเลย....ยังไงยังงั้น
ขณะที่ฝ่ายซึ่งกำลังชุมนุมก็ประโคมเรื่องราวโดยเฉพาะทางสื่อออนไลน์ที่สารพัดจะขุดคุ้ยเรื่องราวในทางลบออกมาประชัน แต่ตัวหัวหน้าใหญ่กลับแสดงลีลาจงรักภักดีเหลือกำลัง แค่นึกก็งุนงงหาข้อสรุปไม่เจอ ความสับสนและความขัดแย้งเหล่านี้ไม่ใช่แต่จะเกิดบนท้องถนน หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ อย่าว่าแต่อะไรเลย.. ลูกชายคนโตของเขาเองซึ่งเพิ่งขึ้นปีสี่ก็ประกาศปาวๆ .. ประมาณว่าได้ข้อมูลมามากมายเรื่องหกตุลา เพื่อนนักศึกษาต้องพลีชีพไปมากมายในช่วงนั้น...
เขาก็ต้องสะท้อนถอนใจ ไม่รู้ว่าจะตอบว่ากระไร นึกถึงยุคนั้น..เพื่อนนิสิตหลายคนที่หายเข้าป่าไป..เพื่อนสาวคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นแฟนของเพื่อนที่เป็นโฆษกช่องมากสี ก็ไม่มีโอกาสกลับออกมา ขณะที่หลายคนมีโอกาสคืนกลับสู่สังคม ไม่มีใครอยากให้ความเห็น ส่วนมากจะทำหน้าแปลกๆ บอกว่า มันไม่ใช่สังคมอุดมคติอย่างที่คิดหรอก เขาก็ได้แต่อ้ำอึ้งไม่ทราบจะถามอะไรต่อ...
เขานึกไปถึงเหตุการณ์รุนแรงที่กรือแซะไปจนถึงโศกนาฏกรรมที่ตากใบซึ่งคนต้องตายไปนับเป็นร้อย..แถมทางการยังตามไปฟ้องครอบครัวชาวบ้านพวกนั้นซ้ำอีก มันก็เลวร้ายไม่ต่างกัน เพียงแต่คนพวกนั้นเป็นชาวบ้านที่ถูกตราหน้าว่าเป็นโจรแยกดินแดนไม่ใช่นักศึกษาปัญญาชน เหตุการณ์หกตุลามันยังเป็นบทเรียนไม่เพียงพออีกหรือกับโศกนาฏกรรมหมู่ที่เกิดขึ้น
หรือว่านี่คือคติ(เวร)ประจำใจผู้นำแต่ละยุคที่ต้องสร้างวิบากกรรมกับชีวิตของคนนับไม่ถ้วน?
สายตาที่ดูทีวีกับความฟุ้งซ่านในสมองดูจะไม่สัมพันธ์กัน...เขากดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเคเบิลทีวีซึ่งตอนนี้เกมส์โชว์เกาหลีกำลังฮิต รู้สึกหนวกหูเป็นกำลังกับเสียงพากย์ก็เลยตัดสินใจปิดทีวีไปเสีย ขณะเดียวกันเสียงเดินลงส้นตึงๆ ของพ่อเจ้าประคุณลูกชายคนที่สองสะเทือนตามมาพร้อมเสียงบริภาษจากป้าของเขา
เขาอ้าปากค้างพร้อมคำพูดที่กำลังจะถามหายไปในลำคอ พ่อหนุ่มน้อยดูท่ามิค่อยสบอารมณ์สังเกตได้จากสีหน้าที่บอกบุญไม่รับ..เดินลงชั้นล่างไปในชุดที่ดูเหมือนราวจะออกไปเที่ยวผับ เออ..อายุก็ยังไม่ถึงยี่สิบ มันจะทำเรื่องอะไรอีกมั้ยคืนนี้?
เขานึกหวั่นๆ ในใจ...อย่าให้ต้องไปประกันตัวออกมาเลยนะ
พี่สาวของเขาเดินตามลงมาด้วยสีหน้าไม่ต่างกัน “ตกลงเจ้าเต้มันจะไปไหนกัน...”
เขาเงยหน้า “ผมนึกว่าพี่รู้...”
พี่สาวทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนใจ “ชั้นก็นึกว่าเธอจะถาม...”
เขาหัวเราะอย่างปลงๆ “มันคงเปิดโอกาสให้ผมถามหรอกนะ”
“แล้วเจ้าต้อมล่ะ?” พี่สาวถามถึงลูกชายคนโต
เขาหัวเราะหึๆ “ออกไปตั้งแต่เช้าก็ยังไม่เห็นกลับมาเลยนี่”
พี่สาวถอนใจเฮือกใหญ่ “เธอควรจะพูดกับมันบ้างนะ..” “พี่จะให้ผมพูดอะไร..รังแต่จะทะเลาะกัน...” “มันก็น่าจะรู้ว่านี่วันพ่อ...”
เขาเงียบ ..พี่สาวคงรู้สึกตัว..เธอกระแอม “ออกไปหาอะไรกินกันมั้ย..”
เขายิ้มเฝื่อนๆ “อย่าห่วงผมเลยพี่..ข้างนอกคนเป็นมด..รถก็ติด”
พี่สาวถอนใจเบาๆ “ก็จริงของเธอ...เดี๋ยวพี่ออกไปซื้ออะไรมาให้ดีกว่า” ว่าแล้วเธอก็รีบกระวีกระวาดคว้ากระเป๋าถือที่โต๊ะ
เขาอ้าปากจะท้วง แต่เธอก็เดินลงบันไดไปเสียแล้ว ยังไงเขาก็ยังโชคดีที่มีพี่น้องซึ่งยังดูแลกัน ไม่เหมือนสารคดีคนยากจนสิ้นไร้ไม้ตอกที่ทีวีแต่ละช่องพยายามดันเรตติ้งแข่งกันอยู่
เขาหันไปกดรีโมททีวีใหม่ ภาพของผู้คนที่ตั้งใจมาถวายพระพรทำให้เขานึกยินดีแทนท่าน ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้...
แต่ไม่ได้อิจฉาท่านหรอกนะ เพราะตัวเขาเอง..อาจจะเป็นพ่อที่ดีไม่เพียงพอกระมัง
วันนี้สำหรับเขา..ก็เลยไม่ทราบว่าเป็นวันพ่อ...ของใคร
Create Date : 06 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2554 15:35:22 น. |
|
0 comments
|
Counter : 467 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

|
งานเขียนบทความ บทหนัง เรื่องสั้น และนวนิยายในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์โดย Bkkbear (หมีบางกอก) ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามมิให้ดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
|
|
|
|
|
|
|