|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องสั้น - 2012 โดย หมีบางกอก
วันนี้แล้วสินะ วันที่ 21....
โชคดีที่เกิดวันที่ 19 ธันวา ..เลยได้ฉลองไปแล้ว โล่งอกไปที
ไม่ต้องมาเกร็งว่าจะได้เป่าเค็กกะเค้าหรือเปล่า... แต่เอาเถอะ ถึงจะมีแค่ตาสนกะยายแจ่มมาเป็นแขก ก็ช่างหัวมัน..อย่างน้อยก็มีปาร์ตี้ล่ะวะ
เหลือบสายตาไปที่ฝาผนัง ภาพจำลองปฏิทินมายันใส่กรอบทองดูอลังการ ถึงจะดูโดดๆ ไม่ค่อยเข้ากับเดคอเรชั่นสไตล์จีนแอนทีค..รอบบ้านก็เหอะ
ตัวเลข 21/12/12 แลดูเด่นบนกรอบนั้น .. แหม เลขสวยอยู่ ถ้างวดนี้ออกคงถล่มทลาย โชคดีที่เขาเลิกเป็นเจ้ามือไปนานแล้ว
ชาวมายันมันรู้ดีได้ไงนะ ดัดจริตทำเป็นปริศนาให้คนทั้งโลกป่วนไปหมดกับไอ้ 2012 บ๊องๆ เนี่ย แต่ก็ เอ่อ..มันก็เป็นเหตุผลให้เกิดบ้านหลังนี้ขึ้นมานี่นะ อุตส่าห์มาอยู่บนดอยที่เกือบสูงที่สุดของเมืองไทยแล้วนา ยังไงก็เซฟไว้ก่อน
มองไปรอบๆ นึกภูมิใจอยู่กลายๆ บ้านนี้เขาอุตส่าห์ออกแบบอย่างพิถีพิถันด้วยตัวเองเชียวนะ หลังคาทำด้วยวัสดุพิเศษป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตจากดวงอาทิตย์ได้..อย่างน้อยก็ระดับหนึ่งหรอกน่า
กระจกลามิเนตรอบๆ บ้านหนาถึงสามชั้นเคลือบฟิล์มกรองแสงแบบเดียวกับที่ใช้กับยานดิสคัฟเวอรี่เลยนา วัสดุผนังแบบสังเคราะห์ฝังแผ่นเหล็กอยู่ตรงกลาง แข็งแรงยิ่งกว่าห้องใต้ดินของมหาเศรษฐีหมื่นล้านที่กำลังร่อนเร่พเนจร อ้อ พูดถึงห้องใต้ดิน เขาก็เตรียมไว้เหมือนกัน พร้อมด้วยเสบียงอาหารเพียบชนิดอยู่ได้เป็นเดือน ต้องผ่านประตูวัสดุกันรังสีถึงสองชั้นกว่าจะลงไปได้
แล้วเขาจะมีอะไรต้องกลัวอีก ….
มีเศรษฐีใหม่อีกหลายเจ้าที่แห่แหนกันไปสร้างบ้านหรูกันบนเขาใหญ่ หรือแถวเชียงใหม่ ก็คงด้วยวัตถุประสงค์เดียวกับเขาแหละ คิดว่าจะหนีภัยพิบัติพ้น แต่พวกนั้นเชื่อว่าไม่มีใครลงทุนออกแบบและใช้วัสดุอย่างเริดเทียบเทียมเขาได้เป็นแน่
นิ้วคลิกรีโมทในมือ...ภาพข่าวทั่วๆ โลกดูจะไม่แตกต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่ผู้คนเริ่มหันมาพึ่งศาสนากันเป็นพะเรอ โบสถ์คริสต์ สุเหร่าอิสลาม เทวสถานฮินดู หรือแม้แต่วัดไทย คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่พากันเข้าไปสวดมนต์ขอพร เกิดจะมาศรัทธาอะไรกันตอนนี้ พอใกล้ตายค่อยเริ่มรู้สึกตัว..ว่างั้น
แวบนึงก็นึกสงสาร คนที่มีโอกาสแบบเขาคงมีหนึ่งในแสน หรือเผลอๆ ในล้าน โชคดีที่ไม่มีเรื่องลูกเมียให้มาห่วงหน้าพะวงหลัง อยากทำอะไรก็ทำ... เคยชวนเพื่อนบางคนมาอยู่ด้วย ก็ดันห่วงครอบครัวอีก เฮ้อ..
หันไปดูช่องไทยๆ ก็มีแต่ข่าวการเตรียมการป้องกันของทางการ ที่ต้องเตรียมรับมือกับระดับน้ำที่เริ่มสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปีที่แล้ว จนเดี๋ยวนี้กรุงเทพฯ จะเหมือนเนเธอร์แลนด์อยู่รอมร่อ ล้อมรอบด้วยเขื่อนสูงที่สร้างกันมาตั้งแต่สองปีก่อน ยังไม่รวมถึงอุปกรณ์ใหม่ๆ ในการปรับสภาพอากาศที่ทางภาคีอาเซียน ซึ่งรวมทั้งจีนและญี่ปุ่นช่วยกันร่วมมือคิดค้น ทั้งฝนสังเคราะห์ระบบใหม่ อุปกรณ์สร้างชั้นบรรยากาศเพื่อป้องกันพายุ ไปจนถึงเครื่องอุดรูรั่วของชั้นโอโซน
ดีเหมือนกันนะ หายนะที่กำลังคืบคลานกลายเป็นส่วนทำให้ผู้คนทั่วโลกหันมาสามัคคีกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน บรรดากลุ่มสารพัดสีบ้านเราก็พลอยหายไปโดยปริยาย หันมาจับมือกันต้านภัยพิบัติกันเป็นอันดี
เขาอดหัวเราะหึๆ ในใจไม่ได้..
แต่ถ้าแกนแม่เหล็กโลกมันหมุนกลับตาลปัตรจนครบรอบอย่างที่สหรัฐกำลังรอประกาศผลอยู่ อะไรจะเกิดขึ้นล่ะ เกราะกำบังโลกคงอ่อนกำลังลง...นึกถึงพายุสุริยะซึ่งกำลังก่อตัวและจะพัดมาถึงในอีกไม่นานนี้ ตึกรามบ้านช่องธรรมดามันจะมีอะไรเหลือ? เงินหลายล้านที่ลงทุนจ้างวิศวกรจากนาซ่ามาออกแบบบ้านหลังนี้คงคุ้มค่านะ
เขาเดินออกมายืนที่ริมระเบียงมองผ่านกระจกพิเศษที่ใช้ตัวยึดแบบสไปเดอร์ไร้กรอบ...ทิวทัศน์เขียวชะอุ่มรอบตัวยังคงสวยงามอิ่มตาเหมือนเคย แม้ว่าอากาศจะร้อนขึ้นมาจากปีก่อน แต่บนยอดดอยเล็กๆ ที่เขายอมจ่ายใต้โต๊ะซื้อมานี้ก็นับว่าอากาศยังเย็นระรื่นกว่าใน กทม.แน่นอนอยู่
เสียงนักข่าวทีวีกำลังสัมภาษณ์หลวงปู่เกจิอาจารย์ดังซึ่งเพิ่งเดินทางมาถึงที่โบสถ์วัดริมน้ำแห่งหนึ่ง ท่านกำลังมาร่วมพิธีนั่งสมาธิภาวนาเพื่อรวมพลังจิตของบรรดาเกจิทั่วประเทศในการป้องกันภัยครั้งสำคัญให้กับประเทศชาติ
“พลังบุญบารมีของผู้ทรงศีล รวมไปถึงพลังจิตของคนหมู่มากที่ศรัทธา หากปฏิบัติได้พร้อมๆ กันด้วยเจตนารมณ์เดียวกัน จะได้พลังมหาศาลอย่างไม่คาดคิดเลยทีเดียว ในยุคสงครามโลกที่ผ่านมาหลายท่านอาจจะเคยทราบประสบการณ์เหล่านี้มาบ้างแล้ว แต่คราวนี้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมาส่งผลไปทั่วโลก เราในฐานะที่เป็นเมืองพุทธศาสนา และได้อุตส่าห์เตรียมฝึกฝนทางจิตให้กับผู้คนทั่วประเทศมาเป็นปีเพื่อจะรับมือเหตุการณ์นี้ ก็ต้องทำหน้าที่กันอย่างสามัคคีพร้อมเพรียงกัน..”
เสียงหลวงปู่รูปนั้นแว่วๆ ผ่านโสตประสาท...พร้อมเสียงสวดพาหุงลอยตามมา
หรือเพราะอย่างนี้ แม้กระทั่งแม่บ้านหรือคนสวนก็ยังขอตัวกลับไปอยู่กับครอบครัวของเขา เพื่อสวดมนต์ภาวนา? บางทีเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนพวกนี้คิดอะไรอยู่.. อยู่ที่นี่น่าจะปลอดภัยกว่ากลับไม่เอา..
พลันท้องฟ้าตรงหน้าเริ่มแปรเปลี่ยน เขากดรีโมทเปลี่ยนไปฟังซีเอ็นเอ็น นั่นไงล่ะ จริงเสียด้วย พายุสุริยะกำลังมาถึงโลก...พยับเมฆหมุนวนแปรรูปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีทั้งๆ ที่อาทิตย์ยังไม่ทันอัสดง ริ้วของแสงแปลกๆ ที่คล้ายปรากฏการณ์ออโรร่าแถบขั้วโลกระบายวูบวาบอยู่บนฟ้าสีครามม่วง
เขาผงะถอยออกมา มือคว้ารีโมทอีกอันกดให้ม่านกันรังสีเลื่อนลงมาปิดกระจก หันไปมองโทรทัศน์ก็ปรากฏสัญญาณที่ถูกรบกวน เขากดกลับไปทีวีไทย เสียงโฆษกแว่วๆ มาว่า น้ำเริ่มเอ่อเข้ามารวดเร็วขึ้น แต่กำแพงเขื่อนยังต้านไว้อยู่ ขณะที่เกิดปรากฏการณ์คล้ายสึนามิที่ภูเก็ต แต่เขื่อนป้องกันที่สร้างขึ้นดูจะใช้ได้ผลดี การเตือนภัยทำได้ฉับพลันทันการณ์
เขาถอยออกมาจนชนโซฟา ทรุดลงนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรง นี่เขากำลังต้องผจญกับเหตุการณ์บ้าๆ อยู่คนเดียวหรือนี่..?
ขณะนั้น เขาเริ่มรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนน้อยๆ จนช้อนกระทบกับแก้วกาแฟบนโต๊ะ กระจกรอบบ้านเหมือนลั่นกราว...เขาหดขาขึ้นมาบนโซฟา คว้าหมอนมากอดแนบอก หน้าเริ่มไร้สี ยังไงน้ำคงไม่เอ่อขึ้นมาถึงที่นี่เหมือนในหนังดอกนะ...
เสียงนักข่าวหัวเห็ดยังคงรายงานข่าวต่อเนื่อง เออ..ไอ้พวกนี้นี่มันทนทายาดจริงๆ
“กรุงเทพฯ ยังคงได้รับแรงสั่นสะเทือน แต่ไม่มากตามที่คาดคิดค่ะ อุณหภูมิในบรรยากาศสูงขึ้นกว่าปกติ แต่ประชาชนทุกคนยังมีขวัญกำลังใจดีค่ะ โดยเฉพาะคน กทม.ต่างพร้อมใจกันปฏิบัติสมาธิสวดมนต์กันอย่างแน่วแน่จากทุกมุมเมือง ...โอ..คุณผู้ชม ดูสิคะ คิดว่าดิฉันคงไม่ได้ตาฝาด”
กล้องโทรทัศน์ที่จับภาพมุมสูงของกรุงเทพฯ จากตึกของสถานี ได้เผยให้เห็นภาพที่แปลก ชวนขนลุก แตไม่ได้ด้วยความน่าสะพรึงกลัว หากแต่หากเต็มไปด้วยความปิติอย่างประหลาด...
รังสีเรืองแสงสีฟ้านั้นมาจากไหน ดูตัดกับท้องฟ้าที่เมฆกำลังป่วนและเริ่มกลายเป็นสีแดงม่วงขึ้นทุกทีๆ หากแต่รังสีเย็นนั้นดูแผ่ครอบคลุมไปทั่วปริมณฑล....จากภาพที่เห็นขณะกล้องกำลังแพนไปรอบๆ เสียงสวดมนต์ได้ยินแว่วผ่านเข้ามาราวกับดังมาจากทั่วสารทิศ
เสียงนักข่าวสาวรายงานต่ออย่างระล่ำระลัก “ทางสถานีเตือนภัยได้รายงานด่วนมาค่ะว่ากระแสพายุสุริยะได้พาดผ่านหลายจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพฯของเราอย่างเฉียดฉิว แต่ที่น่าประหลาดคือไม่ทำความเสียหายใดๆ เหมือนกับบางประเทศที่กำลังโดนอยู่ตอนนี้นะคะ มีคำเตือนว่าผู้ที่อยู่ในที่สูงมากๆ อย่างบนภูหรือยอดดอยทางภาคเหนือให้รีบลงหลุมหลบภัยที่เตรียมไว้จะปลอดภัยกว่าค่ะ..”
เขาเบิกตากว้าง...ขณะที่รู้สึกหลังคาบ้านสั่นกราว...กระจกรอบด้านลั่นเปรี๊ยะ.. เขาผวาลุกขึ้น มองผ่านหน้าต่างบานเล็กด้านข้าง ไฟกำลังลุกติดต้นยางสองคนโอบสูงลิ่วนั้น
พื้นสะเทือนวูบราวแผ่นดินไหว..กรอบรูปยักษ์ปฏิทันมายันพลันร่วงลงกระทบพื้นแตกกระจาย...เขาสะดุดแจกันใบเขื่องที่กลิ้งลงมาจากโต๊ะ ถลาไปตะกายกับพื้นแกรนิตอย่างดีที่ร้าวไล่ไปเป็นทาง
คว้าม่านกันรังสีดึงตัวขึ้นมาได้ ยังไงต้องรีบลงไปที่ห้องใต้ดินให้ทัน....
แต่แรงเขย่าอีกครั้ง ทำให้เขาเสียหลัก..มือลากม่านแง้มออกทำให้เขาได้เห็นบรรยากาศด้านนอก ป่าเขาที่เคยเขียวครึ้มเย็นสงบกลับกลายเป็นนรกสันดาปที่เต็มไปด้วยเปลวไฟสีส้มจัดจ้า และ..ด้วยอนุสติสุดท้ายที่ขาดผึงไปพร้อมกับกระจกนิรภัยที่กระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับโดนระเบิดนาปาล์ม....
Create Date : 06 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2554 15:42:18 น. |
|
1 comments
|
Counter : 509 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:58:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

|
งานเขียนบทความ บทหนัง เรื่องสั้น และนวนิยายในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์โดย Bkkbear (หมีบางกอก) ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามมิให้ดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
|
|
|
|
|
|
|