ก่อนจะมาทำงานในครัว 2 ตอนที่เรียนทำขนมอบอยู่ เชฟคนนึง พร่ำบอกตลอดเวลาว่า ให้ไปสมัครงานซะนะ อะไรก็ไม่ดีไปกว่าประสบการณ์ เราก็อยากจะทำตามอ่ะนะ แต่ก็คิดว่า เราไม่มีใบอนุญาตทำงานนี่ มันจะทำได้ไง เจอหน้าเชฟคนนี้ทีไร จะโดนถามคำเดิมทุกที ว่าไปสมัครงานมารึยัง ฝึกงานอยู่รึเปล่า เราก็ตอบเหมือนเดิม ว่า กำลังจะ ค่ะ เราไม่มีสิทธิทำงาน แล้วก็ไม่รู้จักใครเลย อยู่ในวงแคบมาก ไม่รู้จะทำยังไง ที่เล่าไว้ว่าเรียนจบแล้วแต่ก็ไม่ได้กลับไปช่วย กิจการครอบครัวอย่างที่ตั้งใจ ก็เพราะว่าเราแต่งงานค่ะ คุณพ่อของเรานั้นอยากให้เราเรียนการทำอาหารมากกว่า พอเรียนทำขนมเสร็จก็ตัดสินใจเรียนต่ออีกหลักสูตร เป็นหลักสูตรศิลปการทำอาหารยาวกว่าเดิม เราอยากเรียน เพราะอยากจะมีหูตากว้างไกลกว่าเดิม หาประสบการณ์ให้ได้มากกว่านี้ ระหว่างที่เรียนอยู่นี้ เราก็เกิดพบรักบุพเพอาละวาด แต่งงานแต่งการ กลายเป็นว่า เราคงยังไม่ได้กลับไปช่วยกิจการที่เมืองไทยเร็ว ๆ นี้แน่นอน เพราะสามีต้องทำงานอยู่ที่นี่ อนาคตอาจมีการขยับขยายกลับไปอยู่เมืองไทยที่รักได้ ก็ยังไม่รู้เมื่อไหร่ แฮะ แฮะ ที่บ้านก็เหวอกันนิดหน่อย ที่โดนเราหักหลัง ชิงทุนมาเรียนแล้วก็ชิ่งอย่างงี้ เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตอนเรียนคิดตลอดว่าเดี๋ยวก็ได้กลับเมืองไทย ไม่ค่อยได้ใส่ใจกับธุรกิจวงการอาหารที่เมืองนี้นัก แต่พอเหตุการณ์กลับเป็นเช่นนี้ ก็ต้องเริ่มเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมมากขึ้นหน่อย ปกติคนที่จะยึดอาชีพเชฟนี่ เค้าจะเลือกไปเลยว่าจะเป็นเชฟทางอาหาร หรือขนมอบ (pastry chef) ทางใครทางมัน แต่ก็มีหลายคนที่เรียนทั้งสองอย่าง ครอบครุม แต่ก็ทำให้เสียเวลา เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของอาชีพนี้ ก็คือประสบการณ์ โรงเรียนสอนทุกอย่างได้ แต่ประสบการณ์เราต้องหาเอง แรกเริ่มของการทำอาชีพนี้ ถ้าไม่มีประสบการณ์มาก่อน ค่าตอบแทนก็จะน้อยมาก น้อยมากจริง ๆ และกว่าจะได้เป็นขึ้นเชฟ ก็คงจะใช้เวลานานหลายปีทีเดียว เพราะคำว่าเชฟนั้น ไม่ได้หมายถึงแค่คนที่ทำอาหารได้อย่างเดียว เชฟจะต้องบริหารครัว เป็นหัวหน้า คิดเมนู คิดสูตรอาหาร สอนลูกทีม ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในครัว ตั้งราคาอาหาร คำนวณค่าใช้จ่าย บวกลบคูณหาร กำไรขาดทุน สั่งของ จัดตารางทำงาน สรุปก็คือ รับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในครัว ดูแลให้มีผลกำไรตามเป้าหมาย ถ้าคุณเลือกจะเป็นทางขนมอบ จุดหมายของคุณก็คือการเป็นเพสทรี้เชฟ แล้วคุณก็ต้องเลือกอีกว่าจะเป็นเพสทรี้เชฟเฉพาะทาง ทางอะไร จะทำงานที่ไหน ร้านอาหาร เบเกอรี่ (ขนมเค้ก หรือขนมปัง) ร้านช็อคโกแล็ต ร้านแคนดี้ ทุกที่มีตำแหน่งต่าง ๆ กัน ควรเลือกเอาซักทางจะได้ไม่เสียเวลาหลงทาง (เหมือนเรา อิอิ) ส่วนถ้าเลือกทางอาหาร ก็จะต้องเลือกว่าจะทำงานในโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟทีเรีย คลับเฮ้าส์ จัดเลี้ยงนอกสถานที่ หรือร้านขายอาหารพิเศษเฉพาะทาง ไวน์ ชีส เนื้อสัตว์ ตำแหน่งเริ่มต้นตามร้านอาหารทั่ว ๆ ไปก็คือ prep cook, line cook, pantry cook ก่อนเป็น sous chef และ chef ใหญ่ตัวจริง สำหรับเราแล้วเราอยากเป็นเพสตรี้เชฟค่ะ ตอนเรียนศิลปการทำอาหารเค้าก็กำหนดให้ต้องฝึกงานด้วย ให้หาที่ฝึกงานเอง เราเลยเลือกไปฝึกที่ร้านเบเกอรี่แห่งนึง ที่เราชอบมาก ๆ ฝึกอยู่สามเดือนค่ะ ชอบมาก ๆ แต่เสียดายที่เค้าไม่มีตำแหน่งเปิด ฝึกเสร็จก็ต้องเริ่มสมัครหางานทำ ก็เป็นอย่างที่ทราบ ๆ กันว่า การได้งานนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เราจึงเริ่มเหวี่ยงใบสมัคร คือจดหมายแนะนำตัวและเรซูเม่ ส่งไปสิบ ตอบมาสอง พอไปสัมภาษณ์ ก็ปิ๋วอีก บางที่เราอยากทำมาก แต่เค้าไม่เอาเรา มีที่นึงเรียกเราไปสัมภาษณ์ ตื่นเต้นมากก เค้าก็ถามโน่นถามนี่ ให้เล่าเกี่ยวกับตัวเอง เราก็เล่าไป พอเสร็จการสัมภาษณ์ เค้าบอกว่าเค้าจะติดต่อมา เวลาผ่านไปนานพอควร เค้าไม่ติดต่อมา เราก็รออยู่ ก็โทรไปถามเค้า เค้าตอบว่า อ๋อ ตำแหน่งที่สมัครไม่ว่างแล้วนะ เสียใจด้วย มีแต่คนดี ๆ มาสมัครกันทั้งนั้น ฮ่วย เป็นอันอด เสียใจจัง มีที่เป็นร้านอบคุกกี้ชื่อดัง เค้าสนใจเรา แต่เราคิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า อบคุกกี้ เราอบเป็นแล้ว เราอยากเรียนรู้อะไรมากกว่านั้น แน่ะ ยังมีเลือกอีก เราก็ยังร่อนใบสมัครต่อไป... บางที่เป็นร้านขนมปัง น่าสนใจ เราจะได้ทำขนมปังเก่ง ๆ บางที่เป็นเบเกอรี่ก็รับผู้ช่วยอบขนม อันนี้เราเคยฝึกงานมาแล้วไง ก็น่ามีหวัง บางที่เป็นร้านอาหารแบบสมัยใหม่ อืม... เจ๋ง ถ้าได้ไปทำก็ดีสิเนี่ย แต่เค้าเอาประสบการณ์ตั้ง 2 ปี ยากกก... และมีร้านอาหารคอนเซ็ปต์เก๋จัดกำลังจะเปิด ลงรับสมัคร pastry cook ไม่ได้ระบุจำนวนปีประสบการณ์ แต่บอกว่าต้องจบโรงเรียนทำอาหาร อย่างงี้ค่อยน่าลุ้น เจ้าของเป็นคนเวียดนาม เธอสวยเก๋ทีเดียว เคยเปิดร้านดังมาแล้วในเบย์แอเรีย อาหารก็จะเป็นสไตล์ฝรั่งเศส แต่ใช้ส่วนผสมแบบเอเชียน และคราวนี้เธอขยับเข้ามาเปิดในเมืองซาน ฟราน ว่าแล้วเราก็ส่งใบสมัครไปทันที   Create Date : 10 พฤษภาคม 2549 9 comments Last Update : 11 พฤษภาคม 2549 1:59:44 น. Counter : 3790 Pageviews. Share Tweet

เรื่องราวน่าสนใจดีจ้ะ เชฟคนนั้นเค้าก็พูดถูกอะนะ สมัครงานก็ได้ประสบการณ์อะจะ   โดย: อินทรีทองคำ 11 พฤษภาคม 2549 3:47:32 น.

ตื่นเต้ลจัง มาเล่าต่อเร็ว ๆ นะคะ   โดย: ปิงปอง (tarapiw ) 11 พฤษภาคม 2549 5:30:16 น.

กะลังมันเลยค่ะ เลยอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงตัวเองด้วย แต่เป็นคนที่อยากทำอะไรอิสระอ่ะ แต่ก็ชอบทำอาหารค่ะ ชอบคิดอะไรแปลก(สำหรับตัวเอง)และไม่ค่อยมีประสบการณ์อะไรนัก จำมาจากที่อื่นเก็บอย่างเดียว แล้วจะแวะมาอ่านอีกนะคะ กะลังสนุกค่ะ หาตัวเองไม่เจอเลยค่ะตอนนี้   โดย: ClayAnn 11 พฤษภาคม 2549 6:16:39 น.

ได้ยินมานานชื่อคุณอ่ะคะจากห้องอาหารพึ่งได้มีโอกาสมาอ่านบล็อกตื่นเต้นมากมายได้รู้ว่าเปงเชฟเนี่ย อยากเรียนเหมือนกานคะแต่ม๊าไม่ให้ เลยต้องระเห็จมาเรียนวิศวะปิโตรที่เมกาแทน กะว่าเรียนจบตอนหางานจะแอบหนีไปเรียนทำหนม ชอบมากมายคะทำตั้งแต่เอ๊าะๆ อิอิ ยินดีที่ได้รู้จักคะ   โดย: ตูนแอกกี้ IP: 165.91.227.186 11 พฤษภาคม 2549 7:00:42 น.

สนุกจังเลยค่ะ...อยากทำในครัวแต่กลัวว่างานหนักและยาก ตอนนี้อายุเยอะแล้วคงหมดหวัง..   โดย: คุณนายนานา 11 พฤษภาคม 2549 19:26:42 น.

อือ อ่านน่าสนุกค่ะ เด๋ว ไปติดตามตอนอื่น ต่อดีกว่า แล้วเจอกันนะคะ   โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ 18 พฤศจิกายน 2549 16:43:35 น.

อ่านแล้วได้ข้อคิดดีค่ะ ได้ย้อนคิดถึงตัวเองเลยอ่ะคะ... อะไรก็ไม่ดีไปกว่า ประสบการณ์ ตอนนี้ก็ตกงานอยู่ค่ะ...หาๆๆๆ อยู่ ยังไม่รู้ทางตัวเอง..แต่ว่าแวะมาอ่านแล้วได้กำลังใจ ฮึดสู้ขึ้นมาอีกเฮือกนึงแล้วค่ะ... ....มาอ่านช้าไป เป็นปี...   โดย: UriBoU **ไม่ได้ล๊อคอินค่ะ** IP: 124.212.124.23 21 กุมภาพันธ์ 2551 16:14:42 น.

อยากทำงานในร้านเบเกอรี่ ช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยค่ะ sarinya_one@hotmail.com   โดย: ดิว IP: 119.42.81.17 15 มีนาคม 2552 20:27:53 น.

โห ดีจังคะที่เล่าให้ฟัง แพนจะได้ไปถูกทาง ว่าแพนต้องทำยังไงบ้าง ขอบคุณมากคะ   โดย: pan IP: 115.67.229.43 18 มีนาคม 2552 21:10:53 น.