ภารกิจลับ หักเหลี่ยม จะเจ็บเองหรือเปล่า (1)
ภารกิจลับ หักเหลี่ยม จะเจ็บเองหรือเปล่า (1)

เจ้าชายอาเธอร์ เจ้าชายแห่งสวรรค์ ต้องลงมายังโลกมนุษย์พร้อมกับนีลส์ผู้อารักขาประจำตัวเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญ รับมอบจากพระเจ้า คือการยับยั้งการระเบิดของเตาปฏิกรณ์ปรมาณูใน กทม. แม่นแล้ว กทม. มีการทดลองใช้พลังงานนี้ในสวนพลังงานขนาดใหญ่ (ตั้งแต่เมื่อไหร่) แม้เป็นขนาดทดลอง Experimental แต่อานุภาพร้ายแรงมาก พอจะบึ้มได้ทั้งเมือง

เจ้าชายกับนีลส์จึงมาเช่าห้องในกทม. อิ อิ เดินทางโดยขนส่งสาธารณะแม้นีลส์จะสามารถกลายร่างเป็นยานพาหนะอะไรก็ได้ตามแต่ใจชอบ แต่พวกเขาต้องใช้ชีวิตแบบคนปกติให้มากที่สุด ลงมาบนโลกทั้งที พวกเค้าเข้าไปสมัครงานในสวนพลังงานได้สำเร็จ คือเนียนๆ ไป โดยนีลส์ได้ผ่องถ่ายความรู้ความสามารถที่จำเป็นในการทำงานนิดหน่อย โดยการแตะศรีษะของตนเองและของเจ้าชายเป็นเวลา 2 วิ แน่นอนพวกเค้าต้องไม่โง่และโปรมากพอจะทำงานนี้ เข้าใจแผนการของศัตรูเพื่อยับยั้งมัน  งานต้องสำเร็จภายใน 1 ปี

“ดูเหมือนจะมีภาระกิจเพิ่มนะท่านอาเธอร์” สดๆ ร้อนๆ เลย
“ยังไงนะนีลส์” เจ้าชายถามไป โซ้ยก๋วยเตี๋ยวไป “ ไอ้นี่คือซุปเปอร์ตีนไก่ใช่มะ อร่อยแฮะ”
“ท่านต้องไปทะลายกำแพงหัวใจผู้หญิงคนนึง เพื่อให้เธอรักคนอื่นเป็น”
“ภารกิจทะลายกำแพงเขื่อนหรืออะไรนะ ใครและยังไง” คือมัวแต่กินไงไม่ได้ฟัง
“เอิ่ม หมายถึงไปทำความรู้จักผู้หญิงคนนึงและสอนให้เธอมอบความรักให้คนอื่นเป็น เป้าหมายยังไม่ทราบว่าใคร เดี๋ยวท่านก็รู้เอง”
“ยากกว่างานแรกอีก แล้วเราจะเข้าใจจิตใจมนุษย์ได้ยังไง แล้วมนุษย์ก็วุ่นวายเรื่องนี้สุดๆ”
นีลส์เริ่มกลุ้ม ก็ท่าจะจริง เจ้าชายจิตใจบริสุทธิ์ จะสู้รบปรบมือกับมนุษย์ได้อย่างไร ไม่รู้สุดท้ายจะเจ็บเองหรือเปล่า

“เชื่อเถอะ ท่านมีทุกอย่างครบถ้วนในการจะทำงานทั้ง 2 ชิ้นนี้สำเร็จ”
“โอเค ถ้าท่านพ่อมอบหน้าที่นี้มาแปลว่าเราจะช่วยมนุษย์ผู้หญิงคนนี้ได้ เธออาจต้องการความช่วยเหลือบางอย่างจากเราก็ได้นะ” หล่อมากกก

หลังจากนั้น ทั้งคู่เข้าทำงาน พวกเค้าตั้งใจมาก พยายามเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับผู้อื่น แต่ก็มีบางครั้งที่เผลอแสดงอะไรแปลกๆ ออกไปแบบไม่รู้ตัว
“เจ้าชาย ต้นไม้ดอกไม้ที่เหี่ยวแล้ว ท่านไม่ต้องไปชุบให้มันฟื้นก็ได้นะครับ มันเป็นกฎของโลกที่ทุกอย่างจะเสื่อมสลายแล้วทดแทนด้วยสิ่งใหม่ ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ แม่ค้าดอกไม้จะขายของไม่ได้เอานา” นีลส์ขำๆ
“จริงด้วยสิ เราขอโทษ เห็นอะไรที่มันอยู่ในสภาพไม่ดี แล้วมันเศร้าใจ ใจอ่อนใจบาง ว่าแต่วันนี้นายสังเกตมะ เจ้าอำพล section 2 มันดูแปลกๆ สายตาก็กร้าวใส่เราสุดๆ น่าจะต้องจับตาดูมันหน่อย”

“อ๋อ ไอ้เจ้าอำพลหน้าหล่อ ชอบเก๊กใส่สาวๆ อ่ะเหรอ ท่านจับสัญญาณอะไรได้บ้าง”
“รังสีอำมหิตมากไอ้เจ้านี่ แต่มันเก่งสุดๆ ทำงานเนี๊ยบแทบไม่มีช่องโหว่เลย ถ้ามันจะวางแผนเลวคงจับทางยาก แล้วพักหลังชอบ Simulate การทำงานของระบบหล่อเย็นบ่อยๆ ไม่รู้มันมีแผนไร เราก็ต้องทำงานหนักขึ้นจะได้อ่านเกมส์มันออก”

วันหนึ่ง
“นีลส์ เราสังเกตว่ามีผู้หญิงคนนึง เธอแปลกๆ นะ เธอชอบมองมาที่เรา เราใส่เสื้อกลับข้างหรือไง”
นีลส์แอบขำ ใครบ้างจะไม่มองเจ้าชาย แม้อยู่ในร่างคนธรรมดาแต่ออร่ามาเต็ม แถมทำอะไรก็ดูเป็นธรรมชาติไปหมด ก็นะเจ้าชายอ่ะ
“ไม่แปลกหรอกท่าน ใครๆ ก็มอง แต่ท่านไม่สนใจเอง ท่านสะดุดที่เธอ แปลว่าท่านสนใจเธอล่ะสิ”
“ก็อาจใช่ เอ๊ะยังไง เราเพียงแค่งง ปกติใครจะดึงความสนใจของเราได้ เราไม่ได้อ่อนไหวขนาดนั้น เรารู้ว่าจิตใจมนุษย์บางครั้งก็โหดร้ายนะ ไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องนี้ แถมเจ้าก็อารักขาปกป้องเราขนาดนั้น”

“อยากมีสเต็ปต่อไหมล่ะ เดี๋ยวผมจะช่วย เจ้าชายแค่ทำตามแผนอย่าให้พลาด” นีลส์หันไปมองรอบๆ “เดี๋ยวพอ 12:15 น. เจ้าชายไปถึงหน้าร้านข้าวป้าณีนะ พอ 12:16 น. ก็เอื้อมหยิบข้าวกะเพราไข่ดาวตรงหน้าโลด มันเหลือกล่องเดียว เธอจะหยิบพร้อมเจ้าชาย ท่านก็สละกล่องให้เธอ หลังจากนั้นก็ต่อบทสนทนาเอาเองนะ เอาให้เป๊ะนะท่าน”

ย่อมได้ เจ้าชายจ้ำอ้าวแถมเดินสะดุดฝาท่อระบายน้ำอีกต่างหาก คนมองตรึม  แต่ก็ทำตามแผนแบบเป๊ะๆ เธอโผล่มาจากไหนไม่รู้ คนมันเยอะไง แต่ดันหยิบพร้อมกัน “ ขอโทษครับ รับกล่องนี้ได้เลย เดี๋ยวผมหยิบข้าวไก่ทอดก็ได้ เดี๋ยวยังไงขออนุญาตจ่ายค่าข้าวให้นะครับ” พูดจบเจ้าชายควักตังค์จ่ายทันที ไม่มีลังเล เธองง 555 เปย์ไวปานสายฟ้าแลบ

“เอ่อ ขอบคุณมากนะคะ คราวหลังไม่ต้องนะคะ เกรงใจมากเลย”
“ไม่เป็นไร ยินดีมากๆ ครับ คุณชื่ออะไร ต่อไปจะได้ทักถูก”
“ดวงดาวค่ะ ” “ยินดีครับ ผมอาเธอร์ ขอตัวก่อนนะครับ คราวหลังคุยกันใหม่”
เจ้าชายกลับมาเล่าให้นีลส์ฟัง นีลส์อมยิ้มนิดๆ “สายเปย์ก็มา อย่างน้อยเธอก็มีมารยาทนะ รู้จักขอบคุณ”

“อ๋อ ใช่ๆ เออว่าแต่ ไอ้อำพลแปลกมากช่วงนี้ พอเสร็จกะ มันไปทำงาน paper ต่อจนดึก แถมชอบเดินสำรวจเตาตามจุดที่ไม่จำเป็นต้องสนใจเป็นพิเศษ มันไม่ใช่เตาปิ้งย่างนะเฟ้ย ไอ้นี่แหละ แผนสูง วางแผนระเบิดเตาชัวร์”

“เดี๋ยวสิครับเจ้าชาย 555 ท่านมีข้อสรุปเร็วเกินไปแล้ว อย่าเพิ่งตัดสินคนที่ภายนอกสิ ลองพูดคุยกับเค้าดูก่อน”
“อ๊ะ แต่เจ้าสแกนวิญญาณมนุษย์ได้นี่นีลส์ บอกมาว่าไอ้อำพลมิตรหรือศัตรู จริงๆ ปกติเราก็ดูได้ แต่ในร่างมนุษย์ท่านพ่อห้ามใช้อำนาจพวกนี้ บอกมาเหอะนีลส์”
“ไม่ได้ครับ ถ้าท่านพ่อห้ามไม่ให้ท่านใช้ แปลว่าห้ามใช้ผ่านทางผมด้วย ท่านลองพยายามเองก่อนนะครับ ก่อนจะไปมองว่าเค้าเป็นศัตรูไปเริ่มผูกมิตรกับเค้าก่อนไหม”

วันต่อมาทั้งคู่เข้างานเร็วเป็นพิเศษ กะจะไปหาอำพลนั่นแหละ
“อำพล หวัดดีหว่ะ เอ๊ย สวัสดีครับ พอดีผมเห็นคุณตั้งใจทำงานมากเลยนะ อยากขอคำแนะนำ เที่ยงนี้ไปกินข้าวด้วยกันหน่อยไหมครับ”

อำพลหน้าหล่อสะดุ้งกับน้ำเสียงอาเธอร์ พูดปกติแต่มีพลังอำนาจ แม้คำพูดฟังแล้วเหมือนจะโดนหลอกไปอุ้มฆ่าก็ตาม จริงๆ เขาก็อยากทำความรู้จักทั้ง 2 คนนี้อยู่พอดี อาเธอร์เป็นผู้ชายเซ่อซ่าและประหลาดๆ ในบางครั้ง ส่วนนีลส์นี่ก็แปลก ไว้ผมยาวสลวยสวยเก๋ เคร่งขรึม แต่ใจดี ทั้ง 2 ตั้งใจทำงานมากๆ

“ได้สิ ร้านใกล้ๆ นี่ก็ได้”
พักเที่ยงทั้ง 3 เดินลงจากตึกไปกินข้าว พวกเค้าเป็นที่ฮือฮาในบรรดาคนที่พบเจอมาก เพราะสะดุดตาสุดๆ ไม่ใช่เพราะหล่อหรือไรนะ แต่เพราะแปลก โดยเฉพาะอาเธอร์ เกือบเดินชนประตูอัตโนมัติเพราะมัวแต่คุยกับจิ้งจกข้างประตู
“พวกนายลืมรูดซิปป่าว เห็นมองกันหลายคนละ” อาเธอร์กล่าว คือแบบไม่ได้รู้ตัวเองเลย พร้อมกับเอามือเสยผมแต่นิ้วดันไปทิ่มตาตัวเองเฉย เป็นมนุษย์นี่ลำบากชะมัด

พวกเขาพูดคุยทำความรู้จักกัน อาเธอร์แปลกใจว่าอำพลอัธยาศัยดีกว่าที่คิด แถมฉลาดสุดๆ แล้วไอ้ที่สายตากร้าวๆ และรังสีอำมะหิตนั่นคือไรหว่า
“อำพล ชั้นมีเรื่องสารภาพ ขอโทษด้วยที่บางทีคิดว่านายไม่ชอบพวกเรา เห็นทำตากร้าวๆ ใส่บางครั้ง”
“ไม่หรอก อาเธอร์ คนที่ไม่รู้จักก็คิดแบบนั้นแหละ ที่เราชอบทำหน้าดุๆ บางครั้ง เพราะเราจะมีอาการปวดท้องขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว ทรมานสุดๆ เลย ยิ้มไม่ออกกันเลยทีเดียว”
อาเธอร์นึกสงสาร ไอ้รังสีอำมหิตนั่นมันเกิดจากโรคที่อำพลเป็นอยู่นั่นเอง

“อ้าวเหรอ มันรบกวนการใช้ชีวิตของนายน่าดู ขอให้นายหายในเร็ววัน” อาเธอร์ดีดนิ้วเป๊าะนึง ในนามเยซู จงหาย อำพลรู้สึกเบาหวิวที่ท้อง บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าสู่ภวังค์ พวกเค้ากินข้าว พูดคุยสักพัก และกลับไปทำงาน

“ผมเห็นนะ ท่านขอการรักษาอาการปวดท้องของอำพลจากท่านพ่อท่านใช่ไหม”
“เห็นด้วยเหรอ นายคิดดูสิ ชีวิตเค้าจะดีขึ้นเยอะถ้าไม่เจ็บปวด ทำงานก็ทำแบบมีความสุข เค้าเป็นคนขยันและทุ่มเทมาก ควรมีอนาคตไกลจริงไหม น่าเสียดายที่คนมักเข้าใจผิดว่าเค้าไม่คบใครเพียงเพราะหน้าเก๊กตลอดเวลา” เจ้าชายยิ้ม

เดี๋ยวมาต่อจ้า
 

 



Create Date : 10 สิงหาคม 2566
Last Update : 11 สิงหาคม 2566 17:59:14 น.
Counter : 329 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 1140693
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สิงหาคม 2566

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
12
13
14
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog