sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
29 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 

การทำงานที่มีประสิทธิภาพ

"ศาสตราจารย์จรูญ สุภาพ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเรื่องการทำงาน 26 F
ทำงานมีประสิทธิภาพได้อย่างน่าสนใจ จึงนำมาเผยแพร่ต่อ เป็นข้อคิดที่มีประโยชน์ในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ ที่ต้องปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอเพื่อให้ทันวงการที่แข่งขันสูง โดยเฉพาะการทำงานจะให้ทำแบบเดิม ๆ ไม่ได้
ทุกคนต้องทำวันนี้ให้ดีกว่าวันวาน องค์กรยุคใหม่ต้องการคนมีความสามารถ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีวิสัยทัศน์ เพราะทุกอย่างต้องดีกว่าเดิม"

Friendly = เป็นมิตร
ทำงานที่ใดก็ตาม หากเป็นมิตรกับผู้คนรอบตัวมีแต่ได้มากกว่าเสีย ไม่ว่าจะมีตำแหน่งอะไร
นาย ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือบุคคลภายนอก เพราะนี่คือบันไดของการทำความคุ้นเคย รู้จัก
และเปิดใจให้กัน แล้วยังทำให้บรรยากาศไม่ตึงเครียด ช่วยสร้างความสัมพัธ์ที่ดีในการทำงาน

Feeling = สร้างความรู้สึกที่ดี
ความรู้สึกที่ดี ๆ เกิดจากความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งช่วยให้เกิดความผูกพันและความชอบพอรักใคร่
เป็นความเอื้ออาทรต่อกัน เช่น เขางานมากก็ช่วยกันทำ เขามีทุกข์เราก็ปลอบ เขาทำผิดพลาดก็ให้กำลังใจ
เพราะคนเราอาจมีความรู้สึกสะเทือนใจจากสิ่งที่คิดวท่าทำดี หรือเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันจนทำตัวไม่ถูก
งานการจึงอาจไม่ดีเท่าที่ควร แต่ถ้ามีคนรู้สึกดี ๆ กับเขาบ้าง เขาอาจยืนหยัดสู้กับชีวิตหรืองานต่อไป
Frank = เปิดเผย ตรงไปตรงมา
การทำงานที่ดีต้องยึดหลักประจำใจ คือ ไม่หน้าไหว้หลังหลอก
หรือทำตัวมีลับลมคมใน การทำงานแบบโปร่งใส ตรงไปตรงมา
จึงเป็นคุณธรรมอย่างหนึ่งที่ทำให้เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจของใครต่อใคร

Fondly = ทำงานด้วยใจรัก และอยู่กับเพื่อนร่วมงานด้วยความรัก
ความรู้สึกแบบนี้ถ้ามีต่องานจะทำให้ทำงานแบบอยากทำ
ไม่ใช่ต้องทำ เป็นการทำงานด้วยความรัก เช่น รักงานขาย
ทำให้ชอบการออกไปพบปะผู้คนเพื่อบริการลูกค้าเก่า และ
แสวงหาลูกค้าใหม่ด้วยเทคนิคใหม่ ๆ แล้วพยายามมุ่งมั่น
ให้ได้ยอดตามเป้าหมาย หรือหากรักงานวิจัยก็อยากวิจัย
สิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นต้น การทำงาน
ด้วยความรักและมีความรักต่อเพื่อนร่วมงาน จึงทำงาน
อย่างเป็นสุข และมีประสิทธิภาพ

Forgiving = ให้อภัย
การให้อภัยมีแต่ทำให้จิตใจไม่ขุ่นมัว เนื่องจากหน่วยงาน
แต่ละแห่งอาจมีทั้งคนถูกใจหรือไม่ถูกใจ มีคนชอบหรือ
ไม่ชอบบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเราเอาแต่น้อยใจ เสียใจ
หรือคุมแค้น คนที่ขาดทุนที่สุดคือเรานั่นเอง ซึ่งจะบั่นทอน
การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การให้อภัยจึงเป็นยา
สมานใจให้เราเป็นสุขขึ้น

Flexible = ยืดหยุ่นผ่อนปรน
แม้งานจะต้องมีกฎเกณฑ์ที่จะต้องปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเวลา
สถานที่ เงินทอง เป็นต้น แต่บางครั้งการเข้มงวดเกินไป
อาจทำให้เพื่อนร่วมงานไม่พอใจ ด้วยเหตุนี้ การคิดได้
คิดถูก คิดด้วยปัญญาจึงช่วยให้ผ่อนปรนกันได้ หากไม่ทำให้
องค์กรเสียหาย เช่น อาจส่งใบเบิกเงินเข้าไปเกินเวลากำหนดบ้าง
ก็ไม่ควรยึดกฎเกณฑ์แบบเคร่งครัดเกินไป จนทำให้ขาดมิตรได้

Foster = ส่งเสริม
การมีใจต่อกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน จะช่วยให้เพื่อนร่วมงาน
นาย ลูกน้องดีขึ้นได้ก็น่าจะทำไป นี่คือการลงทุน สร้างมิตร
และได้เพื่อนร่วมงานที่มองเราในแง่ดี การส่งเสริมนี้อาจทำ
ด้วยคำพูด วาจา ท่าทาง และการช่วยด้านการทำงาน โดยเฉพาะ
นายควรส่งเสริมลูกน้อง และลูกน้องควรส่งเสริมนาย ด้วยการ
พูดถึงนายในแง่ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง


Fact = ข้อเท็จจริง
งานจะดีมีประสิทธิภาพ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของข้อมูล
เป็นการรู้ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ เพ่อให้งานมีความผิดพลาด
น้อยที่สุด ข้อเท็จจริงนี้ขึ้นอยู่กับการรับรู้ข่าวสารใหม่ ๆ
เพื่อกลั่นกรองสิ่งที่ดีที่สุดแก่องค์กร ดังนั้น หัวหน้างานจึงควร
คิดเสมอว่าต้องได้ข้อเท็จจริงของข้อมูลมาวิเคราะห์สถานการณ์
โดยเฉพาะความสามารถของลูกน้องแต่ละคนในด้านต่าง ๆ
ต้องระมัดระวังในการมอบหมายงานตามข้อเท็จจริง
เพื่อผลประโยชน์สูงสุดขององค์กร

Forward = ไม่ย่ำเท้าอยู่กับที่
ทำงานต้องกระตือรือร้นที่จะก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ทำงานแบบ
อยู่ไปวัน ๆ เพราะเรื่องของวันนี้อาจใช้ไม่ได้ในวันพรุ่งนี้
วันนี้จึงต้องดีกว่าวันวาน การทำงานให้ก้าวหน้าจึงเป็นเรื่องที่
ต้องใฝ่รู้ รู้รอบ รอบคอบ รับผิดชอบ มีแผนระยะสั้น และ
ระยะยาวในการทำงานให้ดีกว่าเดิม

Firm = มั่นคง
ต้องมั่นคงด้วยความรู้ ความคิด ความมุ่งมั่น องค์กรใดมีความ
มั่นคง มีศักยภาพ จะทำให้ผู้บริหารจนถึงพนักงานเกิดความ
วางใจที่จะทุ่มใจทุ่มกายทำงานต่อไป ส่วนองค์กรที่ไม่มั่นคง
ขาดเสถีรยรภาพ พนักงานจะหมดกำลังใจ

Foresee = เห็นการณ์ไกล
เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าควรทำธุรกิจหรือปรับปรุง
การงานในด้านใด โดยไม่ละเลยสิ่งใหม่ ๆ ที่อาจทำให้ธุรกิจ
หรือการงานเสื่อมถอย หรือล้าหลัง เช่น ประเทศไทยจะเน้น
แต่สินค้าดั้งเดิมอย่างเดียวไม่ได้ ต้องปรับเปลี่ยนสินค้า
และบริการตามโลกาภิวัฒน์ เพื่อขยายตลาดทั้งภายในและ
ภายนอกประเทศ หรือข้าราชการบางแห่งต้องลดจำนวนลง
เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณและใช้คนอย่างมีคุณค่า
หรือสินค้าและบริการต้องพัฒนาให้ทันกับ Nano Technology
ที่ในอนาคตทุกอย่างจะเล็กลง แต่ประสิทธิภาพสูง

Fit = ความเหมาะสม
ความเหมาะสมเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการทำงาน เป็นความ
เหมาะสมในด้านการแต่งกาย วาจา ท่าทางและการทำงาน
ยิ่งไปกว่านั้น ในการทำงานจะต้องปฏิบัติต่อทุกระดับอย่างเหมาะสม
ตามตำแหน่งของแต่ละคน โดยไม่ยกตนข่มท่าน หรือทำตัว
เหนือกว่าใคร หรือก้าวก่ายการงานของผู้อื่น ขณะเดียวกัน
ไม่ควรทำตัวต่ำต้อยจนกลายเป็นคนหมดความหมาย

Forceful = มีพลัง
พลังของแต่ละคนย่อมจะต่างกัน บางคนมีพลังในการทำงานสูง
ไม่พอ ยังสามารถโน้มน้าวจิตใจให้คนทำงานด้วยอย่างเต็มอกเต็มใจ
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนหนึ่งที่มีพลังในด้านความคิด
สร้างสรรค์และวิสัยทัศน์การทำงานสูง คำพูดของนายกรัฐมนตรี
ก็มีพลังทำให้ฟังแล้วน่าเชื่อถือ อาทิเช่น ไก่ประเทศไทย
ไม่ใช่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ปลอดภัยล้านเปอร์เซ็นต์
โดยมีน้ำเสียงที่ดูน่าเชื่อถือ ถ้าหัวหน้าองค์กรใดก็ตาม มีพลัง
ในการทำงานอย่างดี องค์กรคงก้าวหน้าได้ไม่ยาก

Facilitating = ทำให้สะดวกราบรื่นขึ้น
องค์กรที่มีบรรยากาศการทำงานที่เป็นไปอย่างสะดวกสบาย
ย่อมจะทำให้พนักงานอยากทำงานได้อย่างราบรื่นหรือมีประสิทธิภาพ
แต่ในหลายแห่งมีปัญหาที่ทำให้ยุ่งยากขึ้น เช่น คุณเนื้อทองเล่าว่า
ในหน่วยงานของเธอ พอเปลี่ยนหัวหน้าใหม่ก็มีการวางระเบียบ
ขั้นตอนการทำงานยุ่งยากกว่าเดิม เวลาขออนุมัติอะไร หัวหน้า
จะดูว่าเป็นพวกของเขาหรือไม่ หากต่างพวกจะดึงเรื่องหรือกลั่นแกล้ง
ทำให้คุณเนื้อทองหมดกำลังใจ งานจะง่ายหรือยากจึงขึ้นอยู่กับ
หัวหน้าที่จะสร้างบรรยากาศการทำงานให้สะดวกมากน้อยแค่ไหน

Functional = ทำได้จริง มีประโยชน์
กิจการทุกอย่างต้องเกิดประโยชน์จริง เป็นไปได้จริง
สามารถทำให้เกิดผลงานและได้ผล รวมทั้งต้องให้ทุกคน
มีหน้าที่ความรับผิดชอบเป็นจิตสำนึกที่ทุกคนควรมี การกำหนด
สิทธิหน้าที่ของแต่ละคนเป็นส่วนสำคัญในการทำงาน
หากทุกคนทำงานอย่างเหมาะสมตามหน้าที่ของตน ก็ไม่เป็นการยาก
ที่องค์กรจะเจริญขึ้น

Feasible = เป็นไปได้
เป็นเรื่องที่ทั้งนายหรือลูกน้องช่วยกันทำให้งานหรือโครงการ
เป็นจริง ทุกคนจึงต้องช่วยกันทำ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่หรือไม่ใช่
หน้าที่ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือการกระทำ เป็นน้ำใจ
ที่ทำเพื่อองค์กรให้ได้ผลดีที่สุด เช่น คุณพัตรเป็นหัวหน้า
ที่คิดเสมอว่า งานราชการค่อนข้างจะมีขั้นตอนมากจนล่าช้า
เธอจึงวางระบบใหม่เพื่องานที่เสียเวลามากจะได้รวดเร็วขึ้น
โดยพยายามหาจุดที่เป็นอุปสรรคและพยายามแก้ไข เธอเชื่อว่า
ระบบราชการทำงานมีประสิทธิภาพเหมือนเอกชนได้ ถ้าหัวหน้ารู้จัก
ปรับปรุง ลูกน้องรู้จักคิดใหม่ ทำใหม่ และทำให้ได้ ไม่ใช่
ทำแบบเช้าชามเย็นชาม จนประชาชนรำคาญ เป็นต้น
Fast = รวดเร็ว
เป็นความรวดเร็วเพื่องานจะได้ไม่ล่าช้าเกินกว่าเหตุ ผู้บริหาร
จึงต้องดูว่าขั้นตอนทำงานใดมีอุปสรรคและทำให้งานเสียหาย
หรือไม่ได้ดีเท่าที่ควร ก็ต้องขจัดให้หมดไป ไม่ว่าจะเป็นการ
ปรับรูปแบบการทำงานหรือการปรับปรุงพนักงาน รวมทั้งไม่ลืมว่า
การทำงานอย่างรวดเร็ว ต้องมีคุณภาพ โดยไม่ทำงานแบบหละหลวม
จนผลของงานออกมาไม่ดี การทำงานอย่างรวดเร็วต้องเข้าใจเป้าหมาย
วิธีการ และระยะเวลาที่จำเป็นต้องทำงานให้เสร็จ

Fight = มีกำลังใจ ไม่ย่อท้อ
กำลังใจที่สำคัญที่สุด คือสู้กับใจของตัวเอง ที่จะทำงานโดย
ไม่ย่อท้อ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคขวางหน้าแค่ไหน มีนักธุรกิจไม่น้อย
ที่แม้ธุรกิจจะล้มเหลวก็ลุกขึ้นมาสู้จนประสบความสำเร็จ
โดยเฉพาะคนเป็นหัวหน้าต้องไม่ย่อท้อ ลูกน้องจะได้มีกำลังใจ
ที่จะฝ่าฟันทุกอย่างที่ขาวงหน้า เพื่องานจะได้สำเร็จตามตั้งใจ

Fair = ยุติธรรม
ถ้าทำงานแล้วได้รับเความเป็นธรรม ไม่ว่าในด้านเลื่อนขั้น
เลื่อนตำแหน่ง หรือด้านใดก็ตาม ทุกคนจะทุ่มใจทำงานให้อย่าง
ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยเฉพาะหัวหน้าที่มีไมตรีจิต เพราะแสดงว่า
หัวหน้าหรือองค์กรนั้น ยึดความเป็นธรรมเป็นหลัก ไม่ใช่พวกเป็นหลัก

Focus = จุดเน้น
จะทำงานให้มีประสิทธิภาพจะต้องรู้ว่ามีจุดเน้นและจุดร่วมในเรื่องใด
ส่วนมากเป็นการเน้นการทำงานตามเป้าหมายขององค์กร เช่น
ร้านอาหาร ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เน้นบริการให้ลูกค้า
ประทับใจ และลูกค้าต้องเป็นใหญ่ หากพนักงานทุกคนเข้าใจตรงกัน
งานย่อมจะไปได้ดีตามที่ต้องการ

Follow = ติดตาม
การทำงานจะต้องมีการติดตามงานเป็นระยะ เพื่อดูความก้าวหน้าของงาน
แต่ไม่ควรติดตามงานถี่เกินไป เพราะจะทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดความเครียดได้
ขณะเดียวกัน ไม่ควรปล่อยปละละเลยโดยไม่ติดตามงาน
งานอาจเสียหายได้

Feedback = การป้อนกลับ
การป้อนกลับเป็นสิ่งที่ช่วยให้รู้ว่า การสื่อสารที่ออกไป ผู้ปฏิบัติงาน
หรือผู้รับข่าวสารเข้าใจสิ่งที่ส่งออกไปหรือไม่ เพียงใด
อย่างน้อยผู้ส่งข่าวสารจะได้รู้ว่าสิ่งที่ตนอยากให้ปฏิบัตินั้นทำได้
มากน้อยเพียงไร และต้องคอยแก้ไขอะไรบ้าง เพื่องานจะได้
มีประสิทธิภาพ

Faith = ศรัทธา
ศรัทธาต่อความคิดหรือศรัทธาต่อการกระทำ โดยเฉพาะ
หากศรัทธาหัวหน้าหรือองค์กรจะทำให้ลูกน้องทำงานอย่างเต็มอกเต็มใจ
อย่างไรก็ตาม ความเลื่อมใสศรัทธาจะทำงานกันง่ายขึ้น
และการสร้างศรัทธาก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความดี ความสามารถ
คุณธรรมเป็นหลัก

Flair = มีศิลปะ มีรสนิยม
ศิลปะการทำงานเป็นความสามารถเฉพาะตัว เป็นรสนิยมที่ลอกเลียนแบบ
กันได้ยาก เช่น บางคนรู้จักพูด รู้จักทำ ก็จะมีคนทำงานด้วยอย่างเต็มอก
เต็มใจ ขณะที่บางคนมีแบบหรือรสนิยมการทำงานที่ไม่เข้มงวด
แต่ผลงานต้องดีเช่นกัน เป็นเรื่องการใช้สติปัญญาในการมองเรื่องต่าง ๆ
ที่เป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ ที่อาจเสียหายหรืออาจไม่เสียหาย
และหาแบบการทำงานให้ถูกต้องเหมาะสม ศิลปะการทำงานจึงขึ้นอยู่กับ
ความรอบรู้ ใฝ่รู้ ประสบการณ์ และข้อมูลที่พอเพียง และมีการตัดสินใจ
ที่ถูกต้องเหมาะสมตามสภาวการณ์เพื่องานจะได้ก้าวหน้า

Flawless = ไม่ผิดพลาด
งานจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย
โดยเฉพาะนายหวังจะให้ลูกน้องทำงานอย่างราบรื่นไม่มีข้อบกพร่อง
ให้รำคาญใจ อย่างไรก็ตาม คนทำงานทุกคน ไม่ว่าระดับใด
ต้องทำงานอย่างไม่มีข้อผิดพลาด เพื่อองค์กรจะได้ประสบ
ความสำเร็จตามที่ตั้งใจ

Face = เผชิญปัญหา อุปสรรค
องค์กรใดก็ตามมีคนทำงานแบบมุ่งมั่นตั้งใจ โดยไมหวาดหวั่นต่ออุปสรรค
องค์กรนั้นย่อมประสบความสำเร็จสูง เพราะทุกคนกล้าเผชิญหน้ากับ
ปัญหาหรืออุปสรรค หรือสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงไร
การกล้าทำเพื่อให้งานได้ดำเนินไปอย่างราบรื่นตามเป้าหมาย

ทั้ง 26 F ที่กล่าวมา เป็นแง่มุมหนึ่งของการทำงานให้ได้ตามที่
มุ่งมั่นอย่างดีที่สุด มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงสุด




 

Create Date : 29 พฤศจิกายน 2548
4 comments
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2548 14:19:08 น.
Counter : 1086 Pageviews.

 


อยากได้แนวข้อสอบ สพท.พัสดุ2จัง ขอบคุณล่วงหน้านะ

 

โดย: คิม คิม IP: 203.146.63.182 7 ตุลาคม 2550 21:30:40 น.  

 

อาจารย์ครับคือผมทำงานกับคนต่างชาติ(เกาหลี)ครับ
คือไม่มีคำว่าเห็นอกเห็นใจกันเหมือนคนไทยครับ
ผิดคือว่ากันไปตามผิดแต่ผมคิดว่ามันได้ผลนะครับ
ไม่มัวมาเห็นใจ ต้องรีบแก้ปัญหาให้ทันท่วงที และจริงจังกับมันครับ
คนไทยอลุ่มอร่วย มากก็พาลไม่ทำรัยเลย ขอแนวคิดแบบไม่ใช่คน " ไทย" น่ะมีมั้ย

 

โดย: สุริยะ กาญจนพิมาย IP: 118.173.238.173 6 มกราคม 2552 16:42:30 น.  

 

Email : suriyahot@hotmail.com

 

โดย: สุริยะ IP: 118.173.238.173 6 มกราคม 2552 16:45:14 น.  

 

เป็นข้อคิดในการทำงานที่ดีมาก ขอขอบคุณ

 

โดย: praving IP: 117.47.176.82 6 มิถุนายน 2553 14:17:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.