Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
28 กันยายน 2553
 
All Blogs
 

เทคโนโลยี สื่อสาร 3G ทั้งที มีอะไรที่มากกว่าแค่ความเร็ว


เป็นบทความเก่าแต่น่าสนใจ จึงนำมาเผยแพร่อีกครั้งหนึ่ง

รายงานโดย : ภาคภูมิ แตรตุลาการ

*ช่วงปลายปี 2548 ที่ผ่านมา กระแสของเทคโนโลยี การสื่อสารไร้สายยุคที่ 3 (Third Generation) หรือ 3G ได้รับการกล่าวถึงจากสื่อมวลชนหนาหูขึ้น ทั้งมาจากตัวผู้บริหารของบริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์) ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ (แฮนด์เซ็ท) และ บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและเทคโนโลยี 3G รวมถึง ข่าวคราวเกี่ยวกับการเรียกร้องขอใบอนุญาต ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จาก คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา และคาดกันว่าจะเริ่มออกใบอนุญาตฯ ได้ภายในปี 2549 นี้

แม้ว่าขณะนี้ เทคโนโลยีและโครงข่าย 3G ยังไม่มีเปิดให้บริการ แต่ก็มีเครือข่าย CDMA 2000 1X EV-DO ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และโอเปอเตอร์อย่าง บริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด หรือ ฮัทช์ (Hutch) ที่ถือว่ามีความใกล้เคียง 3G มากที่สุด และในต่างประเทศก็ถือว่าเป็นการสื่อสารแบบ 3G ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ระบบ CDMA ก็มีจำนวนผู้ใช้ที่ไม่มาก เพราะจำกัดอยู่เฉพาะในเมืองหลวงเป็นหลัก ส่วนเครือข่ายไร้สายหลักที่โอเปอเรเตอร์ อาทิ เอไอเอส ดีแทค และ ทีเอ ออเร้นจ์ ใช้ คือ ระบบ GSM 1800 MHz.ที่จัดเป็นเทคโนโลยียุคที่ 2

     นางคนึงจิตร สุริยะธำรงค์กุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ควอลคอมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของเทคโนโลยีระบบ CDMA 2000 และ Wide Band CDMA หรือ WCDMA อธิบายเกี่ยวกับ 3G จะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างไรว่า เมื่อหันมาใช้ 3G จะทำให้ระบบเครือข่ายมีความเร็วขึ้น สิ่งที่จะเปลี่ยนไป คือ การใช้งานแอพลิเคชันในปัจจุบันมีอยู่แค่ การรับส่ง MMS และ SMS แต่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายจากอุปกรณ์มือถือ หรือ โน้ตบุ๊ค ที่ต้องการความเป็น Mobility หรือ เคลื่อนที่ได้ยังค่อนข้างจำกัด ยกเว้นใช้กับพวกบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายแบบ ไว-ไฟ อีกทั้ง เมื่อเป็น 3G ตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือจะมี แอพลิเคชันที่มีความเป็นมัลติมีเดียมากขึ้น

ผจก.ประจำประเทศไทย บริษัท ควอลคอมม์ อธิบายต่อว่า ถ้าถามว่า “ตื่นเช้าขึ้นมาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างเมื่อมี 3G” คงได้แก่ กลุ่มวัยรุ่น ขณะนี้ มีมือถือที่ถ่ายรูป และเล่นเพลง MP3 ได้อยู่แล้ว แต่ยังใช้การดาวน์โหลดผ่านเครื่องพีซีอยู่ เพราะเครือข่ายยังรับไม่ได้ ช่องทางการสื่อสารยังแคบ ถ้ามี 3G ก็จะหันมาดาวน์โหลดคอนเทนท์ผ่านเครือข่ายไร้สาย จากเดิมที่ใช้เวลาดาวน์โหลดนานเป็นนาที ก็ลดเหลือแค่ 10-20 วินาที

กลุ่มนักธุรกิจ จะสามารถใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คทำเป็นรีโมทออฟฟิศ ทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ส่วนผู้ใช้งานทั่วไป ที่ไม่ได้จำกัดวัยผู้ใช้งาน ไม่ได้เน้นฟังเพลง และดูคลิปมิวสิควีดิโอ กลุ่มวัยกลางคน จะใช้ดูติดตามเหตุการณ์ คลิปข่าว และตลาดหุ้น แบบคอนเทนท์มัลติมีเดียได้ ในต่างประเทศสิ่งที่ผู้ใช้มือถือ 3G ใช้กันเป็นพื้นฐานของระบบ CDMA: Code Division Multiple Access คือ VDO Telephone หรือ การโทรศัพท์แบบเห็นหน้ากันผ่านหน้าจอของโทรศัพท์มือถือ

นางคนิงจิตร อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างเครือข่าย 3G กับเครือข่าย GSM ว่า GSM จริงๆ ก็เป็นเครือข่ายระบบดิจิตอลแล้วเช่นกัน หากเห็นภาพชัดๆ ก็คือ แอพลิเคชัน MMS, SMS ดาวน์โหลดได้บ้างแต่ไม่หวือหวา และความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลต่ำ ส่วน 3G เหมือนแกนของเทคโนโลยีเปรียบได้กับถนน โดยขึ้นอยู่กับว่าโอเปอเรเตอร์จะใส่อะไรลงไปบ้าง อาทิ บริการ GPSone เพื่อหาพิกัดตำแหน่ง (Location Base) ร่วมกับคอนเทนท์ ใน GSM อาจทำไม่ได้เพราะถนนแคบ ทั้งนี้ ส่วนมากจะเน้นให้บริการในสิ่งที่เข้าใจง่าย และเป็นบริการด้านความบันเทิง คาราโอเกะ มิวสิควีดีโอ และคลิปวีดิโอข่าวที่มีคุณภาพมากขึ้น

ผจก.ประจำประเทศไทย บ.ควอลคอมม์ อธิบายเสริมว่า แง่ของเทคโนโลยี GSM จะพัฒนาจาก GSM ไป GPRS และ EDGE คือ GSM จะอยู่ที่ความเร็ว 9.6 Kbps เมื่อเป็น GPRS ตามทฤษฎีอยู่ที่กว่า 100 Kbps แต่ในความจริงจะอยู่ที่ 20 Kb ส่วน EDGE อาจจะอยู่ประมาณ 80 Kbps โดยกระบวนการเหล่านี้ยังใช้ความถี่เดิมได้ แต่ก็จะตันกับเทคโนโลยี และอุปกรณ์การเข้ารหัสที่มีอยู่แค่นี้ โอเปอเรเตอร์บ้านเราหากจะทำ 3G จำเป็นต้องมีการอัพเกรดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ระบบใหม่ ที่จำเป็นต้องลงทุนสูงมาก

“อีกทางหนึ่งเทคโนโลยี 3G แบบ WCDMA: Wide Band CDMA และ CDMA 2000 1X ความเร็วที่ได้จะเริ่มต้นที่ 384 Kbps ไปจนถึง 14 Mbps ตามทิศทางการเดินของเทคโนโลยี แต่ GSM นั้นการพัฒนาก็หยุดแล้ว อีกทั้ง โอเปอเรเตอร์ก็มองว่าถ้าเป็นเช่นนี้ เขาเอาเงินไปลงทุนกับสิ่งที่ยังไม่ตันดีกว่า นั่นจึงเป็นทิศทางที่โอเปอเรเตอร์ทั่วโลกทำกันบน 2 เทคโนโลยีนี้ โดยเมื่อ GSM ความถี่ตันแล้ว WCDMA จะต้องใช้ความถี่ใหม่เพราะทั่วโลกใช้ที่ 2.1 GHz ที่กำลังรอ กทช.อนุมัติอยู่” นางคนึงจิตร กล่าว

ผจก.ประจำประเทศไทย บ.ควอลคอมม์ อธิบายเสริมว่า เมื่อทำเครือข่ายมือถือที่เป็น WCDMA เริ่มต้นมักจะโรมมิ่ง (Roaming) กลับมาที่เครือข่าย GSM จากจุดเริ่มต้นการใช้ของคนในเมืองที่มีการศึกษา สามารถใช้งานแอพลิเคชันได้ การลงเครือข่ายจึงเริ่มที่เมืองหลวงก่อน แล้วค่อยกระจายออกสู่ชนบท โดยเริ่มต้นให้บริการเสียงก่อน นั่นคือการโรมกลับมาที่ GSM ดังนั้น โอเปอเรเตอร์ทุกรายก็จะต้องโรมกัน ทำให้ตัวมือถือ WCDMA ก็ต้องมีการทำงาน 2 โหมด คือ GSM / WCDMA ส่วน กรณี CDMA 2000 1X กับ EV-DO จะใช้คลื่นเดียวกันได้เหมือน GSM จึงอยู่ในโอเปอเรเตอร์รายเดียวกันได้

     ทั้งนี้ การเปิดให้บริการ 3G ก็ขึ้นอยู่กับ กทช.ว่า จะเปิดโอกาสให้รายใหม่ หรือ รายเดิม หากรายเดิมได้ที่ความถี่ 2.1 GHz ก็สามารถโรมกลับมาที่เครือข่ายเดิมได้ แต่ถ้า กทช.บอกว่าเปิดกว้างให้ต่างชาติ หรือโอเปอเรเตอร์หน้าใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม โอเปเรเตอร์รายใหม่ก็ต้องกลับเข้ามาโรมกับผู้ให้บริการเจ้าเก่า 3G เป็นเทรนด์เทคโนโลยีของโลกที่สามารถนำความสะดวกสบาย คล่องตัวให้กับผู้ใช้ มีความปลอดภัยมากขึ้น อาทิ การตรวจดูบ้านพักจากมือถือ ผ่านกล้อง IP วงจรปิด ที่เชื่อมกับอินเทอร์เน็ต

นางคนิงจิตร กล่าวถึงเหตุผลที่โอเปอเรเตอร์มุ่งที่จะไป 3G ว่า โอเปอเรเตอร์มองว่าการลงทุนมาก ก็สามารถดึงรายได้กลับมามากตามไปด้วย อีกทั้ง เมื่อเทียบ GSM กับ 3G แล้ว ต้นทุนการให้บริการเทียบกันต่อเมกะเฮิร์ซ 3G ถูกกว่า แต่ผู้ใช้ก็ต้องเสียเงินเพื่อซื้อตัวเทอร์มินัล หรือมือถือเครื่องใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคก็เปลี่ยนมือถือกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว คนที่จะซื้อมือถือเครื่องใหม่ที่ใช้ 3G ได้นั้น ในแง่บริการคงไม่มีอะไรเพราะยังไม่มีเครือข่าย แต่จะมีฟังก์ชันให้ใช้ในเครื่องมากขึ้น และสามารถนำไปใช้ต่างประเทศที่มี 3G ให้บริการได้ ถ้าโอเปอเรเตอร์ที่ประเทศนั้นๆ มีดาต้า โรมมิ่ง

หากมือถือรับ 3G ไม่ได้ก็ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน สำหรับการจะเอามาใช้เมืองไทยก็ใช้ได้ แต่จะได้เฉพาะการใช้งานคนเดียว เปรียบได้กับเอารถเฟอรารี่มาขับบนถนน 2 เลนแรงแค่ไหนก็ไปได้เท่าเดิมเพราะถนนแคบ ไม่มีทางที่จะได้ความเร็วสูงกว่านี้แน่ จะเห็นว่ามือถือที่รองรับ 3G จะมีกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงๆ เพราะว่ารองรับการรับ-ส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่นั่นเอง

นางคนึงจิตร แสดงความเห็นเกี่ยวกับความพร้อมของประเทศไทยที่จะมี 3G ใช้งานว่า ส่วนตัวคิดว่าเมืองไทยพร้อมหมด แต่ก็ขึ้นอยู่กับการทำงานของภาครัฐ ในแง่ของใบอนุญาต 3G สำหรับผู้ใช้งาน และโอเปอเรเตอร์ พร้อมแล้ว โดยจะเริ่มจากกลุ่มคนที่เริ่มเข้ามาใช้งานฟีเจอร์ของ 3G ก่อน ภาพจะเป็นแบบเดียวกับสมัยที่เริ่มมีการใช้เครือข่ายแบบ GSM

“เราไม่เคยรู้ว่าคนในต่างจังหวัดเองก็มีการใช้ บริการเสียงรอสาย หรือ MMS คิดว่าเริ่มรู้จักการใช้งานมากขึ้น คนที่เริ่มต้นใช้งานบริการคอนเทนท์เหล่านี้ ก็อาจจะเริ่มจากการดาวน์โหลดเพลงมาฟังก่อน สิ่งที่จะได้มากกว่าการโทรเข้า-รับสาย หรือ ดูคอนเทนท์ต่างๆ บนมือถือก็คือ การมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปกับตัวทุกที่ มีประโยชน์มาก เพราะสามารถนำข้อมูลข่าวสารไปให้ตาสีตาสาได้ทันที บางคนต่างจังหวัดอาจใช้คอมพิวเตอร์ไม่คล่อง หากมาดูบนโทรศัพท์มือถืออาจจะสะดวกมากกว่า ผ่าน WAP หรือ บรูวว์ (BREW) แต่เครือข่ายจะต้องไปถึงด้วย

     อย่างเช่น โครงการ CDMA ของ กสท จะมีตัวที่เป็น CDMA 2000 1X EV-DO ที่ความเร็วใช้ได้ ทางบริษัท หัวเหว่ย ผู้รับงานติดตั้งเองก็ต้องลงอุปกรณ์ 1,600 ไซต์ใน 51 จังหวัด โดย EV-DO จะเป็น 3G เฉพาะตัวข้อมูล หรือ ดาต้า หากโครงการนี้แล้วเสร็จ อย่างน้อยก็จะทำให้คนต่างจังหวัด เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น ไม่ต้องรอสายโทรศัพท์ ลากเข้ามาที่หมู่บ้าน หรือ อำเภอ สามารถใช้แบบเคลื่อนที่ทดแทนได้” ผจก.ประจำประเทศไทย บ.ควอลคอมม์ กล่าว

นางคนึงจิตร แสดงความเห็นส่วนตัวถึงอุปสรรคในการทำระบบ 3G ในเมืองไทยว่า ไม่น่าจะมีอุปสรรคหากมีการเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์ที่ดี เช่น การมี กทช. ที่ออกแนวทาง กำหนดระเบียบที่ชัดเจนตามเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตามปัญหาอาจอยู่ที่การสะดุดในการจัดหา กทช. เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา แม้จะมี กทช. ก็ยังต้องรอ กสช. หรือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติอีก วันนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่า 3G จะเป็นอะไร ทั้งที่ น่าจะเป็นคลื่นที่เกี่ยวกับการโทรคมนาคม ไม่ใช่เชิงบรอดแคสท์ (Broadcast) ก็น่าจะสามารถดำเนินการได้

“บางที่อาจมองกันว่า บริการคอนเทนท์วีดีโอ บน 3G เกี่ยวกับทาง กสช. ในทางเทคโนโลยีไม่ใช่การกระจายเสียงหรือภาพ ผ่านเข้ามาที่มือถือโดยตรงเหมือน “โมบายทีวี” แต่เอาเครือข่ายที่เป็นแกนของระบบ ไปเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต แบบเดียวกับ IPTV หรือ อินเทอร์เน็ต ทีวี แล้วเอาคอนเทนท์บนอินเทอร์เน็ตมาลงมือถือ ขณะนี้ เราดูทีวีบนอินเทอร์เน็ตได้แบบนี้ไม่เรียก ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ว่า เป็นผู้ให้บริการบรอดแคสท์อย่างนั้นหรือ อยากมองว่าผู้ใช้แค่เอาคอมพิวเตอร์ ที่สามารถเคลื่อนที่ได้มาไว้บนมือถือแค่นั้นเอง” ผจก.ประจำประเทศไทย บ.ควอลคอมม์ กล่าวทิ้งท้าย

ไอทีไดเจส ได้ข้อมูลจาก บริษัท ควอลคอมม์ ระบุว่า ขณะนี้ มีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ 3G ทั้งแบบ WCDMA และ CDMA 2000 1X กว่า 222 ล้านคน จาก 122 โอเปอเรเตอร์ใน 59 ประเทศทั่วโลก (ข้อมูลเมื่อ ต.ค. 2548) โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคมีอัตราการใช้งานเติบโตสูงที่สุด โดยประเทศที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย คือ ญี่ปุ่นที่เป็นระบบ CDMA 2000 1X และ WCDMA และ 2G มีบ้างเล็กน้อย เกาหลีใต้จะเป็นระบบ CDMA 2000 และมีไซต์ทดสอบ WCDMA ด้วย ทั้งนี้ กลุ่มยุโรป และสหรัฐอเมริกา จะใช้ WCDMA มากที่สุด

     ดังนั้น เรื่องที่น่าสนใจของ 3G ที่กำลังจะเกิดในประเทศไทย จึงไม่ได้อยู่ที่ความเร็วของเครือข่ายเพียงอย่าเดียว แต่จะเป็นการเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนในทุกที่ ให้สามารถเข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ต อันจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนากับชาวไทย จากการที่ได้เข้าไปค้นหาความรู้ หรือ ข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต ผ่านทางโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กๆ ในมือเท่านั้นเอง...

Credit : www.news.siamphone.com

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E




 

Create Date : 28 กันยายน 2553
0 comments
Last Update : 28 กันยายน 2553 21:50:33 น.
Counter : 863 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.