Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
17 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
นวัตกรรมใหม่ ‘ควบคุมโรคสะเก็ดเงินแบบองค์รวม’

*แน่นอนวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ทำให้มนุษย์มีอายุยืนยาวขึ้น โรคร้ายหลายชนิดที่เคยคร่าชีวิตมนุษย์จำนวนมากมายในอดีตถูกควบคุมด้วยยา วัคซีน เครื่องมือทางการแพทย์ และวิธีการดูแลรักษาใหม่ๆ แต่ภายใต้สุขภาวะที่ว่าก็ยังมีโรคภัยอีกมากมายซึ่งยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

     โรคผิวหนัง เป็นโรคหนึ่งที่ปัจจุบันคนไทยเป็นกันมาก ซึ่งจากสถิตของสถาบันโรคผิวหนังในปี 2549 พบว่ าโรคผิวหนังเป็นโรคยอดฮิตอันดับ 7 ของคนไทย พบได้ 82 คนในประชากรทุก 1,000 คน และในแต่ละปีก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

     ทว่า ความเจ็บป่วยที่แท้จริงจากโรคผิวหนังกลับเป็นอาการป่วยทางใจมากกว่าทางกาย เพราะอาการของโรคจะส่งผลต่อการยอมรับของสังคมที่มักรังเกียจผู้ป่วยโรคผิวหนัง ทำให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมานจากภาวะทางสังคมอันบีบคั้น ก่อให้เกิดภาวะเครียด ทำให้อาการกำเริบมากขึ้น จนบางรายถึงขนาดคิดสั้น

     ปรากฏการณ์ที่ว่าเห็นได้ชัดโดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคผิวหนัง โดยผู้ป่วยมักถูกมองและปฏิบัติจากสังคมราวกับเป็นผู้ป่วยโรคติดต่อร้ายแรง ทั้งที่จริงแล้วโรคสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นโรคอักสบเรื้อรังเป็นๆ หายๆ อันเกิดจากการเสียสมดุลของยีนที่ผิดปกติ กับปัจจัยกระตุ้นจากภายนอกและภายในที่ไม่ดี ทำให้เกิดโรคขึ้น ซึ่งมีอาการผื่นผิวหนังอักเสบเป็นปื้นแดงหนา มีขุยคล้ายเงิน ขอบเขตชัดเจน บางรายมีเล็บผิดรูป ปวดข้อต่างๆ ยาและเทคโนโลยีที่มีอยู่ไม่สามารถทำให้โรคหายขาดได้

     ปัญหาที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับงานวิจัยของโครงการงานประจำสู่งานวิจัย หรือ R2R (Routine to Research) เรื่องการดูแลผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินแบบองค์รวมด้วยจิตวิญญาณ โดย รศ.นพ.ป่วน สุทธิพินิจธรรม และคณะ พบว่า หากมีการดูแลผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินอย่างถูกวิธี ด้วยวิธีการให้ความรู้ และเสริมสร้างสภาวะจิตใจให้ดีแล้ว จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ซึ่งจากการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจะเห็นได้ว่า ผู้ป่วยที่เข้ากลุ่มช่วยเหลือกันเอง มีคุณภาพชีวิต ระดับความเครียด และอาการของโรค (PASI score) ดีขึ้นจาก 5.9 ลดเหลือ 4.4 ในสามเดือนต่อมา

     ที่สำคัญผู้ป่วยมักเข้าใจผิดว่าการใช้ยาร่วมกับเครื่องฉายแสงอัลตราไวโอเลตจะทำให้โรคหายขาดได้ ทำให้เมื่ออาการกำเริบจึงมักหันไปใช้ยาหม้อ หรือสมุนไพรในการรักษา บางครั้งก็เกิดพิษจากยา ทำให้มีอาการป่วยเพิ่มขึ้น และโรงพยาบาลต่างๆ ก็มักละเลยการให้ความรู้เรื่องโรค วิธีการดูแลตัวเองและวิธีการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหรือโรคกำเริบ ทั้งที่เป็นหัวใจสำคัญของการดูแลรักษาโรคสะเก็ดเงิน

“การให้ยา หรือใช้เทคโนโลยีในการรักษาโรคเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาของผู้ป่วยได้ แต่การให้ความรู้ความเข้าใจ และให้โอกาสแก่ผู้ป่วยได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีหลบหลีกปัจจัยที่กระตุ้นให้โรคกำเริบจากเพื่อนผู้ป่วยด้วยกันคู่ไปกับการรักษาปกติ จะทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจ และส่งผลให้อาการไม่กำเริบ” รศ.นพ.ป่วน ชี้ให้เห็นถึงแนวทางในการรักษาผู้ป่วย

     แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เผยต่อไปว่า สาเหตุที่ทำให้ผื่นโรคสะเก็ดเงินเป็นปื้นหนา เพราะหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังจะขยายตัวและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก และพบว่าเซลล์ผิวหนังมีการแบ่งตัวเร็วผิดปกติจาก 28 วัน เป็น 4 วัน ซึ่งปัจจัยทำให้เกิดโรคมี 2 ปัจจัยคือ 1.สาเหตุภายในร่างกาย (แก้ไขยังไม่ได้) เช่น พันธุกรรม เพศ อายุ และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย 2.สาเหตุภายนอกร่างกาย (หลีกเลี่ยงได้) เช่นการแกะเกา โรคติดเชื้อ ยาบางชนิด การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา และความเครียด

จากการเก็บข้อมูลและศึกษาพบว่า ถ้าพ่อหรือแม่เป็นโรคสะเก็ดเงินเพียงคนเดียว โอกาสที่ลูกจะเป็นประมาณ 8.1% และถ้าพ่อและแม่เป็นโรคสะเก็ดเงินโอกาสที่ลูกจะเป็นเพิ่มขึ้นถึง 41%

สำหรับการรักษาทั่วไปแพทย์จะให้ยาทา ยากิน การฉายแสงอัลตราไวโอเลต หรือยาฉีด ตามแต่ลักษณะของผื่นและความรุนแรงของอาการ

     ปัญหาสำคัญคือ ผู้ป่วยขาดความรู้เรื่องเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค และปัจจัยที่ทำให้โรคกำเริบ นั่นคือ ความเครียด ความทุกข์จากโรค และสังคมรังเกียจ การแกะเกา การดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ขาดความรู้เรื่องการใช้ยาที่ถูกต้อง และค่ายาราคาสูง

“นอกจากการเข้ารับการรักษาจากแพทย์แล้ว จะต้องดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วยด้วยว่าทำไมจึงมีความวิตก เครียด ซึ่งพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีปัญหาผื่นคัน และเกา จึงได้ใช้หลักศาสนาเข้าไปรักษาทางใจแก่ผู้ป่วย”

     จากการศึกษาของต่างประเทศพบว่าการจัดกลุ่มให้ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินได้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหา คาดว่าจะช่วยลดความเครียด ลดความรุนแรงของโรคและเพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินได้ ดั้งนั้นทีมพัฒนาการดูแลรักษาโรคสะเก็ดเงินของภาควิชาตจวิทยา โรงพยาบาลศิริราชจึงจัดตั้งโครงการกลุ่มสัมพันธ์ช่วยเหลือกันเองในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินเพื่อศึกษาว่าจะสามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยได้หรือไม่

จึงได้มีการประยุกต์การรักษาโรคสะเก็ดเงินแบบองค์รวมขึ้น โดยให้ผู้ป่วยเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคนี้อย่างปกติสุข ด้วยวิธีการดูแลร่างกายทุกส่วน ดูแลจิตใจให้แจ่มใส ดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้เหมาะสม และรู้จักเลือกใช้ยาให้ถูกต้องเหมาะสมกับระยะและอาการของโรค

     กลุ่มสัมพันธ์ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินจึงเกิดขึ้นสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เป็นการให้ผู้ป่วยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์อาการป่วย การดูแลร่างกายและจิตใจ รวมทั้งมีกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียดสำหรับผู้ป่วยด้วย

“เช่น เป็นผื่นคันเพราะแผลแห้ง ขาดความชื้น เราก็ต้องทำให้แผลชุ่มชื้น ไม่เกา และใช้น้ำมันมะกอก ซึ่งคนไข้เองส่วนใหญ่ก็เคยใช้ แต่ไม่มีใครสอนวิธีใช้ที่ถูกต้อง เขาก็จะได้เรียนรู้จากเพื่อนผู้ป่วยด้วยกันหรือถ้าคันเราก็ต้องสอนให้เขาเอาชนะความคันด้วยการเอาผ้าเย็นประคบ บอกให้เขาใจเย็นๆ เปิดดนตรีฟัง ฟังเสียงน้ำ หรือปฏิบัติธรรม เราต้องหาทางออกหลายๆ ทางให้แก่ผู้ป่วย”

     แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่า ผู้ป่วยทุกคนในกลุ่มจะได้เปิดตัวเองว่าเป็นโรคสะเก็ดเงิน เท่ากับช่วยให้ผู้ป่วยยอมรับความจริงได้ และยังได้เพื่อนที่เป็นโรคเดียวกันคอยให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นการเรียนรู้วิธีคลายความเครียดด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาการให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและคนทั่วไปผ่านเครื่องมือการสื่อสารต่างๆ เช่น แผ่นพับ วิดีโอ ซีดี หนังสือ เว็บไซต์ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่สังคมให้ตรงกัน

     ในเมื่อการรักษาแบบองค์รวมมีผลสามารถควบคุมปัจจัยที่ทำให้ให้เกิดโรคหรือโรคกำเริบได้ ดังนั้น หากมีการนำวิธีการนี้ไปขยายผลในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ก็น่าจะเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยซึ่งทุกข์ทรมานจากโรคสะเก็ดเงินสามารถใช้ชีวิตอยู่กับโรคอย่างปกติสุขได้



ขอขอบคุณ
ที่มา :
ผู้จัดการออนไลน์ 11 สิงหาคม 2551

H O M E




Create Date : 17 สิงหาคม 2551
Last Update : 17 สิงหาคม 2551 16:45:04 น. 1 comments
Counter : 1139 Pageviews.

 
ไม่ต้องทำแบบนี้ครับ


โดย: แอทม IP: 202.143.130.131 วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:11:06:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.