Bloggang.com : jenifaae : บันทึกเก็บตก‏

บันทึกเก็บตก‏

     ศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ที่ผ่านมา (๒๗ - ๒๙ พ.ค. ๕๔) ผมไปใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ชุ่มฉ่ำด้วยสายฝนอยู่ที่ชะอำ, หัวหิน และปราณบุรี แต่สายฝนริมทะเลนั้น เปรียบเสมือนกับผู้หญิงสวยที่เอาใจยากครับ จะมาก็มา จะไปก็ไป ฝนจึงตกอยู่ไม่นาน หายแล้วก็ตกใหม่อีก โดยจะส่งรุ้งสีสวยมาให้ดูเป็นของแถมอีกด้วย บางครั้งชีวิตที่ไร้สาระแบบนี้ก็หาความสุขมาให้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

กลับมาถึงกรุงเทพฯ ผมก็หอบหนังสือพิมพ์มาอ่านติดต่อกัน ๓-๔ ชั่วโมง ทำให้ผมนึกชมเชยทีมงานประชาสัมพันธ์ของพรรคเพื่อไทย อย่างจริงใจ ที่สามารถสร้างกระแสส่งให้คุณยิ่งลักษณ์ฯ ขึ้นมาอยู่ในความนิยมถึงขนาดนี้ได้ ท่ามกลางจุดด้อยอย่างมากมายที่พรรคเพื่อไทยมีอยู่ ดังนั้น การพยายามรักษากระแสความนิยมต่อคุณยิ่งลักษณ์ฯ ให้ดำรงอยู่ต่อไป จึงเป็นเรื่องสำคัญและยากขึ้นตามลำดับ เพราะมีเรื่องมากมายที่สื่อมวลชนหลายฉบับได้ตีพิมพ์ ซึ่งผมเห็นว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณยิ่งลักษณ์ฯ หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยเองก็ยากจะตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำครับ เช่น

๑. ปัญหาพื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งทางกัมพูชานำไปฟ้องศาลโลกอ้างสิทธิจะขอมาดูแลเองนั้น เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ปัญหามันขยายตัวขึ้นในช่วงที่คุณทักษิณฯ เป็นนายกฯ กรณีนี้ คุณเปลว สีเงิน ระบุไว้ชัดเจนครับว่า “ครบ ๘ ปี วันนี้ (๓๑ พ.ค. ๕๔) พอดี ที่รัฐบาลทักษิณปล่อยให้เขมรรุกพื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตร และรู้เห็นเป็นใจให้ฮุนเซนนำปราสาทเขาพระวิหารไปตีทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว....” ใครจะคิดอย่างไรไม่ทราบ แต่ผมและประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าคงรับไม่ได้แน่เรื่องนี้ ถ้าพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาล ชายแดนไทย-เขมร สงบแน่นอน แต่ประเทศไทยจะต้องเสียพื้นที่อะไรต่ออะไรให้เขมรไปอีกสักเท่าไร

๒. คุณทักษิณฯ ยอมรับว่าทำผิดพลาดหลายอย่างระหว่างเป็นนายกฯ โดยเฉพาะในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด และปัญหาความรุนแรงใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความผิดพลาดของคุณทักษิณฯ ครั้งนั้น ทำให้คนในชาติแตกแยกยับเยิน ประเทศชาติต้องเสียงบประมาณในเวลาต่อมาอีกมหาศาลครับ อย่าเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ประชาชนจะลืมไปได้ง่ายๆ

๓. คุณทักษิณฯ เคยฟ้องหมิ่นประมาทคุณสุเทพฯ ที่ไปกล่าวหาว่าคุณทักษิณฯ อยากเป็นประธานาธิบดี แต่ก็โดนคุณสุเทพฯ แฉกลับครับว่าคุณทักษิณฯ มีพฤติการณ์อย่างไรบ้าง ถึงถูกกล่าวหาอย่างนั้น ซึ่งศาลตัดสินให้คุณ สุเทพฯ ชนะ ปัจจุบันคุณทักษิณฯ ก็ยังใกล้ชิดกับบุคคลที่พูดจาพาดพิงต่อสถาบันฯ อยู่หลายคน ผมว่าประชาชนคงไม่ลืมเรื่องนี้อีกเช่นกัน

๔. ไทยโพสต์ วันที่ ๒๙ เม.ย. ๕๔ ลงข้อความว่า คุณณัฐวุฒิฯ ประกาศบนเวทีเสื้อแดง ทั้งที่อุบล – ร้อยเอ็ด – มหาสารคาม ว่า “หากเพื่อไทยชนะแล้วไม่ได้เป็นรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ฯ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะเป่านกหวีดเรียกคนเสื้อแดงออกมาลุย” เรื่องที่เกิดเผากรุงเทพฯ ยังไม่ทันจางหายไป ก็เตรียมเป่านกหวีดอีกแล้ว ประชาชนจะลืมเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ถ้าเป่านกหวีดรอบใหม่แล้วเกิดมีคนตายอีก (แกนนำไม่ตายแน่นอนครับ) จะไปโทษใครสั่งฆ่าอีก ผมไม่รู้ว่าคุณยิ่งลักษณ์ฯ จะตอบเรื่องนี้อย่างไร

๕. โพสต์ทูเดย์ (๒๐ พ.ค. ๕๔) ลงข่าวว่า “พิชิต ชื่นบาน ตาใสแจงหิ้วถุงขนมไม่ขัดรัฐธรรมนูญ พิชิตฯ เป็นอดีตทนายความคุณทักษิณฯ ถูกคดีอาญา จำคุก ๖ เดือน ในความผิดละเมิดอำนาจศาล ในช่วงการพิจารณาคดีการจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ โดยหิ้วถุงขนมไปวางไว้ที่ศาล เจ้าหน้าที่เปิดมาพบเงิน ๒ ล้านบาท จึงเป็นผลทำให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าว” พรรคเพื่อไทยส่งคุณพิชิตฯ ลง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในลำดับที่น่าจะได้เป็น ส.ส. แน่นอน ผมเคยถามเพื่อนๆ ว่า พรรคเพื่อไทยทำแบบนี้ไม่กลัวเสียคะแนนหรือ เพื่อนตอบแบบเย้ยหยันว่า “คนไทย เดือนเดียวก็ลืมแล้ว” แต่ผมกลับเชื่อว่า ยังมีคนไทยอีกหลายล้านครับที่ไม่ลืมเรื่องแบบนี้แน่นอน

๖. ในประเด็นที่คุณยิ่งลักษณ์ฯ ถือหุ้นแทน พ.ต.ท.ทักษิณฯ ในคดีที่ศาลฎีกานักการเมืองมีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ๔๖,๓๗๓ ล้านบาท นั้น ยังมีข้อกฎหมายที่ยังไม่กระจ่างชัดว่า คุณยิ่งลักษณ์ฯ ขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ ม. ๑๐๒ หรือไม่ ถ้าไม่ขาด เพราะ กกต.รับสมัครแล้ว แสดงว่าคุณยิ่งลักษณ์ฯ ต้องยอมรับว่าเป็นผู้ที่ถือเงินแทนคุณทักษิณฯ จริง กรณีนี้นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการ คตส. ระบุว่า คุณยิ่งลักษณ์ฯ ยังจะต้องถูกดำเนินคดีอีก ๓ กรณี คือ
(๑) เบิกความเท็จต่อศาลฎีกาฯ
(๒) ให้การเท็จต่อ คตส. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในขณะนั้น และ
(๓) แจ้งคดีการโอนหุ้นเป็นเท็จต่อ ก.ล.ต. ทั้ง ๓ กรณี จะกลายเป็นปัญหาของคุณยิ่งลักษณ์ฯ ต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณยิ่งลักษณ์ฯ ทำไว้เองทั้งสิ้น อย่ากล่าวโทษมือที่มองไม่เห็นอะไรอีกก็แล้วกัน

๗. การทำลายป้ายหาเสียงของพรรค ปชป. และการออกมาต่อต้านคุณอภิสิทธิ์ฯ ของคนเสื้อแดงบางคนนั้น คุณยิ่งลักษณ์ฯ ยอมรับว่า “ห้ามไม่ได้” ก็ดีครับ ในระยะเวลาอันใกล้นี้ พฤติการณ์ดังกล่าวจะไม่เป็นผลดีต่อคุณยิ่งลักษณ์ฯอย่างแน่นอน แม้ผมซึ่งจะเชื่อ ๑๐๐% ว่าคุณยิ่งลักษณ์ฯ ไม่รู้เห็นด้วยก็ตาม ความสงสารต่อคุณอภิสิทธิ์ฯ ตามประสาคนไทย จะทำให้กระแสของคุณยิ่งลักษณ์ฯ ลดลง

     ยังมีอีกหลายปัญหาที่เป็นจุดด้อยของคุณทักษิณฯ ซึ่งผูกพันแบบแยกไม่ออกจากกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ยังไม่ได้นำมาพูดถึง แต่ประชาชนมากกว่า ๕๐% ก็น่าจะจำได้ นอกจากนั้นการหาเสียงในลักษณะ PROMOTE สินค้า (คุณยิ่งลักษณ์ฯ) ซึ่งจะได้ผลดีในระยะแรกเท่านั้น ปัจจุบันกระแสคุณยิ่งลักษณ์ฯ เริ่มคงที่แล้ว ในขณะที่คุณอภิสิทธิ์ฯ ซึ่งหาเสียงแบบปกติกำลังไต่ระดับขึ้นมา ดังนั้นผมจึงเชื่อว่า สถานการณ์ของพรรค ปชป. ไม่ได้เลวร้ายตามที่เกิดข่าวร่ำลือ หรือตามที่โพลล์ทั้งหลายมั่วกันออกมาครับ

คะแนนนิยมของทั้ง ๒ พรรค ยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันอยู่ การแพ้ชนะกันจึงอยู่ที่กลุ่มพลังเงียบที่จะออกมาลงคะแนน ถ้าออกมามาก ปชป. ก็จะชนะ แต่ถ้าออกมาน้อยพรรคเพื่อไทยก็จะชนะเช่นกัน แต่ยังมีปัจจัยสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ การชี้คดีเขาพระวิหารของศาลโลก ถ้าชี้ให้ไทยได้เปรียบ พรรค ปชป. จะได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมาก แต่ถ้าศาลโลกชี้ให้ไทยเสียเปรียบ พรรค ปชป. ก็กลับบ้านเก่าเช่นกันครับ

ศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ที่จะถึงนี้ผมจะไปเที่ยวแบบไร้สาระทางภาคอีสานบ้าง อย่าไปคิดอะไรมากกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ขนาดโพลล์ กอ.รมน. ยังให้คุณอภิสิทธิ์ฯ แพ้ยับเยินเลยครับ แต่ทำไมผมจึงสวนกระแสว่า พรรค ปชป. ยังมีคะแนนนิยมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับพรรคเพื่อไทย ผมบอกตามเหตุผลทางการข่าวและลืมบอกไปว่า ในทุกสถานการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้นมานั้น จะเห็นได้ว่าคุณอภิสิทธิ์ฯ เป็นม้าปลายแรงทุกครั้งครับ

     มนุษย์เราเกิดมาต้องมีทั้งโชคดีและโชคร้าย ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และก็ไม่มีใครจะซวยตลอดชาติอีกเช่นกัน ทางฝ่ายคุณอภิสิทธิ์ฯ นั้น ถ้าแพ้ก็กลับไปเป็นพรรคฝ่ายค้านใหม่ก็เท่านั้น แต่ทางคุณทักษิณฯ ถ้าแพ้ครั้งนี้ คงเป็นครั้งสุดท้ายทางการเมืองแล้ว จึงแพ้ไม่ได้ การพลิกแพลงรูปแบบการหาเสียงในระยะสุดท้าย (๗ วัน ก่อนวันเลือกตั้ง) จึงมีความสำคัญมาก กระแสข่าวการปาไข่เน่าใส่คุณยิ่งลักษณ์ฯ อาจจะเป็นการปาอย่างอื่นได้ในช่วงนั้น รัฐบาลรักษาการณ์ของคุณอภิสิทธิ์ฯ จึงต้องทุ่มเทดูแลคุณยิ่งลักษณ์ฯ ให้มากขึ้น ให้มากกว่าการดูแลตัวเองด้วย อย่าประมาท จึงจะทำให้การแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติครับ “ต่อสู้กับตัวเองคือศึกใหญ่ ชนะขาดเมื่อไรก็ผึ่งผาย ปล่อยวางมัน....พ้นจัก....เบาสบาย พบความจริงสุดท้าย....ตถตา” คนแต่งกลอนนี้ชื่อ สำราญ รอดเพชร แต่งมา ๔-๕ ปีแล้ว ปัจจุบันคนแต่งก็ยังต่อสู้กับตัวเองอยู่ ไม่ชนะสักทีครับ (สำราญฯ แต่งกลอนนี้เตือนสติ คุณทักษิณฯ ตอนเป็นนายกฯ)

Credit : ฟอร์เวิร์ดเมล

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์
H O M E

Create Date : 29 มิถุนายน 2554

Last Update : 29 มิถุนายน 2554 15:21:53 น.

0 comments

Counter : 665 Pageviews.