Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
"ฟาวด์พอยต์"เว็บเพื่อสังคม ศูนย์ตามหา"ของหาย"ยุคไซเบอร์


ศักดิ์สกุล กุลละวณิชย์ / รายงาน

*ในชีวิตที่ผ่านมาของคนเรา คงมีบ้างที่เคยทำของหาย ไม่ก็เจอสิ่งของที่คนอื่นทำตก หรือลืมไว้ตามที่ต่างๆ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ย่อมต้องนำมาซึ่งความกระวนกระวายใจแก่เจ้าของ หรือแม้แต่คนที่เก็บของได้ก็ตาม

และสิ่งแรกที่ควรทำก็คือไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความหาเจ้าของ หรือลงบันทึกประจำวันแจ้งทรัพย์สินสูญหายไว้

จากนั้นส่วนมากคงได้แต่เฝ้ารอการติดต่อกลับ เฝ้าคิดว่ามีจะโอกาสได้ของคืนหรือไม่ หรือต้องออกตามหากันเอาเองตามยถากรรม

แต่ ณ ปัจจุบัน ในโลกยุคข้อมูลข่าวสาร ในโลกแห่งอินเตอร์เน็ต ได้มีกลุ่มบุคคลคิดดีทำดี ลุกขึ้นมาสร้าง "พื้นที่" ที่จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการหาของส่งคืนให้กับเจ้าของ หรือการตามหาของที่สูญหายไป

เว็บไซต์ฟาวด์พอยต์ (www.foundpoint.com) เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์มาไม่ถึงครึ่งปี แต่มีจุดมุ่งหมายแน่วแน่ในการช่วยเหลือผู้ที่กำลังทนทุกข์กับเรื่องนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ หรือแนวคิดการจัดทำเว็บที่ว่า "ของของใคร ใครก็รัก!"

"อยากให้ฟาวด์พอยต์เป็นฐานข้อมูลตั้งต้นในการตามหาคน สัตว์ สิ่งของ ที่หายไป อยากให้ทุกคนได้เข้ามาใช้ในยามที่ยากลำบาก และก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังตามหาอะไรก็ตาม" นายณัฐพงศ์ เทียนดี เว็บมาสเตอร์ฟาวด์พอยต์ เผยแรงบันดาลใจก่อตั้งเว็บเพื่อสังคม

ณัฐพงศ์ เล่าประวัติชีวิตย่อๆ ว่า เป็นบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์ ด้านอิเล็กทรอนิกส์ จากรั้วลาดกระบัง ที่หันเหมาทำงานด้านออกแบบสื่อเว็บไซต์ และมัลติมีเดีย ร่วมมือกันก่อร่างสร้างเว็บกับ ทิศา ปทุมวัน ในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ ศุภชัย ใจโต และรัชนียา เอมสาร รับผิดชอบเรื่องข้อมูล โดยแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดเว็บฟาวด์พอยต์ขึ้นมานั้น ณัฐพงศ์ขยายความไว้ว่า

"ผมทำเว็บบล็อกมาประมาณ 5-6 ปีได้แล้ว เป็นบล็อกที่ค่อนข้างไร้สาระ คือให้คนเข้ามาอ่านเอาฮาอย่างเดียว พอทำเรื่องไร้สาระมากๆ เข้า วันหนึ่งก็เกิดอยากจะเป็นคนดีของสังคม เพราะไปถ่ายรูปงานรับปริญญาให้น้องชาย แล้วผมดันซุ่มซ่าม ทำเมมโมรี่การ์ดกล้องถ่ายภาพหล่นหาย

น้องผมเศร้ามากเพราะเสียดายรูปที่ถ่ายมาอย่างสวย ส่วนผมรู้สึกผิดสุดๆ ระหว่างคอตกกลับบ้านกันทั้งพี่ทั้งน้อง ผมเห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะแยะ ก็คิดได้ว่า มันอาจจะมีคนสักคนหนึ่งที่กำลังเดินผ่านเราไปนี่แหละ ที่เป็นคนเก็บได้ แต่เขาจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นของเรา

ผมคิดว่าพื้นฐานทุกคน พอเก็บของได้แวบแรก ต้องคิดอย่างแรกเลยว่า ของนี่ของของใคร แล้วจะคืนเจ้าของยังไง ส่วนแว้บที่สองอาจจะเป็นแว้บ "มาร" ซึ่งอาจจะเป็นมารเพราะจำใจ หาเจ้าของไม่ได้เลยเก็บไว้เอง หรือเป็นมารเพราะใจตน เก็บไว้เป็นของตัวเองดีกว่า...จะคืนมันทำไม

ผมเลยคิดว่า ถ้ามีคำตอบให้กับแว้บแรก ว่าจะคืนเจ้าของยังไง และเขารู้ว่าต้องมาที่เว็บฟาวด์พอยต์ เขาก็อาจจะไม่คิดที่จะยึดไว้

ส่วนคนทำของหายจะกระตือรือร้นกว่าคนเจอของอยู่แล้ว และต้องลงประกาศหาของไปทั่วแน่นอน ในความคิดผม การกระจายประกาศในวงกว้างมันมีส่วนดีสำหรับข้อมูลบางประเภท แต่สำหรับเรื่องแบบนี้น่าจะมีศูนย์กลางที่รวมข้อมูลไว้จะดีกว่า เพราะจะทำให้หาข้อมูลได้ง่ายขึ้น


*ส่วนแรงบันดาลใจอีกอันนึง ก็เป็นกรณีที่จำใจเก็บของเขามา เพราะไม่รู้จะไปคืนที่ไหน คือกล้องฟิล์มของชาวต่างชาติ ที่เก็บได้บนรถตุ๊กตุ๊กแถวปากคลองตลาดเมื่อสิบปีก่อน จนบัดนี้กล้องและฟิล์มที่ล้างเป็นภาพออกมาแล้วก็ยังนอนแอ้งแม้งอยู่บ้านผม

ส่วนสาวเจ้าของกล้องที่อยู่ในภาพถ่ายคงจะเสียดายและปลงตกไปแล้วว่า ชีวิตนี้คงไม่ได้กล้องและความประทับใจจากเมืองไทยคืนกลับไปเป็นแน่แท้ ไม่ต้องบรรยายความรู้สึกของเธอเหล่านั้นให้มากความครับ แค่คิดว่าเป็นเรา คงเสียใจแน่นอน"

สําหรับวิธีการใช้งานเว็บฟาวด์พอยต์นั้นเว็บมาสเตอร์ไฟแรง อธิบายว่าไม่ยุ่งยากซับซ้อน ใช้งานง่ายๆ เพื่อให้เข้าถึงคนหมู่มาก

"ง่ายมากครับ พอเข้ามาในหน้าแรก ก็จะเจอหัวข้อใหญ่มากคือ "หา" กับ "เจอ"

ก็ตรงตัวเลย คือคุณกำลังตามหาอะไรก็ลงประกาศไว้ในหัวข้อ "หา" และคุณไปเจออะไรมาที่ไม่ใช่ของของคุณ แล้วต้องการจะมาตามหาเจ้าของที่นี่ก็ไปที่หัวข้อ "เจอ" ส่วนรายละเอียดการลงประกาศก็มีความหมายตามหัวข้อของมัน ผมตั้งใจให้มันเข้าใจง่ายที่สุด

นอกจากนั้นก็คือผมจะแยกวันที่ลงประกาศกับวันที่ของหายออกจากกัน เพราะบางคนทำของหายแล้วกว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไปหลายวัน หลายเดือน หรือหลายปี เพิ่งจะมาลงประกาศ ระบบจะได้มีข้อมูลที่ถูกต้องเก็บไว้

และที่พิเศษก็คือฟังก์ชัน "หัวใจสีแดง" ที่อยู่ใต้หัวข้อประกาศ ซึ่งเป็นปุ่มที่เมื่อเจ้าของประกาศหาของหรือตามเจ้าของเจอแล้วจะมาทำการกด เพื่อยืนยันว่าประกาศนั้นๆ ได้เคลียร์แล้ว และทางฟาวด์พอยต์จะย้ายประกาศนั้นไปไว้ในหมวดหมู่ "หาเจอแล้ว"

ส่วนเสริมส่วนสุดท้ายคือ "แอดดิส" (add this) เป็นเครื่องมือกระจายข้อมูลประกาศของคุณออกไป โดยแชร์ไปยังโซเชี่ยล เน็ตเวิร์กต่างๆ ที่คุณมีแอ๊กเคานต์อยู่

ในแผนต่อไปผมคิดว่าจะพัฒนา ระบบค้นหาภายในฟาวด์พอยต์ให้ดีขึ้น รวมถึงระบบปักหมุดประกาศแบบต่างๆ สำหรับประกาศที่ต้องการความช่วยเหลือ เร่งด่วน ฉุกเฉิน จะได้มาลงประกาศพิเศษไว้ตรงนั้น"

เว็บไซต์ที่มีเจตนาดีๆ เช่นนี้จะไม่เกิดประโยชน์เลย หากไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งในส่วนนี้ ณัฐพงศ์ให้ความเห็นถึงตลอดช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดหน้าเว็บในวันแรกว่า

"เว็บเพิ่งเปิดได้ไม่นานครับ สัก 4-5 เดือน ก็เริ่มมีคนเข้ามาใช้บ้างแล้วครับ ผมพยายามประชาสัมพันธ์ไปในเว็บต่างๆ ที่พอจะรู้จักกัน เขาก็น่ารักมาก ช่วยประชาสัมพันธ์กันเต็มที่

ผมรู้สึกดีใจมากเวลามีคนมาลงประกาศใหม่ๆ เพราะรู้สึกว่าเริ่มเป็นที่รู้จัก แต่ไม่ใช่ดีใจที่มีคนทำของหายนะครับ โดยเฉพาะกับจำนวนตัวเลขของประกาศ "หาเจอแล้ว" ในด้านบนของเว็บ เวลามันเพิ่มจำนวนขึ้น ก็ถือเป็นกำลังใจของคนทำเว็บ และอีกทางหนึ่งก็เป็นการสร้างกำลังใจให้กับผู้ลงประกาศคนอื่นว่า มีคนหาของเจอแล้วจริงๆ งั้นเราเองก็มีหวังเหมือนกัน"


*ที่ผ่านมามีเรื่องราวน่าสนใจเกิดขึ้นในพื้นที่ของ "ฟาวด์พอยต์" มากมายหลายเรื่อง ซึ่งณัฐพงศ์หยิบยกบางแง่มุมมาเล่าให้ฟังว่า

"หลังจากปล่อยให้เว็บมันดำเนินไปของมันช่วงระยะหนึ่งซึ่งไม่นาน ผมเห็นคนที่ตามหาของที่ตัวเองทำหายหลายคนครับ แต่มีคนนึงที่ผมอ่านประกาศของเขาแล้วผมน้ำตาจะไหล นึกถึงประโยคที่ว่า "ของของใคร ใครก็รัก" ขึ้นมาทันทีเลย คือประกาศตามหาของหลายชิ้นที่ลืมไว้พร้อมกัน ประกอบด้วย หมวกการ์ตูนรูปอุนจิ เครื่องเกมพีเอสพี หูฟังสีเขียว กระเป๋าสะพาย บัตรนักศึกษา บัตรพนักงาน

พอคลิกเข้าไปแล้ว ยิ่งอยากให้เขาตามหาของให้เจอมากเลย เขาเขียนว่า หายบนรถแท็กซี่ ฝนตกแล้ววางกระเป๋าไว้เบาะหน้า เอาร่มมารับเพื่อน รู้ตัวอีกที ลืมของไว้ด้านหน้ารถเนี่ยล่ะครับ ไม่ได้เสียดายเงิน แต่เสียดายเพราะแต่ละอย่างค่อยๆ ซื้อ ค่อยๆ หาเก็บเงินจนได้ มันเห็นภาพไหม ผมนึกภาพถึงตอนที่เขาอดขนม หรือเก็บออมเงินเอาไว้ซื้อหมวก และเครื่องเกม ใครอาจจะมองว่าเป็นแค่หมวกบ๊องๆ เครื่องเกมไร้สาระ แต่ผมขอทวนประโยคนี้อีกทีที่ว่า "ของของใคร ใครก็รัก" ฝากไว้เป็นกำลังใจว่า ยังมีคนเข้าใจความรู้สึกและเอาใจช่วยอยู่นะครับ

สำหรับบางประกาศ เช่นประกาศหากระเป๋าสตางค์ มีบ่อยมาก บางประกาศกลายเป็นประกาศ "หาเจอแล้ว" เพราะมีพลเมืองดี ส่งบัตร และเอกสารภายในกระเป๋าคืนกลับมาให้เจ้าของตามที่อยู่ในบัตร

พอเจ้าของได้รับของคืน ก็มาโพสต์ข้อความไว้ในประกาศว่า ได้รับของคืนแล้วนะ ผมได้อ่านแล้วก็ปลื้มใจมาก เพราะนอกจากเขาจะได้ของคืนแล้ว ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนน่ารักและมีมารยาท เขาทำของหาย เขามาลงประกาศตามหา และพอมีคนมาคืนของให้เขา จะด้วยเพราะเข้ามาในฟาวด์พอยต์หรือไม่ก็ตาม เขาก็มากล่าวคำขอบคุณ ทั้งๆ ที่คนที่ส่งของคืนมาให้ จะได้อ่านข้อความขอบคุณของเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เขาก็ยังให้เกียรติและแสดงความนับถือในน้ำใจกลับไปยังพลเมืองดีคนนั้น

สำหรับผม ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ยิ้มได้เลยจริงๆ"

อนาคตของ "ฟาวด์พอยต์" ณัฐพงศ์ตั้งความหวังถึงการได้ทำหน้าที่ในวงกว้างขึ้น หรือได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งถือเป็นก้าวย่างที่เลี่ยงไม่ได้ของการพัฒนาเว็บไซต์เพื่อช่วยเหลือผู้คน

"อนาคตผมอยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เข้ามาใช้ฟาวด์พอยต์ อยากให้ จส.100 หรือร่วมด้วยช่วยกัน หรือสถานีตำรวจที่รับแจ้งความเกี่ยวกับของหาย คนหาย ฯลฯ เข้ามาใช้เว็บให้เป็นจริงเป็นจัง เพราะทุกวันนี้ฟังวิทยุมีเรื่องราวของหายบ่อยมากและแต่ละกรณีก็ใช้เวลาในการ ช่วยเหลือไม่ได้หมดในวันเดียว

ดังนั้น จึงมีข้อมูลคงค้างและต้องพักไว้ในที่ใดที่หนึ่ง ที่น่าจะเป็นฐานข้อมูลเปิด และเป็นที่เก็บข้อมูลเพื่อเป็นฐานข้อมูลไว้ในทุกๆ วัน นั่นแหละครับที่อยากให้ฟาวด์พอยต์เข้าไปรองรับตรงจุดนั้น

อย่างทุกวันนี้ผมเห็นมีการรับซื้อของโจรหรือพวกขโมยของไปขายมากมาย ตัวอย่างกรณีพวกกล้อง เลนส์ หรือโทรศัพท์มือถือ ที่ทุกวันนี้มีคนใช้เพิ่มมากขึ้น มีคนทำหายหรือโดนขโมยเพิ่มมากขึ้น พวกขโมยพอได้ของไป ก็เอาไปปล่อยในตลาดมืดหรือโลกออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันการซื้อขายของออนไลน์ทำได้สะดวกง่ายดายยิ่งกว่าอ้าปากงับกล้วย

แล้วพวกเราเองนี่แหละ ที่วันใดวันหนึ่งอาจจะอยากซื้อกล้อง ซื้อเลนส์ ซื้อโทรศัพท์มือสอง จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นของโจรหรือเปล่า นี่ก็จะเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ทางเว็บของเราจะเข้าไปช่วยกลั่นกรองตรงนี้ ถ้ามีประกาศของหายจากผู้ที่โดนขโมยของไป พร้อมหมายเลขประจำเครื่องที่ลงไว้ ก็จะเป็นประโยชน์ ก่อนจะตัดสินใจซื้อของมือสองหรือซื้อของต่อจากใคร ก็ให้เข้ามาตรวจสอบของนั้นซะก่อนที่ฟาวด์พอยต์ ดอต คอม ว่าของสิ่งนั้นไม่ได้เป็นของที่ถูกลงประกาศว่าเป็นของหายอยู่ จะได้มั่นใจว่าไม่ได้ไปซื้อของโจร อันจะทำให้เกิดเรื่องเดือดร้อนตามมาได้

เป้าหมายสุดฝันของผม ผมอยากให้ฟาวด์พอยต์เป็นเหมือนกูเกิ้ล แต่อาจจะเป็น "google : lost and found" (ศูนย์กลางค้นหาของหาย) อะไรทำนองนั้นครับ" ณัฐพงศ์ ระบุ

ต่อข้อถามสุดท้ายเกี่ยวกับเรื่องรายรับ-รายจ่ายของเว็บ ณัฐพงศ์บอกตรงๆ ว่า

"ตอนนี้ไม่มีรายได้ครับ มีแต่รายจ่าย รายจ่ายก็มีแบบพื้นฐาน เหมือนที่เว็บอื่นๆ เขามีกัน คือค่าโฮสติ้ง, ค่าเขียนโปรแกรม, ค่าออกแบบ ซึ่งผมโชคดีที่มีเพื่อนพี่น้องน่ารักมาช่วยกันทำ บ้างก็ทำให้ฟรี บ้างก็คิดในราคาไม่แพง บางส่วนผมทำเองได้ผมก็ทำเอง รวมๆ แล้วพอรับไหว"

สุดท้ายแล้วตัวเว็บไซต์จะทำหน้าที่ได้ดีสมตามเป้าหมายเพียงใด คงไม่เท่ากับเจตนาในการช่วยเหลือเพื่อนร่วมสังคมเดียวกัน ที่ฟาวด์พอยต์ได้แสดงให้เราได้เห็นถึงแง่มุมดีๆ บนโลกไซเบอร์อันแสนวุ่นวายเช่นทุกวันนี้

"อยากให้คนเข้ามาใช้กันเยอะๆ ไม่ต้องรอให้ของหายหรอกแล้วค่อยมานั่งนึกดีๆ ผมว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิต คุณต้องเคยทำของหายบ้างแหละ ของอะไรก็ได้ ของที่หายไม่มีคำว่าของไร้สาระ ของรักของเรา เราก็อยากได้กลับคืนมาใช่ไหมครับ

นึกให้ดีๆ แล้วมาลงประกาศไว้ที่ฟาวด์พอยต์ บางทีอาจจะมีคนกำลังรอที่จะคืนของให้คุณ เหมือนที่ผมรอมาสิบปีแล้ว ที่จะคืนกล้องอันนั้นกลับไป และผมก็เชื่ออีกนั่นแหละว่า ถ้านึกให้ดี คุณอาจจะเคยเจอของที่ไม่รู้ว่าเจ้าของเป็นใคร และอยากจะคืนใจจะขาด แต่ในที่สุด ของสิ่งนั้นก็ถูกซุกไว้ในซอกหลืบที่ไหนสักที่ในบ้านของคุณ อย่างไม่มีคุณค่าอะไร

เชื่อผมเถอะ มีคนรอที่จะได้ของสิ่งนั้นกลับคืนอย่างใจจดใจจ่อ และรอมานานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

เมื่อคุณนึกได้ เราก็ยินดีต้อนรับสู่ฟาวด์พอยต์!" ณัฐพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย

Credit : ข่าวสดรายวัน วันที่ 03 สิงหาคม พ.ศ. 2553 หน้า 21

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E



Create Date : 04 สิงหาคม 2553
Last Update : 4 สิงหาคม 2553 12:16:58 น. 0 comments
Counter : 618 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.