ชี้โครงการ"30บาท"เริ่มแล้วเลิกไม่ได้
จาก น.ส.พ.ข่าวสด วันที่ 04 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5788
ชี้โครงการ"30บาท"เริ่มแล้วเลิกไม่ได้
วันที่ 3 ต.ค. น.พ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า
การแก้ไขปัญหาในระยะยาวเรื่องงบประมาณ 30 บาท เพื่อไม่ต้องผูกติดกับงบประมาณแผ่นดินที่มักอิงกับนโยบายทางการเมือง คือ การผูกติดงบฯ 30 บาทเข้ากับภาษี ซึ่งจะนำเสนอแนวคิดดังกล่าวกับรัฐบาลชุดใหม่ นักวิชาการหลายคนเห็นว่าควรนำไปผูกติดกับงบฯ ด้านใดด้านหนึ่ง เช่น ภาษีเหล้า บุหรี่ หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม
ส่วนตนเตรียมเสนอแนวคิดให้นำไปผูกติดกับภาษีธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งได้จากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการซื้อขายหุ้น เพราะมองว่าภาษีส่วนนี้มาจากผู้มีรายได้สูง ไม่เกิดผลกระทบมากนัก หากมาจากภาษีมูลค่าเพิ่มจะกระทบคนส่วนรวม โดยเฉพาะคนจน ส่วนภาษีเหล้า บุหรี่ จะได้รับอัตราไม่คงที่ เพราะการรณรงค์อย่างหนักจะทำให้รายรับในส่วนนี้ลดลง
น.พ.สงวนกล่าวว่า ประชาชนยังไม่เข้าใจว่าโครงการหลักประกันสุขภาพไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง เป็นสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนต้องได้รับ และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้การเมืองจะเปลี่ยน เมื่อเริ่มโครงการแล้วไม่มีประเทศไหนในโลกเลิกได้ เพราะเป็นประโยชน์ของประชาชน การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ขึ้นในสังคมว่าไม่มีใครสามารถล้มโครงการหลักประกันสุขภาพได้
.......................................................................
จากข่าวจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด วันพุธที่ 4 ต.ค.2549 ข้างต้น ผู้นำมาลงในบอร์ค ขอเพิ่มเติมว่า การที่จะทำให้โครงการนี้อยู่ได้ ประชาชนจะต้องเข้าสู่ระบบการมีแพทย์ประจำครอบครัว จะทำให้ประหยัดงบค่าใช้จ่ายลงได้ ทุกคน จะต้องรักษากับแพทย์ประจำครอบครัว ก่อน
ถ้าแพทย์ประจำครอบครัว เห็นว่า ป่วยสมควรพบแพทย์เฉพาะทางสาขาใด ก็จะมีใบส่งตัวให้สามารถใช้สิทธิรักษาฟรี 30 บาท ได้ แต่ถ้าไม่ผ่านระบบ ไม่ผ่านแพทย์ประจำครอบครัว จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง จะทำให้
1.ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพลดลงเพราะแพทย์ประจำครอบครัวจะรู้จักคนไข้ ดูแล มาตลอด จะเลือกการดูแลที่เหมาะสมให้ ก่อนจะพบแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก 2.ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น มีแพทย์ที่รู้จักสนิทสนมดูแลต่อเนื่อง ไปตลอด
อย่างไรก็ตาม ควรจะต้องมีระบบตรวจสอบ ให้ผู้รับบริการสามารถ เปลี่ยนแพทย์ประจำครอบครัวเพื่อถ่วงดุลย์ ให้แพทย์ที่เป็นแพทย์ประจำครอบครัว จะต้องเป็นแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ประชาชนที่มาใช้บริการต้องได้รับความพึงพอใจ
ถ้าไม่ได้รับความพึงพอใจ สามารถร้องเรียน ถ้าผิดจริง จะต้องถูกลงโทษ หรือ ถูกปลดออกได้ และ จัดหาแพทย์ท่านใหม่ทีประชาชนพึงพอใจมาแทนได้ จะเกิดเป็นคานอำนาจกันระหว่างผู้ใช้บริการ และ ผู้ให้บริการ ทำให้ระบบอยู่ได้
Create Date : 05 ตุลาคม 2549 |
|
0 comments |
Last Update : 5 ตุลาคม 2549 20:29:37 น. |
Counter : 434 Pageviews. |
|
|
|