มีการศึกษา (Education) ไม่ได้แปลว่า มีความรู้ (Knowledge)
กระดาษหนึ่งแผ่น..ไม่ได้ทำให้คนฉลาดขึ้น การเรียนรู้..ไม่ได้มีอยู่แต่ในห้องเรียน
การต่อยอดจากสิ่งที่ดี ย่อมได้สิ่งที่ดีกว่า
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
16 มกราคม 2551
 
All Blogs
 

ผมมีวันนี้..เพราะพระคุณของคุณครูทุกท่าน

เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) ผมมีชั่วโมงสอนภาคค่ำในมหาวิทยาลัย ผมตั้งใจว่าวันนี้จะเข้าไปเร็วกว่าปกติสักหน่อย ในฐานะที่ผมเป็นศิษย์เก่าคนหนึ่งของที่นี่ ผมจะเข้าไปกราบขอบคุณ และขอพรจากอาจารย์ในสาขา เนื่องในโอกาสที่พรุ่งนี้จะเป็น "วันครู"

ผมแวะซื้อพวงมาลัยดอกมะลิ ตามจำนวนอาจารย์ที่ผมคาดว่าจะได้พบในเย็นนี้ เมื่อผมเข้าไปถึงมหาวิทยาลัย หลังจากหาที่จอดรถได้แล้ว ผมก็ตรงขึ้นไปบนห้องพักอาจารย์ประจำสาขา พร้อมกับพวงมาลัยที่เตรียมไว้

ในช่วงแรกพบอาจารย์อยู่ในห้องสี่ท่าน ก็กล่าวทักทายสวัสดีทุกท่านตามปกติ อาจารย์ก็กำลังอยู่ในช่วงพักผ่อน ทานอาหารเย็น เพราะเดี๋ยวช่วงค่ำ ก็มีชั่วโมงสอนเช่นกัน ผมหยิบพวงมาลัยแล้วเข้าไปไหว้อาจารย์ ท่านแรกคือ อ.วิโรจน์ มานะมั่นชัยพร

"อาจารย์ครับ พรุ่งนี้วันครู ผมไม่ได้มาอวยพรครับ แต่ผมมาขอพร" ผมบอกกับอาจารย์

อาจารย์ท่านก็ยิ้ม (ปนประหลาดใจนิดๆ) และท่านก็อวยพรให้ผม ซึ่งผมก็รู้สึกยินดีที่ได้รับพรจากผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ

อาจารย์ท่านอื่นๆ เริ่มรู้ตัวแล้วว่า เดี๋ยวก็ถึงคิวเราแล้ว บางท่านกำลังทานข้าวอยู่ ก็ต้อง Slow down ผมหยิบพวงมาลัยอีกพวงหนึ่ง เข้าไปหา ดร.สนอง ดีประดิษฐ์

"อาจารย์ครับ พรุ่งนี้วันครูครับ..." ผมรู้สึกว่า เหมือนจะพูดอะไรไม่ค่อยออกแล้ว พูดได้แค่นั้นจริงๆ อาจารย์รับพวงมาลัยแล้วก็อวยชัยให้พรผม ผมเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรมาจุกอยู่ในคอ ผมกล่าวขอบคุณอาจารย์สำหรับพรอันเป็นสิริมงคล

พวงมาลัยพวงที่สาม ผมนำไปไหว้อาจารย์นก อ.พิกุลทอง หงษ์หิน "อาจารย์ครับ พรุ่งนี้วันครู ครับ..." ผมพูดอะไรมากกว่านั้นไม่ได้จริงๆ มันเป็นเพราะอะไร ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน รู้สึกเหมือนมีน้ำตามาคลอๆ ที่เบ้าตา อาจารย์ท่านก็รับพวงมาลัย แล้วก็อวยพรให้ผมเช่นเดียวกัน

"อาจารย์หน่อยครับ" ผมหยิบมาลัยพวงที่สี่ เดินไปหา อ.เพ็ญพรรณ ชูติวิสุทธ์ ท่านเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา สมัยที่ผมเรียนที่นี่ อาจารย์กำลังสาละวนอยู่หลังห้อง "พรุ่งนี้วันครูครับ" ผมพูดได้เท่านี้จริงๆ อาจารย์ก็อวยพรให้ผมเช่นเดียวกับท่านอื่นๆ

เสร็จแล้ว ผมก็หันออกมา เช็ดหน้าเช็ดตา อาจารย์เรียกทานของกินด้วยกัน ที่ใช้คำว่า "ของกิน" ก็เพราะมันมีหลายอย่างครับ ไม่ใช่ข้าวอย่างเดียว ผมก็เลยร่วมวงด้วย พร้อมกับคุยกับอาจารย์ในเรื่องทั่วๆ ไป ทั้งเรื่องในมหาวิทยาลัย เรื่องการบ้านการเมือง จนถึงเวลาใกล้จะไปสอน

ก่อนที่ผมจะเตรียมไปสอน ผศ.ประคอง สุคนธจิตต์ อาจารย์อีกท่านหนึ่ง เพิ่งเสร็จจากการสอนรอบบ่าย ก็กลับเข้ามาในห้อง ผมจึงนำมาลัยไปไหว้อาจารย์ อาจารย์ก็อวยชัยให้พร สรุปว่าวันนี้ ผมได้พรอันเป็นสิริมงคลจากอาจารย์ 5 ท่าน



-----------------------------------------------------------

วันนี้ (16 ม.ค.) ผมโทร.กลับไปหา คุณครูมณฑิตา ปุตตธรรมกุล ครูที่สอนผมมาตั้งแต่อยู่มัธยมต้น ตอนที่ผมอยู่ต่างจังหวัด ท่านเป็นคุณครูอีกท่านหนึ่งที่ผมเคารพมาก ผมรู้สึกประทับใจในตัวครู ประทับใจในความเป็นครู และที่สำคัญ คุณครูใจดีกับพวกเราสมัยนั้นมากๆ

"สวัสดีครับครู ผมสำเริงนะครับ" คุณครูจำได้ทันที (แหม..ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ สมัยเรียน ผมดังใช่ย่อยนะ ฮ่าๆๆๆ แต่ก็ดังในทางที่ดีนะครับ)

"เป็นอย่างไรบ้าง เธอสบายดีเหรอ" คุณครูถามกลับมา

"ครับ สบายดีครับ แล้ววันนี้ครูไปไหนหรือเปล่าครับ"

"ครูเพิ่งไปนครปฐมมา ตอนนี้กำลังเดินทางกลับ"

"วันนี้วันครูครับ ผมขอถือโอกาสโทรมากราบคุณครูในวันนี้ ต้องขอโทษนะครับ ผมอยู่ไกล ไม่สะดวกมาหาคุณครูด้วยตนเอง"

"ไม่เป็นหรอก แค่หนูโทรมา ครูก็ดีใจแล้ว สมแล้วที่เป็นเด็กมารยาท นี่แหละนะ ความที่หนูเป็นคนกตัญญู จะส่งให้หนูเจริญก้าวหน้า ครูขออวยพรให้มีความสุข มีหน้าที่การงานที่ดี ......" คุณครูอวยพรให้ผมยาวมาก ผมจำได้ไม่หมด รู้แต่เพียงว่า ล้วนเป็นพรอันเป็นสิริมงคลต่อผมมาก

ในเวลานั้น เอาอีกแล้ว ผมน้ำตาไหล และเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ในลำคอ ผมพูดได้แต่ ขอบคุณครับ... ครับ... ครับ... ได้แค่นั้น

สังเกตมั๊ยครับ คุณครูใช้คำว่า "หนู" เป็นสรรพนามเรียกผม เหมือนเช่นในอดีต ทำให้ผมรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปอยู่ในวัยเด็กอีกครั้ง

"ตอนนี้ ครูไม่ได้สอนแล้วนะ" คุณครูเปลี่ยนเรื่องสนทนา หลังจากที่คงสังเกตน้ำเสียงผมออก ว่าผมกำลังสะอื้น น่าอายมั๊ยล่ะ อายุตั้งสี่สิบแล้ว ยังมาร้องไห้ ให้คุณครูฟังอีก "ครูลาออกแล้ว พอดีว่าสุขภาพไม่ค่อยดี" คุณครูเล่าต่อ

"เออรี่ เหรอครับ" ผมถาม (หมายถึงว่าครูขอเกษียณก่อนกำหนด)

"ก็คล้ายๆ อย่างนั้นแหละ แต่ครูไม่ได้ลาออกมาในช่วงนั้น จะให้รอถึงห้าสิบสอง คงไม่ไหว ครูก็เลยลาออกมาก่อน" คุณครูอธิบายเพิ่มเติม

จากนั้น เราก็คุยกันอีกพักหนึ่ง แล้วค่อยวางสาย

------------------------------------------------------------

ผมบอกตัวเองเสมอว่า ที่ผมมีวันนี้ได้ นอกจากความดิ้นรนของตัวเองแล้ว คุณครูและอาจารย์ทุกท่าน ที่ได้อบรมสั่งสอนผมมา ตั้งแต่ ป.1 จนจบมหาวิทยาลัย ล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญต่อชีวิตผมทั้งสิ้น คุณครูบางท่าน ปัจจุบันผมเองก็ไม่ทราบว่า ท่านไปอยู่ที่ไหน บางท่านก็ทราบแหล่งที่อยู่ แต่ก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสไปพบท่าน สำหรับวันครูในปีนี้ ผมขอใช้พื้นที่แห่งนี้ กราบขอบคุณพระคุณของคุณครูทุกท่าน ไว้ ณ ที่นี้ด้วย

คุณครูประจำชั้นสมัยผมอยู่ชั้นประถม (รร.ตลาดรางกระทุ่ม) ที่ผมยังรำลึกถึงเสมอ บางท่านอาจเปลี่ยนนามสกุลไปแล้ว แต่ก็เท่าที่ผมจะนึกออก ก็มีดังนี้
ป.1ก. คุณครูรุ่งโรจน์ ปฐมจารุวัฒน์ / คุณครูสมคิด (บุญศรี) สุโกมล
ป.2ก. คุณครูสายทอง (ศรีมณฑก) เพชรดี
ป.3ก. คุณครูปราณี (เปี่ยมคล้า) ตันตระกูล
ป.4ก. คุณครูนิตยา ธัญญอนันต์ผล
ป.5ก. คุณครูสิทธิชัย คุ้มอนุวงศ์ / คุณครูนิยา (อมรปิยะกิจ) ปฐมจารุวัฒน์
ป.6ข. คุณครูพรเพ็ญ แม้นเลิศ
และคุณครูสะอิ้ง ศิริบุญญา ผู้อำนวยการโรงเรียน (สมัยนั้น)


โดยเฉพาะ ผอ.สะอิ้ง ศิริบุญญา ท่านกรุณากับผมและครอบครัวเป็นอย่างมาก ท่านส่งเสริมให้ผมได้ไปสอบชิงทุนการศึกษา ไม่ว่าจะมีแหล่งทุนที่ไหนส่งข่าวมา ผมมักจะได้โอกาสไปสอบแข่งขันด้วยเสมอ ก็ได้มาหลายรายการเหมือนกัน ทำให้ตอนนั้น สามารถแบ่งเบาภาระทางบ้าน ในเรื่องการเรียนได้มาก

เมื่อผมมีโอกาสกลับไปที่บ้านเก่า ผมแวะจะไปกราบ ผอ.สะอิ้ง ที่บ้านสองครั้งแล้ว (ท่านเกษียณมาหลายปีแล้ว) แต่ก็เป็นอันคราดกับท่านทุกครั้งไป ยังไม่ได้เจอท่านเลยนับตั้งแต่ผมจบ ป.6 แต่ผมก็จะหาโอกาสสักวัน ที่จะไปกราบท่านให้ได้

นอกจากคุณครูที่เอ่ยนามมาข้างต้น ก็ยังมีอีกหลายท่านที่ผมไม่ได้เอ่ยนาม เพราะบางท่านมาสอนเพียงบางช่วง บางวิชา จึงขออนุญาตให้เครดิตครูประจำชั้นก่อนก็แล้วกัน

ตอนสมัยอยู่โรงเรียนมัธยม (รร.บางเลนวิทยา) ครูประจำชั้นจะไม่ค่อยตายตัว แต่ละเทอมก็เปลี่ยนกันไป แล้วเวลาเรียนก็จะเป็นแบบว่า "เดินเรียน" คือวิชานี้ไปเรียนห้องนั้น วิชานั้นไปเรียนตึกนี้ ครูผู้สอนก็สลับสับเปลี่ยนกันไป ดังนั้น ถ้าจะเอ่ยนามเพื่อกราบขอบพระคุณท่าน ก็คงเอ่ยไม่หมดจริงๆ จึงขอกราบคุณครูโดยรวมๆ ณ ที่นี้ครับ

"การอบรม บ่มนิสัย ให้ศิษย์นั้น
เพียงแต่วัน ละนาที ยังดีถม
ศิษย์จะดี มีชื่อ หรือล่มจม
อาจเป็นเพราะ อบรม หนึ่งนาที"

(หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ณ อยุธยา)

-----------------------------------------------------------

เพลงพระคุณที่สาม

คำร้อง / ทำนอง ครูอร่าม ขาวสะอาด

ครูบาอาจารย์ที่ท่านประทานความรู้มาให้ อบรมจิตใจให้รู้ผิดชอบชั่วดี
ก่อนจะนอนสวดมนต์อ้อนวอนทุกที ขอกุศลบุญบารมีส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น

ครูมีบุญคุณจะต้องเทิดทูนเอาไว้เหนือเกล้า ท่านสั่งสอนเราอบรมให้เราไม่เว้น
ท่านอุทิศไม่คิดถึงความยากเย็น สอนให้รู้จัดเจนเฝ้าแนะเฝ้าเน้นมิได้อำพราง

* พระคุณที่สามงดงามแจ่มใส แต่ว่าใครหนอใครเปรียบเปรยครูไว้ว่าเป็นเรือจ้าง
ถ้าหากจะคิดยิ่งคิดยิ่งเห็นว่าผิดทาง มีใครไหนบ้างแนะนำแนวทางอย่างครู

บุญเคยทำมาตั้งแต่ปางใดเรายกให้ท่าน ตั้งใจกราบกรานเคารพคุณท่านกตัญญู
โรคและภัยอย่ามาแผ้วพานคุณครู ขอกุศลผลบุญค้ำชูให้ครูเป็นสุขชั่วนิรันดร




-----------------------------------------------------------

"อันลิงค่าง กลางป่า จับมาหัด
สารพัด หัดได้ ดังใจหมาย
เรานักเรียน ครูเพียร สอนแทบตาย
ถ้าเอาดี ไม่ได้ ก็อายลิง"

(จำเขามา ไม่ทราบนามผู้แต่ง)




 

Create Date : 16 มกราคม 2551
6 comments
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 0:36:59 น.
Counter : 1865 Pageviews.

 

ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี มีกล่าวไว้

 

โดย: Aisha 16 มกราคม 2551 19:45:34 น.  

 

อ่านข้อเขียนของครูเอกแล้ว ผมรู้สึกปลื้มปิติไปด้วยจริงๆ ขอร่วมยินดีกับความเจริญก้าวหน้าในชีวิต หน้าที่การงานของครูเอกด้วยคนนะครับ

แค่พูดถึงครูเก่าๆที่สอนเรามา ผมเองก็รู้สึกตื้นตันทุกครั้ง ถ้าได้นำดอกไม้ไปกราบเช่นครูเอก ก็คงเกิดอาการไม่แพ้กันแน่ๆครับ

ยินดีจริงๆ ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับครูที่ไม่ลืมครูเช่นนี้ครับผม

 

โดย: mitrapap 16 มกราคม 2551 19:53:56 น.  

 

สุขสันต์วันครูค่ะ
ฝันดีนะค่ะ

 

โดย: my_oom 16 มกราคม 2551 22:46:27 น.  

 

ช่วงนี้ยังวุ่นวายกับกองเอกสารและงานวิจัยไม่เลิกเลยค่ะ พอถึงวันครูแล้วนึกถึงสมัยประถมเลยอ่ะค่ะ คุณครูสมัยประถมบางคนตอนนี้ก็ยังประทับใจไม่ลืมเลยค่ะ แต่ไม่มีโอกาสได้กลับไปหาเลย อีกอย่างที่นึกถึงก็เพราะได้ถือพานไหว้ครูเกือบทุกปี แล้วคุณพ่อจะเป็นคนไปหาดอกไม้ ส่วนคุณแม่จะเป็นคนทำพานให้ ภูมิใจสุดๆเลยค่ะ

 

โดย: simple_xxx 18 มกราคม 2551 19:03:15 น.  

 

มีคำสองคำที่พวกเรามักจะเข้าใจว่ามีความหมายเหมือนกันคือ คำว่า "ครู" กับ "อาจารย์" แต่ในความเป็นจริง มิใช่ครับ

อาจารย์ทำหน้าที่สอนให้ประกอบอาชีพ ส่วนครู อบรมสั่งสอนให้นักเรียนมีความรู้ ประพฤติดี แต่งกายดี

ปัจจุบันหาผู้ที่มีจิตวิญญาณของครูที่แท้จริงได้น้อยมากครับ เราจะได้ยินข่าวครูที่ทำร้ายเด็กบ่อย ๆ ครูที่สอนแบบกักความรู้ไว้ แล้วจะสอนเพิ่มเติมเมื่อนักเรียนไปเรียนพิเศษกับครู และที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ไม่มีนักเรียนที่เก่ง ๆ ในสาขาต่าง ๆ มาเป็นครู ด้วยเหตุผลว่า เงินเดือนน้อย เราจึงประสบปัญหา เด็กไทยไม่เก่งวิชาการ เขียนหนังสือไทย อ่านไทย ไม่แตกฉาน

การประกอบอาชีพครูนั้นไม่เสียหายอะไร เพราะเป็นอาชีพสุจริต เป็นการทำบุญที่เรามักได้ยินเสมอว่าเป็นการให้ทานแบบโดยไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งเรียกว่า "วิทยาทาน" นั่นเอง

ผู้มีจิตวิญญาณความเป็นครูนั่น จะเห็นได้จากการเตรียมตัวก่อนการสอนทั้งด้านความรู้ สื่อการสอน ปรับปรุงการสอนตลอดเวลา ไม่เบื่อหน่ายต่อการอธิบายซ้ำซากเพื่อให้เด็กเข้าใจ ใจกว้างรับฟังความคิดเห็นของเด็ก

ทุกวันนี้ผมยังไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนเก่าสมัยประถมศึกษา มัธยมศึกษา รวมถึงมหาวิทยาลัยไต่ถามสารทุกข์สุขดิบ ว่าคุณครูท่านนี้ไปไหน บางท่านเสียชีวิตแล้ว ทำให้ผมรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปคารวะศพท่าน

ผมเสียใจที่สุดที่ผมเคยได้รับความดูถูกจากอาจารย์ต่างคณะ ด้วยสาเหตุที่ผมเป็นนักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ อันที่จริง อาจารย์ต่างคณะรวมถึงพวกเราทุกคนว่า เราควรจะสำนึก สำเนียก ไม่ลึมว่าคุณจะมาทำงานเป็นอาจารย์หรือประกอบอาชีพในขั้นสูงได้ คุณต้องผ่านการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานสุดจากครูซึ่งสำเร็จการศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์นั่นเอง

ผมเสียดายอย่างยิ่งที่ พรบ.การศึกษา ไม่ได้กำหนดให้ อาจารย์มหาวิทยาลัยทุกคน ต้องมีใบประกอบวิชาชีพครู ด้วยเหตุผลว่า ฉันเป็นนักวิชาการ นักวิจัย ซึ่งในความเป็นจริง อาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยก็ต้องทำหน้าที่สอนนักเรียนอยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มการเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กด้วย

 

โดย: นัท IP: 124.121.95.251 18 มกราคม 2551 20:25:31 น.  

 

สวัสดีคะครูเอก
แวะมาทักทายคนอาชีพเดียวกันคะ
ขอให้มีความสุขกับงานนะคะ

 

โดย: กาแฟเย็น (อาจารย์บ้านนอก ) 20 มกราคม 2551 11:24:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ครูเอก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 112 คน [?]




เนื้อหาบทความ ภาพประกอบ ไฟล์ตัวอย่าง ทั้งหมดใน blog นี้ "สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗" อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ได้ โดยต้องระบุแหล่งที่มาของเนื้อหาให้ชัดเจน เพื่อแสดงถึงการรับรู้ในความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ไม่อนุญาตในการนำไปใช้เพื่อการแสวงหาผลกำไรทางธุรกิจ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร

ส่งข้อความหลังไมค์ถึงครูเอก
MSN : ysamroeng@hotmail.com
ชมรมนักเรียนสาธิตเสริมสมอง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
กิตติกรรมประกาศ

ผมใช้คอมพิวเตอร์ครั้งแรก โดยมีหนังสือชื่อ "เรียน DBASE III PLUS ด้วยตนเอง" ของ พ.ต.ประพัฒน์ อุทโยภาศ เป็นเสมือนอาจารย์ และมี บร.โรเบิร์ต ปาแนสโต (ซดบ.) เป็นผู้ให้โอกาส และ้คำแนะนำ ถือเป็นก้าวแรก ที่้ผมจับคอมพิวเตอร์ และสนใจเรียนรู้ มาตั้งแต่วันนั้น นอกจากเรื่อง "การเขียนโปรแกรมด้วย Clipper" แล้ว ผมไม่เคย ไปเรียนคอมพิวเตอร์ จากสถาบันใด อาศัยที่เป็น คนชอบอ่านหนังสือ และซื้อหนังสือเยอะมาก บวกกับลงทุน ซื้อเครื่องไว้ใช้งานเอง (เครื่องแรก Intel 386DX-40) จึงได้ฝึกฝน เรียนรู้ ต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้
มีของมาขาย

1. หนังสือ "Excel for HR"


การใช้ไมโครซอฟต์เอ็กเซล ในงาน HR แบบมืออาชีพ พิมพ์ครั้งที่ 2 เป็นหนังสือที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ จากงานจริงๆ มาเป็นวัตถุดิบ เป็นหนังสือคอมพิวเตอร์เล่มแรก ที่เขียนขึ้นมาเพื่อ นักบริการทรัพยากรมนุษย์ (HR) โดยเฉพาะ เป็นตัวอย่างของการใช้โปรแกรม MS Excel ในงานประจำวันของ HR หาซื้อได้ที่ ร้านซีเอ็ดบุ๊ค ทุกสาขา, HR Center, ศูนย์หนังสือ สสท., ศูนย์หนังสือจุฬา, Thailand Book Tower, B2S เป็นต้น
หรือสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ 02-347-1066, 081-423-9828
ราคาเล่มละ 200 บาท จัดส่งฟรี

2. CD รวมไฟล์ตัวอย่าง Excel จากงานจริง


มีไฟล์ตัวอย่างมากที่สุด สามารถนำไปใช้งานได้ทันที หรือใช้ศึกษาเทคนิคการเขียนสูตร Excel อัพเดตใหม่ทุกสัปดาห์
ของแท้ไม่มีวางจำหน่ายที่ไหน
สนใจสั่งซื้อโดยตรงที่ 02-347-1066, 081-423-9828
ราคาแผ่นละ 200 บาท ค่าจัดส่งฟรี

หมายเหตุ : ปัจจุบันมีจำหน่ายทั้งสิ้น 3 ชุด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://sites.google.com/site/excel4hr/product
กิจกรรมของพวกเราที่ผ่านมา

โครงการห้องสมุดเพื่อน้อง รร.บ้านซับงูเหลือม จ.ลพบุรี

โครงการห้องสมุดเพื่อคนพิการ มูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาคนพิการ ปากเกร็ด
รูปภาพหรือข้อความแสดงความเห็น เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยอิสระ ของบุคคลทั่วไป และถูกส่งขึ้นแสดงในหน้า blog โดยอัตโนมัติ เจ้าของ blog มิได้มีส่วนรู้เห็น หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งไม่จำเป็นต้องร่วมรับผิดชอบ ต่อทุกความคิดเห็นใดๆ
Friends' blogs
[Add ครูเอก's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.