ทำทุกอย่างด้วยใจรัก

<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
11 พฤศจิกายน 2555
 

ปรารถนารัก...ชั่วนิรันดร์ ตอนที่ 17

ปรารถนารัก...ชั่วนิรันดร์ ตอนที่ 17



คนที่เดินลงมายังคงเดินโอ้เอ้อยู่แถวลานจอดรถ ลึกลงไปในอกนั้นทราบรู้ว่าพูดและทำสิ่งที่ร้ายกาจออกไป ก็อยากให้หล่อนเจ็บบ้าง ที่บังอาจผลักไสเขาไปหาคนอื่น
แต่...ประโยคสุดท้าย สายตาและท่าค้อมตัวต่ำทำให้ความโกรธที่พกมาระบายหายวับไปราวปลิดทิ้ง ใจหายวับ หากเพราะทิฐิตัวเดียวที่ทำได้เดินจากมา

เทซกมองขึ้นไปยังตึกที่พักของหล่อน เขาจำได้ว่าห้องพักของธิชากรอยู่ตรงไหน? ตำแหน่งไฟที่เปิดสว่างเมื่อครู่ดับสนิท แล้วทีนี้จะทำอย่างไร?
“บ้าชะมัด!”
เขาเตะพื้นอย่างฉุนเฉียว ก่นด่าตัวเอง ใจหนึ่งก็อยากกลับไปขอโทษให้
หากอีกใจหนึ่ง..... ชายหนุ่มกัดริมฝีปาก มองหาเหตุผลที่จะทำอย่างนั้นไม่เจอ ก็บอกไปแล้ว หล่อนไม่ใช่คนสำคัญที่จะต้องทำอย่างนั้น ถ้าเถียงสักคำคงจะดีกว่านี้
เทซกตัดสินใจ ขับรถกลับอย่างซกโซรีสอร์ท เอาไว้.......ห่างกันสักพัก ทุกอย่างคงดีขึ้น เขาคงต้องแข็งใจรอให้หล่อนกลับมาจากโซลก่อนแล้วค่อยคุยกันใหม่ จะได้ไม่เจ้ากี้เจ้าการแบบนี้อีก ธิชากรควรเข้าใจ...เขายังต้องการอึนโซ และยังไม่ต้องการใครมาทดแทน!

************

หญิงสาวตัดสินใจเดินทางมาอบรมที่โซลในเย็นวันรุ่งขึ้น เร็วกว่าที่ตั้งใจเอาไว้หนึ่งวัน เพราะติดวันหยุด ข้ออ้างคือจะได้เที่ยวกับเพื่อน ส่วนความจริงคือทนเดินไปมาในโรงแรมไม่ได้ ทั้งความคิดถึงทั้งความห่วงหารุมเร้าจนอยู่ไม่ติด สิ่งที่เทซกพูดเมื่อคืนยังก้องอยู่ในหู เจ็บดีเหมือนกัน! เช้ามาหล่อนจึงรีบเอาเอกสารไปวางไว้บนโต๊ะทำงาน เขาจะได้ไม่ต้องโทรศัพท์ตาม แล้วมาที่โซลทันทีที่เลิกงาน เพื่อที่จะไม่เจอเขาอีกในวันสุดสัปดาห์

แต่พอมาถึงโซล ห่างจากซกโซด้วยระยะทาง พร้อมทั้งงานที่ทั้งแผนกอบรมจัดให้ช่วยไว้ได้มากทีเดียว หญิงสาวแค่ใจลอยในบางครั้งเท่านั้น พร้อมกันนั้นเรื่องของความสำเร็จของผู้อำนวยการของซกโซรีสอร์ท ลูกชายคนเล็กของท่านประธานฮัน และข่าวผลการทำงานของโรงแรมที่ซกโซ เป็นหัวข้อที่อยู่ในความสนใจของพนักงานทั่วไป
ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวใหม่เรื่องการแต่งงานของฮันเทซก เจเนอเรชั่นที่ 2 คนสุดท้ายที่ยังเป็นโสดก็อยู่ในหัวข้อเช่นกัน
“เธอว่าไหม? ฉันว่าลูกชายคนเล็กของท่านประธานคงต้องยอมลงจากคานคราวนี้แน่นอน”
พนักงานกลุ่มใหญ่กำลังพูดถึงข่าวลือในลิฟต์โดยสารที่มีธิชากรยืนอยู่ด้วย
หญิงสาวขยับตัวอย่างอึดอัดเพราะทราบว่ากำลังฟังเรื่องของใคร เป็นเรื่องซุบซิบที่ยังไม่มีใครยืนยัน
“ฉันก็ว่าอย่างนั้น คุณมินฮา เธอเป็นลูกสาวเครือเอมเมรัลเชียวนะ สวยก็สวย รวยก็รวย แถมยังเอื้อเรื่องธุรกิจทุกอย่าง คราวนี้คุณเทซกคงไม่ปฏิเสธหรอก”
หญิงสาวปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ข่าวนี้… ทำให้เกิดอาการเจ็บแปลบมากเพียงไหน แต่ก็คงต้องยอมรับถ้าหากว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง เป็นเหมือนที่เทซกบอกเมื่อวันก่อนนั่นแหละ สังคมของเขายังมีให้พบเจออีกมากมาย ถึงเวลาครอบครัวคงจัดการให้
“แต่ใครๆก็ว่าเขาร้ายจะตายไม่ใช่หรือ? ที่โซลนี้มีข่าวควงนางแบบไม่ซ้ำเลย คราวก่อนก็กล้าชกแขกที่ห้องอาหาร”
“แหม...ก็เขาหน้าตาดีนี่นา ถ้าเป็นฉันล่ะนะ ให้ร้ายอย่างไรฉันก็โอเค รูปหล่อพ่อรวย สบายไปทั้งชาติ”
“นั่นสิ เค้ามาจากซกโซทีไร ฉันเห็นแม่พวกหน้าฟร้อนมองตามตาเยิ้มกันแทบทุกคน”
“นี่พวกเธอ...ฝันไปหรือเปล่าย่ะ ตื่นได้แล้ว คิดหรือว่าเขาจะสน ผู้ชายน่ะ ก่อนแต่งจะมั่วอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าต้องแต่งงานกับใครสักคน ก็ต้องเลือกที่เหมาะสมนะยะ? เดี๋ยวนี้ไม่มีซินเดอเรลล่าแล้วล่ะนะ!”
“คราวนี้ ใครที่หวังเอาไว้ หรือกำลังคิดว่าจะได้ตำแหน่งสะใภ้เล็กก็คงตกกระป๋องสินะ”
คำวิจารณ์ ทำให้ธิชากรต้องก้มหน้า ไม่กล้าเสนอตัวว่าเป็นคนของที่ไหน? ยืนยันกับตัวเองอย่างจริงใจ แม้จะรู้ลึกมืดมนเพียงใด แต่บางที...คนเราต้องยอมรับความจริง ความจริงที่เคยหวาดกลัว ว่าจะมาถึงสักวันหนึ่ง หมดยุคซินเดอเรลล่าที่จะเจ้าชายในฝัน
จะมาสนใจแล้วจริงๆ
ออกจากลิฟต์แล้วธิชากรออกมายืนซึมอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะสูดลมหายใจลึกๆ
แล้วฝืนใจบอกตัวเองว่า ไม่เห็นเกี่ยวกันสักหน่อย
ไม่เกี่ยวกันสักนิด! ผู้หญิงคนที่ชื่อมินฮา หรือจะเป็นใครก็ตาม? ถ้าเทซกเลือกที่จะรักหรือใช้ชีวิตคู่ด้วย หล่อนก็จะยินดีด้วย...ตลอดไป !

หญิงสาวเดินใจลอยออกจากลิฟต์ผ่านห้องต่างๆ ไม่ได้สังเกตว่ามีคนรู้จักคนไหนอยู่แถวนั้น
“ธิชา!”
กีเทเรียกพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกจากล็อบบี้ตามมา เมื่อร่างบางๆเดินผ่าน
ธิชากรชะงักกึก ต้องหยุดรอ ทั้งๆที่ไม่คิดว่าระดับผู้บริหารอย่างเขาจะทำเช่นนั้น
“ค่ะ คุณกีเท”
หญิงสาวยืนสำรวม รอฟังคำสั่ง เห็นแต่ไกลว่าเขาน่าจะมีแขกนั่งอยู่ด้วยในตอนแรก
“แวะมาทางนี้หน่อยสิ ผมจะแนะนำให้รู้จักเพื่อนของผม”
หล่อนลังเล เพื่อนของชายหนุ่ม คงไม่ใช่คนที่มีพื้นฐานมาจากบ้านเด็กกำพร้าอย่างหล่อนแน่ ชายหนุ่มแตะแขนเตือนทำให้ต้องเดินตาม หญิงสาวที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะวางแก้วกาแฟ แล้วหันมาหาตรงๆ บอกไม่ถูก... ธิชากรเกิดอาการอ่อนแรงขึ้นมาเสียเฉยๆเมื่อเห็นอีกฝ่ายเต็มตา แรงสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้นรุนแรง
“มิสธิชาเพื่อนของผมที่ซกโซครับมินฮา แล้วนี่มินฮา เอ..จะให้แนะนำว่าอย่างไรดีล่ะ
คุณมินฮาเป็นเพื่อนของผม เราเรียนที่อังกฤษมาด้วยกัน แต่ตอนนี้...อาจต้องมาแข่งกัน
หน่อย เพราะเธอเป็นลูกสาวกลุ่มเอมเมอรัล”
หญิงสาวโค้งสุภาพในขณะที่หญิงสาวที่ชื่อปาร์กมินฮาลุกขึ้นทักทายตอบ ไม่หยิ่ง และสุภาพมาก ทั้งๆที่เป็นหนึ่งในทายาทของผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในกลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาวของเกาหลี ถ้าเปรียบฮันกรุ๊ปเป็นสิงห์เหนือ เครือเอมเมอรัลก็เป็นเสือใต้ ขับเคี่ยวกันทางธุรกิจมาตลอด
“คุณกีเทก็พูดเกินไป สวัสดีค่ะ คุณธิชาใช่ไหมคะ? เมื่อครู่คุณกีเทเล่าให้ฟังว่า ไปอยู่ซกโซสนุกมาก แล้วพวกคุณพาเขาเที่ยวในวันหยุด ฉันอิจฉาเขาจริงๆเลยค่ะ”
“ผมเล่าให้คุณมินฮาฟังว่ากิจกรรมของเราน่าสนใจมาก”
“ใช่คะ เสียดายตอนที่มีงานกอล์ฟ ฉันไม่อยู่ที่เกาหลีใต้ พวกพี่ชายของฉันยังเอามาเล่าให้ฟังว่าสนุกมาก คุณกีเทมาพูดอีก จนฉันอยากจะไปเที่ยวสักที”
กีเทพยักหน้า เขาคงโฆษณาเต็มที่จริงๆ
ธิชากรเองก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งหากหญิงสาวผู้นี้จะไปเยี่ยมซกโซ
“ถ้าอย่างนั้น ขอเรียนเชิญเลยนะคะ อยากให้ไปจริงๆค่ะ ที่นั่นผู้อำนวยการต้องต้อนรับคุณอย่างอบอุ่นแน่ๆ”
หญิงสาวมองสตรีที่กำลังสนทนาด้วยสายตาแทบไม่กระพริบ บอกกับตัวเองว่าไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ต้องหาทางให้คนตรงหน้าไปที่ซกโซให้ได้ และต้องให้พบกับเทซกให้ได้ หัวใจของหล่อนเต้นแรงคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้เร็วที่สุด
ถ้า......ฮันเทซกกำลังรอใครสักคน.....คนนี้แหละ ที่จะเป็นเจ้าของความรักของเทซก! ธิชากรพร่ำบอกกับตัวเอง ต้อง...เป็นคนนี้!
“มินฮามีแผน ที่จะไปเที่ยวแน่ธิชา แต่คงต้องรอให้ว่างกว่านี้อีกหน่อย”
จริงสินะ กีเทไม่ได้อยู่ที่เกาหลีตอนมีเรื่องราวของอึนโซ เขาคงไม่เคยทราบเรื่อง
“ถ้าเป็นไปได้ วันอาทิตย์นี้ยิ่งดีใหญ่เลยนะคะคุณกีเท”
“อะไรกัน? จู่ๆก็ใจร้อนขึ้นมา”
กีเทหัวเราะในคอ อุปาทานที่รู้สึกเหมือนกีเทไม่ใคร่ยินดีเท่าไหร่กับการไปเยือนซกโซของปาร์คมินฮา
“ฉันไปแน่คะคุณธิชา แต่ว่าช่วงนี้คุณพ่อท่านให้ตระเวนดูงานที่สาขาต่างๆ นี่กว่าจะปลีกตัวมาทักทายคุณกีเทได้นี่ก็แทบแย่”
“นั่นสินะ คุณนี่ไม่เบาเลย กล้ามาที่นี่คนเดียวได้ ทั้งๆที่โรงแรมของพวกเราต่างก็อยู่ในฐานะเป็นคู่แข่ง”
“ฉันไม่แข่งกับคุณหรอกค่ะกีเท คุณน่ะเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ใครจะไปสู้ได้”
รอยยิ้มนั้นเป็นอย่างที่เคยเห็นในรูป บริสุทธิ์และจริงใจ
“เอาเถอะ คราวหน้าผมจะไปดื่มกาแฟที่เครือเอมเมอรัลของคุณบ้าง”
มินฮายิ้มสดใส

ธิชากรเห็นว่าในฐานะพนักงาน ไม่ควรคุยกับแขกนานจึงขอตัวออกมา แต่กีเทก็ยังกำชับตามหลังว่าวันนี้จะพาหล่อนไปเลี้ยงส่งก่อนกลับซกโซ
เมื่อพ้นทั้งสองคนมาแล้ว ธิชากรแทบจะกดโทรศัพท์ไปหาเทซก ถึงแม้จะทราบว่าโลกแห่งความสุขและความหวังได้พังทลายลงไปแล้ว
แต่ก็อยากเป็นคนแรกที่จะบอกเขาว่า ความรักของเขา ที่กำลังตามหา อยู่ที่นี่...อยู่กับคนที่ชื่อปาร์กมินฮา คนที่เหมือนอึนโซ แม้กระทั่งรอยยิ้ม!

ทันทีที่กลับจากโซล ธิชากรตรงดิ่งไปที่แกลเลอรี่ จีวันอยู่ที่นั่นคนเดียว หญิงสาวขออนุญาตเขาเข้าไปที่ห้องภาพของจุนโซ เรื่องเล่าในลิฟท์ที่โรงแรมสาขาใหญ่ระหว่างพนักงานกลุ่มหนึ่งก่อให้เกิดอาการปั่นป่วน เรื่องท่านประธานกำลังจะจับคู่ดูตัวระหว่างลูกชายคนเล็กที่บริหารซกโซกับลูกสาวของเครือเอมเมอรัลที่เพิ่งกลับจากอังกฤษ ถ้าเป็นคนเดียวกับที่นั่งดื่มกาแฟกับกีเท เธอก็คือคู่ดูตัวของเทซก!
และถ้าเป็นหญิงสาวผู้นั้นจริง ผู้ที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับเด็กสาวที่อยู่ในภาพถ่ายที่หล่อนเห็นจนชินตา คล้ายคลึงแม้กระทั่งรอยยิ้ม
ธิชากรไม่เคยเห็นอึนโซในยามมีชีวิตอยู่ แต่จากความรู้สึกที่รับรู้ รวมไปถึงกิริยานุ่มนวล น่าประทับใจนั้นคงไม่ต่างจากในรูปเท่าใด และคงไม่แปลก ถ้า....เทซกจะยอมรับข้อผูกพันที่เกิดขึ้นอย่างเต็มใจ
หญิงสาวยิ้มจืดๆให้กับภาพอึนโซ หญิงสาวเหมือนกำลังตกอยู่ในหุบเหวลึก และพยายามที่จะกระเสือกกระสนขึ้นมา

ธิชากรหยิบรูปที่จารึกจดจำได้ติดตา จะหาใครเหมือนไปกว่าผู้หญิงคนที่ชื่อมินฮาคงไม่มีอีกแล้ว เขาไม่ควรปฏิเสธ!
“อึนโซคะ ฉันภาวนาให้คุณช่วยดลบันดาลให้คุณเทซกมีความสุขเสียที เพราะฉันคิดว่าความรักของเขา คนที่ควรเป็นของเขากำลังใกล้เข้ามาแล้ว เสียดายที่ไม่ใช่...ฉัน ไม่สิ! ที่จริงฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดอย่างนั้น ไม่มีสิทธิแม้จะ...อยากเป็นความรักของเขา”
ธิชากรนั่งซึม ใช้เวลาพักใหญ่สำหรับการนิ่งเงียบ จนกระทั่งฟ้าข้างนอกเริ่มเปลี่ยนสี เมื่อรู้สึกตัวจึงปิดประตูหน้าต่างก่อนที่จะเดินเนือยๆออกไปข้างนอก
มูนจุงกลับมาแล้วกำลังเตรียมอาหารกับจีวัน ทั้งสองคนเป็นถึงระดับผู้บริหาร อายุไม่น้อยเมื่อตอนที่เริ่มพบปะและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ธิชากรมองเห็นความมั่นคงของชีวิตคู่ที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน ทุกอย่างคงมีข้อยกเว้นของมันเอง
“ธิชา เป็นอย่างไร? ทำตัวเหมือนคุณเทซกเข้าไปทุกทีแล้วนะ เข้าไปขลุกในห้องนั้นนานๆ ทำอะไรหรือ?”
ผู้สูงวัยกว่าทักทาย หญิงสาวของฝากมาให้ตามปกติ
“ฉันแค่เข้าไปดูภาพค่ะ ไม่มีอะไร”
รอยยิ้มของหล่อนคงดูแห้งแล้งเต็มที จีวันเลิกคิ้วเพ่งพิศ

ปกติเวลามีข้อสงสัยอะไร จีวันจะพูดผ่านมาทางภรรยา แต่ตอนนี้สายตาของเขามีข้อสงสัย คนที่เป็นจิตรกรมักมีความละเอียดอ่อนบางอย่างที่รับรู้ถึงความรู้สึกของคนได้ โดยเฉพาะความรู้สึก สุขหรือทุกข์ที่มากกว่าปกติ ที่ทำได้คือพยายามหลบตา
“ถ้าอย่างนั้นก็มาทานข้าวกันก่อนเถอะ”
หญิงสาวรับคำช่วยเตรียมกับข้าว
เสียงรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน ทำให้จีวันเดินออกไปชะเง้อดู
“นี่ธิชา นัดกับเทซกให้มารับหรือเปล่านี่?”
จีวันเปรยออกมา ในขณะที่ธิชากรสับสนเมื่อทราบว่าใครมา!
“อ้าว! คุณเทซกมาก็ดี เธอจะได้กลับพร้อมกันกับเขา”
“พี่มูนจุงอย่าดีกว่า!”
หญิงสาวระล่ำระลักรีบวางของที่กำลังถืออยู่ หันไปมาร้อนรน ความห่างเหินที่เกิดขึ้นก่อนไปอบรมที่โซลยังคงค้างอยู่ และยังคงต้องดำเนินต่อไป ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว
“พี่มูนจุง พี่จีวัน อย่าบอกคุณเทซกว่าฉันอยู่ที่นี่นะคะ?”
หญิงสาวยอมอ้อนวอนเจ้าของบ้าน ไม่พร้อมที่จะพบหน้าชายหนุ่มในตอนนี้ อย่างไรก็ยังไม่พร้อม
“ธิชา อะไรกัน!?” มูนจุงถามงงๆ
“พี่มูนจุง ขอฉันเข้าไปหลบข้างในนะ อย่าบอกเขาว่าฉันอยู่นี่นะคะ ได้โปรดเถอะค่ะ...”
“ทะเลาะกันหรือ?”
หญิงสาวสั่นหน้าระรัว รีบวิ่งเข้าไปข้างใน ไปซุกตัวอยู่ที่ห้องพักสำหรับแขก ได้ยินเสียงหัวเราะดังของคนที่คิดถึงมาตลอดทั้งวัน
“นึกว่าธิชาจะอยู่ที่นี่เสียอีก ตามหาตั้งแต่เช้า ที่ไหนก็ไม่มี หนำซ้ำก็ไม่เปิดโทรศัพท์”
“ก็เค้าไปโซลนี่คะ” มูนจุงตอบแทน
“ครับ แต่...ก็น่าจะกลับมาถึงได้แล้ว”
“เขาอาจจะไม่อยากเจอหน้านายก็ได้”
เสียงของจีวันคล้ายจงใจกัดมาถึงคนที่นั่งชันเข่าอยู่ท่ามกลางความมืด
“นั่นสิครับ....ก่อนไปนี่ก็....”
ไม่ทราบเหมือนกันว่าเทซกพูดอะไรเพราะเสียงเบาลง ในขณะที่ธิชากรใจสั่น ไม่พร้อม!
ไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเขาจริงๆ หล่อนต้องการเวลาที่จะเตรียมใจ สำหรับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า

**********

ฮันเทซกเปิดไวน์ที่ซื้อติดมือมาด้วย เขาไม่มีที่ไปจริงๆ ระยะนี้ชายหนุ่มเลิกเที่ยวเตร่กับผู้หญิงที่มักโทรเข้ามานัดเสมอ เขาไม่ใช่คนมักง่ายแต่ที่ผ่านมาก็มีคนมาให้เลือกคบไม่ขาด จู่ๆเทซกก็ไม่อยากทำตัวอย่างที่แล้วมาเสียอย่างนั้น เขาอยากอยู่อย่างคนที่ไม่แสวงหาซึ่งก็มีความสุขไปอีกแบบหนึ่ง ที่เขาคิดว่าทำให้สบายใจมากกว่า
“เอ๊ะ! นี่กำลังมีแขกอยู่หรือเปล่า?”
ชายหนุ่มทักเพราะเห็นจานที่จัดมีมากกว่า 2 ชุด
“เมื่อกี้มี แต่ตอนนี้แขกเขาเปลี่ยนใจแล้ว”
จีวันตอบแทนมูนจุงซึ่งมักจะเดินเข้าไปข้างในบ่อยครั้ง
“แย่จัง อย่างนี้ผมก็โชคดีนะสิครับ คุณมูนจุง โชคดีที่ยังพอมีข้าวให้ผม”
“พูดอะไรอย่างนั้นคะคุณเทซก ที่นี่มีให้คุณเสมอ มาเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น มาเร็ว...ทานข้าวได้แล้ว ตั้งโต๊ะข้างนอกก็แล้วกัน”
มูนจุงจัดให้รับประทานที่ห้องอาหารแทนที่จะเป็นห้องครัวที่ดูกระทัดรัดกว่า
เทซกไม่พูดมากช่วยหยิบข้าวของติดมือ ปกติเขาไม่ทำหรอก แต่จีวันและมูนจุงมีความอาวุโส ทั้งจุนโซและอึนโซต่างเป็นแนวทางปฏิบัติ เอาไว้ อ้อ! รวมทั้งอีกคนที่นำวัฒนธรรมบางอย่างที่งดงามติดตัวมาจากประเทศไทย
“ผมขอไปล้างมือก่อนนะ”
ก่อนรับประทานอาหาร ชายหนุ่มกลับลุกขึ้นไปห้องน้ำ
“ล้างที่ห้องครัวก็ได้นะเทซกจะได้มาทานเร็วๆ ของอร่อยทั้งนั้น”
เพื่อนรุ่นพี่รีบบอก ชายหนุ่มรับคำ แต่เขาเลือกเดินเลยไปห้องน้ำที่อยู่ด้านในของบ้าน
ชายหนุ่มเดินผ่านห้องพักสำหรับรับรองแขกของจีวันทั้งขาไปและขากลับ หากบางอย่าง... ทำให้เทซกหยุดเท้าที่ประตูหน้าห้องนั้น เสียงกุกกักเบาๆดังขึ้นข้างใน

ธิชากรพยายามทำตัวลีบ เมื่อเห็นเงาคนเดินผ่านแล้วหยุด หญิงสาวกัดริมฝีปากภาวนาให้เขาเดินผ่านเลยไป หากยิ่งเหมือนไปกระตุ้นสันชาติญาน เทซกหยุดแล้วทำท่าจะเปิดประตู
“คุณเทซก เร็วๆหน่อย อาหารจะเย็นไม่อร่อยนะ” มูนจุงช่วยเอาไว้อีกครั้ง
“ครับ” ชายหนุ่มรับคำ ปล่อยให้ความสงสัยผ่านเลยไป บางทีเขาอาจคิดไปเอง...
กว่าชายหนุ่มจะกลับ ธิชากรก็นอนหลับนกไปแล้ว ดีเหมือนกัน เพื่อให้ทรมานใจน้อยลง ก็ต้องเพิ่มความทรมานที่ร่างกายแทน
มูนจุงเปิดประตูเข้ามาถามเสียงเขียว
“นี่มันเรื่องอะไรกันนะธิชา? พี่กับพี่จีวันงงไปหมดแล้ว ต้องมาร่วมเล่นซ่อนหากับพวกเธอ?”
ธิชากรหน้าหมอง เดินออกมานั่งหมดแรงอยู่ด้านนอก อาหารเย็นถูกจัดมาอีกชุด
หญิงสาวตักใส่ปากอย่างยากเย็น ในขณะที่เจ้าของบ้านทั้งสองคนต่างอยู่คนละมุมห้องด้วยความไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ”
“โกหก! หน้าตาตื่นอย่างนี้ เขาไปทำอะไรเธอหรือ?”
“ไม่เลย....แต่พี่มูนจุง พี่จีวัน พี่ต้องช่วยคุณเทซกนะ!”
“ช่วยอะไร อย่างเทซกมีเรื่องให้ช่วยด้วยหรือ?” จีวันหัวเราะในลำคอ
หญิงสาวไม่อ้ำอึง รีบเล่าสิ่งที่ไปพบเจอที่เมืองหลวง
“ก็...ที่โซล คุณพ่อของคุณเทซกอยากให้เขาไปดูตัวกับคุณปาร์กมินฮา เครือเอมเมอรัล”
สองสามีภรรยาดูจะไม่แปลกใจแม้แต่น้อย
“คุณเทซกไม่ยอมหรอก เขาแอนตี้จะตาย เรื่องเป็นเครื่องมือทางธุรกิจน่ะ”
มูนจุงตอบอย่างเห็นเป็นเรื่องปกติ
“แต่ฉันรู้จักว่าที่คู่ดูตัวของเขานะ หน้าตาคล้ายอึนโซมากเลยนะ เป็นลูกสาวของเชนเอมเมอรัล คนนี้แหละที่น่าจะเป็นคนที่ใช่!”
“แล้วไม่เห็นว่าต้องไปหลบที่ห้องรับแขกเลย”
จีวันพูดพลางลุกขึ้นออกไปข้างนอก ปล่อยให้มูนจุงขยับมานั่งข้างๆ
หญิงสาวอึ้งได้แต่หลบตาเมื่อถูกจับจ้องเพ่งพิศ
“เธอรู้หรือเปล่า? คุณเทซกพูดถึงแต่เธอ มองหาแต่เธอ ถึงเจ้าตัวไม่ทราบ แต่คนอื่นก็ดูออก หรือเธอไม่ทราบ? ว่าเขากำลังคิดอะไร? พวกเธอเองก็ไม่ใช่เด็กที่จะไม่รู้ความเรื่องแบบนี้นะ”
“พี่มูนจุง” ธิชากรเสียงอ่อย
“ก็เพราะอย่างนี้ มันถึงน่ากลัวสำหรับฉัน บอกจริงๆนะพี่มูนจุง ฉันอยากให้คุณเทซกได้พบกับคุณมินฮา แล้วเขาจะรู้ รู้ว่าความรักที่ขาดหายไปอยู่ที่ไหน?”
ถ้านับรองลงมาจากวรวรรณแล้วธิชากรนับถือมูนจุงเป็นพี่สาวอีกคน ที่สัมผัสได้ถึงความจริงใจของอีกฝ่ายเสมอมา
“เธอคิดอะไร? นี่...พี่เป็นผู้หญิงนะ...ความรู้สึกของเธอพี่ก็รู้ ไม่มีใครเขาทำอย่างเธอหรอก จับคนที่เรารักไปให้คนอื่นน่ะ”
“ฉัน..ฉันคงไม่ได้รักคุณเทซก มาก...ขนาดนั้นหรอก”
หญิงสาวถอนหายใจ เหมือนกำลังหายใจไม่ออกอยู่ในหุบเหวเบื้องลึกอีกครั้ง
“และที่แน่ๆ ...ฉันไม่ใช่ความรักของเขา หัวใจของเขาแสวงหาอึนโซ ตอนนี้คนที่เหมือนอึนโซอยู่ใกล้แค่เอื้อม... เหมือนมากนะพี่มูนจุง คุณกีเทยังบอกว่าเธอเรียบร้อยไม่มีประวัติด่างพร้อยเลย พวกเราต่างก็ทราบกันดี คุณเทซกก็ไม่ใช่คนไม่ดี มันไม่ยากเลยถ้าพวกเขาจะรักกัน”
“โอ้ย! ฉันจะบ้าตาย” มูนจุงกุมขมับ ธิชากรได้แต่ยิ้มแหย เจ็บลึกๆในอก
“ตอนนี้ ฉันกำลังพยายามอยู่นะคะ ฉันอยากให้พี่ช่วย ช่วยให้ฉันอยู่ห่างจากเขาที ฉันจะได้ไม่เจ็บมาก และเขาก็จะได้ไม่ลำบากใจ เมื่อเวลานั้นมาถึง”
“ธิชา... ถ้าคุณเทซกทราบเรื่องเข้า เขาจะโกรธมาก และถึงแม้ว่าเขาไม่ทราบ...ถึงเวลานั้น เธอจะเป็นอย่างไร? เรื่องของชินเน่เพิ่งผ่านไปหยกๆ เธอนี่ไม่เข็ดจริงๆเลยนะ”
“ฉันรู้ตัวดีค่ะ พี่มูนจุง ว่าเป็นใคร มาจากไหน? บางครั้ง ความรู้สึกของเราต้องมองเรื่องอย่างอื่นควบคู่ด้วย คนรอบข้าง ฐานะทางสังคม อะไรหลายอย่าง สรุปแล้ว ฉันก็เป็นได้เพียงแค่พนักงานคนหนึ่งที่สนิทกับเขา ฉันพอใจในฐานะของตัวเองแค่นี้ ไม่ว่าเขาจะโกรธสักกี่ครั้ง หรือหาว่าดูถูกน้ำใจของเขาก็ตาม ฉันก็อยากให้คุณเทซกได้เลือก”
ผู้สูงวัยกว่าขมวดคิ้ว หล่อนกำลังเจออึนโซคนที่สอง คนที่ยอมหลีกทางให้คนอื่นตลอดเวลา และเป็นผู้เลือก ไม่ใช่การถูกบังคับ
“ฉันคิดไว้แล้ว ถ้าคุณเทซกลงเอยอย่างมีความสุข ฉันก็จะอยู่ที่นี่อีกไม่นาน ฉันคงต้องขอย้ายหรือกลับบ้าน ที่จริงก็เป็นแผนเดิมอยู่แล้ว ทำงานสักพัก พอเรื่องที่บ้านอยู่ตัวก็ต้องกลับ ฉันน่ะ ชินเสียแล้ว ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ”

เหมือนเดิม ธิชากรยังคงพยายามซ่อนเร้นความเจ็บร้าวเอาไว้ อย่างน้อย คนรอบข้างจะได้ช่วยอย่างไม่ตะขิดตะขวางใจ
“กลับไปแต่งงานกับคนที่เธอเคยเล่าให้ฟังนะหรือ?”
“ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก ฉันไม่ทำร้ายตัวเองอย่างนั้นแน่คะ แต่ว่าอาจจะต้องให้ผู้อำนวยการเข้าใจอย่างนั้น เพราะเราต้องหาทางให้เขายอมรับปากไปดูตัวให้ได้”
คำว่าเจ้ากี้เจ้าการคงเหมาะกับธิชากรอย่างที่เคยถูกใครๆค่อนแคะ
“คุณเทซกเค้าจะแค้นมากและที่จะทำมันคือการดูถูกน้ำใจของเขา รู้ไหม?”
มูนจุงรู้จักความแค้นของชายหนุ่มดี เทซกทำได้ทุกอย่าง
“ดีค่ะ! ฉันอยากให้เป็นอย่างนั้น ให้เขาโกรธมากๆ ไม่มองหน้าเลยยิ่งดี ไม่ว่าเขาจะโกรธสักกี่ครั้ง หรือหาว่าดูถูกน้ำใจของเขาก็ตาม ฉันก็อยากให้คุณเทซกได้เลือก”
หญิงสาวรำพึง เพราะนั่น อาจทำให้หล่อนเจ็บน้อยลง


**********

ไม่ว่าจะพยายามหลบอย่างไรก็ยังหลบไม่พ้น เพราะเรื่องของการทำงานยังคงต้องร่วมงานกันอยู่เหมือนปกติ หญิงสาวรู้ตัวดีว่าต้องพยายามรักษาระยะห่าง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกายหรือด้านใจ
หากก็ยากเหลือเกิน ธิชากรพยายามระมัดระวังไม่ไปเข้าใกล้เขาเกินปกติ โดยการเก็บตัวเงียบในห้องทำงาน ตั้งสติให้อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์จะได้ไม่วอกแวกไปไหน ซึ่งได้ผลในบางครั้งเท่านั้น ยังนึกกังวลว่าถ้ายังขืนเป็นอย่างนี้ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวคงไม่รุ่งแน่ เมื่อได้เวลาเลิกงานก็พยายามโอ้เอ้อยู่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
และในวันสุดท้ายของสัปดาห์ ขณะที่กำลังเก็บของใส่ลิ้นชัก เงาคนวูบไหวอยู่ด้านหน้าห้องทำงาน ธิชากรจึงรีบวางมือแล้วเดินออกมาดู “ผู้อำนวยการ!”
ร่างสูงๆแนบกับผนังห้องทำตัวเป็นนักซ่อนหา เมื่อถูกหญิงสาวพบเห็น ริมฝีปากหยักหนายิ้มกว้าง แววตาเป็นประกายมีความหมาย วันก่อนทั้งดูถูกทั้งเหยียดหยาม ตอนนี้กลับทำท่าเหมือนมาง้อ จนทำให้คนมองรู้สึกวูบไหวในอก ถ้าทุกอย่างเปลี่ยนไป คงจะไม่ได้รับรอยยิ้มและแววตาแบบนี้อีกต่อแล้ว!
“แย่จัง นึกว่าจะทำให้ตกใจสักหน่อย”
เทซกยิ้มเก้อที่ถูกจับได้ เขาแอบย่องเข้ามาหยอกเย้าหล่อนราวกับหนุ่มน้อย
“ยังไม่กลับอีกหรือคะ? หรือว่ามีงานอะไรจะให้ทำ”
แม้ทอดเสียงอ่อน แต่ต้องเตือนตัวเองให้จัดแบ่งระดับเจ้านายกับลูกน้อง เพื่อจะทำให้
เทซกระมัดระวังไม่มาบังคับกันให้ตามใจอีก
“อยู่ไกล้แค่นี้ จะกลับเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วทำไมคิดถึงแต่เรื่องงานน๊า!”
“พรุ่งนี้วันหยุด ฉันก็นึกว่า ผู้อำนวยการจะรีบไปนัดเดทกับสาวๆที่ไหนนี่คะ? ปกติก็ไม่เห็นอยู่”
“เดทหรือ? มีที่ไหนกันเล่า!”
ชายหนุ่มลูบท้ายทอย มองดูอีกฝ่ายเก็บของใส่กระเป๋าไม่วางตา
“นี่...ไปหาอะไรทานกันไหม?”
“ฉัน....” ธิชากรพยายามฝืนใจปฏิเสธ เสียงฝีเท้าของคนอื่นเดินมาอีกคน
มูนจุงโผล่มาพร้อมกับของประจำตัวแสดงว่ากำลังกลับบ้านเหมือนกัน
“คุณเทซก ธิชา ดีจริง นึกว่ากลับไปแล้ว”
“ทำไมครับ?”
“ว่าจะชวนธิชาไปทานข้าวที่บ้าน พี่จีวันจะทำกับข้าวสูตรใหม่ ต้องการหนูทดลอง
คุณเทซกถ้าไม่มีนัดกับสาวๆแล้วอยากลองก็เชิญด้วยสิค่ะ”
เทซกหันมามองหน้าธิชากรก่อนจะหัวเราะ
“ถ้าอย่างนั้นก็เหมาะสิ นี่กำลังคิดอยู่ว่าจะไปไหนดี วันนี้ผมยอมท้องเสียสักวัน ดีไหมธิชา....?”
เขาทึกทักเอาเองว่าหล่อนต้องไปกับเขาแน่ๆ
“เอ้อ....ฉัน....”
หญิงสาวอยากปฏิเสธเหลือเกิน แต่พอมองเห็นสายตาที่มองมาแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น...เดี๋ยวฉันขอเก็บของก่อนนะคะ”
ธิชากรแอบถอนหาย ทำไมหนอ? ถึงหาข้ออ้างปฏิเสธเขาไม่ได้สักทียิ่งวิ่งหนี ยิ่งอยากอยู่ใกล้เหลือเกิน อาจเป็นเพราะว่าวันเวลาแบบนี้ คงเหลืออยู่อีกไม่นาน

**********
จีวันกับมูนจุงเป็นคู่ชีวิตที่ค่อนข้างลงตัว ในขณะที่ฝ่ายหญิง ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานนอกบ้าน ไม่ค่อยมีเวลาดูแลบ้าน ฝ่ายชายกลับรับแบ่งเบาภาระนี้เองโดยไม่ถือว่าเป็นเรื่องหญิงชาย
จีวันชอบทำกับข้าว ในขณะที่มูนจุงก็พอใจที่จะเป็นลูกมือและรับอาสาล้างจานให้ ธิชากรไม่ค่อยได้เห็นคนสองคนทะเลาะกันจริงจังสักที หญิงสาวไม่เคยเห็นตัวอย่างการใช้ชีวิตคู่จากคนรุ่นแม่ ที่เก็บเกี่ยวได้ตอนนี้เห็นจะมีก็แต่คู่ของวรวรรณและมูนจุงซึ่งแตกต่างกันพอสมควร
หล่อนถอนหายใจเรื่องโชคดีคงไม่เกิดขึ้นกับตัวเองหรอก ไม่อย่างนั้นคงไม่เกาะมูนจุงแจอย่างนี้
“คุณเทซกเขาแอบถามพี่ว่าเธอเป็นอะไร? ถึงดูเงียบๆ ไม่ร่าเริง”
ผู้อาวุโสกว่ากระซิบในขณะที่ฝ่ายผู้ชายกำลังดื่มที่เทอเรสด้านนอกตามปกติ
“...มันเป็นเรื่องที่ยากมากนะคะพี่มูนจุง ฉันเองอยู่ระหว่างปรับตัวเหมือนกัน สำหรับผู้อำนวยการน่ะ เขาก็เป็นห่วงตามประสา อีกหน่อยก็ต้องไปเป็นห่วงคนอื่น”
“ที่ผ่านมาเธอกับเขาใกล้ชิดกันมาก แล้วจู่ๆเธอมาเปลี่ยนไป แล้วจะทำให้เขาคิดอย่างไร?”
ธิชากรได้แต่ยิ้มเย็น
“เขาอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลยก็ได้นี่คะ เมื่อเขาได้พบกับคุณมินฮา....ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ”
“โธ่เอ้ย! เธอรู้จักโลกน้อยไปแล้ว เรื่องหลายเรื่องไม่มีสูตรตายตัวหรือบังคับได้ตามใจชอบหรอกนะ ไม่อย่างนั้น คุณจุนโซ คุณเทซก อึนโซ ยุนมี หรือแม้กระทั่งชินเน่เองก็คงไม่ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรม อย่างที่เราเห็นหรอกนะ ”
“หรือแม้กระทั่งการที่ฉันต้องเป็นเด็กกำพร้าใช่ไหมคะ?”
“ธิชา!”
“ฉัน...ไม่อยากสูญเสียความเป็นตัวเองเมื่อมีความรัก ดังนั้นไม่ว่าจะจบอย่างไรก็เหมือนกัน ฉันก็แค่ขอมีทางเลือกบ้างเท่านั้นเอง ได้ไหมคะ?”
“เธอนี่!” มูนจุงส่ายหน้าระอา
ก็นี่เป็นแนวทางที่เลือก บางทีคนอื่นอาจคิดว่าไม่เข้าท่า แต่ธิชากรทำได้ดีที่สุดแค่นี้เอง




Create Date : 11 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2555 2:29:32 น. 2 comments
Counter : 1107 Pageviews.  
 
 
 
 
แวะมาเยี่ยมในวันหยุด...สวัสดีครับ
 
 

โดย: **mp5** วันที่: 11 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:48:16 น.  

 
 
 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยือนค่า ^^
เข้ามาอ่านได้หน่อยนึง อ่านต่อไม่ไหว เรื่องซึ้งๆ หัวใจ มันทำให้ใจระทวย อิอิ
ชอบใจสโลแกน ทำทุกอย่างด้วยใจรัก ค่ะ มันแบบว่า ใช่เลย
 
 

โดย: SK_KS วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:12:52 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ปันนที
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




สวัสดีทุกท่าน
ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยม ถ้ามีอะไรช่วยติชม วิจารณ์ได้เลยนะคะ
[Add ปันนที's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com