มาอ่านออกเสียงกันเถอะ!
มาอ่านออกเสียงกันเถอะ!
วันนี้ มีหนูน้อยจากบ้านในซอยติดๆ กันชื่อ 'หนูเกี๊ยว' แวะมาหา เธอก็มาหาเราประจำอยู่แล้วล่ะ เจ้าหล่อนเป็นลูกคนเดียว แต่มีญาติอยู่ด้วยหลายคน ต้องเรียกว่ามีความเป็นอยู่ที่ดี มีคนตามใจมาก เธอเรียนอยู่ชั้นประถมสี่โรงเรียนเอกชนค่าเทอมหลักหมื่น ปกติเธอจะมาหาตอนที่กำลังทำอย่างอื่นจุกจิกแต่ในวันนี้ เรากำลัง Up นิยายอยู่พอดี ทำอะไรน่ะป้า... เธอมาถึงก็กระโดดขึ้นนั่งตักด้วยความคุ้นเคย หยิบเมาส์มาคลิกเห็นหน้าจอคอมพ์ของเราที่กำลังเขียนนิยาย ตราบแผ่นดิน
สิ้นกาลเวลา อยู่ ด้วยนิสัยกวนๆ ซึ่งกวนแม้กระทั่งเด็กก็ยังไม่เว้น อ่านดูด้วยตัวเองก่อน ป้ายังไม่บอกหรอก ด้วยความที่เป็นเด็กน่ารักแต่สมาธิสั้นเธอพยายามอ่านออกเสียงในบทที่เธอสนใจ บางระจันเพราะคิดว่าน่าจะเป็นบทเรียนที่เคยผ่านมาแล้วอีกอย่างพวกเราเคยติวการบ้านให้กันมาก่อน อ่านออกเสียงไปได้ไม้ถึงสามสามย่อหน้าก็ทำให้เรารู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ -การออกเสียงสะกดเพี้ยนมากๆ วรรณยุกต์ ไม้เอก ไม้โท ออกเสียงไม่ถูกต้อง -อ่านคำข้าม อ่านเติมคำเพิ่ม ไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่ไม่มีในเนื้อหา -การออกเสียงใช้ ร ล ควบกล้ำ -คำผสมง่ายๆ บางคำกลับอ่านไม่ได้
ทำไมเป็นอย่างงี้ล่ะเวลาหนูอ่านในใจ หนูอ่านได้ดีกว่านี้เยอะ สายตาหนูไปไวกว่าปากแน่เลย เจ้าตัวเกาศีรษะบ่นขัดใจเมื่อเราเตือนว่าให้ใจเย็น ค่อยๆ อ่านแล้วเริ่มใช้วิธีขีดเส้นนับคำที่อ่านผิดเพื่อให้หนูน้อยตั้งสติให้นิ่งขึ้นแต่ก็ยังอ่านผิดมากอยู่ดี หนูเกี๊ยวเองก็ใช่ว่าไม่ทราบหลักการอ่าน ทุกครั้งที่เราท้วงเธอก็พยายามแก้ได้ถูกต้อง ที่เป็นอย่างนี้ตอนหนูเกี๊ยวอ่านในใจ หนูอาจจะอ่านถูกอ่านผิดโดยไม่รู้ตัวก็ได้เพราะไม่มีใครได้ยินหรือรู้ว่าหนูอ่านผิดตรงไหน คำเพิ่มคำขาดก็ไม่มีใครท้วง หนูเลยติดนิสัยอ่านข้าม อ่านเกินไม่รู้ตัว เราถือโอกาสสอนหนูน้อยไปทีละนิด เออ จริงเด๊ะหนูก็อ่านๆ ไป รู้เรื่องก็พอละ ก็สอบได้...ผ่าน หนูเกี๊ยวยักไหล่ เริ่มความพยายามต่อแต่ยังไปไม่ถึงไหน คำผิดเพิ่มขึ้นอย่างรวมเร็วจนเกือบถึง 40 ขีด ในที่สุด ไม่เอาล่ะ หนูไม่อ่านแล้ว น่าเบื่อ หนูน้อยถอดใจ หนูน่าจะอ่านออกเสียงบ่อยๆนะ ไว้วันหลังละกัน วันหลังนี่ไม่ทราบเหมือนกันว่าวันไหน ว่าแล้ววางมือเลิกราไปเล่นอย่างอื่นตามระเบียบ ส่วนเราเองก็ตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสหนูเกี๊ยวอารมณ์ดีก็จะพยายามให้อ่านหนังสือแบบออกเสียงอีก ที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ไม่ใช่แค่หนูเกี๊ยวคนเดียว เด็กแถวบ้าน เรียนโรงเรียนเอกชนค่าเทอมสูงลิ่ว เล่นแท็บเล็ตคล่องมาก แต่ส่วนใหญ่กลับอ่านหนังสือไม่แตกฉาน ทั้งไทย-อังกฤษ คำง่ายๆ ยังสะกดไม่ถูก
เรื่องนี้ทำให้ตั้งคำถามว่าอะไรหนอ ที่ทำให้เป็นอย่างนี้ เมื่อก่อนเราต้องยืนหน้าชั้นอ่านหนังสือเป็นหน้าให้เพื่อนฟัง อ่านนิยาย บทประพันธ์ให้กับคุณปู่คุณย่าไม่ว่าจะเป็นพระอภัยมณี, รามเกียรติ์ หรือขุนช้างขุนแผน แต่ตอนนี้โลกของเราเปลี่ยนแปลงเร็วมากจนทำให้แม้แต่ตัวเองยังอดทนไม่พอที่จะนั่งตั้งสติเขียนตัวอักษรยาวๆสักหนึ่งหน้ากระดาษ ไม่ต้องดูอื่นไกล วันๆ เอาแต่กดแป้นพิมพ์คอมพ์ หรือไม่ก็เลื่อนปรื๊ดลายมือเลยแย่ลง จับปากทีก็มือแข็ง เซ็นชื่อได้อย่างเดียว สมาธิสั้นอ่านหนังสือนานๆไม่ได้แล้ว เพราะทั้งรายการโทรทัศน์ ทั้งสื่อต่างๆ วนเวียนอยู่รอบตัว โชคดีที่ของเก่ามีเก็บเอาไว้ตอนเด็กๆถึงไม่ได้สูญสลายไปตามวัย
ทักษะในการอ่านของเด็กนั้นควรต้องแบ่งเป็น 2 ส่วนหรือไม่ เด็กเล็กๆ ได้อ่านออกเสียงก็ดีอยู่หรอกแต่เดี๋ยวนี้แม้กระทั่งตำรายังหดเสียสั้น ไม่มีที่มาที่ไปในเนื้อหาการฝึกฝนอาจจะไม่พอ พอโตมาหน่อยหนึ่งก็เริ่มอ่านในใจ เพราะเนื้อหาการเรียนมากขึ้นซึ่งขอดีคืออ่านได้เร็ว ไม่คอแห้ง เด็ก ใจร้อนขึ้นเพราะอดทนรออะไรไม่เป็น สมาธิสั้น เพราะถูกอย่างถูกปรับให้ง่ายเพื่อพวกเขาเสียทุกสิ่ง เด็ก ใช้คำหยาบมากขึ้นเพราะติดมาจากเพื่อนๆที่โรงเรียน และภาษาที่พูดจากันไม่สละสลวย พ่อแม่ก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อทักษะในการอ่านออกเสียงในวัยเด็กด้อยลงไปทำให้ทักษะการพูด...การเขียนตอนโตอ่อนด้อยตามไปด้วย เพราะไม่มีใครมาตรวจสอบอีกแล้วว่าอ่านออกเสียงคำสะกดถูกหรือผิด เลยไม่ได้แก้ไขตั้งแต่ต้น ถ้าเป็นอย่างนี้...
ฝึกให้เด็กอ่านออกเสียงกันเถอะ!
Cr: //www.imaginebangkok.com
Create Date : 03 สิงหาคม 2557 |
|
2 comments |
Last Update : 3 สิงหาคม 2557 4:11:46 น. |
Counter : 1699 Pageviews. |
|
|
|
เลขาฯ กพฐ. เผยผลสำรวจเด็กประถม 3 กว่า 6 แสนคน อ่าน-เขียนไม่ได้ 3.5 หมื่นคน ส่วนอีก 2 แสนคน อ่าน-เขียนไม่คล่อง สั่งตั้งคณะทำงานแก้ไขจริงจัง วาง 4 ขั้นตอน ดึงนักวิชาการ นวัตกรรมการศึกษามาช่วย คาดทำเต็มรูปแบบปี 2558 "นายกฯ" ประชุมหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงศึกษาฯ สั่งดูแลนักเรียนที่ได้รับผลกระทบในจังหวัดชายแดนใต้ ห่วงแรงงานคุณภาพไหลออกหลังเปิดเออีซี
สรุปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 30 ต.ค. 2557