ทำทุกอย่างด้วยใจรัก

<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
20 มิถุนายน 2556
 

ปรารถนารัก...ชั่วนิรันดร์ ตอนที่ 25 อำลา

25. อำลา

    กลับมาถึงห้อง ธิชาก็รีบทำงานที่คั่งค้าง ปาดน้ำตาน้ำตาหยดลงมาเป็นพักๆ คงโอ้เอ้ไม่ได้แล้ว เทซกคงเกลียดหล่อนมากจริงๆ แม้แต่จะให้อยู่จนถึงเวลาตามที่ขอ เขาก็ยังไม่ยอม
     เลยเวลาอาหารกลางวันไปแล้วธิชากรยังไม่หยุดทำงาน จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตู หญิงสาววางมือจากเอกสารเมื่อเห็นว่าคนที่มาเคาะประตูนั้นเป็นใคร ซาบซึ้งกับความห่วงใยที่ผู้อาวุโสกว่ามีให้ แม้จะคนละเชื้อชาติก็ตาม นอกจากวรวรรณแล้ว มูนจุงเป็นอีกผู้หนึ่งที่นับถือเป็นพี่สาวได้อย่างสนิทใจ
     “ธิชา เมื่อตอนกลางวันหายไปไหนไม่มาที่โรงอาหาร? พี่ตามหาก็ไม่เจอ”
     อีกฝ่ายยิ้มอ่อน เงยหน้าขึ้นสบตา มูนจุงเห็นรอยช้ำ หากนั่นไม่เท่ากับแววตาที่แห้งผาก ไร้ชีวิตชีวายิ่งกว่าที่เคยเห็น
     “เกิดอะไรขึ้น! คุณเทซกเล่นงานอะไรอีก?”
     ธิชากรยิ้มอีกครั้ง พร้อมกับปาดน้ำตาที่พร้อมจะร่วงหล่น ทำอย่างไรได้ ให้เสแสร้งมากไปกว่านี้คงไม่ไหว
     “คงถูกเล่นงานได้อีกครั้งเดียว”
     หญิงสาวยื่นจดหมายที่ถูกกำจนยับให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคล
     “ได้เวลาแล้ว...ผู้อำนวยการ...เขาเร็วกว่าฉันเสียอีก”
     หล่อนแสร้งเป็นหัวเราะทั้งๆ ที่เสียงที่ออกมาขื่นขมเหลือเกิน
     มูนจุงหยิบมาอ่าน
     “อะไรกัน? นี่คุณเทซกคิดอะไรนี่ ! ไหนตกลงกันว่าเธอจะอยู่ต่อจนกว่าจะถึงเวลาไม่ใช่หรือ? ไม่ได้การ เรื่องนี้คุณเทซกน่าจะบอกพี่สักคำ ไม่ได้การ...พี่ต้องไปถาม” 
     ใบหน้าของหล่อนขึ้งโกรธ ไม่คิดว่าเทซกคนเดิมที่ไม่เคยรู้สึกถึงใจคนอื่นนั้น ฝังรากลึกจนไม่อาจเยียวยาได้อีกต่อไป
     “อย่า! พี่มูนจุง อย่าถามเลย” หญิงสาวรีบรั้งเอาไว้
     “ฉันไม่อยากต่อความ เรื่องที่สวนคืนนั้น... คงทำให้เขาต้องรีบตัดสินใจ ฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว...ฉันอายถ้าจะต้องไปรื้อฟื้นอีก บางทีนี่คงเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว พี่ก็รู้ ถ้าเป็นเรื่องแบบนี้ต้องให้คุณชินเน่เป็นคนจัดการ”
   “ไม่ได้นะ คุณเทซกจะมาทำอย่างนี้ได้อย่างไร เคยนึกถึงสิ่งดีๆ ที่เธอเคยทำให้บ้างหรือเปล่า?”
     “ให้มันจบไปเถอะค่ะ พี่ก็รู้ ฉันมีเรื่องน่ารังเกียจแบบนั้น ถ้าคุณมินฮาทราบ แล้วยังเห็นฉันอยู่ตำตา คงไม่มีวันปล่อยฉันเหมือนกัน”
     ไม่ว่าจะพยายามที่จะอดกลั้นอย่างไร ก็ไม่อาจที่จะบังคับน้ำตาไม่ให้ไหลได้
    “น่ารังเกียจหรือ? เขาเป็นคนทำทั้งนั้น! อยากได้อะไรต้องเอาให้ได้ เล่ห์เหลี่ยมก็แพรวพราว คนอย่างเธอ...จะไปสู้รบปรบมืออะไรได้!”
     นานมากแล้ว ที่ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ไม่เคยโกรธผู้อำนวยการอย่างเทซก หากคราวนี้...เหลืออด
     “ฉันเป็นข่าวซุบซิบกับเขามากเกินไป นอกจากจะทำให้ฐานะของเขาสั่นคลอนแล้ว ถ้าฉันยังขืนดันทุรังอยู่ จะไม่เป็นผลดี กับ ความรักของเขา”
    “โธ่! ธิชา... โธ่เอ๊ย!”
     มูนจุงไม่เคยถามรายละเอียด แต่มั่นใจว่าไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคนตรงหน้าเป็นคนเริ่มแน่ ธิชากรโชคดีที่คนใกล้ตัวต่างเข้าใจ ไม่เอ่ยให้ขายหน้าไปมากกว่านี้ ทั้งคังฮีและซองอึนต่างควบคุมไม่ให้เรื่องกระพือไปใหญ่โตจนมองหน้าใครไม่ได้
     “นี่เป็นความต้องการของฉันด้วย ดีเสียอีก ได้เงินไม่น้อยมาใช้ฟรีๆ ไม่ต้องทำงาน”
     เป็นไปตามที่เคยประกาศไว้ เขาจ้างหล่อนให้ไปจากชีวิตด้วยเงินก้อนหนึ่งจริงๆ หญิงสาวถอนสะอื้น เมื่อนึกถึงคำพูดร้ายกาจนั้นทีไร ราวกับสายฟ้าฟาดลงบนกลางใจตลอดเวลา ยังจะสายตาที่รังเกียจเดียดฉันท์อย่างนั้น...
    “เพียงแต่มันเร็วไปหน่อยเท่านั้น เขาคงรู้ ขืนฉันอยู่ต่อไป อาจจะทำให้เขามีปัญหาลำบากใจ เราก็ทราบ มันเป็นเรื่องปกติของเขานี่คะ”
    มูนจุงบีบมือของคนพูด สงสารจับใจ
    “เธอนี่มันโง่หรือบ้ากันแน่นะ? ทำสิ่งดีๆเพื่อเขาตั้งมากมาย เขาไล่เธอออกเธอก็ยัง...”
     “แต่พี่มูนจุงก็ปราถนาดีกับผู้อำนวยการใช่ไหมคะ? ถึงแม้จะมีส่วนเสียแต่ที่ผ่านมาก็ถือว่าเขาเป็นผู้บริหารที่ดี แลกกับฉันเพียงคนเดียวคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันให้เวลาตัวเองอีกแค่ 3 วัน เท่านั้นฉันก็จะไป อย่าให้เขาต้องลำบากใจ อีกเลย”
หญิงสาวฝืนยิ้ม หล่อนขอเวลาเท่านั้น เพราะอดทนได้แค่นั้นจริงๆ

****************

     เทซกกลับมาที่ห้องอย่างคนอารมณ์เสีย
     ผู้หญิง! ทำอย่างนี้เหมือนกันหมด ท่าทีที่ค้อมตัวลงต่ำยามเขาเดินผ่าน การวางตำแหน่งตัวเองให้อยู่ไกลเกินจะเอื้อมไปให้ถึงหัวใจ ไม่ว่าอึนโซ หรือผู้หญิงชาวต่างชาติคนนี้ ต่างกันตรงไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังเชื่อว่าตัวเองเป็นที่พึ่งให้กับอึนโซได้ แต่กับธิชากร เขาต่างหากที่มักคอยพึ่งพิงหัวใจที่อบอุ่นนั้น
     ทั้งๆที่...หล่อนพร้อมเสมอที่จะผลักไสและไปจาก เขาก็ยังอยากไปอยู่ใกล้ อยาก...ได้ความรัก
     ชายหนุ่มซึมซับแก่ใจตัวเองเป็นอย่างดี คืนนั้น!...ความอ่อนหวานที่เกิดขึ้น มันเป็นกลลวงที่เขาใช้ล่อหลอกต่างหาก ธิชากรไม่มีทางต้านทานการเรียกร้องของเขาได้หรอก ผู้หญิงอย่างนั้น...ไม่มีทาง!
    เทซกคิดอะไรไม่ออก หยิบโทรศัพท์มากดเล่น ทุกครั้งที่ไล่รายชื่อ หมายเลขของธิชากรจะปรากฏมาให้เห็นเสมอ ทำไมนะ?..แต่ก่อน...ถึงแม้ไม่พูดกัน ทุกครั้งเมื่อมองหาก็จะเห็น หากนี่...แม้แต่รายงาน หล่อนยังเลือกที่จะส่งผ่านชินเน่ ทั้งๆ ที่เขาพยายามไม่ไปใกล้หล่อนอยู่แล้ว แต่ก็ยังเหมือนหญิงสาวจะลอยไปไกลทุกที ตอนนี้...คิดจะมองหา ก็ยังมองหาไม่เจอ ราวกับหลบอยู่มุมมืดไกลออกไป ทำไมต้องหนีกันขนาดนั้นนะ?
    เทซกใจหายเมื่อคิดขึ้นมาว่าหากวันใดที่เหลียวมองหาแล้วไม่เจอ เขาจะเป็นอย่างไร? หล่อนคงโกรธที่เขาไปล่วงเกิน ทั้งๆ ที่ มีคู่หมั้นอยู่แล้วอย่างนั้น
     “ธิชา...ไม่ใช่ความรักของผมอย่างนั้นหรือ?”
     เขากระซิบกับตัวเอง แล้วถ้า...เป็นอย่างที่คิด แล้วทำไม?...

********************

     คืนก่อนวันสุดท้ายของการทำงาน ธิชากรไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้านของมูนจุง
    
ทันทีที่งานเอกสารถูกส่งคืนให้กับชินเน่ในวันพรุ่งนี้ หล่อนก็ไม่มีพันธะใดกับซกโซรีสอร์ท หญิงสาวยังไม่มีแผนอะไรนอกจะไปพักกับเพื่อนที่โซล ไปลาท่านทูตอย่างเป็นทางการ แล้วคงเดินทางกลับประเทศไทย วรวรรณโกรธเทซกมากเหมือนกัน พยายามจะหางานทำให้ หากธิชากรขาดความกระตือรือล้นที่จะอยู่อีกต่อไป
     หญิงสาวไม่แน่ใจว่าอีกนานเท่าใดที่จะได้กลับมาอีก จึงไม่ได้บอกอะไรเอาไว้ จีวันและมูนจุงคงเข้าใจ ไม่เซ้าซี้
     “พี่มุนจุง พี่จีวันคะ ขอขอบคุณที่ช่วยดูแลมาตั้งแต่วันแรกค่ะ”
     หญิงสาวโค้งให้ผู้สูงวัยกว่าทั้งสอง พร้อมกับพนมมือไหว้ตามปกติ
     “ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามีโอกาสก็ขอให้แวะมานะ”
     หญิงสาวพยักหน้า หล่อนลาจุนโซ ลาอึนโซ เจ้าของตำนานรักต้องห้าม อีกไม่นาน...เรื่องต่างๆทุกอย่างจะปิดฉากลงแล้ว
    
...จะไม่มีธิชากร แม้แต่ในความทรงจำ! ณ ที่แห่งนี้
   
    
“พรุ่งนี้ที่โรงแรมก็ยังเจอกันนะ”
     มูนจุงกอดร่างบางเอาไว้ ใจหายเสียยิ่งกว่า คราวก่อนที่ธิชากรกลับไปประเทศไทย คราวนั้นยังมีสายใยดึงรั้งไว้อยู่ คราวนี้...
     “ค่ะ ฉันต้องไปเก็บของก่อน ยังเหลืออีกจำนวนหนึ่ง”
     “ธิชา แล้วคุณเทซก จะไม่ถามเหตุผลของเขาหรือ? ให้มันชัดเจนกว่านี้ เขาควรจะเป็นคนพูดกับเธอเอง ทำอย่างนี้ไม่สมกับเป็นคุณเทซกเลย”
     “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันคงไปทำอะไรไม่ถูกใจหลายอย่างเกินไป อยู่ไปก็จะมีแต่ปัญหา ทะเลาะกันจนมองหน้าไม่ติด”
     หญิงสาวฝืนหัวเราะ ที่จริงก็เพราะหมดความหมายอีกต่อไปนั่นแหละ
     จีวันถอนหายใจตบบ่าธิชากร เขาเป็นผู้ใหญ่เกินกว่าจะลงมาคลี่คลายปัญหานี้ได้ อีกอย่าง เจ้าตัวไม่ได้ต้องการเช่นนั้น

     แสงไฟจากรถคันใหญ่พุ่งเข้ามายังแกลเลอรี่
     “นั่นคุณเทซกนี่ มาหาเธอหรือเปล่านะธิชา?”
     ไม่ต้องเดาก็พอทราบ ธิชากรจำได้ขึ้นใจถึงวิธีการขับรถ วิธีการเลี้ยวรถ บ่งบอกอุปนิสัยของเจ้าของเป็นอย่างดี
     “คงไม่หรอกค่ะ ฉันว่าฉันรีบไปดีกว่า เขายิ่งชังน้ำหน้าฉันเสียด้วย”
     หญิงสาวโค้งให้เจ้าของบ้าน เดินออกมาสวนกับเทซกจึงอดไม่ได้ที่จะปล่อยวาง ใช้วินาทีสุดท้ายที่เหลืออยู่ ขยับจะทักทาย อย่างน้อย...อีกสักครั้ง หาก...ชายหนุ่มเองกลับเดินผ่านเลยไป ไม่ใส่ใจ หล่อนมองตามแผ่นหลังกว้างแวบหนึ่ง ถอนหายใจก่อนจะขับรถออก ...สิ้นสุดกันเสียที!
     “ลาก่อน ขอให้มีความสุข ผู้อำนวยการ”
     หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่น้ำอุ่นๆ จะไหลคลอลงมา แค่นี้..ที่จะให้เหลืออยู่ในความทรงจำ

*******************

     เทซกฝืนใจตัวเองอย่างที่สุด ถ้ายอมอ่อนข้อ ยิ้มให้สักนิด แค่อธิบาย ก็คงสื่อสารด้วยใจได้ หาก ... แม้กระทั่งทักทาย ยังเมินเฉยและเย็นชาอย่างนั้น เขาจึงจำเป็นต้องมองผ่านเลยไป ไม่สนใจกับศีรษะที่ก้มให้ ทั้งๆ ที่อยากหันหลังกลับไปดึงตัวหล่อนมาแล้วพร่ำบอกในสิ่งที่อยู่ข้างในอกเหลือเกิน
     แต่...คืนนั้น...ที่ทำไปแล้วนั่นมันรุนแรงเสียจนยากที่จะให้อภัย สายตาที่ส่งมานั่น มันกรีดลึกเข้าไปในจนเขาต้องลูบที่อกเบื้องซ้ายทุกครั้งที่นึกถึง

     “เทซก มาทำไมเย็น? นี่พึ่งจะทานข้าวเย็นเสร็จ”
     “ผมจะมาบอกว่า ผมต้องไปอเมริกากระทันหัน คุณพ่อสั่งมา พี่จีวันมีอะไรให้ผมเอาไปให้ทางโน้นบ้าง?”
     เขาทราบว่าในวงการ จีวันมักมีการสื่อสารกับเพื่อนฝูงเสมอ
     “อ้อ! มี... เข้ามาก่อน”
     “ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
     มุนจุงจัดเครื่องดื่มให้พวกเขา แล้วขอตัว ซึ่งเป็นปกติ หาก...ดูมุนจุงจะมึนตึงกับเทซกเป็นพิเศษ ชายหนุ่มทราบว่าเพราะมีส่วนที่เกิดจากธิชากรด้วย หล่อนเป็นคนโปรด...
     “จะไปพรุ่งนี้เลยหรือ?”
     “ครับ พรุ่งนี้ตอนบ่ายแก่ๆ”
     “ก็...ดีเหมือนกัน ก็ดี...จะได้ไม่ต้องกังวล”
     ท่าทีของจีวันแปลกประหลาดไปจากที่เคย เหมือนมีความกังวลเรื่องอื่น
     “ว่าแต่...คุณพ่อเริ่มใช้งานออกไปที่อื่นบ้างแล้วสินะ”
     “ท่านคงอยากให้ผมรับผิดชอบมากขึ้น แล้วก็อาจต้องไปดูแลโรงแรมใหม่ที่จะเปิดกับเอมเมอรัล”
     เขาตอบลอยๆ ริมฝีปากหยัก ขยับอยากถาม ถึงคนที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่
     “ก็เตรียมจะมีครอบครัวจริงๆ แล้วสินะนี่” จีวันพยักหน้ารับทราบ ทุกคนคงเข้าใจเช่นนั้น รวมถึง....
     เทซกก้มหน้าไม่ปฏิเสธ ทำเป็นไม่กระทบกระเทือนกับการพบคนตัวบางที่เพิ่งจะขับรถออกไป เมื่อครู่
     เจ้าของบ้านเองก็พร้อมใจกันที่จะไม่เอ่ยถึงราวกับหล่อนไม่ได้อยู่ที่นี่ก่อนหน้าเขามาถึง
     เมื่อธุระออกจากบ้านของจีวันเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มขับรถด้วยจิตใจเลื่อนลอย ในที่สุดก็มาหยุดที่อพาร์ทเม้นท์ของธิชากร เขาอยากไขว่คว้า แต่บทเรียนที่ผ่านมายังฝังใจ ถ้าเป็นความรักของเขา ถ้าต้องเป็นเช่นนั้นจะไม่ขอฉุดรั้งให้เจ็บปวดอีกต่อไป

*************

     เมื่อได้รับคำสั่งด่วน เทซกต้องพยายามบังคับตัวเองตลอดทั้งวันไม่ให้ใจอ่อนกับธิชากร เขาต้องไปอเมริกาตามคำสั่งของท่านประธาน ชายหนุ่มไม่มีปัญหาเรื่องเอกสารและพร้อมจะไปทุกที่ที่บิดาสั่ง หากคราวนี้ เขาคล้ายกับตัวลอยละล่อง เมื่อคืน...หากชายหนุ่มตัดสินใจเดินขึ้นไปหา ไปสารภาพทุกอย่าง จะเป็นอย่างไร?
     แต่เขาไม่ได้ทำอย่างนั้น
     เทซกทำได้แค่จอดรถมองดูแสงไฟที่ห้องของหล่อนแล้วขับรถกลับโดยทิ้งหัวใจเอาไว้ เมื่อนับวินาทีที่ผ่านพ้นไปเรื่อยก็ยิ่งหนักหน่วงที่อกเบื้องซ้าย วันนี้...เขาก็หยิ่งเกินกว่าที่จะเรียกหล่อนมาสั่งงาน ที่ทำเพียงแค่ผ่านชินเน่เท่านั้น
     เมื่อได้เวลาเดินทาง ชายหนุ่มเดินมาขึ้นรถที่เตรียมไว้พรักพร้อม โดยมีซองอึนเป็นสารถีคู่ใจ พี่ชายของอึนโซมักเลี่ยงการเผชิญหน้า พักนี้ใครๆ ต่างพากันห่างเหินเทซกอย่างประหลาด
     “เอ๊ะ! นั่นพวกนั้นหิ้วของพะรุงพะรังทำอะไรกัน?”
     เทซกมองผ่านหน้าต่างรถ ซึ่งอาจจะมองผ่านเลยไป ถ้าไม่เห็นว่าใครกำลังอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น คงจริงอย่างที่ยุนมีว่า เขามักมองหา... อยู่ร่ำไป แค่เห็น...หัวใจที่กำลังคลอนแคลน จะมั่นคง อบอุ่น...
     “อ๋อ! เลี้ยงส่งพนักงานนะครับ” ชอยซองอึนตอบไม่เต็มคำ
     “อ้าว! มีคนลาออกอีกแล้วหรือ?”
     เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่พนักงานทั่วไปจะลาออกกันบ่อย บางคนลาออกไปแต่งงาน บางคนลาออกทำงานที่ดีกว่านี้ หรือไม่ก็งานในกรุงโซล ถ้าเป็นพนักงานระดับล่างส่วนใหญ่ ชายหนุ่มจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชินเน่และมูนจุง
     “...ครับ...”
     ชายหนุ่มไม่ทันสังเกตว่าชอยซองอึนรับคำเสียงเบาเป็นพิเศษ ชายหนุ่มไม่ห้ามเรื่องการเลี้ยงส่งถ้าไม่กระทบกับเวลางาน
     “เดี๋ยวไปส่งฉันแล้วก็คงกลับมาล่ะสิ”
ที่เข้าใจเช่นนั้นเพราะเห็นคังฮีอยู่ในกลุ่ม ทั้งสองคนมีแผนจะแต่งงานกันเร็วนี้ มีการพูดจากันพอสมควร ซึ่งเทซกยินดีจะเป็นเจ้าภาพฝ่ายชายให้อย่างเต็มใจ
     “เอ้อ... ครับ เธอ เป็นคนน่ารักครับ ใครก็อยากเลี้ยงส่งเธอครับ”
     “อย่าดื่มจนเสียงานก็แล้วกัน”
     “ผมไม่กล้าเวลาทำงานหรอกครับ”
     ซองอึนรับคำแผ่วเบา ทั้งๆ ที่ปกติจะหัวเราะแบบมีเลศนัยให้ผ่อนคลาย

     เทซกพยายามสนใจแค่นั้น ร่างบางๆ ที่เดินอยู่ในกลุ่มคนทำให้หัวใจของเขาอึดอัดไปหมด
    
เขารักอุนโซ แต่สายตาของเขากลับมองหาแต่หญิงสาวชาวต่างชาติคนนั้น
     ในขณะที่ทุกข์ตรมเมื่อนึกถึงอุนโซ แต่กลับอบอุ่นมั่นคงเมื่อนึกถึงธิชากร
     หรือเพราะ เวลามีทุกข์ หล่อนมักบังเอิญมาอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ทำให้เขาเข้มแข็ง ‘ความรักของตัวเอง’ ชายหนุ่มยิ้มหยัน จะมีได้อย่างไร? ในเมื่อถูกผลักไสขนาดนั้น นี่หล่อนไม่รู้หรืออย่างไร? ที่หาเรื่องกอด หาเรื่องจูบอยู่ทุกวันนี้ เพื่ออะไร ? แต่...มันคงหมดหนทาง
     “อุนโซ...พี่จะทำอย่างไร พี่จะมีความรักของตัวเองได้อย่างไรกัน?”
     ไม่สามารถไปบังคับ หรือฉุดธิชากรเอาไว้ ไม่สามารถครอบครองอย่างที่อยากจะทำ เพราะกลัว กลัวเหลือเกินว่าหล่อนจะเหมือนอุนโซ ดีแสนดีกับเขา อยู่กับเขาเพราะความสงสาร แต่มีหัวใจให้คนอื่น ไม่ว่าจะฉุดรั้ง กักกันอย่างไร ก็ไม่สามารถขังหัวใจของอุนโซได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นอีก เทซกคงทนไม่ได้อีกต่อไป
     ดังนั้นไม่ว่าจะเจ็บอีกเท่าใด เขาจะไม่กักขังหัวใจใครอีก!

********************

     สองสัปดาห์ที่ไปอยู่อเมริกาแล้วกลับมาพร้อมกับงานที่เป็นภาระมาเต็มมือ
     ห้องประชุมของซกโซรีสอร์ทมีที่นั่งครบทุกที่นั่ง ฮันเทซกกวาดตามองเก้าอี้ที่ว่างเปล่า ธิชากรไม่เคยขาดประชุมประจำเดือนโดยไม่แจ้งลา เขาไปต่างประเทศ ผจญกับความยากลำบากในการทำงาน และเหนื่อยล้า เขาอยากพบหล่อน... แค่เห็นหน้าก็ยังดี
     “ไม่มีใครขาดประชุมใช่ไหม?”
     ชายหนุ่มแสร้งพลิกรายงานการประชุม หวังให้ใครสักคนบอกในสิ่งที่ปรารถนาจะรู้
     “ครบแล้วค่ะท่านผู้อำนวยการ” ยุนชินเน่เป็นผู้ตอบแทนทุกคน
     เทซกเลิกคิ้ว แต่ไม่ถามอะไรอีก ชายหนุ่มดำเนินการประชุมตามวาระทั้งๆ ที่สมองปั่นป่วน
     นี่ธิชากรจะแกล้งให้เขาเป็นบ้าเล่นหรืออย่างไร? เงียบอย่างนี้ ไม่มีรถที่ลานจอด ไม่มีแม้แต่เงา ไม่มีคนเอ่ยถึงราวกับหล่อนไม่เคยมีตัวตน...
     ชายหนุ่มต้องใช้ความอดทนกับตัวเองมากมายที่จะไม่ปริปากถามใครไม่ว่าจะเป็นมุนจุงซึ่งพยายามอยู่ห่างเขาเช่นกัน แต่... มันนานเกินไปที่ไม่เห็นแม้แต่เงา ไม่มีแม้แต่ลมอบอุ่นที่พัดผ่านเมื่อมีหญิงสาวอยู่ใกล้

     เทซกแสร้งออกมาเดินตรวจสถานที่ เท้าพาเขาก้าวไปยังห้องทำงานที่ถูกจัดเป็นพิเศษเอาไว้สำหรับพนักงานตำแหน่งพิเศษ ห้องของธิชากรเป็นห้องกั้นกระจก คนข้างนอกจะสามารถมองเห็นคนที่อยู่ข้างในได้อย่างสะดวก ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องเล็ก
     เขาจะยิ้ม...ทักทายด้วยคำพูดเจ็บๆ แล้วหล่อนก็จะพูดจากโอดครวญว่าเขาใจร้าย จากนั้น...เขาจะ..
     เท้าที่ก้าวเข้าไปหยุดกึก...ลมหายใจสะดุด...
    
     ...สิ่งที่เทซกเห็นคือความว่างเปล่า!

********************





Create Date : 20 มิถุนายน 2556
Last Update : 20 มิถุนายน 2556 22:30:22 น. 4 comments
Counter : 951 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอบคุณ : คุณข้ามขอบฟ้า คุณกลาง ทุกท่าน และคุณกิ่งฟ้า ที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ

เรื่องยังคงเศร้าอีกนิดหน่อยค่ะ คราวนี้เป็นตาของเทซกบ้าง
 
 

โดย: รุ้งปลายฟ้า วันที่: 20 มิถุนายน 2556 เวลา:22:34:52 น.  

 
 
 
บางคนมีทิฐิเป็นที่ตั้ง บางครั้งคนตั้งอยู่บนทิฐิ เป็นธรรมดาของคนทำให้หาสุขไม่เจอ
 
 

โดย: jonae IP: 223.204.156.19 วันที่: 21 มิถุนายน 2556 เวลา:21:58:56 น.  

 
 
 
สะใจเทซกดีค่ะ ดิฉันซาดิสต์ 555
ขอบคุณสำหรับนิยายบีบคั้นหัวใจค่ะ
รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ ^_______^
 
 

โดย: กลาง IP: 203.158.142.110 วันที่: 21 มิถุนายน 2556 เวลา:22:48:23 น.  

 
 
 
ที่นี่ก็ถึงตาเทซกบ้างเนาะ
ตื่นเต้นค่ะ อย่าให้รอนานนะคะ
 
 

โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:4:11:06 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ปันนที
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




สวัสดีทุกท่าน
ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยม ถ้ามีอะไรช่วยติชม วิจารณ์ได้เลยนะคะ
[Add ปันนที's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com