......Romancini......
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

ย้อนตำนานอินทรีเหล็ก ร่วมฉลอง100 ปีของทีมชาติเยอรมัน ( ตอนที่ 8 Game of century )








คู่ต่อสู้ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 1970 ของทีมเยอรมันตะวันตก
ได้แก่ “ อัซซูรี่ ” ทีมชาติอิตาลี่อดีตแชมป์โลก 2 สมัย 1934 , 1938
และยังเป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์ยุโรปทีมล่าสุด
ในปี ค.ศ 1968 อีกด้วย...




[ 11 ขุนพลอัซซูรี่วันดวลกับอินทรีเหล็กรอบรองชนะเลิศเม็กซิโก 70 ]



อิตาลี่ต้นตำรับการเล่นในสไตล์แบบตีหัวเข้าบ้าน
แพ็คหลังแน่นรอสวนโต้กลับ ( คาเตนัคโช่ )
มีผลงานที่ผ่านมาในรอบแรก ไม่ค่อยสวยงามนัก
โดยเฉือนทีมไวกิ้งสวีเดนมา 1 ประตูต่อ 0
ต่อด้วยเจ๊ากับอุรุกวัยมาแบบโนสกอร์



[ ทีมเยอรมันตะวันตกก่อนเกมรอบรองชนะเลิศเม็กซิโก 1970 ]



และในนัดสุดท้ายของรอบแรก
ก็เสมอกับน้องใหม่อิสราเอลมาแบบจืดชืด 0 – 0
ก่อนที่จะมาระเบิดฟอร์มในรอบควอเตอร์ไฟนัล
กับเจ้าภาพเม็กซิโก ที่หลังจากโดนยิงนำไปก่อน
ขุนพลอัซซูรี่ ก็ยิงกลับคืนมา 4 ประตูรวด
เอาชนะเจ้าภาพไปได้อย่างสวยงาม 4 ประตูต่อ 1
โคจรมาดวลกับทีมเยอรมันตะวันตกในรอบรองชนะเลิศนี้.....



[ อัซเตก้า สเตเดี้ยม เม็กซิโกซิตี้ สังเวียนแข้งในเกมนี้ ]



เย็นวันที่ 17 มิถุนายน 1970 ณ.อัซเตก้า สเตเดี้ยม กรุงเม็กซิโกซิตี้
แฟนฟุตบอลกว่า 102,444 คน แออัดยัดเยียดเข้ามาจนแน่นขนัด
เพื่อรอชมเกมในรอบรองชนะเลิศระหว่าง 2 สุดยอดทีมจากยุโรป
ที่จะระเบิดสงครามแข้งแย่งชิงตำแหน่งเพียงหนึ่งเดียว
เพื่อจะเข้าไปเล่นในเกมชิงชนะเลิศกับเต็งหนึ่งทีมชาติบราซิล
ที่จัดการกับทีมอุรุกวัยไปเรียบร้อยแล้วเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้านี้



[ อิตาลี่ - เยอรมันตะวันตก ศึกแห่งศักดิ์ศรีในรอบรองชนะเลิศ ]



วันนี้ 11 ขุนพลอินทรีเหล็กที่บุนเดสเทรนเนอร์เฮลมุต เชิร์น
เลือกให้ลงสนามได้แก่ เซปป์ ไมเออร์ , คาร์ลไฮนซ์ ชเนลิงเจอร์ ,
วิลลี่ ชูลส์ ,ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ , แบร์ตี้ โฟ้กท์ส ,
โวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ , เบิร์น พาสเก้ , เฮอร์เนส โรว์ ,
เจอร์เก้น กราบรอสกี้ , เกิร์ด มุลเลอร์ และ
อูเว่ เซเลอร์ เป็นกับตันทีม....




[ แผนผังการจัดวางตัวผู้เล่นของทั้งสองทีม ]



ส่วนทางด้านของทีมอัซซูรี่ ประกอบไปด้วย
เอ็นริโก อัลเบอร์โตซี่ , ทราซิซิโอ เบิร์กนิก ,
เจียซิโต ฟัคเชตติ้ ( กับตันทีม ) ,ปิแอร์ลุยจิ เซียร่า ,
โรเบอร์โต้ โรซาโต้ , มาริโอ เบอร์ตินี่ , ลุยจิ ริว่า ,
อัลเจโร่ โดเมงกินี่ ,ซานโดร มัซโซล่า ,
เจียนคาโล เดอซิซติ และ โรเบอร์โต โบนิงเซ็งญ่า ลงเล่น
และมี เฟอร์รุสซิโอ วัลคาเลจจิ เป็นผู้จัดการทีม
หลังสิ้นเสียงนกหวีดสัญญาณเริ่มเกมจาก
อาร์ตูโร่ ยามาซากิ ผู้ตัดสินจากเปรู
เกมแห่งความระทึกก็เริ่มต้นขึ้น......




[ เจียซิโต ฟัคเชตติ้ และ อูเว่ เซเลอร์ สองกับตันทีมแลกธงก่อนดวลแข้ง ]



รูปแบบของเกมในช่วงแรก
ทั้งสองทีมเล่นกันระวังตัวมาก
ต่างระมัดระวังคุมเชิงดูท่าทีไม่มีเล่นแบบบุ่มบ่าม
มีการฟาล์วหยุดเกมเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ทำให้เกมขาดความต่อเนื่องไป
ขุนพลอินทรีเหล็กมีโอกาสยิงทักทายก่อน
จากมิดฟิลด์จอมเทคนิคโวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ ลองซัดไกล
แต่ลูกเฉี่ยวหน้าประตูออกหลังไป.....




[ เกิร์ด มุลเลอร์ พยายามเลี้ยงหลบ มาริโอ เบอร์ตินี่ ]



ล่วงมาจนถึงนาทีที่ 8 ของเกม ประตูแรกก็มาถึง
เมื่อ โรเบอร์โต โบนิงเซ็งญ่า ได้ลูกบริเวณกลางสนาม
และส่งต่อไปให้ ลุยจิ ริว่า
ริว่าทำชิ่งต่อส่งบอลกลับมาที่โบนิงเซ็งญ่า อีกครั้งหนึ่ง
ลูกมากระดอนโดนตัวของ แบร์ตี้ โฟ้กท์ส ที่หวังจะมาสกัดบอล
ทำให้ยอดดาวยิงจากทีมอินเตอร์ มิลานได้โอกาส....
โบนิงเซ็งญ่า ซัดด้วยซ้ายลูกเลียดเสียบโคนเสาประตู
ผ่านมือของไมเออร์เข้าไป
1 ต่อ 0 ทีมอัซซูรี่ออกนำอินทรีเหล็กไปแล้วอย่างรวดเร็ว.....




[ ประตูขึ้นนำของอิตาลี่จากการยิงของโรเบอร์โต โบนิงเซ็งญ่า ]



เมื่อโดนนำเหล่าขุนพลอินทรีเหล็กไม่เสียขวัญ
ต่างตั้งหน้าตั้งตาทำเกมเข้าไปในแดนของทีมอิตาลี
เพื่อทวงประตูที่เสียไปคืนมาให้ได้
และก็มีเสียวเมื่อเจอร์เก้น กราบรอสกี้ ปีกขวาดาวรุ่ง
มีโอกาสเลี้ยงบอลหลบกองหลังอิตาลี่
จากปีกขวาเข้ามาที่กลางสนาม
แล้วส่องไกลด้วยซ้ายเต็มแรง.....
ลูกทำท่าว่าจะมุดเสียบคานของอิตาลี่เข้าไปอยู่แล้ว
แต่ อัลเบอร์โตซี่ นายทวารอัซซูรี่ยังไวอยู่
เหินตัวปัดลูกบอลลอยออกหลังประตูไปได้อย่างหวุดหวิด !!!




[ เอ็นริโก อัลเบอร์โตซี่นายทวารอัซซูรี่งัดซุปเปอร์เซฟออกมาโชว์ ]



ถึงแม้ว่ารูปเกมจะเป็นเยอรมันบุกใส่อิตาลี่เป็นส่วนใหญ่
แต่ขุนพลอัซซูรี่ ก็ไม่ยอมตกเป็นฝ่ายรับตลอดเวลา
หากอินทรีเหล็กมีช่องโหว่
ก็โดนทีเด็ดของเหล่านักเตะอิตาลี่โต้กลับตลอดเหมือนกัน
ทำให้แผงหลังของเยอรมันจะประมาทไม่ได้เลย
เพราะทั้ง ริว่า , มัซโซล่า และ โรเบอร์โต โบนิงเซ็งญ่า
นั้นล้วนแล้วแต่ มีความเฉียบคมในการยิงประตูทั้งสิ้น....




[ แบร์ตี้ โฟ้กท์ส สต๊อปเปอร์เยอรมันดวลกับ ลุยจิ ริว่า สตาร์ดังของทีมอัซซูรี่ ]



ก่อนที่จะหมดเวลาในครึ่งแรก
เยอรมันก็เกือบพลาดอีกครั้ง
เมื่อ เซปป์ ไมเออร์ ถือบอลและวิ่งเกินสี่ก้าวในเขตโทษ
กรรมการยามาซากิ จึงเป่าให้อิตาลี
ได้ลูกโทษ 2 จังหวะที่หน้าประตูเยอรมัน
แต่อินทรีเหล็กยังโชคดีที่ลูกยิงของลุยจิ ริว่า
พุ่งไปกระทบกับกองหลังเยอรมันออกไป
ทำให้เมื่อ 45 นาทีของเกมในครึ่งเวลาแรกหมดลง
อิตาลี่ก็ยังคงมีประตูขึ้นนำอินทรีเหล็กอยู่ 1 ต่อ 0 เช่นเดิม.




[ โรเบอร์โต้ โรซาโต้ ประทะกับ โวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ ]



เมื่อครึ่งเวลาหลังเริ่มต้นขึ้น
เฟอร์รุสซิโอ วัลคาเลจจิ ผู้จัดการทีมอิตาลี่ก็จัดการส่ง
“ โกลเด้น บอย ” เจียนนี่ ริเวียร่า ดาวรุ่งจากทีมเอซี มิลาน
ลงมาเล่นแทนซานโดร มัซโซล่า
ที่เกิดอาการเจ็บจนไม่สามารถที่จะเล่นต่อไปได้
เหล่าขุนพลอินทรีเหล็กก็ยังคงเปิดเกมบุกกดดันอิตาลี่อย่างต่อเนื่อง
ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ดันขึ้นสูง
จ่ายบอลทะลุเข้าไปในเขตโทษของอิตาลี่
ให้กับอูเว่ เซเลอร์ที่หลุดจากการประกบของกองหลังอิตาลี่ไปได้แล้ว
กับตันทีมจอมทุ่มเทไม่มีจับให้เสียจังหวะ
เซเลอร์ซัดด้วยอีขวาเต็มแรง แต่ อัลเบอร์โตซี่ ยังคงเยี่ยมอยู่
ปฏิเสธการตีเสมอของเยอรมันไปได้อีกครั้งหนึ่ง




[ แผงหลังอิตาลี่ประกบตาย เกิร์ด มุลเลอร์ และ อูเว่ เซเลอร์ สองสตาร์อินทรีเหล็ก]



และก็เป็นจังหวะต่อเนื่อง.....
อิตาลี่ก็เปิดเกมตีโต้เยอรมันทันที
เจียนนี่ ริเวียร่า ที่เพิ่งจะลงมาได้จังหวะเปิดบอล
ไปให้กับลุยจิ ริว่าในเขตโทษ
เมื่อบอลมาถึง......
ยอดดาวยิงจากทีมกายารี่กระโดดเทกตัวขึ้นโหม่งหมายเสียบมุมทันที
แต่ลูกที่น่าจะเป็นประตูออกนำไปอีกนี้
กลับโดนเซปป์ ไมเออร์นายทวารอินทรีเหล็ก
สกัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด !!!




[ อัลเบอร์โตซี่นายทวารอิตาลี่ออกมาตัดบอลปะทะกับเกิร์ด มุลเลอร์ ]



เวลาเริ่มหมดลงไปเรื่อยๆ ความกดดันของทั้งสองทีมก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เยอรมันตะวันตก ไม่มีเพลาการบุกลงแม้แต่น้อย
ทั้ง 11 คนต่างเล่นกันเหมือนกับว่า
เกม 120 นาทีท่ามกลางแดดจ้า
กับทีมอังกฤษที่เมืองลีออง ในนัดที่แล้วเมื่อสามวันก่อนนั้น
ไม่ได้ส่งผลต่อสภาพร่างกายของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
กลับเป็นฝั่งของทีมอัซซูรี่
ที่ดูว่าจะเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าลงไปเรื่อยๆแทนแล้ว




[ อูเว่ เซเลอร์ ดวลลูกกลางอากาศกับ อัลเจโร่ โดเมงกินี่ ]



เยอรมันสบโอกาสอีกครั้งจากทางด้านกราบซ้าย
เจอร์เก้น กราบรอสกี้ ลุยฝ่ากองหลังอิตาลี่มาได้แล้ว
จัดการไหลมาที่บริเวณจุดโทษของอิตาลี่
ให้กับโวลฟกังค์ โอเวอร์รัธที่ยืนว่างอยู่
มิดฟิลด์จอมเก๋าจัดการซัดด้วยซ้ายข้างถนัดเต็มที่
ลูกพุ่งผ่านมือของเอ็นริโก อัลเบอร์โตซี่
ผู้รักษาประตูของอิตาลี่ไปได้แล้ว
แต่ลูกบอลกลับพุ่งไปแฉลบคานบน ลอยออกหลังไปอีก
ประตูตีเสมอของเหล่าอินทรีเหล็ก ก็ยังมาไม่ถึงอีกครั้ง !!!




[ อูเว่ เซเลอร์ กับตันทีมอินทรีเหล็กลุยแหลกเพื่อทวงประตูตีเสมอให้ได้ ]



เวลา 10 นาทีที่เหลืออยู่เยอรมันลุยแหลก
และก็น่าที่จะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุดเมื่อ
โวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ แทงทะลุตัดแผงหลัง
ไปให้กับเจอร์เก้น กราบรอสกี้ในเขตโทษของอิตาลี่
อัลเบอร์โตซี่ พุ่งออกมาสกัด แต่กราบรอสกี้ยิงสวนทันที
ลูกที่พุ่งผ่านอัลเบอร์โตซี่ ไปแล้วนั้น กลับมีโรเบอร์โต้ โรซาโต้
ใช้ตัวบังที่หน้ากรอบประตู กระดอนกลับออกมา
อูเว่ เซเลอร์อยู่ตรงนั้นจะเข้ามาซ้ำแต่กลับโดน
มาริโอ เบอร์ตินี่เหนี่ยวจนล้มลงไป
เกิร์ด มุลเลอร์ พุ่งเข้ามายิงดีดๆด้วยขวาแบบไม่ถนัดนัก
ลูกจึงชนคานบนกระดอนออกหลังไปแบบน่าเสียดายสุดๆ




[ อัลเบอร์โตซี่ออกมาชกบอลก่อนที่จะหลุดไปถึงเกิร์ด มุลเลอร์ ]



ต่อมา ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ก็ต้องออกไปปฐมพยาบาลที่ข้างสนาม
เมื่อเจอลูกหนักจากผู้เล่นของทีมอิตาลี่
แพทย์ประจำทีมตรวจดู ก็พบว่าไหล่ขวาของเขาหลุด
ยอดขุนพลใจเพชรกลับไม่ยอมที่จะถูกเปลี่ยนตัวออก
แต่ได้ร้องขอให้เอาเทปกาวมาพันรัดรอบแขนและไหล่ของเขา
และกลับลงไปเล่นอีกครั้งหนึ่ง อย่างหน้าตาเฉย !!!




[ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ถึงกับร่วงเมื่อเจอเก็บจากนักเตะอัซซูรี่ ]



เหลือเวลาอีกเพียง 30 วินาทีเท่านั้น….
เหล่าขุนพลอินทรีเหล็กทั้ง 10 ขึ้นมาอยู่ในแดนของอิตาลี่ทั้งหมดแล้ว
ต่างเปิดเกมลุยแหลกต้องการประตูเพื่อตีเสมอให้ได้
แผงหลังของอิตาลี่และเอ็นริโก อัลเบอร์โตซี่
นายทวารด่านสุดท้ายของทัพอัซซูรี่โดนกดดันขนาดหนัก
เสียลูกเตะมุมติดต่อกันถึง 3 หน แบบเจียนอยู่เจียนไป
นักเตะของอิตาลี่ตอนนี้ทำได้อย่างเดียว
คือเตะลูกทิ้งออกไปให้ไกลๆจากหน้าประตูของตัวเอง




[ เบ็คเคนบาวเออร์สวมหัวใจสิงห์ใช้เทปพันไหล่ก่อนกลับลงสนามอีกครั้ง ]



กรรมการยามาซากิดูนาฬิกาเตรียมที่จะเป่านกหวีดจบเกมแล้ว
อินทรีเหล็กบุกครั้งสุดท้าย.....
จากลูกทุ่มซิกกี้ เฮลด์ ที่เพิ่งจะลงมาแทนเบิร์น พาสเก้ ในนาทีที่ 63
ทุ่มลูกมาให้กับเจอร์เก้น กราบรอสกี้ ทางด้านซ้ายของสนาม
กราบรอสกี้ ไม่มีจับเปิดบอลมาที่หน้าปากประตูของอิตาลี่ทันที
ในขณะที่แผงหลังของอิตาลี่ไม่ทันระวังตัว
ที่ตรงบริเวณจุดโทษของอิตาลี่นั้น
คาร์ลไฮนซ์ ชเนลิงเจอร์ฟูลแบ็คที่เล่นอยู่กับทีมเอซี มิลานในอิตาลี่
แอบมายืนอยู่โล่งๆตรงนั้นได้อย่างไรไม่มีใครจะรู้ได้
เมื่อลูกบอลลอยมาถึง ชเนลิงเจอร์กระโดดแปด้วยเท้าขวา
ส่งลูกลอยผ่าน อัลเบอร์โตซี่ เข้าประตูไป ....
1 – 1
อินทรีเหล็กฟื้นกลับขึ้นมาจากความตายอีกครั้งหนึ่งแล้ว !!!




[ จังหวะที่ คาร์ลไฮนซ์ ชเนลิงเจอร์ ทำประตูตีเสมออิตาลี่ได้ก่อนหมดเวลา ]



เหล่าผู้เล่นของทีมเยอรมันดีใจ จนแทบคลั่ง
ท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่านักเตะอัซซูรี่
ชัยชนะที่กำลังจะได้รับนั้น
ได้ถูกกระชากกลับให้มาเท่ากันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อลูกถูกนำมาเขี่ยที่กลางสนามอีกครั้งกรรมการยามาซากิ
ก็เป่านกหวีดเป็นสัญญาณว่า เวลา 90 นาทีของเกมได้หมดลง
และเกมนี้ก็จะต้องไปสู้กันต่อ
ในช่วงของการต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
และมันจะเป็น 30 นาที......

ที่จะต้องถูกกล่าวถึงกันไปอีกตลอดกาล !!!




[ อัลเบอร์โตซี่โวยกองหลังที่ไม่ยอมประกบชเนลิงเจอร์ ]



เกมในช่วงของการต่อเวลาเริ่มขึ้น
ผู้เล่นของทั้งสองทีมต่างแสดงให้ผู้ชมได้เห็นถึง
ทักษะฟุตบอลในระดับสูงและแทกติกของทีมระดับโลกที่มีอยู่ใน
ตัวนักเตะของทั้งสองทีมนี้
เมื่อเข็มบอกเวลาผ่านไปเท่าใด
ความตึงเครียดของทั้งสองทีมก็ยิ่งมีเพิ่มมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย




[ เฮลมุต เชิร์นติวเข้มเซเลอร์ และ มุลเลอร์ก่อนการลงเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ ]



ในช่วงของการต่อเวลา
การเปลี่ยนตัวลงมาของปีกขวาอันตราย
ไรน์ฮาร์ด ลิบูด้าได้สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าแก่แผงหลังของอิตาลี่
เช่นเดียวกับที่ทางบัลแกเรียและอังกฤษ
ได้เผชิญมาแล้วก่อนหน้านี้
ลิบูด้าเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมทำเอาเจียซิโต ฟัคเชตติ้
ของทางอิตาลี่หัวปั่นไปเลยทีเดียว
ลิบูด้าได้จังหวะเปิดบอลเข้ากลางมาให้เกิร์ด มุลเลอร์โขกจ่อๆ
แต่อัลเบอร์โตซี่ก็พุ่งปัดออกหลังไปได้อีก....




[ อัลเบอร์โตซี่นายทวารอิตาลี่ป้องกันพายุการบุกของเยอรมันเต็มกำลัง ]



ในนาทีที่ 94 จากลูกเตะมุมทางปีกขวา
ลิบูด้าเปิดโด่งมาเข้าหัวของอูเว่ เซเลอร์
ที่โหม่งต่อเข้าไปที่หน้าปากประตูของทีมอิตาลี่
แต่ ฟราบิซิโอ โพเล็ตติ ที่เพิ่งจะลงมาเล่นแทนโรเบอร์โต้ โรซาโต้
ที่ประกบตายเกิร์ด มุลเลอร์ มาตลอดทั้งเกม
ดันไปเล่นพักอกกะจะคืนหลังให้กับผู้รักษาประตู
ด้วยวิญญาณดาวซัลโวของไอ้ลูกระเบิดจากจังหวะสับสนนี้
เกิร์ด มุลเลอร์ ฉกฉวยมันแปรเปลี่ยนไปเป็นสกอร์ในทันทีทันใด
เขาปาดหน้าอัลเบอร์โตซี่ แล้วรีบจัดการตวัดบอล ค่อยๆไหลเข้าประตู
ให้อินทรีเหล็กพลิกกลับมานำอิตาลี่ไปเป็น 2 ประตูต่อ 1 แล้ว.....




[ เกิร์ด มุลเลอร์พังประตูให้อินทรีเหล็กพลิกกลับขึ้นมานำอิตาลี่ 2 - 1 ]



อิตาลี่ไม่ยอมตายง่ายๆแน่….
ถัดมาอีกเพียง 4 นาที แบร์ตี้ โฟ้กท์ส ไปหวดลุยจิ ริว่า
ล้มลงที่หน้ากรอบเขตโทษ
กรรมการให้อิตาลี่ได้ลูกโทษ 2 จังหวะ
เจียนนี่ ริเวียร่าเปิดบอลโด่งเข้ามาที่หน้าประตูเยอรมัน
ซิกี้ เฮลด์ ทำผิดพลาดมหาศาลเมื่อดันไปใช้อกพักบอลลงมา
เพราะลูกดันไปเข้าทางปืนของทราซิซิโอ เบิร์กนิก
ที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดิบพอดี
จ่อๆแบบนี้ไม่มีเหลือ.....
2 - 2
โอกาสแพ้ - ชนะ ในเกมนี้ กลับมาเท่ากันอีกครั้งหนึ่งแล้ว !!!




[ ทราซิซิโอ เบิร์กนิก หวดประตูให้อิตาลี่ตามมาตีเสมอ 2 - 2 ]



ในนาทีที่ 104 ของการต่อเวลา
ลิบูด้า ลากบอลจี้เข้าไปในแดนของทีมอิตาลีอีกครั้ง
แต่เขาโดนลุยจิ ริว่า สกัดล้มลงไปแต่กรรมการยามาซากิกลับเฉย
จากจังหวะนี้อิตาลี่ฉวยโอกาสตีโต้กลับอย่างรวดเร็ว
เมื่อ เจียนนี่ ริเวียร่า ฉกบอลมาได้
เขาเหลือบไปเห็นโดเมงกินี่ว่างอยู่ทางปีกซ้าย
จึงจ่ายบอลไปให้อย่างรวดเร็ว
และโดเมงกินี่ก็เปิดบอลต่อมาที่กรอบเขตโทษของเยอรมัน
ให้กับ ลุยจิ ริว่า ที่ใช้เท้าซ้ายจับบอลลง
และล็อกบอลหลบคาร์ลไฮนซ์ ชเนลิงเจอร์
ด้วยเท้าซ้ายข้างเดียวกันนั้นเอง
ก่อนที่จะจัดการซัดลูกเลียดด้วยอีซ้ายข้างเดิม
เสียบเข้ามุมเสาผ่านมือของเซปป์ ไมเออร์
ไปนอนสงบนิ่งที่ก้นตาข่าย
ให้อิตาลี่ ฉีกหนีเยอรมันตะวันตก
ออกไปอีกเป็น 3 ประตูต่อ 2 !!!




[ ซ้ายผ่านตลอดของลุยจิ ริว่า สร้างสกอร์ 3 - 2 ให้ทัพอัซซูรี่ ]



15 นาทีแรกของสงครามถล่มประตูจบลงไปด้วยความระทึกใจ
ทั้งสองทีมต้องสลับแดนกันก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม
เยอรมันพยายามเปิดเกมบุกเพื่อทวงประตูที่เสียไปคืนมาอย่างหนัก
จากปีกซ้ายโวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ บุกตะลุยเข้ามาได้
ก่อนที่จะเปิดมาให้กับอูเว่ เซเลอร์ได้โหม่งจ่อๆ
แต่ อัลเบอร์โตซี่ ก็ยังไวทายาด ทุบลูกออกหลังไปได้อีก
เยอรมันได้ลูกเตะคอนเนอร์....



[ เกิร์ด มุลเลอร์ พุ่งโหม่งทำให้สกอร์กลับมาเสมอกันอีกครั้ง 3 - 3 ]



ในนาทีที่ 110 จากมุมสนาม
เจอร์เก้น กราบรอสกี้เล่นสั้นกับ ไรฮาร์ด ลิบูด้า
ก่อนที่จะเปิดมาให้กับเซเลอร์โหม่งตั้งต่อมาที่หน้าปากประตู
ในระหว่างช่องว่างที่ อัลเบอร์โตซี่ กับ ริเวียร่า เกี่ยงกันเล่นนั้น
เกิร์ด มุลเลอร์ ก็ทะยานกายพุ่งโหม่งเช็ดบอลเข้าประตูไป
ให้อินทรีเหล็กตามล่าตามล้าง ไล่กลับมาตีเสมออิตาลี่อีกหน
เป็น 3 ประตูต่อ 3 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
และนับเป็นการพังประตูลูกที่ 10 ของไอ้ลูกระเบิด
ในฟุตบอลโลก 70 นี้แล้ว !!!




[ อัลเบอร์โตซี่ นายทวารอิตาลี่โวยใส่ริเวียร่าหลังปล่อยให้มุลเลอร์ยิงประตูได้ ]



อิตาลี่เอาลูกกลับมาเขี่ยใหม่ที่กลางสนาม
และ เจียนนี่ ริเวียร่า ก็เห็นโรเบอร์โต โบนิงเซ็งญ่า
ยืนว่างเรียกบอลอยู่ที่มุมด้านซ้าย
เขาจึงจ่ายบอลไปให้อย่างรวดเร็ว
วิลลี่ ชูลส์ ที่เหนื่อยล้าพยายามวิ่งตามเข้าไปประกบแต่ก็ไร้ผล
โบนิงเซ็งญ่าพาบอลลากจี้เข้าหาเส้นหลัง
ก่อนที่จะเปิดย้อนมาที่หน้าประตูของอินทรีเหล็ก



[ เจียนนี่ ริเวียร่า โกลเด้นบอยของทีมเอซี มิลาน และ อิตาลี่ ]



ตรงบริเวณจุดโทษนั้นไม่มีกองหลังของเยอรมันคนไหนยืนคุมอยู่เลย
แต่กลับมีเพียง เจียนนี่ ริเวียร่า ที่ยืนว่างโล้งโจ้งอยู่
โกลเด้น บอย ของวงการฟุตบอลอิตาลี่วิ่งเข้ามาแปบอลอย่างบรรจง
ส่งลูกวิ่งสวนทาง เซปป์ ไมเออร์ เข้าประตูไป
เจียนนี่ ริเวียร่า แก้ตัวจากการที่ประกบเกิร์ด มุลเลอร์พลาด
กลับมาเป็นฮีโร่ผู้ยิงประตูสุดสำคัญให้ทีมอิตาลี่
พลิกกลับขึ้นมานำอินทรีเหล็กออกไปอีกครั้ง ..... 4 ประตูต่อ 3
อย่างสุดเหลือเชื่อ !!!




[ เจียนนี่ ริเวียร่า กับประตูตอกฝาโลงฝังอินทรีเหล็ก 4 - 3 ]



9 นาทีสุดท้ายที่เหลืออยู่...
เหล่าขุนพลอินทรีเหล็กที่ตอนนี้เหนื่อยล้าเต็มทน
เพราะต้องเล่นในเกมต่อเวลามา 2 นัดติดๆกัน
ทำให้เร่งทำเกมบุกไม่ขึ้นเสียแล้ว
อีกทั้งที่บริเวณหน้าประตูในกรอบเขตโทษของอิตาลี่นั้น
คลาคล่ำไปด้วยเหล่าบรรดานักเตะอัซซูรี่ทั้งทีม
ที่ลงไปแพ็คเกมรับแน่น
ไม่ยอมผิดพลาดให้เยอรมันตามมาตีเสมอได้อีกครั้ง




[ เซปป์ ไมเออร์แทบแทรกแผ่นดินหนีหลังโดนริเวียร่าซัดประตูชัยในนาทีที่ 111 ]


เมื่อครบ 120 นาทีของเกมแห่งความทรงจำนี้
อิตาลี่ อดีตแชมป์โลกสองสมัยก็ทำได้สำเร็จ
ด้วยการเอาชนะเยอรมันตะวันตก
ไปได้อย่างสุดมัน และ ระทึกจิต ด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ 3




[ เฮลมุต เชิร์นปลอบใจเกิร์ด มุลเลอร์หลังเกมพ่ายอ้ซซูรี่ ]



ผ่านเข้าไปแย่งชิงถ้วยทองคำจูลส์ ริเมต์
กับทีมบราซิลในนัดชิงชนะเลิศต่อไป
ส่วนเหล่าขุนพลอินทรีเหล็กที่สู้จนสุดหัวใจแล้วนั้น
ก็ต้องอกหักไปเล่นในนัดชิงตำแหน่งที่ 3 กับทีมอุรุกวัย
ในอีก 3 วันต่อมาแทน......




[ เจียนนี่ ริเวียร่า ปลอบใจ คาร์ลไฮนซ์ ชเนลิงเจอร์ เพื่อนร่วมทีมเอซี มิลาน ]



นัดชิงตำแหน่งที่ 3 ของสองทีมอกหักนั้น
มีขึ้นที่สนามอัซเตก้า ในเมื่องเม็กซิโก ซิตี้ เช่นเดิม
ท่ามกลางแฟนฟุตบอลกว่า 104,403 คนที่เข้ามาชมเกมนี้
ทั้งสองทีมต่างส่งตัวสำรองลงเล่นในหลายตำแหน่ง




[ อูเว่ เซเลอร์ แลกธงกับ หลุยส์ ยูบินากับตันทีมอุรุกวัยในนัดชิงที่ 3 ]



ทางอินทรีเหล็กนั้นเฮลมุต เชิร์นได้ให้
ฮอร์ส โวลเตอร์ ผู้รักษาประตูมือสองลงเล่น รวมทั้งโวลฟกังค์ เวเบอร์
และในนัดนี้ก็เป็นเกมนัดสุดท้าย
ที่ อูเว่ เซเลอร์ ยอดกับตันทีมที่ผ่านฟุตบอลโลกมา 4 สมัย
จะลงเล่นเป็นนัดอำลาทีมอินทรีเหล็กด้วย......




[ ฮอร์ส โวลเตอร์ผู้รักษาประตูสำรองของเยอรมันออกมาตัดบอลในเกมนัดชิงที่3 ]



เกมแห่งศักดิ์ศรีนี้ ทั้งสองทีมต่างเล่นกันแบบเต็มที่
เปิดเกมบุกใส่กันตลอดอย่างน่าดู
แต่กลับมีประตูเกิดขึ้นเพียงลูกเดียวในนาทีที่ 26
เมื่อ ไรน์ฮาร์ด ลิบูด้า ได้จังหวะกระชากขึ้นมาทางด้านขวา
ก่อนที่จะเปิดมาให้กับ อูเว่ เซเลอร์ ที่เล่นสูตรเดิม
โหม่งตั้งย้อนกลับมาที่หน้าประตูให้กับ เกิร์ด มุลเลอร์ เล่น
แต่คราวนี้ไอ้ลูกระเบิดโดนกองหลังอุรุกวัยประกบติด
จึงส่งบอลไหลคืนกลับมาให้ โวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ
ซัดด้วยอีซ้าย เสียบเข้ามุมประตูของอุรุกวัยไปอย่างสวยงาม




[ ประตูชัยของโวลฟกังค์ โอเวอร์รัธทำให้อินทรีเหล็กคว้าตำแหน่งที่ 3 ]



ทำให้เมื่อจบเกม…….
อินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตก
เอาชนะทีมอุรุกวัยไปได้1 ประตูต่อ 0
คว้าตำแหน่งที่ 3 ฟุตบอลโลกเม็กซิโก 1970 ไปครอง
เป็นรางวัลปลอบใจ....




[ เกิร์ด มุลเลอร์ เป็นดาวซัลโวฟุตบอลโลก 1970 หลังซัดไป 10 ประตู ]



ก่อนที่จะกลับไปเตรียมทีมให้สมบรูณ์พร้อม
เพื่อสู้ในศึกฟุตบอลโลกครั้งหน้าในปี ค.ศ 1974
ที่เยอรมันตะวันตกจะได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ
จัดศึกขึ้นมาในอีก 4 ปีข้างหน้า
ที่ตำแหน่ง " แชมป์โลก " คือโจทย์ที่ท้าทาย
ต่อบุนเดสเทรนเนอร์เฮลมุต เชิร์น
และเหล่าขุนพลอินทรีเหล็กทุกคน !!!



[ บรรดาขุนพลอินทรีเหล็กแห่ธงชาติเม็กซิโกอำลาเวิล์ดคัพ 1970 ]


.......................................................................................................
~ พบกับย้อนตำนานอินทรีเหล็ก ตอนที่ 9 ( อินทรีเหล็กแชมป์ยุโรป 72 )
ที่นี่ อีกไม่นานเกินรอครับผม......................^_^









 

Create Date : 25 ตุลาคม 2551
24 comments
Last Update : 20 กรกฎาคม 2555 21:49:53 น.
Counter : 2758 Pageviews.

 

ขอโทษที่งอแง

 

โดย: HastaLaVista 25 ตุลาคม 2551 5:22:54 น.  

 

ร๊อกกี้บาบู

อยากอ่านเรื่องหนังบ้างอ่ะ

รีเควส รีเควส!!!!!!!!!!!!!!!

 

โดย: HastaLaVista 25 ตุลาคม 2551 5:24:18 น.  

 

ก่อนอื่นขอตอบ Tag คุณน้องอ๊าสต้าฯ

ตามที่ได้สัญญาเอาไว้ก่อนจ๊า....


1. อยากทำอะไรที่สุด:

~ อยากนอน เพราะง่วงแล้ว !!!


2. อยากกินอะไรที่สุด:

~ กินโจ๊กหมูใส่ไข่ ก่อนที่จะนอนอ่ะ


3. อยากฟังเพลงอะไรที่สุด:

~ ไม่อยากฟังเพราะตาจะปิดแล้ว !!!


4. อยากอ่านการ์ตูนอะไรที่สุด:

~ ไม่ได้อ่านการ์ตูนมาจะ 5 ปีแล้ว


5. อยากดูหนังเรื่องอะไรกับใคร:

~ 007 กะสาวของบอนด์คนใหม่ !!!


6. อยากไปไหนที่สุด:

~ ไม่อยากไปไหนเลย เพราะแค่นี้ก็ไม่ค่อยได้อนู่บ้านแล้ว


7. อยากเจอใครที่สุด:

~ คนที่ทำให้ต้องมานั่งตอบ Tag อยู่นี่ไง วู้ !!!


8. อยากบอกอะไรกับคนที่ชอบ:

~ ตอนนี้ยังคิดไม่ออก


9. อยากทำอะไรเมื่อเจอคนในข้อ 7. :

~ ก็บอกว่าบังคิดไม่ออก ไงเล่า !!!


10. อยากใส่ชุดอะไร:

~ ไม่อยากใส่


11. โตขึ้นอยากเป็นอะไร:

~ เปลี่ยนเป็นตอนแก่ ไม่ได้เหรอ


12. อยากแก้ไขนิสัยตัวเองตรงไหน:

~ อยากใจเย็นกว่านี้


13. อยากศัลยกรรมอะไร:

~ Perfect อยู่แล้วไม่ต้องทำ


14. อยากมีหุ่นเหมือนใคร:

~ โรนัลโด้ อ่ะ โปรตุเกสนะไม่ใช่แซมบ้า !!!


15. อยากมีน้ำหนักกับส่วนสูงเท่าไร:

~ 80 / 185 ก็แจ่มเลย


16. อยากทำผมทรงอะไร:

~ อยากโกนผมมากกว่า !!!!


17. อยากเรียนอะไรเพิ่มอีกมั้ย:

~ ภาษาฝรั่งเศส


18. อยากอยู่ที่ทำงานแบบไหน:

~ อยากทำงานที่บ้าน


19. อยากให้ที่ทำงานแก้ไขอะไร:

~ เพิ่มเงินเดือนลดงานลง


20. อยากให้ประเทศแก้ไขอะไร:

~ ป ฏิ วั ติ เ ล ย ดีมั้ยอ่ะ ???


21. อยากอยู่ในโลกแบบไหน:

~ Matrix


22. อยากให้โลกแก้ไขอะไร:

~ ไม่รู้ !!!


23. อยากอยู่กับใครมากที่สุด:

~ ไม่บอก !!!


24. ถ้ามีเงิน 1 แสนล้านอยากทำอะไร:

~ ก็เอามันมาใช้อ่ะดิ ถามได้


25. ถ้าเลือกเกิดได้อยากเกิดที่ไหน:

~ Espana


26. ถ้าเจอโดเรม่อนอยากจะขออะไร:

~ ขอค๊อปเตอร์ไม้ไผ่


27. ถ้าบินได้อยากบินไปไหน:

~ ไปเรื่อยๆ


28. ถ้าอีก 1 ชม. โลกจะแตก อยากทำอะไร:

~ นอนหลับ !!!


29. อยากตายแบบไหนมากที่สุด:

~ ตายตาหลับ


30.อยากพูดอะไรในตอนนี้:

~ เสร็จแล้ว............. ง่ ว ง น อ ..นนนนนน !!!!!!

................................................................................

หากเช้านี้ ใครหลงเข้ามาอ่านก็........

" อรุณสวัสดิ์ " นะครับผม.....

 

โดย: Romancini 25 ตุลาคม 2551 5:30:18 น.  

 

^
^
^

วู้ !!!!

รีบมาชิงตัดหน้าทำไมเนี่ย.....ยังตอบ tag ไม่เสร็จเล๊ย!!!!

 

โดย: Romancini 25 ตุลาคม 2551 5:32:47 น.  

 

ก๊ากกกกกกกกกกกกกกก

ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอต้นรับ ร๊อกกี้ขี้งก สู่ไซออน(หรือไส้อั่ววะ!!!)

กรี๊ดดดดด ข้อ 13. เนี่ยะ จริงหรือนั่น ขำหว่ะ

ข้อ 14. มันยากกว่าการเกิดใหม่หลายเท่านะ

ข้อ 25. ไปด้วยยยยยยยยยยยยย

แต๊งค์กิ้วนะ อิอิ ทรมานคนแก่หรือเปล่านั่น

.................Je pe'nse que toi...............

 

โดย: HastaLaVista 25 ตุลาคม 2551 6:20:10 น.  

 

อืมมมม นะ เรื่องบอลน่ะ

ขี้เกียจตอบโต้คืน ยกให้หนี่งวัน

เห้อ....

หายอีกแล้ว

ของฝากครับของฝาก

เอาเป็นกุนเชียงนะ อยากกินอ่ะ

เดินทางปลอดภัยนะร๊อกกี้บาบู

 

โดย: HastaLaVista 26 ตุลาคม 2551 7:19:28 น.  

 

13. อยากศัลยกรรมอะไร:

~ Perfect อยู่แล้วไม่ต้องทำ

เออ..คุณร๊อกกี้ แน่ใจเหรอคะ ที่ตอบมาน่ะ อิอิ

-------------------------

ขอบคุณสำหรับดอกไม้ที่เอาไปฝากนะคะ ชอบๆๆๆ
ขอให้มีความสุขสำหรับวันอาทิตย์ (ฝนตก) เช่นกันค่ะ

 

โดย: พ่อระนาด 26 ตุลาคม 2551 8:14:11 น.  

 

เอ้า ฮึ่ย!!!

หงส์ชนะหอย เอ้า!!! เฮ้

(ที่ทำไปน่ะ เสแสร้ง หลังจากนั้นแอบไปอ้วกหว่ะ)

ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 

โดย: HastaLaVista 27 ตุลาคม 2551 5:01:50 น.  

 

โห......พี่ร๊อค ขยันม๊ากกก

อัพบล็อกอย่างยาวเลย

แถมยังตอบ tag ด้วย

นอนดึก ตื่นเช้า ทำงานไรอ่ะ

ชักงงๆ นอนวันละกี่ชั่วโมงเนี่ย

 

โดย: กิ๊กมืออาชีพ 27 ตุลาคม 2551 15:35:19 น.  

 

หวัดดีร๊อกกี้บาบู

 

โดย: HastaLaVista 28 ตุลาคม 2551 6:33:55 น.  

 

' ดีค่า

วันนี้ตื่นเช้า

เลยมาเสนอหน้าแต่เช้า

อิ อิ

 

โดย: กิ๊กมืออาชีพ 28 ตุลาคม 2551 6:36:00 น.  

 

`ช่วงนี้ดีกรีความเครียดเกือบจะพุ่งทะลุสมองไปแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตถึงวุ่นวายได้ทุกวัน หมดกำลังอั๊พบล๊อก เฮ้อออ

แวะมาทักทายเฉยๆก่อน

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 28 ตุลาคม 2551 23:32:45 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณร๊อก

ป้าเพิ่งกลับมาวันนี้เอง
พาญาติ ๆ ไปเที่ยวทำบุญเสียหลายวัน
ป้า เอาบุญมาฝากคุณร๊อกด้วยนะคะ
สาธุ สาธุ รับหน่อยค่ะ...

ตอนนี้ต้องเร่งรีบเคลียร์งานก่อน
เสร็จแล้วจะมาอ่านเรื่องอินทรีย์เหล็กต่อ..นะคะ

ขอให้คุณร๊อกมีความสุขมาก ๆ นะคะ


พุธ.. สดใส ใจ.. สุขสุด
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

 

โดย: พรหมญาณี 29 ตุลาคม 2551 12:19:46 น.  

 

แวะกลับมาอ่านได้แระ....

แต่...ในที่สุด เยอรมัน ก็ฝันค้างอีกครั้ง
ได้แคที่ 3.... เฮ้อ...เหนื่อยแทน

อิตาลี น่ะ เค้ามักจะเป็นแบบว่า จะตกรอบ ๆ
แต่สุดท้ายก็มีลุ้น.....ทุกที......

ไง ๆ เราก็เหนียวแน่นกะอินทรีย์..ต่อไป..เนอะ

ขอบคุณหลาย ๆ นะคะ ที่นำเสนอเกมส์.....สุดมันส์
รออ่านตอนต่อไป...ชัวร์....ค่ะ

 

โดย: พรหมญาณี 29 ตุลาคม 2551 16:23:35 น.  

 

มาส่งความระลึกถึงรายวัน..ค่ะคลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: พรหมญาณี 30 ตุลาคม 2551 11:06:20 น.  

 

สวัสดีจ้า ร๊อกกี้จัง...

เป็นไงบ้างอ่ะ

เออ หนังเนี่ยะมันส์จริงๆ นะ

ว่าแต่จะนอนหนึ่งวันเลยเหรอ นั่นนอนหรือสลบกันแน่ฟระ!!

 

โดย: HastaLaVista 31 ตุลาคม 2551 5:27:22 น.  

 

 

โดย: พรหมญาณี 31 ตุลาคม 2551 10:16:16 น.  

 

หวัดดีลุง

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 31 ตุลาคม 2551 11:55:26 น.  

 

เป็นไงบ้าง

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 31 ตุลาคม 2551 11:58:26 น.  

 

อาอี๊ต่าย ก็ไม่ได้หายไปไหนหรอก อยู่แถวๆนี้แหละ

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 31 ตุลาคม 2551 11:59:47 น.  

 

ทีหลังนะถ้าอยากเจอใช้จุดธูปเรียกก็ได้เดี๋ยวจะมาหา

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 31 ตุลาคม 2551 12:00:53 น.  

 

นานๆมาที เอาให้คุ้มหน่อย นี่เรียกว่าเกรงใจนะ
ไม่งั้นอีกหลายแน่ๆ เดี๋ยวคอยดู ต้องมีเพื่อนสาวมาเหน็บแน่นอน ไปแล้วนะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ



กริ๊ป กริ้ววววววววววววววววววววววววววววววว

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 31 ตุลาคม 2551 12:10:37 น.  

 

^
^
^
ถูก ต้อง นะ คร๊าบบบบบบบบ!!!!!

นี่ๆๆ fifpro world player 2007-2008

ใครได้รางวัลอ่ะ หล้อหล่อ

ใครยิงเวสต์แฮม สองลูก ฟระ!!! หล้อ หล่อ

วูยยยยย หล่อ วุ๊ย!!!

 

โดย: HastaLaVista 31 ตุลาคม 2551 12:18:34 น.  

 

เฮ้!!! ร๊อกกี้บาบู

หลับหรือตายฟระ!!!

ทำไมยังไม่มาอีกเนี่ยะ

เห้อ...เซ็งเป็ด

 

โดย: HastaLaVista 1 พฤศจิกายน 2551 8:01:45 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Romancini
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ชายธรรมดา มีความฝันที่ยังไปไม่ถึง แต่ไม่เคยคิดท้อที่จะทำความฝันนั้น ให้เป็นจริง...

" SHINE ON YOU CRAZY DIAMOND "

Remember when you were young, you shone like the sun.
Shine on you crazy diamond.
Now there's a look in your eyes, like black holes in the sky.
Shine on you crazy diamond.
You were caught on the crossfire of childhood and stardom, blown on the steel breeze.
Come on you target for faraway laughter, come on you stranger, you legend, you martyr,
and shine!

You reached for the secret too soon, you cried for the moon.
Shine on you crazy diamond.
Threatened by shadows at night, and exposed in the light.
Shine on you crazy diamond.
Well you wore out your welcome with random precision, rode on the steel breeze.
Come on you raver, you seer of visions, come on you painter, you piper, you prisoner,
and shine!

Nobody knows where you are, how near or how far.
Shine on you crazy diamond.
Pile on many more layers and I'll be joining you there.
Shine on you crazy diamond.
And we'll bask in the shadow of yesterday's triumph, and sail on the steel breeze.
Come on you boy child, you winner and loser, come on you miner for truth and delusion,
and shine!

Totó and Alfredo - ENNIO MORRICONE
Friends' blogs
[Add Romancini's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.