......Romancini......
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
18 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

ย้อนตำนานอินทรีเหล็ก ร่วมฉลอง100 ปีของทีมชาติเยอรมัน ( ตอนที่ 9 Champion of Europe 72 )








ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
2 ครั้งแรก ( 1960 , 1964 ) นั้น
ทีมอินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตกไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย
เนื่องมาจากสมาคมฟุตบอลของเยอรมันตะวันตก
มองว่าเป็นทัวนาเมนต์ที่ไม่มีความสำคัญ
และไม่น่าที่จะมีอายุอยู่ได้นานมากนัก
เพราะไม่มีทีมใหญ่ๆในยุโรปเข้าร่วมมากนัก
สู้เตรียมทีมเอาไว้ลงแข่งขันในศึกฟุตบอลโลก
แต่เพียงอย่างเดียวคงจะดีกว่า





แต่การณ์กลับไม่เป็นไปตามนั้น
ศึกฟุตบอลทัวนาเมนต์ของยุโรป
เริ่มที่จะเป็นที่สนใจของผู้ชมมากยิ่งขึ้นหลังจากจัดไป 2 ครั้ง
ทีมต่างๆที่เคยหันหลังให้อย่างเช่นทีม
ในกลุ่มสหราชอาณาจักรอย่าง อังกฤษ , สก๊อตแลนด์ ,
ไอร์แลนด์เหนือ และเวลส์
ต่างพากันมาเข้าร่วมบรรเลงแข้งด้วย
ซึ่งได้สร้างความคึกคักให้แก่ฟุตบอลรายการนี้ยิ่งขึ้น





และในศึกยูโร 1968
ทีมอินทรีเหล็กจึงได้เข้าร่วมในสงครามแข้งแห่งยุโรปเป็นครั้งแรก
โดยอยู่ในกลุ่มที่ 4 ของรอบคัดเลือก
ร่วมกับยูโกสลาเวีย และ อัลบาเนีย
โดยเอาเพียงทีมเดียวเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย
ที่อิตาลีรับเป็นเจ้าภาพ
และถึงแม้ว่าทีมอินทรีเหล็กจะมีผู้เล่น
ชุดรองแชมป์โลก 1966 อยู่อย่างครบถ้วน
และเปิดเกมได้อย่างสวยงามเมื่อ
ถล่มหมูน้อยอัลบาเนียไปถึง 6 ประตูต่อ 0
โดยไอ้ลูกระเบิดเกิร์ด มุลเลอร์ ซัดไปถึง 4 ประตู



[ เยอรมันตะวันตกพบอัลบาเนีย 1967 ]


แต่เกมนัดต่อมาที่เบลเกรด
อินทรีเหล็กกลับโดนยูโกฯเฉือนไปได้ 1 ต่อ 0
และทีมสลาฟก็ดับอัลบาเนียไปได้ในนัดต่อมาอีก 2 – 0
เกมในนัดล้างตาที่ฮัมบรูก์
อินทรีเหล็กก็คืนฟอร์มปูพรมถล่มทีมสลาฟแบบ
ครบต้นครบดอกด้วยสกอร์ 3 ต่อ 1
แต่ในนัดต่อมายูโกฯก็ทำคะแนนรวมในกลุ่ม
หนีอินทรีเหล็กออกไปอีก
เมื่อเปิดบ้านที่เบลเกรดสอนบอลอัลบาเนียไปแบบสบายๆ 4 – 0
ทำให้ในนัดสุดท้ายของกลุ่มนี้ที่ทีมเยอรมัน
ต้องยกพลไปเยือนเมืองตรีลาน่าของอัลบาเนียนั้น
แค่ชัยชนะก็จะทำให้อินทรีเหล็ก
โบยบินเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้



[ ปานาจ๊อต ปาโน่ นายทวารอัลบาเนียปฏิเสธประตูของเยอรมัน ]



แต่ก็มีเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นจนได้
เพราะรองแชมป์ฟุตบอลโลกอย่างทีมเยอรมัน
ไม่อาจที่จะพังประตูทีมสมันน้อยของยุโรป
ได้เลยแม้เพียงลูกเดียว
ทำให้เมื่อครบ 90 นาที
เกมจบลงด้วยผลเสมอ 0 – 0 อย่างล็อคถล่ม
อินทรีเหล็กต้องยุติบทบาทแรกในศึกยูโรหนแรกนี้
ที่รอบคัดเลือกเท่านั้น
ปล่อยให้ทีมยูโกสลาเวียเดินพาเหรด
เข้าไปเล่นในรอบ 4 ทีมสุดท้ายแบบงงๆ......



[ เหล่าขุนพลอินทรีเหล็ก ชุดฟุตบอลยุโรป 1972 ]



และในศึกยูโร 1972 หนนี้อินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตก
หวังจะใช้เป็นทัวนาเมนต์ที่จะกู้หน้าคืน
และใช้เตรียมทีมเพื่อใช้ในศึกเวิล์ดคัพ 1974
ที่ตนเองจะรับเป็นเจ้าภาพในอีก 2 ปีที่จะถึงอีกด้วย
หลังจากที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกในครั้งแรก
เมื่อปีค.ศ 1954 ที่สวิสเซอร์แลนด์แล้ว
ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทีมเยอรมันตะวันตก
จะมีทีมที่เต็มไปด้วยเหล่าผู้เล่นที่มีฝีเท้าและพรสวรรค์ที่สูง
หลากหลายตำแหน่งเท่ากับในช่วงเวลานี้มาก่อนอีกแล้ว




[ จุ๊ปป์ ไฮย์เก้ จอมเทคนิคจากทีมสิงห์หนุ่มโบรุสเซีย มึนเช่น กลัดบัค ]



ทีมของบุนเดสเทรนเนอร์เชิร์น
แทบจะมีความแข็งแกร่งและลงตัวไปหมด
เซปป์ ไมเออร์ ปักหลักเป็นนายทวารได้อย่างลงตัว
แผงหลังที่ได้รับการบัญชาเกมจาก
“ ไกเซอร์ ” ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ กับตันทีมนั้นสุดที่จะแกร่งดังหิน
เพราะมีทั้ง แบร์ตี้ โฟ้กท์ส จอมลุยจากกลัดบัค
และ 2 ปราการหลังจากทีมบาร์เยิร์นมิวนิคอย่าง
พอล ไบรท์เนอร์ และ จอร์จ ชวาร์เซนเบ็ค



[ พอล ไบรท์เนอร์ จอมคนหัวเอียงซ้ายจากทีมบาเยิร์น มิวนิค ]



โดยที่แผงมิดฟิลด์นั้น
อินทรีเหล็กได้เพชรเม็ดงามจากทีมโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
นาม กุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์
ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์
เสริมด้วยนักเตะจอมสร้างสรรค์ร่วมสโมสรเดียวกันอย่าง
ไรเนอร์ บอนฮอฟ ที่สร้างผลงานได้เยี่ยมยอด
ในบุนเดสลีก้ามาแล้ว



[ กุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์ จอมทัพจากทีมโบรุสเซีย มึนเช่น กลัดบัค ]



ทางด้านแดนหน้านั้น
ทีมมีจอมถล่มประตูนามกระเดื่อง
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 70 ที่เม็กซิโก
อย่าง “ ไอ้ลูกระเบิด ” เกิร์ด มุลเลอร์
ก็สร้างความหวาดหวั่นให้แก่กองหลังของทุกทีม
ที่จะต้องเจอแล้ว ........



[ ลีลาของไอ้ลูกระเบิด เกิร์ด มุลเลอร์ ]


ไหนจะยังประกอบกับดาวยิงจากทีมโคโลญจน์
อย่างโจฮันเนส โรลว์
และปีกจอมกระชากนามเจอร์เก้น กราบรอสกี้
ที่โชว์ฟอร์มเยี่ยมตั้งแต่ฟุตบอลโลกมาแล้ว
ซึ่งถือเป็นการทดแทนการขาดหายไปของ อูเว่ เซเลอร์
ศูนย์หน้าจอมเก๋าของทีม
ที่อำลาแขวนสตั๊ดไปแล้วได้อย่างเหมาะสม......



[ อูลี่ เฮอเนส และ เกิร์ด มุลเลอร์ ดูโอจากทีมเสือใต้บาเยิร์น มิวนิค ]



ในศึกยูโร 1972
อินทรีเหล็กต้องลงเล่นในรอบคัดเลือกรอบแรกในกลุ่มที่ 8
ร่วมสายกับโปแลนด์ , ตุรกี และ อัลบาเนีย
ซึ่งดูแล้วไม่น่าที่จะเป็นงานที่ยากจนเกินไปนัก
มีเพียงทีมโปแลนด์
ที่มีดีกรีเป็นเจ้าของเหรียญทอง
ในกีฬาโอลิมปิคปี 1972 ที่มิวนิคที่ผ่านมา
เป็นทีมที่อาจจะสร้างปัญหาให้ได้เท่านั้น



[ 2 ศิลปินบนผืนหญ้า เน็ตเช่อร์ และ เบ็คเคนบาวเออร์ ]



แต่ไปๆมาๆแค่เพียงในนัดแรกกับทีมตุรกีที่โคโลญจน์
ในวันที่ 17 ตุลาคม 1970
อินทรีเหล็กก็ต้องเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอทีมเติร์กใน 1 – 1
ด้วยลูกจุดโทษของเกิร์ด มุลเลอร์
หลังจากที่โดนทีเด็ดจากยามูส คามูราห์น
ที่ส่องให้ตุรกีขึ้นนำไปก่อน……



[ เยอรมันตะวันตกเสมอกับกับตุรกีในยูโร 72 รอบคัดเลือกที่โคโลญจน์ ]


และในนัดต่อมาที่เมืองตีราน่าในอัลบาเนีย
ฟอร์มของอินทรีเหล็กก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น
เมื่อบุกแหลกแต่ก็หาจังหวะจบสกอร์หมูน้อยอัลบาเนียไม่ได้เลย
แต่ก็ยังพอจะมีโชค
เมื่อได้ประตูโทนในนาทีที่ 38 ของเกิร์ด มุลเลอร์
ช่วยให้เก็บชัยชนะกลับมาได้อย่างหวุดหวิด




[ เกิร์ด มุลเลอร์ ในเกมดับซ่าส์อัลบาเนียถึงติราน่า ]



และในเกมสำคัญต่ออนาคตของทีมอินทรีเหล็ก
ก็คือการยกพลไปเยือนตุรกี
ที่อิสตัลบูล ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1971
หลังจากที่เล่นเกมอย่างอึดอัดในช่วงแรกของเกม
ที่เกือบจะโดนทีมเติร์คส่องประตูไปได้หลายครั้งหลายหน
แต่ยังดีที่วันนี้ เซปป์ ไมเออร์ มีฟอร์มที่เฉียบคม
สกัดบอลที่น่าจะเป็นประตูขึ้นนำของทีมตุรกี
ไปได้โดยตลอดทำให้สกอร์ของเกมยังเสมอกันอยู่ 0 – 0




[ ไอ้ลูกระเบิดเล่นได้เยี่ยมในเกมเยือนตุรกีที่อิสตัลบูล ]



ก่อนที่แผงหลังของตุรกีจะพลาดท่า
ปล่อยให้เกิร์ด มุลเลอร์มีจังหวะ
และไอ้ลูกระเบิดก็ไม่มีพลาด
ส่องประตูให้อินทรีเหล็กทะยานออกนำเจ้าถิ่นไปก่อนนาทีที่ 43



[ ฮอร์ส ค๊อปเปลล์ ในจังหวะพังประตูทีมเติร์ค ]



และเมื่อครึ่งหลังเริ่มขึ้นมาเพียง 2 นาที
ไอ้ลูกระเบิดก็พังประตูที่ 2 ให้เยอรมันหนีตุรกีออกไปเป็น 2 ต่อ 0
แบบที่กองเชียร์เติร์คเงียบกริบไปทั้งสนาม
และในนาทีที่ 72
ฮอร์ส ค๊อปเปลล์ ดาวยิงจากทีมสตุ๊ดการ์ด
ก็มาซัดปิดเกมให้อินทรีเหล็กเอาชนะตุรกีไปได้
ในเกมที่สุดสำคัญ 3 ประตูต่อ 0



[ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์นำลูกทีมอินทรีเหล็กลงดวลกับโปแลนด์ ]



เกมนัดที่อินทรีเหล็กต้องยกพลไปเยือน
แชมป์โอลิมปิคโปแลนด์ที่กรุงวอร์ซอร์
มีขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ 1971
ท่ามกลางผู้ชมแน่นสนาม 63,300 คน
และเพียงในนาทีที่ 27 ของเกม โรเบิร์ต การ์โดช่าร์
ดาวยิงของทีมโปลฯก็ได้จังหวะส่องให้เจ้าบ้าน
ออกนำเยอรมันตะวันตกไปก่อน 1 – 0 อย่างรวดเร็ว



[ โรเบิร์ต การ์โดช่าร์ ดาวยิงตัวอันตรายของทีมโปลฯ ]



แต่ทีมโปลฯก็ดีใจได้แค่เพียง 2 นาทีเท่านั้น
เพราะในนาทีที่ 29 เกิร์ด มุลเลอร์
ก็ได้จังหวะซัดประตูให้อินทรีเหล็ก
กลับมาไล่ตีเสมอเจ้าบ้านได้สำเร็จ
ก่อนที่ในนาทีที่ 64 ของครึ่งหลังไอ้ลูกระเบิดมุลเลอร์
ก็ระเบิดตาข่ายทีมโปแลนด์
ให้เยอรมันพลิกกลับขึ้นมานำเป็น 2 – 1



[ เซปป์ ไมเออร์ โชว์ฟอร์มเยี่ยมในเกมเยือนวอร์ซอร์ ]


และในนาทีที่ 70 เจอร์เก้น กราบรอสกี้
ก็ยิงประตูตอกฝาโลงให้อินทรีเหล็ก
ถล่มโปแลนด์คากรุงวอร์ซอร์ไป 3 ประตูต่อ 1
อย่างยอดเยี่ยมที่สุด.......



[ เยอรมันตะวันตกปะทะโปแลนด์ ยูโร 72 รอบคัดเลือก ]



1 เดือนต่อมาที่สนามโฟ๊ลค์ปาร์คสเตเดี้ยม ในเมืองฮัมบรูก์
อินทรีเหล็กก็เล่นแบบสบายๆ
เสมอกับโปแลนด์ไปแบบโนสกอร์ 0 – 0
ลอยลำเข้าไปเล่นในรอบควอเตอร์ไฟนัล ต่อไป.....




[ ขุนพลอินทรีเหล็ก ชุดเยือนสิงโตคำรามที่เวมบลี่ย์ 1972 ]



รอบควอเตอร์ไฟนัลของศึกยูโร 72 นั้น
เป็นการเล่นในแบบเหย้า – เยือน
ผลัดกันเป็นเจ้าบ้านก่อนที่จะเอาผลสองนัดนั้น
มาตัดสินทีมที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 4ทีมสุดท้ายกันต่อไป
และก็เหมือนกับผีจับยัดให้เกิดบิ๊กแม็ทซ์ขึ้นในรอบนี้
เมื่อปรากฏว่า.....
อินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตก
ต้องจ๊ะเอ๋โคจรมาพบกับคู่รักคู่แค้นเก่า
นั้นก็คือทีมสิงโตคำรามอังกฤษอีกครั้ง
สร้างเรตติ้งให้ความน่าสนใจในฟุตบอลยูโรครั้งนี้
พุ่งกระฉูดขึ้นมาในทันที……



[ สองกับตันทีมฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ทักทายบ๊อบบี้ มัวร์ก่อนที่เกมจะเริ่ม ]



โดยเกมแรกในวันที่ 29 เมษายน 1972 นั้น
ทีมอังกฤษจะเปิดสนามเวมบลี่ย์
ต้อนรับการมาเยือนของอินทรีเหล็กก่อน.....
ฝูงชนกว่า 96,800 คนแห่นแหนกันเข้ามาจนเต็มความจุ
ของเมกกะลูกหนังแห่งสหราชอาณาจักร
เพื่อรอชมเกมของคู่รักคู่แค้นนี้



[ เซปป์ ไมเออร์ ออกมาตัดบอลของอังกฤษได้อย่างสวยงาม ]



เกมเริ่มต้นอย่างคู่คี่
ทั้งสองทีมต่างก็มีโอกาสที่ใกล้เคียงกับการเป็นผู้นำ
จนกระทั่งมาถึงนาทีที่ 26
เยอรมันตะวันตกก็ขึ้นนำไปก่อนเมื่ออูลี่ เฮอเนส
ศูนย์หน้าจากทีมบาร์เยิร์น มิวนิค
ได้จังหวะซัดลูกผ่านมือของกอร์ดอน แบ็งค์ส
นายทวารสิงโตคำรามเข้าไปได้.....



[ กอร์ดอน แบ็งค์ส ป้องกันลูกยิงของ อูลี่ เฮอเนส ไม่ได้ ]



เมื่อเจอทีเด็ดของทีมอินทรีเหล็กแบบนี้
เหล่านักเตะสิงโตคำรามก็วงแตกเริ่มดาหน้าบุกแหลก
พาบอลเข้าไปถล่มใส่ทีมเยอรมันราวพายุบุแคม




[ อูลี่ เฮอเนส กระโดดดีใจจนตัวลอยเมื่อพังประตูอังกฤษได้ถึงเวมบลี่ย์ ]



แต่วันนี้เยอรมันมีดีอยู่ที่
ยอดดาวเตะอัจฉริยะนามกุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์
ที่โชว์ฟอร์มการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ
บัญชาการเกมในแดนกลางของอินทรีเหล็กได้อย่างกับร่ายมนต์วิเศษ



[ กุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์ โชว์ฟอร์มเทพที่เวมบลี่ย์ ]



ทีมอังกฤษบุกหนักและก็สามารถที่จะทวงประตูคืน
กลับมาได้ในนาทีที่ 77
จากการยิงของฟรานซิส ลี
เกมในช่วงที่เหลือเริ่มระทึกอีกครั้ง
อังกฤษบุกกดดันเยอรมันอย่างหนัก
หวังที่จะบดเอาชนะในนัดแรกนี้ให้ได้



[ ฟรานซิส ลี ยิงประตูตีเสมอให้กับอังกฤษ ]



แต่ในนาทีที่ 85 เวมบลี่ย์ก็เงียบสนิทเมื่อกรรมการชาวฝรั่งเศส
นายโรเบิร์ท ไฮเลียร์ ให้ลูกโทษที่จุดโทษแก่ทีมเยอรมัน
และก็เป็นกุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์ ที่สังหารประตูเข้าไปอย่างเลือดเย็น
เหล่านักเตะอังกฤษเมื่อเจอเข้าไปแบบนี้ถึงกับช๊อค
เหมือนกับโดนสะกด !!!



[ กุนเธอร์ เน็ตเช่อร์ สังหารลูกจุดโทษอย่างเลือดเย็น ]



และไอ้ลูกระเบิดเกิร์ด มุลเลอร์
ก็ได้จังหวะสับไกส่งลูกผ่านมือของกอร์ดอน แบ็งค์ส
เข้าประตูไปอีกในนาทีที่ 88
ทำให้เมื่อเกมจบลงอินทรีเหล็กก็ถล่ม
เอาชนะสิงโตคำรามไปได้ 3 ประตูต่อ 1
โอกาสการเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายเปิดกว้างอย่างเต็มที่แล้ว.....




[ ไอ้ลูกระเบิดเกิร์ด มุลเลอร์ ในวินาทีสับไกประตูดับสิงโตคำราม ]



ในเกมต่อมาที่เบอร์ลิน อินทรีเหล็กก็เล่นแบบไม่กดดันอะไร
ดังนั้นผลเสมอกันด้วยสกอร์ 0 – 0
ก็เพียงพอให้อินทรีเหล็กโบยบิน
เข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายที่ประเทศเบลเยี่ยม
รับหน้าเสื่อเป็นโต้โผ
จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14 – 18 มิถุนายน 1972



[ อัพ แรมซี่ย์ และ เจฟฟ์ เฮิร์ส ยอมรับชะตากรรมหลังอังกฤษตกรอบในเกมที่เบอร์ลิน ]



ซึ่งมี 4 ทีมสุดท้ายที่สามารถฟันฝ่าเข้ามาเล่นในรอบนี้
ได้แก่ สหภาพโซเวียต
อดีตแชมป์ฟุตบอลยุโรปในครั้งแรก 1960
และเป็นรองแชมป์ในครั้งต่อมาที่สเปน 1964
ทีมต่อมาก็คือ “ แม็คย่าร์อันตราย ” ฮังการี่
อดีตยอดทีมในยุค 50 ที่ผ่านฝรั่งเศส และ โรมาเนีย
เข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายนี้ได้



[ 4 ทีมสุดท้ายในยูโร 1972 ]



เบลเยี่ยม ชาติเจ้าภาพที่พลิกล็อคถีบแชมป์เก่าอิตาลี่
รองแชมป์โลก 1970 ให้ตกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ !!!
ดังนั้นเมื่อมองตามหน้าเสื่อนี้แล้ว
โอกาสที่ทีมอินทรีเหล็กจะเป็นแชมป์ฟุตบอลยุโรปครั้งแรก
จึงอยู่ไม่ไกลเกินที่จะฝันได้.......




[ ทีมอินทรีเหล็กก่อนเกมดวลเบลเยี่ยม รอบรองยูโร 72 ]



ที่สนามโบซุยส์ สเตเดี้ยมในเมืองอันท์เวิร์บ
ลูกทีมของ เฮลมุต เชิร์น ลงเผชิญหน้าพบกับทีมเจ้าภาพเบลเยี่ยม
ท่ามกลางกองเชียร์เจ้าถิ่นแน่นขนัดจนสนามแทบแตก
อินทรีเหล็กเปิดเกมอย่างระมัดระวังไม่ผลีผลาม




[ พอล ฟอน ฮิมท์ และ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ก่อนเกมในรอบรองชนะเลิศ ]



แต่ก็เป็นเบลเยี่ยมที่เกือบจะได้ประตูขึ้นนำไปก่อน
เมื่อได้ลูกฟรีคิ๊กในแดนของทีมเยอรมันและพอล ฟอน ฮิมท์
ก็โยนไปที่หน้าประตูให้ ลีออน ชเมลลิ่ง
กระโดดโขกตัดหน้าเซปป์ ไมเออร์ นายทวารเยอรมันเข้าประตูไป
แต่อินทรีเหล็กยังมีโชคเมื่อไลน์แมนยกธงให้สัญญาณว่า
ชเมลลิ่งยืนล้าหน้าอยู่ก่อนที่ลูกจะมาถึงแล้ว




[ เกิร์ด มุลเลอร์เทกตัวขึ้นโหม่งหวังพังประตูเบลเยี่ยม ]



เมื่อไม่เสียประตูทีมอินทรีเหล็กก็ทำประตูออกนำไปก่อนซะเลย
เมื่อ จุ๊ปป์ ไฮย์เก้ ได้จังหวะเปิดลูกเลียดมาจากด้านข้างสนาม
มาที่หน้าประตูเบลเยี่ยม นายทวารคริสเตียน พลีอ๊อต
ดันตัดบอลพลาดลูกมาเข้าทางปืนของเกิร์ด มุลเลอร์
ไม่มีเหลือไอ้ลูกระเบิดซัดให้อินทรีเหล็กขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว
ในนาทีที่ 24 ของเกม !!!




[ พอล ฟอน ฮิมท์ ดวลเพลงแข้งกับ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ]



เบลเยี่ยมพยายามสู้ยิบตา
แต่วันนี้อินทรีเหล็กมาดีเหลือเกิน
ทั้งทีมเล่นกันแบบเหนือชั้นไหลลื่น
ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่เหนือชั้น
คุมเกมรับและรุกได้สมกับที่ถูกขนานนามว่า “ ไกเซอร์ ”
ทางด้านแดนกลางสนามนั้น



[ อูลี่ เฮอเนส ประทะกับ จอง ทิสเซ่น ผู้เล่นของเบลเยี่ยม ]



ไม่มีผู้เล่นของเบลเยี่ยมคนใดที่จะมาบดบังรัศมี
ของ กุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์ไปได้เลย
เขาเล่นฟุตบอลได้ราวกับศิลปินที่สร้างสรรงานศิลปะเลยทีเดียว
ทำเกมจ่ายบอลแบบเหนือชั้นได้หลากหลายจังหวะ
สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้แก่ผู้เล่นของทีมเจ้าภาพ
ได้อย่างมากมาย



[ กุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์ จอมทัพคีย์แมนสำคัญของทีมอินทรีเหล็กในยูโร 1972 ]



ในนาทีที่ 71 เน็ตเช่อร์ก็จ่ายบอลแบบถวายพาน
ไปให้กับเกิร์ด มุลเลอร์บวกสกอร์ที่สองของเกมในวันนี้อีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตามเบลเยี่ยมก็มาได้ประตูตีไข่แตกแก้หน้าได้
ในนาทีที่ 83 จากการซัดจ่อๆของโอดิล่อน โพลเลนิส
ตัวสำรองที่เพิ่งจะเปลี่ยนตัวลงมา
แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่านี้ ทำให้เมื่อหมด 90 นาที
อินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตก
สามารถเอาชนะทีมเจ้าภาพเบลเยี่ยม
ไปได้แบบสบายๆ 2 – 1




[ เกิร์ด มุลเลอร์ จิ้มบอลเข้าประตูเบลเยี่ยมไปอย่างเหนือชั้น ]



ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ
ฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกอย่างสวยงาม
โดยที่คู่ต่อสู้ในรอบชิงฯนั้นก็ได้แก่
ทีมจากหลังม่านเหล็กสหภาพโซเวียต
ที่เฉือนเอาชนะฮังการี่มาได้อย่างฉิวเฉียด 1 ประตูต่อ 0 !!!




[ เฮย์เซล สเตเดี้ยม บรัสเซลล์ สังเวียนแข้งนัดชิงชนะเลิศยูโร 72 ]



นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 72
มีขึ้นในวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ 1972
ท่ามกลางผู้ชมจำนวนกว่า 53,000 คน
แน่นขนัดใน สนามเฮย์เซล ของเมืองบรัสเซลส์




[ 11 ขุนพลอินทรีเหล็กในวันชิงชนะเลิศ ]



ก่อนหน้าเกมนัดนี้ 1 เดือนนั้น
ทีมอินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตกเคยถล่มเอาชนะ
สหภาพโซเวียตมาได้ 4 ประตูต่อ 1 ในเกมนัดอุ่นเครื่อง
ซึ่งทั้ง 4 ประตูของเยอรมันนั้นมาจาก
เกิร์ด มุลเลอร์ คนเดียวล้วนๆ
ทำให้ในนัดนี้เหล่านักเตะโซเวียตทั้งทีม
ก็ยังคงขยาดฝีเท้าของไอ้ลูกระเบิดอยู่




[ ทีมสหภาพโซเวียต อดีตแชมป์ยูโร 1960 และ รองแชมป์ในปี 1964 ]



เกมในวันชิงชนะเลิศนี้บุนเดสเทรนเนอร์เฮลุต เชิร์น เลือกสรร 11 ขุนพลที่พร้อมสุดๆ
ประกอบไปด้วยนายทวารจอมหนึบ เซปป์ ไมเออร์ จากทีมบาเยิร์น มิวนิค
แผงหลังประกอบด้วย จอร์จ ซวาเซนเบ็ค , ฮอร์ส ฮ๊อตต์เกส , พอล ไบรท์เนอร์ ,
ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ เป็นจอมทัพบัญชาการเกมรุกและรับ
ในแดนกลางใช้ เฮอร์เบิร์ต วิมเมอร์ , เออร์วิน เครมเมอร์ และมี เน็ตเช่อร์เป็นตัวปั้นเกม
ในแดนหน้าใช้คู่หูจากบาเยิร์น มิวนิคคือ อูลี่ เฮอเนส และ เกิร์ด มุลเลอร์ ลงล่าตาข่าย



[ สหภาพโซเวียต - เยอรมันตะวันตก คู่ชิงชนะเลิศยูโร 1972 ]



ส่วนสหภาพโซเวียตมาแบบแน่นปึ๊กฟูลทีม
โดยมี เยฟกินี่ รูดาคอฟ เป็นผู้รักษาประตู
แผงหลังเป็น เลวาซ โซซูอาชวิลี่ , มูร์ตาซ เคิร์ตซิลาว่า กับตันทีมจอมลุย
และ วลาดิเมียร คาปลิชนี่ย์ , ยูริ อิสโตรมิน กับ อนาโตลี คอนคอฟ
แผงมิดฟิลด์มี วลาดิเมียร์ ทรอสคิน , วิคเตอร์ โคโลตอฟ , อนาโตลี บายดาซนี่
หน้าคู่เป็น วลาดิเมียร์ โอนิเชนโก้ ยืนคู่อยู่กับ อนาโตลี บานิสเชฟกี้



[ มูร์ตาซ เคิร์ตซิลาว่า แลกธงกับ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ก่อนเริ่มเกม ]



เปิดเกมขึ้นมา
เป็นทางฝ่ายโซเวียตที่เปิดเกมบุกเข้าใส่เยอรมันแบบไม่มีกลัวเกรง
แต่พอเจอลูกวางยาวของ กุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์
ที่ส่งอย่างเหนือชั้นข้ามแผงหลังโซเวียตทั้งแผงไปให้กับ เกิร์ด มุลเลอร์
ดีแต่ว่า เยฟกินี่ รูดาคอฟ นายทวารทีมหลังม่านเหล็กอ่านเกมขาด
ออกมาเตะตัดบอลทิ้งไปได้ก่อนที่ไอ้ลูกระเบิดจะได้บอลหลุดเดี่ยว
ไม่อย่างนั้น โซเวียตอาจจะโดนทีเด็ดของมุลเลอร์
เหมือนกับในเกมล่าสุดที่เพิ่งพบกันมาก่อนหน้านี้ ก็เป็นได้...




[ กุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์ จอมทัพอินทรีเหล็กเบียดกับ วิคเตอร์ โคโลตอฟ ]



ทัพอินทรีเหล็กยิ่งเล่น ยิ่งครองเกมเหนือกว่าโซเวียตไปเรื่อยๆ
กุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์ ทำเกมบุกไหลลื่น
สอดประสานกับ เฮอร์เบิร์ต วิมเมอร์ และ เออร์วิน เครมเมอร์ อย่างสวยงาม
3 ประสานเจาะปราการหลังของโซเวียตจนพลุน
ก็ที่จะไหลบอลมาให้ เกิร์ด มุลเลอร์ ที่หน้าปากประตูโซเวียต
โชคของทีมหมียักษ์ยังดีที่
ลูกกดจ่อๆของไอ้ลูกระเบิดดันไปตรงตัวของรูดาคอฟนายทวารโซเวียตเต็มๆ
ทั้งๆที่ตามธรรมดาแล้ว โอกาสเหน่งๆอย่างนี้ของมุลเลอร์
สกอร์บอร์ดสนามเตรียมขึ้นสกอร์ได้เลย....




[ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ผู้บัญชาการสูงสุดในทีมอินทรีเหล็ก ]



ทัพเยอรมันตะวันตกโหมบุกอย่างน่ากลัว
หวังประเดิมสกอร์แรกให้ได้โดยเร็ว
เพื่อให้เกมทั้งหมด เทเข้ามาทางฝั่งของตน
ผู้เล่นอินทรีเหล็กเปลี่ยนหน้ากันขึ้นมาสร้างความหวาดเสียว
ให้แก่แผงหลัง และ นายทวารของโซเวียต
ขนาดวิงส์แบ็คอย่าง พอล ไบรท์เนอร์ ยังแอบแลบขึ้นมา
ซัดลูกผ่านหน้าประตูทีมหมียักษ์ไปอย่างเฉียดฉิว...




[ พอล ไบรท์เนอร์ วิงส์แบ็คหัวขบถของทีมเยอรมันตะวันตก ]



เวลาผ่านมาเกือบ 15 นาที ทัพอินทรีเหล็กมีจังหวะขึ้นนำอีกหน
เมื่อ " ปีกผมทอง " เออร์วิน เครมเมอร์ ที่เล่นได้ไหลลื่นทางกราบซ้าย
บรรจงเปิดบอลใส่พานทองฝังเพชรมาที่หน้าปากประตูของโซเวียต
ณ.จุดนัดพบ มี อูลี่ เฮอเนส ยืนว่างโล้งโจ้งกางมุ้งคอยอยู่
ดาวเตะจอมขยันจากทีมเสือใต้ พุ่งโหม่งลูกบอลอย่างสวยงาม
ลูกบอลพุ่งผ่านการป้องกันของ เยฟกินี่ รูดาคอฟ นายทวารโซเวียตไปแล้ว
แต่ดันมี " คานบนของประตู " มาเป็นตัวขัดขวางดังโครมใหญ่
อินทรีเหล็กชวดการขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ




[ อูลี่ เฮอเนส ดวลเดี่ยวกับผู้เล่นโซเวียต ]



และในที่สุด เมื่อย่างเข้าสู่นาทีที่ 27 ของเกม
ประตูแรกของทีมอินทรีเหล็กก็มาถึง
จุดเริ่มต้นของมัน
มาจากการประสานงานของ 3 หัวใจหลักของทีม
เมื่อเบ็คเคนบาวเออร์ได้บอลที่บริเวณกลางสนาม
และจ่ายลูกทะลุหลุดมาให้กับกุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์
ที่ยืนว่างอยู่หน้ากรอบเขตโทษของโซเวียต
เมื่อบอลมาถึงเท้า....เน็ตเช่อร์ไม่มีจับ
เขาหวดวอลเล่ย์เต็มแรงลูกพุ่งไปกระแทกกับคานบนดังสนั่น




[ เกิร์ด มุลเลอร์ ล็อคหลบ อนาโตลี บายดาซนี่ ผู้เล่นของโซเวียต ]



บอลกระดอนกลับออกมาถึงเท้าของจุ๊ปป์ ไฮย์เก้
ที่ซัดสวนอัดเข้าไปเต็มแรง
ลูกบอลพุ่งไปถูกเยฟกีนี่ รูดาคอฟ
นายทวารโซเวียตที่ออกมาบล็อกสุดตัว
แต่บอลเจ้ากรรมไปไหนดันไม่ไป
กลับมาเข้าทางปืนของเกิร์ด มุลเลอร์
และก็ไม่มีเหลือ....
1 – 0 ไอ้ลูกระเบิดใส่สกอร์ให้อินทรีเหล็กขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว




[ เกิร์ด มุลเลอร์ กดประตูแรกให้เยอรมันออกนำสหภาพโซเวียตไปก่อน 1 - 0 ]



เมื่อได้ประตูขึ้นนำ
ทำให้เกมตกอยู่ในความครอบครอง
ของทางฝั่งเยอรมันแทบจะทั้งหมดแล้ว
ผู้เล่นของโซเวียตทำได้แต่เพียงวิ่งไล่ตามลูกบอลกันไปมา
ทั่วทั้งสนามที่เหล่าขุนพลอินทรีเหล็กพาทัวร์
ลูกทีมของบุนเดสเทรนเนอร์เฮลมุต เชิร์น
แสดงให้ผู้ชมได้เห็นฟุตบอลในแบบสมัยใหม่ในยุค 70
ที่เรียกกันต่อมาว่า “ โททั่ล ฟุตบอล ”




[ หลังพังประตูได้ ไอ้ลูกระเบิดกระโดดเริงร่าด้วยความสะใจ ]



นักเตะอินทรีเหล็กต่างสลับสับเปลี่ยนกัน
ดาบุกขึ้นมาสร้างสรรเกม ทั้ง แบ๊คอย่างไบร์ทเนอร์ ,
ลิเบอร์โร่ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ และ จอร์จ ชวาเซเเบ็ค
หมุนเวียนทดแทนตำแหน่งกันอย่างสวยงาม
บางจังหวะขุนพลอินทรีเหล็กจ่ายบอลกันไปมา
ทั่วทั้งสนามเกือบ 20 ครั้ง
แบบที่ไม่มีนักเตะโซเวียตคนไหนได้โดนบอลเลย.....




[ เกมนัดชิงยูโร 72 โดยมี อโตเมี่ยมสัญลักษณ์ของบรัสเซลล์เป็นฉากหลัง ]



เมื่อเกมในครึ่งหลังเริ่มมาได้ 7 นาที
เฮอร์เบิร์ต วิมเม่อร์ ยอดดาวยิงจากทีมสโมสร โบรุสเซีย มึนเช่น กลัดบัค
ก็ได้โอกาสซัดลูกวอลเลย์ตามนํ้าจากการจิ้มผ่านมาให้ของจุ๊ปป์ ไฮย์เก้
ผ่านมือของ เยฟกีนี่ รูดาคอฟ นายทวารโซเวียตเข้าประตูไปอย่างงามงด
ให้เยอรมันหนีห่างออกไปอีกเป็น 2 ประตูต่อ 0




[ เฮอร์เบิร์ต วิมเมอร์ ซัดลูกตามนํ้าให้อินทรีเหล็กหนีห่างออกไปเป็น 2 - 0 ]



เมื่อเกมทั้งหมดตกอยู่ในอุ้งมือ
บรรดานักเตะเยอรมันยิ่งเล่นยิ่งเหนือชั้น
สร้างสรรเกมการบุกได้อย่างน่าตื่นตา ระทึกใจให้แก่ผู้ชมทั้งสนาม
ผิดกับทางฝั่งของโซเวียต
ที่ยิ่งเล่น ยิ่งล้า ได้แต่วิ่งตามหาลูกบอลราวกับเล่นลิงชิงบอล
เซปป์ ไมเออร์ นายทวารอินทรีเหล็กแทบจะยืนหลับ
เพราะนานๆที ที่ทีมจากหลังม่านเหล็ก
จะพาบอลเข้ามาป้วนเปี้ยนหน้ากรอบเขตโทษให้เขาต้องออกแรง




[ มุมเบื้องหลังประตูสุดสวยของเฮอร์เบิร์ต วิมเมอร์ ]



และในนาทีที่ 58 ของเกมไอ้ลูกระเบิดก็มาระเบิดฟอร์ม
บวกสกอร์ที่ 2 ของตัวเองในวันนี้
และเป็นลูกที่ 3 เพิ่มให้เยอรมันตะวันตกตอกตะปูดอกสุดท้าย
ส่งสหภาพโซเวียตลงสุ่ก้นหลุมไปอย่างสงบด้วยสกอร์ 3 – 0
การันตีการเป็นแชมป์ยุโรปสมัยแรกของทีมได้อย่างเด็ดขาด..




[ ประตูชัยของ เกิร์ด มุลเลอร ที่ส่งให้อินทรีเหล็กเป็นเจ้าแห่งยุโรปสมัยแรก ]



เมื่อโดนไปอีกลูก
บรรดาผู้เล่นโซเวียตถึงกับถอดใจโยนทิ้ง
ตัวอยู่ในสนาม แต่ใจโบยบินไปยังห้องอาบนํ้าใต้สนามกันหมดแล้ว
พวกเขาสู้กันอย่างเต็มที่แล้ว
แต่ต้านทานความเหนือชั้นในเชิงฟุตบอลที่ก้าวลํ้าไปอีกขั้นหนึ่งของเยอรมันไม่ได้เลย
ทัพอินทรีเหล็กได้แสดงให้โลกได้เห็นประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า
ฟุตบอลในยุคใหม่เค้าเล่นกันอย่างไร
ฟุตบอลโบราณล้าสมัยอย่างที่โซเวียตเล่นกันอยู่นี้
ไม่สามารถที่จะต้านทานเทคนิคของบรรดานักเตะอินทรีเหล็กได้เลย..



[ ทัพอินทรีเหล็กเริงร่าหลังส่งหมียักษ์ลงสู่ก้นหลุมอย่างเด็ดขาด ]



เมื่อครบ 90 นาที
พลพรรคอินทรีเหล็กก็ทำได้สำเร็จ
สามารถคว้าแชมป์ยุโรปมาครอบครองได้เป็นสมัยแรกอย่างยิ่งใหญ่
ลูกทีมของบุนเดสเทรนเนอร์ เฮลมุต เชิร์น
ได้ผนวกเอาความแข็งแกร่งผสมผสานเข้ากับ
ความสวยงามของเทคนิคการเล่นในระดับสูงได้อย่างลงตัว
และ สวยงามอย่างที่ไม่เคยมีใครได้เห็นกันมาก่อน




[ บรรดากองเชียร์เยอรมันเตรียมฉลองชัยการเป็นจ้าวยุโรปหนแรกก่อนเกมจบ ]

และมันจะเป็นการเตรียมพร้อมของทีม
ก่อนที่จะต้องมีภาระกิจสุดสำคัญ
ในการเปิดบ้านเป็นเจ้าภาพต้อนรับการมาเยือนของเหล่าสุดยอดทีมของโลก
ที่จะมาร่วมลงชิงชัยกันในศึกใหญ่
บนผืนแผ่นดินเยอรมันในอีก 2 ปีข้างหน้า
ซึ่งก็คือ ......
การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 10
” เวิล์ดคัพ 1974 ” บนผืนแผ่นดินเยอรมันตะวันตก นั่นเอง !!!




[ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ จอมทัพอินทรีเหล็กรับ อองรี เดอ โลเนย์ โทรฟี่ ]




[ 2 จอมทัพคีย์แมนอินทรีเหล็กร่วมชื่นชม อองรี เดอ โลเนย์ โทรฟี่ ]




[ เฮลมุต เชิร์น บุรุษผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของอินทรีเหล็กชุดนี้ ]




[ Deutschland National Mannschaft Europameister 1972 ]




[ Europameister 1972 ]


.............................................................................
~ ห้ามพลาดย้อนตำนานอินทรีเหล็กตอนที่ 10 ( Welmeistershaft 1974 )
ได้ที่นี่ที่เดียว อีกไม่นานเกินรอครับผม..............^_^








 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2551
29 comments
Last Update : 8 กรกฎาคม 2555 13:18:57 น.
Counter : 3333 Pageviews.

 

โห..สนุกจังเลยค่ะคุณร๊อกซี่ ฮาร์ท

ว่างๆ ก็ไปฟังเพลงในฮิห้าเรานะคะ

 

โดย: HastaLaVista 18 พฤศจิกายน 2551 22:22:36 น.  

 

แวะมาราตรีสวัสดิ์คะ...

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 19 พฤศจิกายน 2551 2:41:09 น.  

 

~ ห้ามพลาดย้อนตำนานอินทรีเหล็กตอนที่ 9( We Are The Champion 1974 )
ได้ที่นี่ที่เดียว อีกไม่นานเกินรอครับผม..............^_^


จะพลาด มีอะไรป่ะ!!!!

ที่นี่ที่เดียว ก็แน่อ่ะดิ่

ก็ตัวเองเขียนเองนี่หว่า ซ้ำก็บ้าแล้ว

แล้วใครรออ่ะ ....

นึกว่าตัวเองมีแฟนคลับว่างั้นเห่อะ

ก๊ากกกกกกกกกกกกกก

ล้อเล่นนะ

ไปตัดแว่นใหม่ได้แล้วนะจ๊ะ

ร๊อกซี่ ฮาร์ท

 

โดย: HastaLaVista 19 พฤศจิกายน 2551 9:43:32 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณร๊อก

งานนี้ได้ดั่งใจเลยนะคะ...ถามหาปุ๊บ นำเสนอปั๊บ
ขอบคุณหลาย ๆ ค่ะ

แต่ว่าตอนนี้ปอ ป้า ต้องออกไปติดต่องานข้างนอกก่อนนะคะ
กะเด๋วบ่ายกลับมาจะแวะมาอ่าน..ค่ะ

 

โดย: พรหมญาณี 19 พฤศจิกายน 2551 10:49:35 น.  

 

จริง ๆ แล้วไม่ค่อยชอบเยอรมันนะ บอลมันเข้มไป แต่ชอบอยู่ยุคเดียวคือ ช่วงปี 90 มัทเธอุสถึกแบบคลาสสิคอ่ะ

 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 19 พฤศจิกายน 2551 11:44:30 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณร๊อก

ดิฉันตามอ่านมานาน

ชอบฟุตบอลเหมือนกันค่ะ

เชียร์อยู่ทีมหนึ่ง ทีมไทยนะคะ

แต่น่าเสียดาย ได้ข่าวว่าเค้ายุบทีมไปแล้ว

"ทีมปลาทูคะนอง" น่ะคะ

พอจะรู้จักมั้ยคะ อ้อ..ลืมไป

ว่าคุณร๊อกดูแต่บอลเยอรมันตะวันแดง!!!!

 

โดย: HastaLaVista 19 พฤศจิกายน 2551 14:10:30 น.  

 



สวัสดีค่ะ
ก้อยังคงไม่ได้อ่านเรื่องบอลในบล๊อกอยู่ดี
แหะๆ.....ขออภัยค่ะ งิงิ ^ ^"

วันนี้ปอเอาลาเต้มาฝากค่ะ
เสริฟตรงสู่เพื่อนบล๊อกแก๊งค์ที่น่ารักค่ะ งุงิ ^ ^

Have a nice day...^ ^

 

โดย: Butterflyblog 19 พฤศจิกายน 2551 20:43:02 น.  

 

ห้าววววววว!!!

อะไรอ่ะ ง่วงนอน ไม่สบาย ไม่รู้เรื่องอ่ะ..

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮิ ฮิ ฮิ ฮุ ฮุ ฮุ

อาตมาไม่รู้สิ โย่ว โย่ว โย่ว!!!

 

โดย: HastaLaVista 20 พฤศจิกายน 2551 8:56:25 น.  

 

^ ^
^ ^
โฮ้ ไอ้ตัวข้างบนนี่มันน่านักเนอะลุงเนอะ

เดี๋ยววันนี้อาอี้จะจัดการให้นะ

วันนี้เลยเอาน้ำใบบัวบกมาฝาก

อย่าลืมกินเยอะๆนะ

แล้วเดี๋ยวจะหาลูกปะคบมาให้จะได้หายเขียว

อิ อิ.........

 

โดย: kra_tai (stardift ) 20 พฤศจิกายน 2551 9:20:05 น.  

 

ในที่สุดก็ได้มานั่งอ่านเรื่องราวอินทรีย์เหล็กอย่างสบายใจเสียที...เฮ้อ ! กว่าเคลียร์งานเสร็จ...

จะว่าไปแล้วอินทรีย์เหล็กชุดนี้ top form มากในสมัยนั้น
เพราะมีผู้เล่นที่ฝีเท้าจัดอยู่หลายคนทีเดียว คุณฟรานส์ก็กำลังฮ๊อต

หลังจากประสบความสำเร็จในศึกยูโรแล้ว เป้าหมายข้างหน้า We are the CHAMP นี่สิคะ ป้ายังจำความสนุกสนานในการติดตามเชียร์ในครั้งนั้นอยู่ได้เลย วันไหนอินทรีย์ลงแข่ง ต้องตั้งนาฬิกาปลุกขึ้นมาดูอยู่คนเดียว เรียกว่าไม่เคยขาดเลยแม้แต่แมทช์เดียว พอเช้าไปทำงานเพื่อนนักพนันบอลต้องมาขอข้อมูลจากป้าทุกวัน ไอ้เราดูเอามัน ส่วนคุณเพื่อนดูเอาเงิน...อิ อิ

ก็ต้องจบลงตามธรรมเนียมที่ดี คือ...ขอบคุณสำหรับการย้อนอดีตอินทรีย์เหล็กในครั้งนี้ เป็นอย่างมากค่ะ

ขอให้คุณร๊อก มีความสุขในทุกวันที่ดีตลอดไป..นะคะ

3 color roses

 

โดย: พรหมญาณี 20 พฤศจิกายน 2551 10:52:30 น.  

 

ลุงๆๆๆๆๆๆ อารมณ์ไม่ดีเหรอ

อย่าโกรธมันเลยนะ............

เพราะถึงโกรธไปมันก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี

เสียเวลาเปล่าๆ

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 21 พฤศจิกายน 2551 9:22:38 น.  

 

ก๊ากกกกกกกกกกกก

หนู

ม่าย

รู้

หนู

มาวววว เอิ๊ก!!!

 

โดย: HastaLaVista 21 พฤศจิกายน 2551 13:44:27 น.  

 

ปอ ป้า ให้นำความสุข และ ความคิดถึง
มาส่งให้คุณพี่ร๊อก...ขอรับ


Recados e Imagens - Bebês - Orkut

Recados, Gifs e Imagens no Glimboo.com

 

โดย: พรหมญาณี 21 พฤศจิกายน 2551 13:48:21 น.  

 

ร๊อกซี่

คิดถึงนะ

 

โดย: HastaLaVista 21 พฤศจิกายน 2551 20:58:45 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณร๊อก

หลวงพระบางตอนจบ นำเสนอแล้วที่บ้านป้า..นะคะ
ว่างก็ขอเชิญ...ค่ะ

ขอให้มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้...นะคะ

Happy cat

 

โดย: พรหมญาณี 22 พฤศจิกายน 2551 11:04:03 น.  

 



 

โดย: HastaLaVista 22 พฤศจิกายน 2551 15:25:09 น.  

 

มาทักทายวันหยุดค่ะ ร๊อกกี้ รี่ก๊อก
และก็มาชวนไปทำเสน่ห์ เจ๊ยมะช่าย ไปสร้างเสน่ห์ ต่อกันคร้า

 

โดย: พ่อระนาด 23 พฤศจิกายน 2551 13:46:54 น.  

 

หงษ์เสมอซะงั้นเซ็ง

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 23 พฤศจิกายน 2551 14:15:59 น.  

 

คลื่นไส้นิดๆ

 

โดย: HastaLaVista 23 พฤศจิกายน 2551 17:43:52 น.  

 



สวัสดีค่ะ
ปอแวะมาเยี่ยม และเอากาแฟเย็นมาเสริฟค่ะ

Have a nice day...^ ^

 

โดย: Butterflyblog 23 พฤศจิกายน 2551 18:57:14 น.  

 

ฮัลโหล...

ก๊ากกกกกกกกก

 

โดย: HastaLaVista 24 พฤศจิกายน 2551 11:07:03 น.  

 

ลุงๆ จะบอกให้ว่าเรื่องบ้าๆทำนองนี้

ก็เคยเกิดขึ้นเหมือนกัน

แต่เป็นคนของมันโทรหาอี๊ต่ายนะ

โทรตั้งหลายรอบ แต่ไม่ได้คุยนะ

เรามาบอกมัน

หลังจากนั้นไอ้บ้านั้นเกือบตาย อ่ะ

ฮิ ฮิ

(ไอ้บ้านั้นเกือบตาย แต่ไอ้เพื่อนสาว เศร้ารับประทาน)

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 24 พฤศจิกายน 2551 13:22:12 น.  

 

ตำนานจริงๆคะไม่รู้จักใครเลย จริงๆโอพีชอบบอลเยอรมันมากกว่าอังกฤษ คือมาชมฟุตบอลยุโรปเมื่อสี่ห้านี้เอง
เมือก่อนจะชมแต่บอลญี่ปุ่น เพระอาศัยอยู่ที่นี้นนาน พอย้ายมาเมกาก็กลายเป็นชมแต่กีฬาของเมกาซะงั้น

 

โดย: Opey 24 พฤศจิกายน 2551 22:37:31 น.  

 

อืมม

สนุกสินะ

 

โดย: HastaLaVista 25 พฤศจิกายน 2551 5:58:35 น.  

 

ไปอยู่สุวรรณภูมิเหรอ

กลับมาได้แล้ว

 

โดย: HastaLaVista 26 พฤศจิกายน 2551 6:22:32 น.  

 

หวัด-ดี-ลุง

หวัด-ดี-เช้า-วัน-พะ-รึ-หัด

หาย-เงียบ-ไป-เลย

ยัง-อยู่-ครบ-สาม-สิบ-สอง-อ่ะ-เปล่า

แต่-อย่าง-ว่า-หล่อ-เลือก-ได้-ซะ-อย่าง

ถ้า-เรื่อง-มาก-นัก

ลุง-ก็-ไป-เลือก-ใหม่-เลย-ดิ

อิ-อิ

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 27 พฤศจิกายน 2551 9:13:54 น.  

 

นี่ๆๆๆ

สัญญาอะไรไว้ อย่ามาเนียนลืมนะเฟร้ย!!!

จำแม่นนะจะบอกให้

แบร่!!!!!!!

 

โดย: HastaLaVista 28 พฤศจิกายน 2551 14:35:41 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณร๊อก

ไม่ได้เข้ามาทักทายเสียหลายวัน..สบายดีนะคะ ??
ปอ ป้า..งานยุ่ง + ใจห่อเหี่ยว...เศร้า..ค่ะ

วันนี้เลยอู้งาน เข้ามาอัพบล๊อกเรื่องเกี่ยวกับธรรมะ
ได้ธรรมะช่วยเสียหน่อย ค่อยสบายใจค่ะ

ว่าง ๆ แวะไปอ่านเรื่องกรรม ที่บ้านป้า..นะคะ

ป.ล. ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองและคนใกล้ ๆ ตัว ด้วย..นะคะ

little monk

 

โดย: พรหมญาณี 28 พฤศจิกายน 2551 16:40:42 น.  

 

แวะมาส่งเข้านอน / พรุ่งนี้จะได้มีแรงนั่งเชียร์บอลทั้งสามคู่ 55555

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 30 พฤศจิกายน 2551 2:13:30 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Romancini
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ชายธรรมดา มีความฝันที่ยังไปไม่ถึง แต่ไม่เคยคิดท้อที่จะทำความฝันนั้น ให้เป็นจริง...

" SHINE ON YOU CRAZY DIAMOND "

Remember when you were young, you shone like the sun.
Shine on you crazy diamond.
Now there's a look in your eyes, like black holes in the sky.
Shine on you crazy diamond.
You were caught on the crossfire of childhood and stardom, blown on the steel breeze.
Come on you target for faraway laughter, come on you stranger, you legend, you martyr,
and shine!

You reached for the secret too soon, you cried for the moon.
Shine on you crazy diamond.
Threatened by shadows at night, and exposed in the light.
Shine on you crazy diamond.
Well you wore out your welcome with random precision, rode on the steel breeze.
Come on you raver, you seer of visions, come on you painter, you piper, you prisoner,
and shine!

Nobody knows where you are, how near or how far.
Shine on you crazy diamond.
Pile on many more layers and I'll be joining you there.
Shine on you crazy diamond.
And we'll bask in the shadow of yesterday's triumph, and sail on the steel breeze.
Come on you boy child, you winner and loser, come on you miner for truth and delusion,
and shine!

Totó and Alfredo - ENNIO MORRICONE
Friends' blogs
[Add Romancini's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.