......Romancini......
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

ย้อนตำนานอินทรีเหล็ก ร่วมฉลอง100 ปีของทีมชาติเยอรมัน ( ตอนที่ 10 Weltmeisterschaft 74 )








หลังจากสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 มา
วงการฟุตบอลของเยอรมันตะวันตกไม่เคยมีทีมที่ดีและแข็งแกร่ง
ประกอบไปด้วยสุดยอดผู้เล่นที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์
อยู่ในทีมอย่างมากมาย
เท่ากับชุดที่เตรียมไว้เล่นในฟุตบอลโลกปี 1974
ที่ประเทศเยอรมันตะวันตกจะรับเป็นเจ้าภาพ มาก่อนเลย....



[ 22 ขุนพลอินทรีเหล็กชุดฟุตบอลโลก 1974 ]



อินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตกแสดงผลงานที่สุดยอดเยี่ยม
จนสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในปี 1972 แล้วนั้น
ทีมอินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตก
ที่มีเฮลมุต เชิร์นเป็นบุนเดสเทรนเนอร์
ก็เดินหน้าเตรียมทีม เพื่อเล่นในศึกเวิล์ดคัพ 74 อย่างมุ่งมั่น



[ ในค่ายเก็บตัวของเยอรมันตะวันตกก่อนฟุตบอลโลก 1974 เริ่ม ]



เหล่าขุนพลนักเตะอินทรีเหล็กจิ๊กซอร์ของเชิร์นนั้น
ประกอบไปด้วยแกนหลักจากทีมบาร์เยิร์น มิวนิค
ที่เป็นสุดยอดทีมของเยอรมันในเวลานั้น
นำมาโดย “ ไกเซอร์ “ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์
กับตันทีมสุดยอดลิเบอโร่
ผู้รักษาประตูจอมหนึบ เซปป์ ไมเออร์ ,
พอล ไบรท์เนอร์ ยอดนักเตะเชิงสูงหัวเอียงซ้าย
จอร์จ ซวาเซนเบ็ค , ดาวรุ่งดวงใหม่ อูลี่ เฮอเนส
และ ไอ้ลูกระเบิดจอมถล่มประตู... เกิร์ด มุลเลอร์



[ การฝึกซ้อมอย่างมุ่งมั่นของทีมเยอรมันตะวันตก ]



เสริมด้วยสุดยอดนักเตะของเยอรมันในยุคนั้น อย่างเช่น..
แบร์ตี้ โฟ้กท์ส ตัวประกบที่กัดไม่มีปล่อย
ฉายา " ไอ้เทอร์เรีย " จากทีม โบรุสเซีย มึนเช่น กลัดบัค ,
เจอร์เก้น กราบรอสกี้ ปีกจอมพลิ้ว ของทีมไอร์ทรัค แฟร๊งค์เฟิร์ต
โวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ จอมเก๋าเชิงสูง จากโคโลญจน์
และ 2 นักเตะดาวรุ่งของทีม ไรเนอร์ บอนฮอฟ จากกลัดบัค ,
เบิร์น โฮลเซนบายน์ จากสโมสรไอร์ทรัค แฟร๊งค์เฟิร์ต
และ จอมเทคนิคผู้เล่นหนึ่งเดียวจากลีคต่างแดน
กุนเธ่อร์ เน็ตเช่อร์ ยอดจอมทัพจากทีม รีล มาดริด ในสเปน นั่นเอง




[ โอเวอร์รัธ และ เน็ตเช่อร์ 2 หัวใจในแดนกลางของอินทรีเหล็ก ]



ด้วยสุดยอดนักเตะในแทบจะทุกตำแหน่ง เหล่านี้
ทีมอินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตก ชุดลุยฟุตบอลโลก 1974
จึงได้ส่วนผสมที่ลงตัว เพียบพร้อมต่อการเป็นทีมเต็ง 1
อย่างสมบูรณ์แบบ.........



[ เกมนัดอุ่นเครื่องกับฝรั่งเศส ก่อนฟุตบอลโลก 1974 ]


....................................................



1974 ฟุตบอลโลกที่ประเทศเยอรมันตะวันตก ( Weltmeisterschaft 74 )

หลังจากเหตการณ์น่าเศร้า ที่เกิดกับนักกีฬาของอิสราเอล
ที่ถูกผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ สังหารโหด
ในกีฬาโอลิมปิคที่มิวนิค ปี 1972 แล้วนั้น
ทำให้การจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 1974 นี้
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเรื่องของความปลอดภัย ดูจะน่าอึดอัดไปหมด



[ โปสเตอร์และโลโก้ ของฟุตบอลโลก 1974 ]


มีการตรวจตราสิ่งของที่จะผ่านเข้าไปในทุกสนามอย่างเข้มงวด
มีหน่วยรักษาความปลอดภัย
ทั้งในและนอกเครื่องแบบ แทรกอยู่แทบจะทุกจุดของสนามแข่งขัน
เรียกได้ว่า หินทุกก้อน , ท่อน้าทิ้งทุกท่อ และ
กระถางต้นไม้ทุกต้น รอบสนาม
จะต้องผ่านการตรวจจากหน่วยรักษาความปลอดภัยเยอรมัน ทั้งสิ้น !!!



[ ทิบ & แท็บ มาสค็อตของเวิล์ดคัพ 74 ]


และเมื่อเป็นการจัดการแข่งขันในประเทศที่ทันสมัยเช่นนี้
เยอรมันตะวันตก ชาติเจ้าภาพจึงเตรียมความพร้อมอย่างเยี่ยมยอด
บริษัทเมอร์เซเดส เบนซ์ ผลิตรถบัสรุ่นล่าสุด 16 คัน
และพ่นด้วยสีสันลวดลายธงชาติ ของ 16 ทีมอย่างสวยงาม
เพื่อใช้เป็นพาหนะของนักกีฬาทั้ง 16 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน



[ รถบัสสุดหรูสำหรับนักฟุตบอลทั้ง 16 ทีมในเวิล์ดคัพ 74 ]



บริษัทอดิดาส ที่รับผิดชอบในเรื่องของลูกฟุตบอลที่จะใช้ในการแข่งขัน
ก็นำเสนอลูกฟุตบอลใหม่ ที่จะใช้ในเวิล์ดคัพ 74 นี้ออกมา
โดยให้ชื่อว่า...Adidas Telstar Durlast
ซึ่งยังคงเป็นลวดลายเดียวกันกับ Adidas Telstar ในปี 1970
แต่ได้มีการเคลือบสารกันน้ำ ให้เหมาะกับสภาพอากาศ
ในเดือนมิถุนายนของเยอรมัน ที่มักจะชื้นและมีฝนตกอยู่บ่อยๆ



[ ลูกฟุตบอล Adidas Telstar Durlast ของเวิล์ดคัพ 74 ]



และในงานจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 1974 นั้น
หลังจากที่มีสิ่งที่สร้างความฮือฮา ต่อทุกๆคน.....
สิ่งแรกนั้นก็คือการที่ 2 เยอรมันต้องลงสนามเผชิญหน้ากันเอง
เมื่อทั้งเยอรมันตะวันตกและเยอรมันตะวันออก
ดันถูกจับให้มาอยู่ในสายที่ 1 ร่วมกัน
และสิ่งที่สร้างความฮือฮาสิ่งที่สองนั่นก็คือ
การเปิดตัวเป็นครั้งแรกของถ้วยรางวัลฟุตบอลโลกใบใหม่
“ FIFA World Cup Trophy “ ที่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทน
ถ้วยจูลส์ ริเมต์ ใบเดิม ที่กลายไปเป็นสมบัติของทีมชาติบราซิลตลอดกาล
หลังจากที่สามารถครองแชมป์ได้ถึง 3 สมัยเป็นทีมแรกเมื่อปี 1970



[ บรรยากาศในการแบ่งสาย ฟุตบอลโลก 1974 ]



ถ้วยใบใหม่นี้ ผลิตจากทองคำบริสุทธิ์ 18 กะรัต
และมีแร่มาลาไคต์สีเขียว ประดับที่ฐานของถ้วย
ถ้วยใบนี้มีความสูง 36.5 เซนติเมตร น้ำหนัก 13 .6 ปอนด์
ออกแบบโดย ซิลวิโอ กร๊าซซานิก้า ช่างของเบอร์โตนี่ แห่งอิตาลี
เป็นรูปนักกีฬา 2 คน หันหลังใส่กันพร้อมกับชูมือประกาศชัยชนะ
เป็นฐานรองรับลูกโลก แสดงให้เห็นถึง.....” ความเป็นผู้ชนะ “



[ ถ้วยเวิล์ดคัพ ( ซ้าย ) และ ถ้วยจูลส์ ริเมต์ ใบเดิม ( ขวา ) ]



คู่แข่งร่วมสายที่ 1 ของทีมเยอรมันตะวันตก
นอกจากทีมร่วมสายเลือดแต่ต่างลัทธิ...
“ เด เด แอร์ “ เยอรมันตะวันออกแล้ว
ก็ยังมีทีมชิลี ทีมจอมโหดจากทวีปอเมริกาใต้ที่มีการเล่นที่ดุดัน
โดยทีมชิลี จะลงเล่นเป็นคู่ต่อสู้ในนัดแรกของทีมอินทรีเหล็ก
นอกจากนี้ก็คือทีมจากแดนดาว์นอันเดอร์ ออสเตรเลีย
ที่เป็นน้องใหม่ของฟุตบอลโลก เข้าร่วมการแข่งขันเป็นหนแรก
เมื่อมองทีมร่วมสายทั้งหมด
ทำให้ดูแล้วเส้นทางการผ่านเข้ารอบต่อไป
ของทีมเจ้าภาพอินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตก
สดใสยิ่งกว่าดวงดาวบนฟากฟ้าเสียอีก...



[ หนังสือพิมพ์เจาะข่าว..." ศึกแห่ง 2 เยอรมัน " อย่างครึกโครม ]



หลังจากที่แชมป์เก่าบราซิลเตะเปิดสนามเวิลด์คัพ 74
โดยการเสมอกับยูโกสลาเวีย อย่างสุดจืดชืด 0 – 0
ก็มา ถึงคิวนัดประเดิมสนามของเจ้าภาพอินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตก
ในเย็นวันที่ 14 มิถุนายน 1974 ที่สนามโอลิมปิค ในเบอร์ลินตะวันตก
ผู้ชมจำนวนกว่า 83,168 คน ต่างพากันเข้ามาชมเกมแรก
ที่ทีมอินทรีเหล็กลงสนามพบกับทีมจากแดนอเมริกาใต้ ชิลี...



[ โอลิมปิค สตาดิโอน ในเบอร์ลินตะวันตก ]


บุนเดสเทรนเนอร์ เฮลมุต เชิร์น จัดขุนพล 11 ตัวจริงประกอบไปด้วย
เซปป์ ไมเออร์ ( ผู้รักษาประตู ) , แบร์ตี้ โฟ้กท์ส ,
พอล ไบรท์เนอร์ ,จอร์จ ซวาเซนเบ็ค ,
ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ , เบิร์น คูลมันน์ , จุ๊ปป์ ไฮย์เก้ ,
เจอร์เก้น กราบรอสกี้ , โวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ ,
อูลี่ เฮอเนส และ เกิร์ด มุลเลอร์



[ 11 ขุนพลอินทรีเหล็กชุดประเดิมสนามในศึกฟุตบอลโลก 1974 ]


และเมื่อเกมเริ่มต้นขึ้น
ก็เป็นไปในรูปแบบที่ทุกๆคนคาดกันเอาไว้ ล่วงหน้าแล้ว
เมื่อเป็นทีมอินทรีเหล็กที่กางปีกปูพรมทำเกมเดินหน้า
พาบอลเข้าไปเล่นกดดัน ทีมจากแดนลาตินที่วันนี้มาเล่นแบบระวังหลัง
ผู้เล่นเกือบทั้งทีมของชิลี ต่างแพ็คเกมรับแน่นอยู่ในแดนของตัวเอง
รอรับการบุกของฝ่ายเยอรมันอยู่แทบตลอดต้นครึ่งเวลาแรก
แต่ก็แอบมีการเล่นบอลโต้กลับมา
ให้กองเชียร์อินทรีเหล็กได้หวาดเสียวอยู่เป็นพักๆเหมือนกัน



[ เบิร์น คูลมันน์พุ่งตัวโหม่งบอลหวังพังประตูชิลี ]



ทีมอินทรีเหล็กเป็นฝ่ายควบคุมเกมเอาไว้ได้หมด
นักเตะของเยอรมันเกือบทั้งทีมดันขึ้นสูง
หวังที่จะสร้างสกอร์แรกให้ได้โดยเร็ว เพื่อเป็นการลดความกดดัน
แผงมิดฟิลด์ของอินทรีเหล็กที่นำมาโดยจอมเก๋าโอเวอร์รัธ
และจอมกระชากลากเลื้อยริมเส้น เจอร์เก้น กราบรอสกี้
เล่นได้เหนือกว่าผู้เล่นในแดนกลางของทีมจากอเมริกาใต้
ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ รับบทตัวกวาดควบคุมเกมรุกและรับได้อย่างลงตัว
ไกเซอร์ฟร๊านซ์ ดันเกมขึ้นสูง
ลอยไปลอยมาอยู่บริเวณกลางสนามเลยทีเดียว




[ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์บัญชากการเกมด้วยท่วงท่าที่องอาจสง่างาม ]


จนกระทั่งถึงนาทีที่ 18 ของเกมสกอร์แรกก็มาถึง
โวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ พาบอลขึ้นมาทางด้านซ้ายของสนาม
ก่อนที่จะส่งต่อไปให้กับอูลี่ เฮอเนส ที่กลางสนาม
และเฮอเนสก็ไหลบอลต่อมาให้กับแบ็คเคนบาว์น ที่ดันขึ้นมาสูง
ยอดจอมทัพจิ้มบอลส่งต่อไปให้กับพอล ไบรท์เนอร์
ทางด้านขวาของสนาม
ก่อนที่จะมีผู้เล่นของชิลีจะไหวตัวทัน
ที่บริเวณระยะเกือบ 30 หลา ยอดคนหัวขบท พอล ไบรท์เนอร์
ซัดบอลด้วยเท้าขวาสุดแรงเกิด ลูกพุ่งตรงแน่วอย่างกับลูกปืนใหญ่
ตรงเข้าไปสู่กรอบประตูของชิลี



[ ประตูแรกของฟุตบอลโลก 1974 โดยพอล ไบรท์เนอร์ ]


เลโอลโปลโด วาเลจอส นายทวารของชิลีผวาพุ่งสุดตัวหวังที่จะป้องกัน
แต่ก็พุ่งไปไม่ถึง ลูกบอลพุ่งเต็มแรงผ่านมือของเขา
เข้าไปเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
ให้อินทรีเหล็กทะยานขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1 – 0
ท่ามกลางเสียงเชียร์กึกก้อง ของแฟนบอลเยอรมันทั้งสนาม....



[ ประตูสุดสวยของพอล ไบรท์เนอร์ ให้เยอรมันขึ้นนำชิลี ]



เมื่อโดนทีเด็ดของพอล ไบรท์เนอร์ ชิลีก็เริ่มเดือด
เกมเริ่มแรงขึ้น ผู้เล่นของชิลีเตะติดดาบคาบลูกคาบดอก
ใส่ขุนพลอินทรีเหล็กจนสะบักสะบอม
ไอ้ลูกระเบิด เกิร์ด มุลเลอร์ เจอลูกตุกติกของนักเตะชิลีถึงกับหัวเสีย
เมื่อเจอลูกนอกเกมจาก อันโตนิโอ อไลอาส
กองหลังจอมโหดชักศอกกลับใส่จนเต็มหน้า
แต่กรรมการโดรกาน บาบาคัน ชาวเติร์ก กลับมองไม่ทัน



[ พอล ไบรท์เนอร์ ผู้ทำประตูแรกของอินทรีเหล็กในฟุตบอลโลกหนนี้ ]



ถึงแม้ว่าจะถูกนำไปแต่ผู้เล่ยชิลีก็ยังคงอุดอยู่อย่างต่อเนื่อง
เหมือนกับว่าพึงพอใจที่จะแพ้ด้วยสกอร์เท่านี้
แผงมิดฟิลด์ทั้งทีมของชิลีลงลึก อยู่หน้าเขตโทษของตัวเอง
ทิ้งให้คาร์ลอส ไลโนโซ่ ศุนย์หน้าดาราดังยืนโดดเดี่ยวเพียงลำพัง
เซปป์ ไมเออร์ แทบจะไม่ได้สัมผัสกับลูกบอลเลยตลอดครึ่งเวลาแรก



[ " ไอ้ลูกระเบิด " เกิร์ด มุลเลอร์ พยายามจะยิงประตูทีมชิลี ]



45 นาทีของครึ่งเวลาหลังเกมก็ยังคงดำเนินไปในรูปแบบเดิม
คือเยอรมันพยายามหาช่องทางที่จะเจาะพังประตูเพิ่ม
และนักเตะชิลีเป็นฝ่ายตั้งหน้าตั้งตารับอย่างเต็มตัว



[ จุ๊ปป์ ไฮย์เก้ ดวลกับ คาร์ลอส คาซซีรี่ สตาร์ดังของชิลี ]


อินทรีเหล็กเหมือนเตะบอลอัดกำแพง
ไม่ว่าจะยิงหรือโยนเข้าไปก็โดนฝ่ายชิลีเตะสกัดกลับคืนมาหมด
เกมเป็นไปแบบอึดอัดใจกองเชียร์อินทรีเหล็กจนถึงนาทีที่ 67
ทีมชิลีก็ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน



[ คาร์ลอส คาซซีรี่ เป็นนักเตะคนแรกที่โดนใบแดงในฟุตบอลโลก ]



เมื่อคาร์ลอส คาซซีรี่ ที่โดนใบเหลืองไปแล้วเมื่อต้นเกม
มาโดนเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดง
ทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลคนแรก
ที่โดนไล่ออกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
หลังจากที่มีการเริ่มใช้ใบเหลืองใบแดง ในฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วมา
แต่ไม่เคยมีการแจกใบแดงเลยในฟุตบอลโลก 1970



[ คาซซีรี่ เดินออกจากสนามอย่างสุดเซ็ง ]



คราวนี้เมื่อเหลือนักเตะอยู่เพียงแค่ 10 คนชิลีก็เลยเลิกบุก
นักเตะชิลีทั้ง 10 คนมาตั้งแถวกันเป็นกำแพงมนุษย์
แข่งกับกำแพงเบอร์ลินมันซะเลย
ตั้งหน้าตั้งตาอุดลูกเดียวอยู่จนครบ 90 นาทีได้สำเร็จ
แม้ว่าจะพ่ายแพ้ไป 1 – 0
แต่ก็ดูเหมือนกับว่าผู้เล่นของชิลีจะดีใจเหมือนกับว่า
ได้ผ่านเข้าไปเล่นในนัดชิงขนะเลิศเลยทีเดียว !!!



[ เหยี่ยวข่าวเกาะติดทีมเยอรมัน หลังได้รับชัยชนะในนัดแรก ]



อีกคู่ในสายเดียวกันนั้น
“ เด เด แอร์ “ เยอรมันตะวันออกเฉือนทีมจิงโจ้ออสเตรเลีย
ไปได้แบบสบายๆ 2 – 0 ทำให้ในนัดต่อไป
อินทรีเหล็กต้องถล่มทีมน้องใหม่จากดาว์นอันเดอร์ให้มากกว่า
พี่น้องร่วมสายเลือดให้ได้เพื่อไม่ให้น้อยหน้า....



[ ขุนพลอินทรีเหล็กใส่ชุดเขียวในเกมนัดที่ 2 กับออสเตรเลีย ]



18 มิถุนายน 1974 ที่สนามโฟล็คปาร์คสเตเดี้ยม ในเมืองฮัมบรูก์
นัดที่ 2 ของทีมอินทรีเหล็ก ต้องลงดวลกับน้องใหม่ออสเตรเลีย
แฟนฟุตบอลเข้ามาชมกันแน่นสนามกว่า 35,000 คนเลยทีเดียว
หวังที่จะมาเป็นสักขีพยานการถล่มประตู ของทีมอินทรีเหล็ก
ที่จะทิ้งบอม์บเข้าใส่จิงโจ้น้อย ที่ไร้ประสบการณ์



[ โฟล็คปาร์คสเตเดี้ยม เมืองฮัมบรูก์ ]



เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดเริ่มเกมของกรรมการ มุสตาฟา กาเมล ชาวอียิปต์
11 ขุนพลอินทรีเหล็กที่เป็นชุดเดียวกับในนัดเปิดสนาม
ก็ดาหน้าเข้าหาคู่ต่อสู้จากแดนไกลทันที...
ทีมเยอรมันตะวันตกที่วันนี้ใส่ชุดสีเขียว
เปิดเกมบุกเข้ากดดันใส่อย่างต่อเนื่อง



[ ออสเตรเลีย มาพร้อมกับจิงโจ้ก่อนลงสนาม ]



แต่ทีมน้องใหม่อย่างออสเตรเลีย ก็ไม่ได้คิดแต่จะอุด
กลับเล่นบอลเปิดหน้าเข้าใส่ทีมอินทรีเหล็กแบบไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรี
ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการเล่นที่ถูกหรือผิด




[ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ แลกธงกับ ปีเตอร์ วิลสัน กับตันทีมออสเตรเลีย ]



เพราะเพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้นทำนบของน้องใหม่จากแดนจิงโจ้ก็แตก
เมื่อกราบรอสสกี้ กับมุลเลอร์ ขึ้นบอลจากด้านขวาของสนามไปกั๊กกัน
ปีเตอร์ วิลสัน กองหลังของออสเตรเลียเตะสกัดออกมาที่หน้าเขตโทษไม่ดี
บอลมาเข้าทางปืนของมิดฟิลด์จอมเก๋าโวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ
ที่จับบอลด้วยขวาก่อนที่จะซัดด้วยอีซ้ายเต็มแรง
ลูกพุ่งวาบผ่านมือของแจ๊ค ไรลี่ย์ นายทวารจิงโจ้เข้าเสียบมุมขวาอย่างสุดสวย
ให้อินทรีเหล็กขึ้นนำไปก่อน 1 – 0 ...



[ นักเตะออสเตรเลียวันดวลกับอินทรีเหล็ก ]


นักเตะออสซี่โดนนำไปก่อนก็ไม่มีท้อ
กลับเล่นแลกหมดสวนคืนเข้าใส่ทีมอินทรีเหล็กอย่างน่าดูชม
เอเดรี่ยล อัลสตัน นักเตะที่เล่นอยู่กับทีมสโมสรลูตั้น ทาว์น ในอังกฤษ
เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม หวุดหวิดที่จะซัดลูกผ่านมือของไมเออร์ไปได้
ทำให้เฮลมุต เชิร์น บุนเดสเทรนเนอร์ถึงกับหัวเสีย
ออกมาตะโกนกระตุ้นลูกทีม ให้ตั้งใจเล่น



[โวลฟกังค์ โอเวอร์รัธพังประตูแรกให้เยอรมันตะวันตกออกนำไปก่อน ]



และจากการกระตุ้น ทีมอินทรีเหล็กก็กลับมาตั้งเกมได้
อูลี่ เฮอเนส ฉีกตัวจากศูนย์หน้าออกมาเล่นทางริมเส้นได้อย่างยอดเยี่ยม
ความเร็วและความแข็งแกร่งของเขา
สร้างปัญหาให้กับกองหลังของออสเตรเลียตลอด
จนกระทั่งถึงนาทีที่ 34
เฮอร์เนส ก็เลี้ยงจากด้านริมเส้นด้านขวาไปจนถึงเส้นหลังของออสเตรเลีย
ก่อนที่จะเปิดด้วยเท้าขวามาที่หน้าประตู
โดยที่ไม่มีกองหลังของทีมจิงโจ้คนไหนจะประกบได้ทัน
เบิร์น คูลมันน์ มิดฟิลด์เชิงสูงของทีมโคโลจณ์
ก็เหินกายขึ้นขวิดบอลคนเดียว พุ่งเข้าประตูของทีมออสเตรเลียไป
บวกสกอร์ให้ทีมเยอรมันตะวันตก ขยับหนีห่างออกไปอีกเป็น 2 – 0



[ เบิร์น คูลมันน์โขกสกอร์ที่สองให้กับทีมอินทรีเหล็ก ]



เจอไปสองสกอร์ขุนพลจากแดนจิงโจ้ก็เริ่มท้อ
จากเปิดหน้าบุกก็กลับกลายมาเป็นการตั้งรับตามสไตล์
อินทรีเหล็กเลยได้ใจดาหน้าเปิดเกมเข้าถล่มต่อตามเสียงเชียร์
หวังกระซวกประตูที่ 3 ให้ได้ก่อนที่จะหมดครึ่งเวลาแรก
แต่จนแล้วจนรอดออสเตรเลียก็ประคองตัวได้
จบ 45 นาทีแรกสกอร์ของเกมหยุดอยู่ที่เยอรมันตะวันตกนำอยู่ 2 – 0



[ เรย์ ริชาร์ด กองหลังจิงโจ้เผชิญหน้ากับ ฟร๊านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ]



เมื่อเริ่มครึ่งหลัง เฮลมุต เชิร์นส่ง เบิร์น โฮลเซนบายน์
ลงมาเล่นแทนจุ๊ปป์ ไฮย์เก้ ที่มีอาการบาดเจ็บ
และอินทรีเหล็กก็ตั้งหน้าตั้งตาบุกเหมือนกับในครึ่งเวลาแรก
ออสเตรเลียเจอกดดันขนาดหนักแทบโงหัวไม่ขึ้น
ทีมเยอรมันทำทุกทางเพื่อที่จะทำสกอร์ให้เหนือกว่า
2 ประตู ที่เด เด แอร์ ถล่มใส่ออสเตรเลียให้ได้



[ เกิร์ด มุลเลอร์ เจอ ปีเตอร์ วิลสัน เสียบล้มทั้งยืน ]


ออสเตรเลียต้านทานเต็มกำลัง แต่ก็ทำได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง
ในนาทีที่ 53 ก็เป็นคราวของเกิร์ด มุลเลอร์
ไอ้ลูกระเบิดได้จังหวะเหน่งๆที่หน้าประตูของออสซี่
จึงทะยานกายขึ้นโขกสะบัดเต็มหัว
ส่งบอลเข้าไปกระทบตาข่ายของออสเตรเลียอย่างสวยงาม
เป็นสกอร์แรกของเขาในเวิลด์คัพหนนี้
และเป็นลูกที่ 3 ของอินทรีเหล็กในเกมวันนี้อีกด้วย



[ ไอ้ลูกระเบิดทิ้งบอมบ์ประตูที่ 3 ใส่ทีมจิงโจ้ออสเตรเลีย ]



เมื่อได้ลูกที่ 3 ตามประสงค์อินทรีเหล็กก็เริ่มที่จะผ่อนเกมลง
ไม่ได้บุกกดดันหนักเหมือนเช่นที่ผ่านมา
ทำให้ออสเตรเลียมีจังหวะบุกขึ้นมาส่องประตูลองของเซปป์ ไมเออร์บ้าง
แต่ยิงยังไงก็ไม่มีผ่านการป้องกันที่ยอดเยี่ยม
ของนายทวารจอมหนึบมือหนึ่งของอินทรีเหล็กไปได้เลย



[ นักเตะออสเตรเลียพยายามพังประตูตีไข่แตกแต่ไม่เป็นผล ]



ทำให้เมื่อจบ 90 นาที ของเกม
อินทรีเหล็กเอาชนะออสเตรเลียไปได้ 3 – 0 อย่างสวยงาม
ทำสถิติชนะ 2 นัดรวด เก็บ 4 คะแนนเต็ม
ก่อนที่จะไปทำศึกสายเลือดกับเยอรมันตะวันออก
ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแรก ต่อไป.......



[ อูลี่ เฮอเนส กับ เกิร์ด มุลเลอร์ พยายามช่วยกันบวกสกอร์ทีมจิงโจ้เพิ่ม ]



เยอรมันตะวันออกเสมอกับชิลีในเกมนัดที่สอง 1 – 1
และในนัดสุดท้ายของรอบแรกนั้น
ชิลีดันไม่สามารถที่จะเอาชนะน้องใหม่ออสเตรเลียที่ตกรอบไปแล้วได้
เสมอกันแบบโนสกอร์ ทำให้ต้องกอดคอพากันเก็บกระเป๋ากลับบ้านไป
ทำให้เกมสุดท้ายในรอบแรกของสายที่ 1
ระหว่างทีมเยอรมันตะวันออกและตก ต้องเป็นการแย่งชิงที่ 1 ในสาย
โดยทีมอินทรีเหล็กที่ชนะมารวด 2 นัด ได้เปรียบอยู่
เพราะเล่นแค่เสมอก็ลอยลำเข้ารอบเป็นที่ 1 แล้ว
แต่เหล่าขุนพล เด เด แอร์ ไม่ยอมเป็นทางผ่าน
ให้กับทีมจากฝั่งตะวันตกอย่างแน่นอน.



[ ทีมเยอรมันตะวันออกเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิค 1972 ]


ทีมเยอรมันตะวันออกทีมนี้ ไม่ใช่ธรรมดาเลย
โดยมี จอร์จ บุสเนอร์ เป็นเทรนเนอร์ควบคุมทีม
มียอดดาวยิงที่สุดอันตรายนาม โจอาชิม สเติร์นส เป็นดาราชูโรง
และก่อนหน้านี้ 2 ปี ในโอลิมปิคที่มิวนิค ในปีค.ศ. 1972 นั้น
ทีมเด เด แอร์ ทีมนี้เล่นก็ได้อย่างยอดเยี่ยมจนสร้างเซอร์ไพร์ส
สามารถที่จะคว้าเหรียญทองแดงมาครอบครองได้อย่างน่าทึ่ง มาแล้ว.



[ จอร์จ บุสเนอร์ เทรนเนอร์เดเดแอร์ และ โจอาชิม สเติร์นส ]



22 มิถุนายน 1974 ผู้ชมจำนวนกว่า 60,350 คน
ต่างพากันแออัดยัดเยียดเข้ามาชมศึกแห่งศักดิ์ศรีของ 2 เยอรมัน
จนสนามโฟล็คปาร์คสเตเดี้ยม ในเมืองฮัมบรูก์ แทบแตก



[ ก่อนเกมประวัติศาสตร์ระหว่างสองเยอรมันแต่ต่างลัทธิ ]


และวินาทีที่สองกับตันทีมเยอรมัน แบ็คเคนบาว์น และ เบิร์น แบร๊นส์
สัมผัสมือกันก่อนที่เกมจะเริ่มต้นขึ้นนั้น
เป็นภาพแห่งความทรงจำที่สำคัญภาพหนึ่งในฟุตบอลโลกเลยทีเดียว



[ สองกับตันทีมเยอรมัน เบ็คเคนบาวเออร์ และ เบิร์น แบร๊นซ์ ]



เกมแห่งศักดิ์ศรีเริ่มต้นขึ้นเมื่อ
กรรมการรามอนด์ บาร์เร็ตโต้ ชาวอุรุกวัยให้สัญญาณเริ่มเกม
ทั้งสองทีมเยอรมันเริ่มต้นเกมด้วยความระมัดระวัง
ต่างเล่นแบบไม่มีผลีผลาม
เยอรมันตะวันออก ก็ไม่ได้เล่นแบบตั้งรับแต่อย่างใด
นักเตะทุกคนเล่นอย่างมีวินัย
รอสวนเสมอหากทีมตะวันตกเปิดช่องให้



[ โวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ ดวลกับ ลุกค์สของเดเดแอร์ ]



เกมครึ่งชั่วโมงแรกเป็นไปแบบอึดอัด
เพราะต่างระมัดระวังตัวกัน แบบไม่มีใครยอมพลาดก่อน
รูปเกมโดยมากจึงยันกันอยู่บริเวณกลางสนาม
และอุดมไปด้วยการตัดฟลาว์ ทำให้เกมต้องสะดุดอยู่เป็นระยะ



[ สงครามแข้งของ 2 เยอรมัน ในฟุตบอลโลก 1974 ]



เกิร์ด มุลเลอร์ พยายามที่จะยิงไกล
แต่ลูกยิงของเขาก็ไม่ผ่านมือของเจอร์เก้น ครอยล์
นายทวารเด เด แอร์ไปได้
รูปแบบของเกมเป็นไปแบบขาดความน่าตื่นเต้น
ผิดจากความคาดหมายของแฟนฟุตบอล
ที่หวังจะได้เห็นเกมที่ดุเดือดเลือดพล่าน
ก่อนที่จะจบครึ่งเวลาแรกมาร์ติน ฮอร์ฟมันส์ ลองซัดไกลเต็มแรง
แต่ก็ไม่ทำให้เซปป์ ไมเออร์ ละคายเคืองแต่อย่างใด....



[ เกิร์ด มุลเลอร์ พยายามพังประตูทีมเดเดแอร์ ]



45 นาทีของครึ่งเวลาแรกจบลงไปแบบไม่มีใครยอมพลาด
ทำให้เทรนเนอร์ทั้งสองฝั่งต้องทำงานกันหนักในการแก้เกม
และเมื่อครึ่งเวลาหลังเริ่มต้นขึ้น
เกมก็เริ่มที่จะเปิดหน้ากันมากขึ้น กว่าในครึ่งเวลาแรก



[ เจอร์เก้น ครอยล์นายทวารเดเดแอร์หยุดเกมบุกของอินทรีเหล็กสนิท!!! ]



ทั้งสองทีมต่างมีโอกาส ที่จะส่องไกลกันคนละหลายครั้ง
แต่ก็ยังห่างไกลจากการเป็นประตู
อินทรีเหล็กเล่นแบบประคองตัว
เพราะผลเพียงแค่เสมอ พวกเขาก็จะผ่านเข้ารอบไปเป็นที่ 1 แล้ว



[เบิร์น แบร๊นซ์กับตันทีมเดเดแอร์โหม่งสกัดบอลก่อนที่จะถึงเกิร์ด มุลเลอร์ ]



บุนเดสเทรนเนอร์ เฮลมุต เชิร์น จึงเปลี่ยน 2 ตัวรวดในนาทีที่ 69
เขาจัดการถอดโวลฟกังค์ โอเวอร์รัธ ออก
และแทนที่ด้วยกุนเธ่อร์ เน็ตเชอร์ ที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ดี
กับเปลี่ยนให้ฮอร์ส ฮ็อร์ทเก็ท ลงไปเล่นแทน
จอร์จ ซวาเซนเบ็ค ในแผงหลัง
ทางฝั่ง เด เด แอร์ ก็ส่ง อีริช ฮาร์มันส์ ลงมาทำเกมในนาทีเดียวกัน


>
[ จังหวะหายะนะของทีมอินทรีเหล็กเมื่อสปาวาสเซอร์ได้บอล ]



และเหมือนกับว่าฮาร์มันส์ จะเป็นตัวนำโชค
เพราะว่าในนาทีที่ 77 ในขณะที่รูปเกมไม่มีอะไรน่ากลัว
อีริช ฮาร์มันส์ ก็จับบอลได้ทางริมสนามด้านขวา
เขาจัดการเปิดยาวมาที่หน้ากรอบเขตโทษของเยอรมันตะวันตก
ลูกผ่านแบร์ตี้ โฟ้กท์ส มาจนถึงเจอร์เก้น สปาวาสเซอร์ มิดฟิลด์จอมขยัน
เมื่อเขาจับบอลได้ก็กระชากหลบโฟล็ก เข้าไปหน้าปากประตูอินทรีเหล็กทันที
เซปป์ ไมเออร์ ผวาออกมาจะปิดมุมยิง



[ ก่อนที่จะชิพข้ามตัวของเซปป์ ไมเออร์ เข้าไปอย่างเหนือชั้น ]



แต่ใจของ สปาวาสเซอร์ เย็นเป็นน้ำแข็ง
แทนที่เขาจะซัดบอลออกไปเต็มแรง กลับชิพเบาๆ
ลูกลอยข้ามตัวของไมเออร์ ที่เสียจังหวะ เข้าไปในประตูอย่างนิ่มๆ
ผู้ชมทั้งสนามต่างตกตะลึง
เยอรมันตะวันออกเป็นฝ่ายออกนำ ” เต็ง 1 “ เยอรมันตะวันตกไปแล้ว]
อย่างสุดเหลือเชื่อ !!!



[ ประตูประวัติศาสตร์ของเจอร์เก้น สปาวาสเซอร์( จากหลังประตู ) ]



เหลือเวลาของเกมอยู่อีกเพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้น
อินทรีเหล็กที่เล่นแบบไม่มีวิญญาณมาตลอดทั้งเกม
ก็เหมือนกับโดนตบหน้าเข้าฉาดใหญ่



[ บรรดานักเตะเยอรมันตะวันตกจืดสนิทเมื่อโดนทีเด็ดของทีมจากตะวันออก ]


ต่างสลัดความงุนงง สาดบอลยาวขึ้นหน้าหวังที่จะทวงประตูที่เสียไปคืนมา
แต่ก็ไม่สามารถที่จะส่งบอลผ่านแนวกองหลังของเด เด แอร์
ที่ลงไปตั้งกำแพงรับอย่างเหนียวแน่น
หวังที่จะรักษาสกอร์ที่จะกำลังจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ ไปจนจบเกม



[ ประตูแห่งชัยชนะของทีมเยอรมันตะวันออก ]



เวลาเหลืออยู่อีกเพียงน้อยนิด
11 ขุนพลอินทรีเหล็กวิ่งเหมือนผึ้งแตกรัง
ดาหน้าพาบอลเข้าไปในแดนตะวันออก
เกิร์ด มุลเลอร์ ได้จังหวะที่หน้าเขตโทษ
ไอ้ลูกระเบิดไม่มีจับ ซัดลูกเต็มแรงทันที
แต่บอลก็พลาดเป้าหมายออกไปห่างไกล



[ ขุนพลอินทรีเหล็กโหมบุกหนักแต่ก็ไร้ผล ]


ทำให้เมื่อเกมครบ 90 นาที
เยอรมันตะวันออกก็ทำได้สำเร็จ
เมื่อสามารถคว้าชัยชนะเหนือทีมจากฝั่งตะวันตกไปได้ 1 – 0
ซึ่งมันเป็นเสมือนการลูบคมทีมเต็ง 1 เป็นอย่างมาก



[ เบ็คเคนบาวเออร์เดินเข้าห้องพักทันทีท่ามกลางเสียงโห่จากแฟนๆร่วมชาติ ]



เด เด แอร์ ผ่านเข้ารอบ 2 โดยการเป็นที่ 1 ในสาย
ถีบให้ทีมที่ถูกวางให้เป็น “ ว่าที่แชมป์โลก “ อย่างเยอรมันตะวันตก
ต้องเสียหน้า ตามเข้ารอบมาเป็นที่ 2 อย่างเหลือเชื่อ



[ เจอร์เก้น สปาวาสเซอร์ ฮีโร่ของเยอรมันตะวันออก ]


และจุดเปลี่ยนนี้เอง.......
มันจะแปรเปลี่ยนทำให้ เกิดผลที่เปลี่ยนแปลงขึ้นมา
กับสปิริตของพลพรรค 22 นักเตะอินทรีเหล็กในเวลาต่อมา
โดยที่ไม่มีใครในเวลานั้น จะคาดคิดได้ถึงเลย !!!



[ นักเตะเดเดแอร์ฉลองชัยหลังหักหน้าอินทรีเหล็ก ]




[ สกอร์บอร์ดที่สร้างความน่าอับอายให้แก่ชาวเยอรมันตะวันตก ]




[ กองเชียร์ที่ข้ามกำแพงเบอร์ลินมาจากฝั่งตะวันออกเฉลิมฉลองด้วยความสะใจ ]


......................................
~ ติดตาม..ย้อนตำนานอินทรีเหล็กในตอนหน้า Weltmeisterschaft 74
ซึ่งจะเป็นการแข่งขันในรอบที่ 2 ของศึกฟุตบอลโลก 1974 ....
อีกไม่นานครับผม........^_^





 

Create Date : 09 มีนาคม 2552
63 comments
Last Update : 9 กรกฎาคม 2555 0:08:32 น.
Counter : 4674 Pageviews.

 

ช่วงนี้สงสัยบล็อกแก็งค์ จะอาการไม่ค่อยดี

นั่งปลุกปลํ้าอัพบล็อกอยู่เป็นวัน กว่าจะเสร็จสิ้น

เล่นเอาเกือบตาย.ยยยย.....



~ เย้ !!!!!!!!! ดีใจจัง

เลิก " ดองบล็อก " ซะที ........หุ หุ !!!!!

 

โดย: Romancini 9 มีนาคม 2552 17:48:29 น.  

 

ร๊อกกี้ฮะ..กล้าพิมพ์เน๊อะว่าโปรดติดตามอีกไม่นานเกินรอ
เปลี่ยนฟันปลอมไป 2 แผงละ โห่!!!!


นี่ๆๆๆ เป็ดจอง "บิ๊กเอียร์" เหรอ
เอา "บิ๊กแอส" ไปก่อนแล้วกัน
ปู๊ดดดดดดดดดดดดดดด


บอลถ้วยเล็กราฟาไม่สน
ถ้วยใหญ่ก็ไม่สนราฟาเหมือนกัน เฟร้ยยย!!!

โหด บ๊อง บวม ก็น่ารักอ่ะ
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยส์
หรือจะเถียง
เดี๋ยวปั๊ด โคลสไลน์!!!! (พิมถูกเปล่าวะ อิอิอิอิ)


คิดถึงนะ

 

โดย: HastaLaVista 9 มีนาคม 2552 18:23:22 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณร้อกกี้
ตามมาดูคนไม่เจ้าชู้
เลิกดอกบล๊อกแล้วเหรอ สงสัยเกลือหมดใช่ป่ะ อิอิ

ส่งเข้านอนล่วงหน้าเลยนะคะ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

โดย: พ่อระนาด 9 มีนาคม 2552 19:14:13 น.  

 

อยากบอกว่า....
ดูบอลม่ายเป็น 55555
...
แวะมาทักทายค่ะ
ฝันดีนะค่ะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: ผู้หญิงชื่อส้ม 9 มีนาคม 2552 22:56:42 น.  

 

มานี่เลย ๆๆๆทิ้งกันไปนอนหน้าตาเฉยได้ไง

ห๊า...

พรุ่งนี้ห้ามนอนด้วยต้องอยู่เชียร์ให้หงส์ชนะ

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 10 มีนาคม 2552 1:16:45 น.  

 

สวัดดี คุณตาเอ็ดเวิด

ตื่นรึยังอ่ะ

ว่าจะชวนไปกินกาแฟStarbucksสักหน่อย

ถึงพวกเค้าจะบ่านนอก แต่หมู่เฮาก็รู้จักนะเฟ้ยยยยยย

ปล.ที่Starbucksไม่มีหนังสือพิมพ์เล่มละสี่บาทนะจ๊ะ

อยากอ่านต้องพกไปเอง

ปล.ที่สอง สงสัยตาจะต้องเคยกินก๋วยเตี๋ยวชามละสองบาทแน่เลย

ปล.สาม เค้าก็อยากมี พขร.บ้างอ่ะนะ ไม่เห็นจะมายื่นข้อเสนอให้เค้าบ้างเลย

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 10 มีนาคม 2552 9:48:19 น.  

 

ลีกกะลาชัดๆ

 

โดย: HastaLaVista 11 มีนาคม 2552 4:07:56 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณร๊อก...

ปอ ป้า มาช้าตามวัย...อิ อิ
เป็นป่วยเสียหลายวัน..เลยมาช้าไปหน่อย ขอ อภัย...

คุณฟร้าน ตอนนั้นยังฟิตเปรี๊ยะอยู่เลย แถมด้วย คุณเกิร์ด
จะว่าไปแล้ว อินทรีย์ ชุดนี้ชื่อชั้นเหนือใคร...จริง ๆ

ป้าจำไม่ได้ว่า ผลฟุตบอลโลกคราวนั้น ใครครองแชมป์
เห็นทีต้องเกาะย้อนอดีต อย่างเหนียวแน่น..

อย่าลืมส่งข่าวเมื่ออัพตอนต่อไปด้วย...นะคะ
แฟ นา นุ แฟน...อย่างปอ ป้า ไม่พลาดแน่นอน..ชัวร์



วันนี้ส่งน้องหล่อมาชวนหม่ำ ไอ้คุณติม.. ค่ะ

icecream

ขอบคุณที่นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ย้อนรอย..นะคะ

ขอให้คุณร๊อก มีความสุขมาก ๆ ในทุกวัน...ค่ะ

 

โดย: พรหมญาณี 11 มีนาคม 2552 12:47:09 น.  

 

สวัสดีค่ะ
อิๆๆๆ แวะมาอีกแล้วววหล่ะค่ะ มาบ่อยคงไม่ว่ากันนะค่ะ
...
แวะมาส่งเข้านอนค่ะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: ผู้หญิงชื่อส้ม 11 มีนาคม 2552 22:53:28 น.  

 

บลายธ์ดอง
แล้วคนแถวนี้อ่ะ
เรียกว่าอะไร

 

โดย: HastaLaVista 12 มีนาคม 2552 7:31:49 น.  

 

โย่ว!!!

ว่าไง ซอคเกอร์เล่มละ 4 บาท

แอร๊ยยยยยยยยยยยยส์

แก่ได้อีก!!!

 

โดย: HastaLaVista 13 มีนาคม 2552 11:16:06 น.  

 

ไอติม...ไอติม...คลายร้อน อีกแล้ว..ค่ะ

Photobucket

 

โดย: พรหมญาณี 13 มีนาคม 2552 14:24:29 น.  

 

 

โดย: HastaLaVista 14 มีนาคม 2552 12:05:53 น.  

 

ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

อะไรแว้บบๆๆๆ

สะใจว่ะ

 

โดย: HastaLaVista 14 มีนาคม 2552 20:14:19 น.  

 

บล็อกตัวเองก็ว่าง
ทำไมไม่ร้องเพลงใส่ไว้เองฟระ!!!

หนวกหูวุ้ย!!!

 

โดย: HastaLaVista 15 มีนาคม 2552 11:50:07 น.  

 

ไม่น่าเชื่อเลย ว่าจะไปถึงตั้ง 4-1 แหน่ะ...

ไม่ได้ถ้วยก็ไม่เป็นไร ขอแค่ชนะแมนยูก็พอใจแล้ว

..
เอามาให้ร่วมไว้อาลัย อิอิ



win win



....
มีความสุขในทุกวันที่ชีวิตเดินทางคะ

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 15 มีนาคม 2552 12:47:31 น.  

 

สวัสดีท่าน...

ผมได้ยินและอ่านตำนานของอีตาถังเบียร์มานาน แต่ไม่เคยเห็นฟอร์มเลย อยากรู้จริง ๆ เก่งแค่ไหน หาเทปดูยากด้วย

 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 17 มีนาคม 2552 15:22:23 น.  

 


มันจะอะไรกันนักกันหนา

ง่วงนอนก็ไปนอนสิ

จะต้องมาบอกทำไม

วู้...

แหว่ะ...

 

โดย: HastaLaVista 17 มีนาคม 2552 15:41:43 น.  

 

๐ วารผัน วันผ่าน แผ้ว............สวัสดี
จันทร์เคลื่อน เดือนคล้อย มี.....สว่างแล้ว
อรุณ อุ่นรับ ภูรี.....................เผยส่อง
วิหค ผก เจื้อยแจ้ว.................เบิกฟ้าธาตรี ฯ

อรุณสวัสดิ์ค่ะ ร้อกกี้ รี่ก๊อก
มีความสุขรับวันใหม่กันนะคะ

 

โดย: พ่อระนาด 18 มีนาคม 2552 6:50:44 น.  

 

Photobucket

บ่าย ๆ มีอาการอย่างนี้บ้างหรือเปล่าคะ...คุณร๊อก

มีเวลาแวะไปเที่ยวอินเดียกะปอ ป้า ต่อ...นะคะ

 

โดย: พรหมญาณี 18 มีนาคม 2552 13:56:33 น.  

 

อาบน้ำ กินยา แล้วไปนอนซะ

แก่แล้วก็งี้..

มีแต่จะทรุดโทรม

รอให้กรมศิลปากรมาซ่อมแซมก็อีกนาน

ดูแลตัวเองกันไปก่อนเน้อ

 

โดย: HastaLaVista 19 มีนาคม 2552 6:32:24 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ ร้อกกี้ รี่ก๊อก
ดีใจที่เห็นแวะเวียนมานะคะ
อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพด้วยเช่นกันคะ่

 

โดย: พ่อระนาด 19 มีนาคม 2552 6:32:27 น.  

 

อิ อิ

อย่างนี้คุณตาร๊อกก็สิวเต็มหน้าอ่ะดิ

เพราะเห็นนอนดึกบ่อยๆ

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 19 มีนาคม 2552 9:56:19 น.  

 

monky & tiger

สวัสดีค่ะ คุณร๊อก...

พาน้องเสือ กะ พี่จ๋อ มาให้คลายเครียด...ค่ะ

ไมเกรน โรคเดียวกะปอ ป้า เลยค่ะ
ต้องพักผ่อนหมายถึงนอนให้เพียงพอ
หลีกเลี่ยงแสงแดด กลิ่นฉุนต่าง ๆ ซึ่งเราจะต้องสังเกตุว่า
กลิ่นไหนที่ทำให้เราเกิดอาการ...

และที่สำคัญพอเริ่มปวดเล็กน้อย ต้องรีบทานยาเข้าไป
อย่าปล่อยให้เป็นมากแล้วค่อยทาน เพราะยาไมเกรนจะออกฤทธิ์หลังจากทานเข้าไปแล้วประมาณ 20-30 นาที
ยาไมเกรนที่ดีชื่อ อะวาไมเกรน ยากแก้ปวดอย่างอื่น
ทานไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ลองไปถามร้านขายยา
ที่มีเภสัชประจำร้านดู...นะคะ

ยังดีที่คุณร๊อกอายุยังน้อยอยู่ และคงไม่มีโรคประจำตัวอื่น
อย่างป้าน่ะ แย่หน่อยค่ะ มีโรคประจำตัว คือโรค SLE อยู่ด้วย
การรักษาเลยค่อนข้างจะลำบาก ขนาดอายุปาเข้าไปตั้ง 55
แล้วยังไม่หายเลยค่ะ หมายถึงไมเกรนนะคะ
ส่วน SLE น่ะ ต้องตายถึงจะหายค่ะ แบบว่า หายไปจากโลกนี้เลย...อิ อิ

ดูแลตัวเองหน่อย...นะคะ
มีอะไรให้ป้าช่วยก็บอกได้ไม่ต้องเกรงใจ..นะคะ
ยินดีเสมอ...ค่ะ

 

โดย: พรหมญาณี 19 มีนาคม 2552 17:04:50 น.  

 

ที่ว่าไมเคิลวิ่งเข้าใส่ตอนยืนซื้อหนังสือนั่นน่ะ
สงสัยว่าร๊อกกี้คงจะยืนตรูดงอนได้ใจอยู่อ่ะดิ่
แอร๊ยยยยยยยยยยยส์
เกย์ได้อีกค่ะคู๊ณณณณณณ!!!

 

โดย: HastaLaVista 19 มีนาคม 2552 18:13:45 น.  

 

ตื่น ๆ .....เร็ว ๆ
ลืมตา เช้าแล้ววววว

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 20 มีนาคม 2552 2:28:16 น.  

 

เหม็นขี้หน้า
ขี้เกียจตอบโต้

เพราะ พี่โด้ ขอร้องงงง!!!

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์

 

โดย: HastaLaVista 20 มีนาคม 2552 8:59:29 น.  

 

เจ้าของบ้านนี้หายไปไหนค่ะเนี่ยยย
..
แวะมาส่งเข้านอนค่ะ

 

โดย: ผู้หญิงชื่อส้ม 21 มีนาคม 2552 0:30:09 น.  

 

อืม

 

โดย: HastaLaVista 22 มีนาคม 2552 19:47:42 น.  

 

.......



อย่าเอ็ดไป


บล็อกนี่เค้าว่าผีดุ


เนื่องจากโดนทิ้งร้างมานาน

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 23 มีนาคม 2552 15:32:16 น.  

 

แบบนี้ มุลเลอร์ ก็ สไตล์และท่าทางคล้าย รูน ป่ะอ่ะครับ

 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 24 มีนาคม 2552 1:51:43 น.  

 

ว่าไง..
ชาวโลก

 

โดย: HastaLaVista 25 มีนาคม 2552 16:24:33 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณร้อกกี้
หายไปนานมากเลย สบายดีนะคะ
ขอให้มีความสุขกับวันสีส้มค่ะ
ทำงานหนัก ระวังรักษาสุขภาพด้วยนะคะ

 

โดย: พ่อระนาด 26 มีนาคม 2552 6:55:54 น.  

 

ก๊อบปี้ที่คนอื่นเค้าพิมพ์เอาไว้ มาเม้นท์กลับ

เอากลิตเตอร์ลายปัญญาอ่อนได้อีก มาแป่ะ

มีไรดีบ้างเนี่ยะเราน่ะ..

 

โดย: HastaLaVista 26 มีนาคม 2552 10:12:07 น.  

 

แวะมาทักทายยามบ่ายๆค่ะ
ทานข้าวหรือยังค่ะเนี่ยยย

 

โดย: ผู้หญิงชื่อส้ม 26 มีนาคม 2552 13:10:12 น.  

 

กะว่าจะมาบอกให้อัพบล็อกเรื่องอื่น

แต่พอดีมีคนมากระซิบบอกว่า

เคยบอกให้คุณตาอัพเรื่องอื่น

แล้วคุณตาก็บอกว่า

"เราอัพตามใจเรา หาใช่ตามใจคนอ่านไม่"


เองวังด้วยประการฉะนี้

 

โดย: Kra_tai (stardift ) 26 มีนาคม 2552 13:24:18 น.  

 

...มาเข้าฝัน

เผื่อจะฝันร้าย คริ คริ

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 27 มีนาคม 2552 1:20:48 น.  

 

วันสีฟ้ารีบรุดอรุณสวัสดิ์
จิตกระหวัดว้าวุ่นกรุ่นมิหาย
ด้วยคิดถึงเพื่อนพ้องน้องหญิงชาย
ฤดีหมายสุดจะหักจักมาเยือน

 

โดย: พ่อระนาด 27 มีนาคม 2552 6:31:14 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณร๊อก...

ไมเกรน...หายหรือยังคะ
ต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ตากแดด..นะคะ
ไม่งั้นอาการจะกำเริบ..
ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองหน่อย..ป้าเป็นห่วง..นะคะ

Photobucket

มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ และทุกวันดี ๆ นะคะ

 

โดย: พรหมญาณี 27 มีนาคม 2552 15:55:59 น.  

 

 

โดย: HastaLaVista 29 มีนาคม 2552 17:27:53 น.  

 

เอาลูกยิงไกล มัทเธ่ มาแชร์กันดูบ้างจิ๊

ผมชอบเวลาซุปเปอร์แมนยิงไกลโคตร ๆ กระซวกถึงไส้ดี

 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 31 มีนาคม 2552 0:36:21 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณร๊อก...

เป็นไงคะ หายเงียบไปเลย
ไม่สบาย หายดีหรือยัง..??

ป้าเองตอนนี้แข็งแรงดีแล้วค่ะ
เลยมีแรงมาชวนไปเที่ยวอินเดียกันต่อค่ะ

ว่าง ๆ ก็ตามป้าไปนะคะ

 

โดย: พรหมญาณี 31 มีนาคม 2552 15:35:59 น.  

 

เจ้าของบล็อกนี้หล่อ
เจ้าของบล็อกนี้หนุ่ม
เจ้าของบล็อกนี้อัพบล็อกบ่อย
เจ้าของบล็อกนี้ส่งหนังมาให้เราไม่รู้กี่ร้อยเรื่อง
บลา บลา บลา
โคตร แฮปปี้ เอพริล ฟูลส์ เดย์ เลยว่ะ

 

โดย: HastaLaVista 1 เมษายน 2552 10:49:41 น.  

 

คริๆๆๆ ดองบล็อกเหมือนกันเลยหล่ะค่ะ
..
สวัสดีค่ะ ส้มสบายดีตามอัตตภาพค่ะ 5555+
แล้วพี่สบายดีนะค่ะ??
มีความสุข สดชื่น ทุกๆวันน้า..

 

โดย: ผู้หญิงชื่อส้ม 1 เมษายน 2552 13:52:20 น.  

 

เอาเกลือมะ...ช่วยดองบล๊อก อิอิ

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 1 เมษายน 2552 19:17:50 น.  

 

ชื่นตา.กับภาพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงดนตรีกันค่ะ (ไม่มีภาพแบบนี้ที่ไหนนะคะ) ไปบล็อคขวัญกันค่ะ

 

โดย: ขวัญค่ะ (toyor ) 2 เมษายน 2552 1:27:32 น.  

 





วันพระสวัสดีค่ะ ร้อกกี้

 

โดย: พ่อระนาด 2 เมษายน 2552 7:08:39 น.  

 

พูดเรื่อง มัทเธ่ แล้ว อยากถามท่านว่า จริงไหมที่ คูมัน ยิงฟรีคิกส์ คานประตูหักเลย

เพื่อนผมย้ำนัก จริงแท้แน่นอน

แต่ผมยังนึก... มันเทพไปหน่อยล่ะ

 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 2 เมษายน 2552 11:32:37 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณร๊อก..

ป้า ว่าคุณร๊อก ลองไปตรวจสายตา หน่อยดีมั้ยคะ
เพราะบางครั้งที่เราคิดว่า ปวดหัวจากไมเกรน
เรื่องของสายตา ก็มีส่วนด้วยนะคะ
ถ้าตาไม่ดี บวกกับเป็นไมเกรน จะยิ่งทำให้อาการเป็นมากขึ้น
ทางที่ดี หาเวลาไปตรวจเช็คสักหน่อย..นะคะ

วันนี้เป็นวันพระ และ เป็นวันคล้ายวันประสูตรของพระเทพฯ ด้วย

ปอ ป้า เลยเอาพวงมาลัยมาฝาก
นำไปไหว้พระ และ ถวายพระพรพระเทพฯ

แบบว่า ปอ ยอ 1 พวง ใช้ได้ 2 วัตถุประสงค์...อิ อิ

Photobucket


Praying

ป้า เป็นห่วง..นะคะ

 

โดย: พรหมญาณี 2 เมษายน 2552 11:52:54 น.  

 

 

โดย: HastaLaVista 2 เมษายน 2552 23:44:48 น.  

 

ตรงนี้ผมไม่แน่ใจแหะ

แต่เพื่อนผมยืนยันแน่นหนัก

หักจริง ๆ

 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 3 เมษายน 2552 2:05:34 น.  

 

จ้องคอมมากๆแล้วมึนหัว งั้นเปลี่ยนเป็นจ้องอย่างอื่นดีกว่ามั้ยค่ะ จาได้สดชื่น คริๆๆๆ
555+ ล้อเล่นนะค่ะ แล้วไปหาหมอป่าว รีบๆหายไวๆนะค่ะ จะได้อัพเรื่องหนุกๆให้ได้อ่านกัน ^_^
...
สวัสดีวันศุกร์ มีความสุขสุดๆไปเลยนะค่ะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]

 

โดย: ผู้หญิงชื่อส้ม 3 เมษายน 2552 9:22:08 น.  

 

 

โดย: พรหมญาณี 3 เมษายน 2552 9:28:04 น.  

 

ตื่น ๆ มาช่วยเชียร์หงส์ อิอิคืนพรุ่งนี้ห้ามนอนจนกว่าหงส์จะแข่งจบ

มะง้าน โป้งงงงงงงงงงงงงงงง

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 4 เมษายน 2552 1:51:47 น.  

 

๐ ขอบคุณสายจิตรื้น..........หยาดหยด
โปรยหลั่งรินสาดรด...........ซาบซึ้ง
ประทับมั่นฝังจรด..............จารจับ จิตแล
หาเปรียบปานอกอึ้ง...........ถั่งท้นดวงหทัย


๐ พรใดประเสริฐซ้อง.........สรรเสริญ
ทุกทิศาจักเชิญ.................จักให้
บันดาลสุขจำเริญ...............มอบแด่ ท่านเฮย
สมปราถน์ทุกสิ่งไซร้..........เปี่ยมล้นทับทวี ๚ะ๛

 

โดย: พ่อระนาด 4 เมษายน 2552 8:07:03 น.  

 

เอาหนึ่งประตูมาฝาก




 

โดย: เจ้าหญิงหงส์ (timeofmylove ) 5 เมษายน 2552 2:23:58 น.  

 

สวัสดี วันจันทร์...ที่แสนจะชุ่มฉ่ำ..

คุณร๊อก..เป็นไงมั่งคะ ??
หายดีหรือยัง ???...ไปหาหมอดีกว่ามังคะ..

เมื่อวานป้าไปทำตัวเป็นชาวพุทธที่ดี..
วันนี้เลยขอนำบุญมาฝาก...นะคะ

beautiful

ฝนตกตั้งแต่เช้า....ตกหยุด...หยุดตก...ตก ๆ หยุด ๆ
เลยทำให้บรรยากาศ..ซึม ๆ คนก็เลยซึม..แต่ไม่เศร้า..นะคะ
แบบว่า...ขี้เกียจ..จิง..จิ๊งงงง...

Photobucket

มีความสุขกับวันหยุด...นะคะ

 

โดย: พรหมญาณี 6 เมษายน 2552 12:23:33 น.  

 


วุ้ย!!!!

เบื่อพวกเป็ดมีปัญหา

ร่อนไปทั่ว

เห่อะๆๆ

ขึ้นไปยืนหัวล้านปลิวไม่ถึง 24 ชม.

ยังทำมาคุย

จะบ้าตายว่ะ!!!

 

โดย: HastaLaVista 6 เมษายน 2552 21:37:36 น.  

 

แวะมาทักทาย+ส่งเข้านอนค่ะ
อาการยังไม่ดีขึ้นหรอค่ะเนี่ย
ยังไม่อัพบล็อกเลย
จ้องคอมไม่ได้ แต่จ้องทีวีดูบอลได้ใช่ป่าวววว
..
ฝันดีนะค่ะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: ผู้หญิงชื่อส้ม 6 เมษายน 2552 23:05:00 น.  

 

สวัสดีค่ะ มาส่งเข้านอนและมาชวน
ไปร่วมโหวต ภาพน่ารักๆภาพไหนโดนใจสุด!!!!!!ที่บ้านขวัญกันค่ะ

 

โดย: ขวัญค่ะ (toyor ) 7 เมษายน 2552 1:49:10 น.  

 

 

โดย: HastaLaVista 7 เมษายน 2552 5:46:39 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ ร้อกกี้
จากบล๊อก ลุ้นไปถึงไหนเหรอค๊าา อิอิ

 

โดย: พ่อระนาด 7 เมษายน 2552 7:15:25 น.  

 

มาตอบพี่พ่อระนาดแทนร๊อกกี้ซี๊แหงแก๋

"ครับ ผมลุ้นไปถึง...เอิ่มมม
ดาวเคราะห์แคระโน่นนะครับ"

ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ตอบแทนให้ เจ้าของบล็อกมีปัญหาไรเปล่า
มีไรก็เคลียร์
อย่ามางึมๆ งำๆ

จั่งซี๊มันต้องถอน
แอร๊ยยยยยยยยยยยส์

บูชา บูชา

มาเชด้า

บูชา บูชา


แอร๊ยยส์ แอร๊ยยยยยส์

 

โดย: HastaLaVista 7 เมษายน 2552 13:32:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Romancini
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ชายธรรมดา มีความฝันที่ยังไปไม่ถึง แต่ไม่เคยคิดท้อที่จะทำความฝันนั้น ให้เป็นจริง...

" SHINE ON YOU CRAZY DIAMOND "

Remember when you were young, you shone like the sun.
Shine on you crazy diamond.
Now there's a look in your eyes, like black holes in the sky.
Shine on you crazy diamond.
You were caught on the crossfire of childhood and stardom, blown on the steel breeze.
Come on you target for faraway laughter, come on you stranger, you legend, you martyr,
and shine!

You reached for the secret too soon, you cried for the moon.
Shine on you crazy diamond.
Threatened by shadows at night, and exposed in the light.
Shine on you crazy diamond.
Well you wore out your welcome with random precision, rode on the steel breeze.
Come on you raver, you seer of visions, come on you painter, you piper, you prisoner,
and shine!

Nobody knows where you are, how near or how far.
Shine on you crazy diamond.
Pile on many more layers and I'll be joining you there.
Shine on you crazy diamond.
And we'll bask in the shadow of yesterday's triumph, and sail on the steel breeze.
Come on you boy child, you winner and loser, come on you miner for truth and delusion,
and shine!

Totó and Alfredo - ENNIO MORRICONE
Friends' blogs
[Add Romancini's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.