เริ่มด้วยภาพมุมสูงจากโดรนเพื่อให้เห็นทำเลติดแม่น้ำ บรรยากาศร่มรื่นและใกล้เมืองเชียงราย
ที่นี่เป็นโรงแรมที่มีจำนวนห้องพัก 271 ห้อง มีห้องอาหาร 3 ห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง
เริ่มจากบริเวณทางเข้าและป้ายของโรงแรม
เป็นการผสมผสานศิลปะล้านนาไว้ในโรงแรมอย่างสวยงาม
อาคารนี้เรียกว่าเรือนแก้ว สวยมากๆครับ
เดินตรงไปจะมีลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังหน้า lobby
ทางนี้สำหรับแขกจากลานจอดรถเพื่อขึ้นไปยังโรงแรม
เป็นทางเดินที่สวยมากครับ ช่วงกลางคืนจะยิ่งสวย
เดินตรงไปจะไปลานจอดรถด้านหน้าโรงแรม
เรือนแก้วที่สวยสง่า
บนผนังสองข้างทางจะเป็นภาพวาด
ต่อไปผมจะพาไปชมบริเวณ lobby ที่ lobby มีบุษบก ซึ่งประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงราย
lobby ที่นี่โปร่งสบาย กว้างไม่อึดอัด
จริงๆแล้วเริ่มมองเห็นวิวภูเขาจากบริเวณ lobby
ผมจะพาไปชมบาร์และห้องอาหารบนชั้น 10 ก่อนเลยครับ
ห้องอาหารนี้มีชื่อว่า The Peak Wine & Grill
มีทั้งส่วนในห้องปรับอากาศและที่นั่งด้านนอกแบบ outdoor
มีมุมนั่งชิลๆหลายโต๊ะ พอเข้าไปถึงพนักงานจะถามก่อนเลยครับว่าจะมาทานอาหารหรือมานั่งดื่ม เพื่อจะเลือกโต๊ะได้ถูกครับ
มีโต๊ะนั่งแบบบาร์เห็นวิวเต็มๆ
จะสั่งเครื่องดื่มกับอาหารทานเล่นก็ได้ครับ ชมวิวเพลินๆ
บนนี้วิวสวยมากๆ อาหารก็อร่อย
ได้มากินบรรยากาศก็คุ้มแล้วครับ
บรรยากาศด้านนอก แขกส่วนมากที่มาจะชอบมานั่งรับลม ชมวิวด้านนอก
ที่นี่เป็นไฮไลต์อย่างหนึ่งของโรงแรม
บรรยากาศที่ห้องอาหารด้านนอก
เห็นทั้งวิวภูเขาและวิวแม่น้ำ
จุดเด่นที่สำคัญของที่นี่ เหมือนยกวิวสวยๆจากบนดอยมาไว้ในเมือง
ที่นี่จะบริการเฉพาะช่วงตอนเย็น ใครจะไปที่นี่ผมแนะนำให้ไปตั้งแต่ก่อนมืด ให้ดีไปก่อนพระอาทิตย์ตกครับเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกจากบนนี้ น่าจะสวยมากๆ
โต๊ะทานอาหารด้านนอก อยู่ในเมืองแต่ได้วิวเหมือนอยู่บนดอย ปกติวิวอย่างนี้ต้องขึ้นดอยออกนอกเมืองไปไกลๆ
สามารถมองเห็นเจ้าแม่กวนอิมที่วัดห้วยปลากั้งที่อยู่ไกลๆ
โต๊ะอาหารด้านใน มองเห็นวิวเช่นกัน
ลองมาชมเมนูอาหารที่ห้องอาหารนี้ครับ
เมนูนี้เป็นซุปหน่อไม้ฝรั่ง อร่อยดี
เมนูปลาแซลมอน อร่อยมากๆ
เมนูนี้เป็นซุปเห็ด
ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพักแบบแรก
ห้องนี้เป็นห้อง Deluxe River ยอดนิยม เห็นวิวสวยๆจากในห้องนอน
มีที่นั่งชมวิวแม่น้ำและภูเขา เป็นโรงแรมที่อยู่ในเมืองที่ได้เห็นวิวสวยๆจากในห้องนอน
ห้องพักตกแต่งได้สวยงาม เรียบง่าย สัญลักษณ์บนหัวเตียงคือหม้อดอกล้านนา เป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง
ห้องพักถูกปรับปรุงเปลี่ยนโฉมเหมือนใหม่
ชอบโคมไฟหัวเตียง
ข้อดีของโรงแรมบนอาคารสูงคือเห็นวิวจากห้องพักที่สวยมากๆ
ห้องพักไม่มีระเบียงนะครับ แต่มีที่นั่งไว้นั่งชมวิวจากในห้อง
ห้องน้ำติดกับเตียงนอน เผื่อตื่นมากลางคืนเข้าห้องน้ำได้สะดวก ชอบเลย
เป็นห้องน้ำโทนสีขาว สะอาด น่าใช้
อยู่ในห้องน้ำก็ยังเห็นวิวสวยๆ
ต่อไปผมจะพาลงไปทานอาหารเช้าของที่นี่
อาหารเช้าจะเสริฟที่ห้องอาหาร Blossom
อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟต์
มีอาหารให้เลือกหลายอย่าง
มุมเบเกอรี่ที่น่าทาน
ที่นี่เปิดบริการตั้งแต่หกโมงเช้า
วันที่ผมไปมีปลาทอดด้วยครับ ยังมีมุมไข่ มุมโจ๊กข้าวต้ม มุมต้มเลือดหมูที่ขึ้นชื่อ
มุมผักสลัดที่น่าทาน
จากห้องพักเวลาลงลิฟต์มาทานอาหารเช้า กดที่ชั้น B เลยครับ
ดีใจที่อาหารเช้ามีเมนูนี้ ของชอบ ทานกับโจ๊กร้อนๆอร่อยมากๆครับ
มุมนั่งทานอาหารในห้อง
ห้องอาหาร Blossom เป็นห้องอาหารที่เสริฟอาหารทุกมื้อครับ
จะนั่งในห้องหรือจะนั่งด้านนอกชมวิวแม่น้ำก็ได้
ช่วงไหนที่แขกเข้าพักเยอะๆ ผมแนะนำให้ลงมาทานอาหารเช้าเร็วหน่อย
อร่อย ดูดีและน่าทาน
มีทั้งของคาว ของหวาน น่าทานมากๆ
ผมลองมาทานด้านนอกครับ ได้ชมวิวแม่น้ำกกไปด้วย
วิวแม่น้ำกกช่วงที่ทานอาหารเช้า
เมนูขึ้นชื่อของอาหารเช้าที่นี่คือต้มเลือดหมู อร่อยมากๆ มาที่นี่ต้องลองครับ ใครที่ไม่ทานเครื่องใน สามารถสั่งแบบไม่เอาเครื่องในก็ได้
ผมแนะนำว่าลองมาทานอาหารเช้าด้านนอก ได้บรรยากาศมากกว่า
ต่อไปผมจะพาไปชม lobby lounge
ที่นี่อยู่ติดกับ lobby
มีผนังกระจกสูงทำให้เห็นวิวด้านนอกที่สวยงาม
สามารถสั่งเครื่องดื่ม ขนม อาหารทานเล่น
บรรยากาศหรูหรา เหมาะกับการมานั่งเล่น หรือนัดคุยงาน
การตกแต่ง ปรับปรุงได้เหมือนใหม่
ชุดเมนูที่เสิรฟที่ lobby lounge
เป็นชุด high tea ที่น่าทาน
ช่วงบ่ายๆ เผื่อใครไม่อยากออกไปไหน ออกมานั่งเล่นที่ lounge ได้ครับ มีทั้งที่นั่งด้านในและด้านนอก
น่าทานมากๆ
มาชมภาพมุมสูงต่ออีกนิดครับ
อาคารห้องพักอยู่ท่ามกลางภูเขาและติดแม่น้ำ บรรยากาศดีมากๆ
ภายในโรงแรมจะมีทางเดินเล่นริมแม่น้ำ ระยะทางประมาณ 800 เมตร เหมาะกับคนที่ชอบเดินเล่นออกกำลังกาย
มาที่นี่จะว่ายน้ำ เข้าห้องฟิตเนส หรือจะเดินเล่น จ๊อกกิ้งที่ทางเดินริมแม่น้ำก็ได้ครับ
ที่โรงแรมมีลิฟต์สามตัว ต้องใช้คีย์การ์ดในการกดลิฟต์ไปยังชั้นห้องพักครับ
ต่อไปผมจะพาไปชมไฮไลต์อีกอย่างของที่นี่
ห้องอาหารจีนที่ชื่อว่า China Garden
เป็นห้องอาหารที่ติดกับห้องอาหาร Blossom อยู่ริมแม่น้ำ
มีเมนูอาหารจีนหลายอย่าง
แต่ละเมนูน่าทานมากๆ
อาหารจีนของที่นี่ขึ้นชื่อมากๆ ถึงไม่ได้พักที่นี่ก็แวะเข้ามาทานอาหารได้ครับ
และที่ไม่ควรพลาดคือเมนูติ่มซำที่อร่อยเด็ด
มีหลายเมนูให้เลือก น่าทานและอร่อยทุกเมนู
ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงกินเจ มีเมนูติ่มซำเจด้วยครับ
ห้องอาหารจีนจะเปิดมื้อเที่ยงกับมื้อเย็น ส่วนติ่มซำของที่นี่จะเสริฟเฉพาะมื้อเที่ยงครับ
เห็นภาพแล้วยังนึกถึงความอร่อยของติ่มซำที่นี่
นอกจากติ่มซำยังสามารถสั่งเมนูอื่นๆอีกหลายเมนู
ประทับใจห้องอาหารจีนที่นี่มากครับ ถือเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนที่นี่
ต่อไปผมจะพาไปชมร้านสะดวกชื้อของโรงแรมที่อยู่ชั้นเดียวกับ lobby
ออกจากลิฟต์ เดินตรงไปก็ถึงเลยครับ เป็นร้านสะดวกซื้อที่ชื่อว่า Melon มีเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ของใช้ สะดวกมากๆ ราคาปกติเหมือนร้านข้างนอก
ติดกับร้านสะดวกซื้อก็เป็น คิดส์คลับ เห็นวิวสระว่ายน้ำ
เป็นคิดส์คลับที่โปร่งสบาย มีกิจกรรมให้เด็กๆ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแบบครอบครัว
และที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างคือสปาของที่่นี่ครับ
ส่วนต้อนรับของสปา
ก่อนที่จะนวด ทำสปา จะมีการนวดเท้าก่อนครับ
ห้องนวดไทย
ห้องสปาที่ตกแต่งได้สวยงาม
ผมได้มาลองนวด พนักงานนวดได้ดีมากๆครับ
นวดแล้วสบายตัว ใครที่ชอบนวดชอบทำสปา ไม่ควรพลาด
มีอ่าง jacuzzi ในห้องสปาให้ด้วย
ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพักแบบ Riverie Suite
ห้องนี้เป็นห้องด้านหน้าของอาคารที่เห็นวิวสระว่ายน้ำ เป็นห้องที่กว้าง แยกห้องนอนและห้องนั่งเล่น
ส่วนของห้องนอน
ห้องแบบนี้เป็นห้องที่มีระเบียง วิวจากระเบียงห้อง
มีที่นอนเล่นชมวิวแม่น้ำ
ใครที่ชอบห้องกว้างๆ มีระเบียงห้องไว้สูดอากาศด้านนอก ต้องห้องแบบนี้เลยครับ
ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำสำหรับคนเดียว
ภายในห้องนั่งเล่น
เตียงนอนในโรงแรม ถ้าเป็นเตียงใหญ่ จะเป็นเตียงขนาด 7 ฟุตที่ใหญ่กว่าเตียงปกติ นอนสบาย (ปกติเตียงใหญ่จะมีขนาด 6 ฟุต)
ช่วงหนาวๆ แช่น้ำอุ่นคงจะได้บรรยากาศ
ภายในห้องน้ำ เน้นโทนขาว ดูสะอาด น่าใช้
มองเห็นวิวแม่น้ำจากห้องนั่งเล่น
วิวจากระเบียงห้องอีกภาพครับ
ต่อไปผมจะพาไปทานอาหารมื้อเย็นที่ห้องอาหาร Blossom
ที่ห้องอาหารนี้ มีบริการมื้อเย็นแบบขันโตกริมแม่น้ำ
บรรยากาศดีมากๆ เป็นการทานขันโตกที่บรรยากาศดีที่สุดครั้งหนึ่งของผม
ทานเสร็จก็สามารถนั่งเล่นชิลๆริมแม่น้ำ ชอบบรรยากาศแบบนี้ ใครจะทานขันโตกแบบนี้ ผมแนะนำให้จองล่วงหน้าครับ
นอกจากบรรยากาศดีแล้ว อาหารก็อร่อย
ต่อไปผมจะพาไปชมสระว่ายน้ำและสวนน้ำ ส่วนนี้คือ Pool Bar ที่ชื่อว่า Ju Ju Be แปลว่าพุทรา สามารถสั่งเครื่องดื่มมานั่งเล่นริมสระชมวิวแม่น้ำ
มุมมองของอาคารที่พักจากบริเวณสระว่ายน้ำ
สวนน้ำที่บริเวณสระว่ายน้ำ
เด็กๆจะชอบมากครับ
เหมาะกับการมาพักผ่อนแบบครอบครัว เด็กๆมีกิจกรรมให้เล่น มีคิดส์คลับ มีสวนน้ำ
Pool Bar ริมสระ มีที่นั่งในสระ เล่นน้ำเหนื่อยๆสามารถมาสั่งเครื่องดื่มได้เลย
ต่อไปผมจะพาไปชมห้อง ฟิตเนส
ห้องนี้อยู่ชั้น B ชั้นเดียวกับห้องอาหาร Blossom
สามารถเข้ามาใช้บริการได้ 24 ชม
ถูกใจคนที่ชอบออกกำลังกาย
มุมสวยๆริมแม่น้ำ
ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพักแบบ Family Suite
ห้องนี้เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน และ เด็ก 2 คน
มีเตียงใหญ่สำหรับผู้ใหญ่ และเดียงเด็กเป็นเตียงสองชั้น
ภายในจะแยกห้องเป็นสองห้อง สะดวก
ทางเข้าและห้องน้ำอยู่ในส่วนห้องนอนเด็ก
ภายในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย เด็กๆเล่นน้ำกันได้เลย
เป็นห้องที่เหมาะกับการมาพักผ่อนแบบครอบครัว
บรรยากาศติดแม่น้ำของอาคารห้องพัก
ที่นี่เป็นที่พักที่เหมาะกับการมาพักทุกรูปแบบ แบบครอบครับ แบบคู่รัก หรือมาพักผ่อนเงียบๆชมวิวสวยๆ
ใครที่กำลังมองหาที่พักบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ ที่เชียงรายแนะนำเลยครับ
ที่นี่เป็นโรงแรมริมแม่น้ำที่บรรยากาศดีอีกแห่งหนึ่งที่ผมเคยพักมา เป็นการปรับปรุงเปลี่ยนโฉมที่ไม่ธรรมดาของกะตะธานีที่ทำให้ที่พักคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงรายกลับมาทันสมัย มีสไตล์ น่าพักอีกครั้ง
ปิดท้ายด้วยภาพจากปก ห้องพักบรรยากาศดีๆ เห็นวิวสวยๆ ที่ไม่นึกว่าจะเป็นโรงแรมที่อยู่ในตัวเมือง