|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
การกลับมาของเพื่อนเก่า
พูดถึงเรื่องความทรงจำ มันก็คงต้องมีทั้งดีและไม่ดี ถึงแม้ว่าจะมีความทรงจำที่เลวร้ายบ้าง แต่ดิฉันมักไม่ค่อยใส่ใจ ยิ่งอายุมากขึ้นก็ไม่มีเวลาจะไปจดจำเรื่องที่ไม่ได้ทำให้ชีวิต ณ วันนี้ดีขึ้นแต่อย่างใด
แล้วความทรงจำที่ดีเล่า ถึงจะเลอะๆ เลือนๆ ไปบ้าง เหมือนตามเพลงของฮอทเปปเปอร์ (อย่าเดาอายุกันเลยค่ะ ดิฉันชอบฟังเพลงเก่าค่ะ เป็นรสนิยมส่วนตัวมั้ง?) "บางสิ่งที่อยากลืมเรากลับจำ บางสิ่งที่อยากจำเรากลับลืม คนเรานี้คิดให้ดีก็น่าขัน อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ" แล้วก็ร้องวนไปวน เพราะจำเนื้อได้แค่นี้
บางทีอะไรๆ ที่เราลืมๆ ไป มันก็หวนกลับเข้ามาในชีวิตอยู่เนืองๆ จะด้วยชะตาหรือฟ้าหรือกรรมกำหนดเอาไว้ก็มิทราบได้ และการกลับมาของเพื่อนเก่านี้ ก็เฉกเช่นกัน พอเราจะลืมๆ ก็กลับเข้ามาอีกเป็นระยะๆ
ครั้งแรกที่ดิฉันพบอี๊ดเมื่อ 17-18 ปีที่แล้วสินะ เธอเป็นเด็กสาวที่สวยสะดุดตามาก ตาโตดังตาหงส์ ผิวพรรณสวยแลดูนุ่มนวล ตอนนั้นเธออายุ 13 ปี หรือจะเรียกว่า 13 ขวบดี ใบหน้าของเธอเกลี้ยงเกลา ไม่มีสิวสาวเกิดขึ้น รูปร่างของจะท้วมเล็กน้อย ถ้าพูดตามประสาชาวบ้านก็คืออวบอั๋นตามธรรมชาติของเด็กสาวรุ่น
ทำไมเราถึงต้องเจอกัน มันเป็นเรื่องของความบังเอิญ เพราะเธอต้องมารับการรักษาทางสุขภาพอย่างหนึ่ง และดิฉันเป็นนักเรียนในตอนนั้นได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลเธอ ความสัมพันธ์และมิตรภาพเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มิมีการนัดหมายใดๆ ทั้งสิ้น คุยคร่าวๆ พอรู้ว่ากลับทางเดียวกัน
"อี๊ดจะกลับบ้านอย่างไรวันนี้ เดี๋ยวพี่ไปส่งไหม รอแป๊บนึงพอทำงานเสร็จก็ไปด้วยกันได้" "ขอบคุณค่ะพี่"
นับจากวันนั้น ทุกครั้งที่ได้พบเจอเธอ ทำให้ดิฉันได้รับรู้เรื่องราวของเธอทีละเล็กละน้อย และความผูกพันมันสานต่อโดยที่ดิฉันและเธอคงไม่รู้ตัว
"พ่อหนูเอาหนูมาฝากไว้กับป๋าตั้งแต่หนูอายุ 11 แล้วนะพี่ แต่ป๋าดีนะพี่ เขาบอกว่าหนูยังเด็ก ให้ช่วยเก็บแก้วและทำความสะอาดหลังบาร์เลิกก็พอ"
ป๋าที่ว่าเป็นใครนั้น ดิฉันมิเคยถาม และมิเคยอยากรู้ จนถึงวันนี้ก็ไม่เคยถาม ดิฉันรู้แต่ว่า เวลาที่ต้องไปส่งอี๊ด จะส่งที่หน้าสถานที่บันเทิงแห่งหนึ่งในย่านท่องเที่ยวที่ยามค่ำคืนจะครึกครื้น และมักมีรถบัสสำหรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจอดอยู่หลายคันเสมอ จำได้แม่นยำ ด้วยว่าบาร์แห่งนี้เป็นทางผ่านไปยังบ้านพักในตอนนั้นของดิฉันนั่นเอง ทุกครั้งดิฉันจะจอดส่งอี๊ดที่ข้างหน้าบาร์เลย
"แต่หนูยังไม่ดูแลแขกนะพี่ หนูยังเด็ก อีกสัก 2 ปีมั้ง เห็นป๋าบอก ให้หนูอายุ 15 ปีก่อน จริงๆ พูดง่ายๆ นะพี่ พ่อหนูเอาหนูมาขายนั่นแหละ พ่อมีเมียใหม่ แล้วหนูก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่ ก็ดีนะ มีกินมีที่อยู่"
เธอเป็นเด็กสาวที่สวย ฉลาด มองโลกในแง่ดี และที่สำคัญมองโลกในแบบที่มันเป็น เธอไม่คิดว่าโลกนี้มันเลวร้าย แต่เธอคิดว่าทำอย่างไรเธอจะอยู่ได้อย่างรอดปลอดภัยมากกว่า
วันนึงรถติดไฟแดง เรามองเห็นเด็กขายพวงมาลัยเคาะหน้าต่างของรถแต่ละคัน รถคันหนึ่งโบกมือว่าไม่เอา แต่ว่าลดหน้าต่างลง แล้วยื่นเงิน 10 บาทให้ เด็กขายพวงมาลัยส่ายหน้า แล้วเดินจากไป "เออ ดูสิ แปลกดี เขาให้เงินแล้วไม่เอานะ มีศักดิ์ศรีนะเนี่ย ถ้าไม่ซื้อก็ไม่รับเงินให้เปล่า" "พี่คะ ถ้าเป็นหนู หนูรับนะ" ... อี๊ดเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดต่อ "คนเราเวลาที่ไม่มีเนี่ย เราต้องไม่หยิ่งนะพี่ ถ้าเป็นหนู หนูจะรับเอาไว้ ศักดิ์ศรีน่ะมันกินไม่ได้"
ดิฉันจำได้แม่นและรู้สึกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ที่ 13 ขวบแต่กลับมีความคิดและความนิ่งในการคิด ที่ไม่ธรรมดาอีกอย่างคือ เธอขาดความสดใสของเด็กวัยนี้ไป
ดิฉันรับรู้เรื่องราวและเรื่องเล่าของชีวิตของเธอ จากเธอเองทุกๆ ครั้งที่ได้มีโอกาสอยู่กัน 2 ต่อ 2 และความเห็นอกเห็นใจก็ก่อเกิดขึ้นในจิตใจของดิฉันอย่างน่าพิศวง ซึ่งตัวดิฉันเองก็บอกไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ว่าเป็นเพราะอะไร?
เพื่อนๆ ในกลุ่ม บอกดิฉันว่า อย่าเอาตัวเองเข้าไปรับรู้เรื่องราวของเด็กคนนี้ให้มากนัก ติดต่อกันในเรื่องที่เราต้องดูแลเขาในด้านสุขภาพก็เพียงพอแล้ว
ในวันที่เธอต้องมาพบดิฉัน เธอจะนั่งรอดิฉันจนถึงเย็นเพื่อที่จะได้กลับพร้อมกัน "หนูอยากอยู่กับพี่ ไม่มีอะไรทำหรอก แค่ไปช่วยช่วงเย็นที่บาร์เท่านั้น ตอนกลางวันหนูว่างๆ หนูก็ไม่มีอะไรทำ มาหาพี่ หนูยังเห็นว่าที่โรงเรียนเป็นยังไง คนที่แต่งชุดนักศึกษาเป็นยังไง หนูคงไม่มีวาสนาที่จะได้ใส่หรอกพึ่ แค่ดูก็ยังดี" หลายๆ คนที่เห็นอี๊ดเดินตามดิฉันในช่วงหลังๆ เข้าใจว่า นี่คือน้องสาวที่แท้จริงของดิฉัน
เวลาผ่านไปเกือบ 1 ปี ความผูกพันและความใกล้ชิดมาถึงจุดที่ดิฉันมีแผนการหนึ่งเกิดขึ้นสำหรับอี๊ด และดิฉันต้องการทำให้มันเป็นจริง
ดิฉันบอกตัวเองว่า เราดูคนไม่ผิดหรอก คนหนึ่งอาจจะหลอกใครๆ ได้ด้วยคำพูดและการกระทำ แต่ดวงตาคู่โตและสวยคมดั่งตาหงส์คู่นั้นของเธอมันบอกดิฉันว่า มันไม่เคยโกหก
แผนการของดิฉันเริ่มขึ้นจากบทสนทนากับเพื่อนชายรู้ใจในขณะนั้น ซึ่งหุ้นทำร้านค้าประเภทหนึ่งกับเพื่อนอีก 2-3 คน บางทีเล่าให้ฟังเสมอว่า ถ้าได้เด็กมาช่วยคนงานที่จ้างอยู่แล้วก็น่าจะดี ลูกจ้างประจำจะได้ไม่เหนื่อยมาก กลัวจะลาออกไปเสียก่อน ดิฉันจึงเล่าเรื่องของอี๊ดให้เพื่อนชายฟัง พร้อมทั้งบอกแกมบังคับว่า ดิฉันต้องการให้อี๊ดย้ายออกจากบาร์มาอยู่ที่ร้านค้านั้น และขอให้ได้รับเงินเดือนโดยพอประมาณตามงานที่ทำ
นั่นเป็นแผนการแรกที่ดิฉันวางเอาไว้ และมันสำเร็จ... อี๊ดคุยกับป๋า ป๋าตกลงยอมให้อี๊ดออกจากบาร์โดยไม่ต้องจ่ายเงินคืนแต่อย่างใด นับว่าเขาเป็นคนที่ดีคนหนึ่งที่น่าจะหาได้ยากในสังคมปัจจุบัน หรือไม่ก็คือ อี๊ดเป็นคนที่โชคดีมากคนหนึ่งที่ได้มาเจอป๋า ไม่ใช่คนอื่น สำหรับดิฉันการช่วยให้อี๊ดออกมาจากบาร์ได้ เป็นเพียงการกระทำที่ดิฉันคิดว่า หากเป็นน้องสาวจริงๆ เราจะทำอย่างไร ก็เท่านั้น แต่สำหรับอี๊ด ดิฉันคือคนที่ให้ชีวิตใหม่แก่เธอในทันที
อี๊ดทำงานวันละ 4-5 ชั่วโมง มีวันหยุด 1 วัน/สัปดาห์ ที่อยู่ไม่ต้องเสีย ได้เงินเดือนๆ ละ 700 บาท เธอตั้งใจทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ภายหลังออกจากบาร์ ดูเหมือนว่าอี๊ดมีชีวิตตามที่ควรจะเป็น ถามว่าสบายกว่าที่บาร์ไหม เธอตอบว่าไม่ได้สบายกว่า แต่เธอรู้สึกว่าเธอน่าจะมีอนาคตให้ได้คิดฝันบ้าง นี่คือโอกาสที่ดีในชีวิตของเธอ เธอต้องการจะทำให้มันดีที่สุด
แผนการขั้นต่อไปคือการโน้มน้าวให้อี๊ดเรียนศึกษาผู้ใหญ่ต่อ ในขณะนั้นดิฉันเรียนจบและไปทำงานต่างจังหวัดแล้ว อี๊ดเล่าให้ฟังก่อนไปว่า เธอได้สมัครเรียนแล้วและจะเรียนตามที่เคยคุยกันไว้ อย่างน้อยต้องให้ได้วุฒิ ม. 6
และเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างดิฉันกับเพื่อนชายเริ่มร้างราด้วยวัตถุประสงค์ในชีวิตไม่สอดคล้อง ความร้าวฉานก็เข้ามาเยือนและนำไปสู่จุดจบตามความคาดหมายของตัวดิฉันเองและคงจะเป็นความคาดหมายของเขาด้วยเช่นกัน และข่าวคราวของอี๊ดก็หายไปพร้อมกับความสัมพันธ์ที่ดิฉันมีกับเพื่อนชายนั่นเอง
ต่อมาดิฉันเดินทางไปเรียนต่อ ชีวิตมีแต่เบื้องหน้าที่เราต้องค้นหาและผจญภัย ชีวิตที่ผ่านมานับจากนี้ไปเป็นแค่อดีตเท่านั้น และอี๊ดก็ถูกจัดเข้าไปอยู่ในกลุ่มของบุคคลในอดีตที่ช่วงหนึ่งของชีวิตเราเคยได้พานพบและรู้จัก
Create Date : 04 ตุลาคม 2549 |
|
17 comments |
Last Update : 4 ตุลาคม 2549 20:52:34 น. |
Counter : 1215 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 20:53:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 20:59:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:00:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:00:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:04:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:04:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:05:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:05:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:06:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:06:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:07:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:09:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:09:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธูไทย 4 ตุลาคม 2549 21:10:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: a little donkey (boonsiriPOWER ) 24 พฤษภาคม 2550 11:00:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
บล็อกนี้เปิดไว้เพื่อเก็บสิ่งที่เขียนจากที่ต่างๆ เอามารวมๆ กัน ไม่ได้เข้าบล็อคบ่อยๆ มาดูเฉพาะตอนที่จะเขียนอะไร ดังนั้นถ้าใครมาเยี่ยมชมหรือเขียนถามอะไรเอาไว้ จะไม่เคยตอบ เพราะกว่าจะตอบมันนานมาก และผู้ถามคงจะลืมไปแล้วว่าถามอะไร
|
|
|
|
|
|
|
|
เพื่อนรักคนหนึ่งเคยบอกเอาไว้ว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อมีชีวิตอยู่บนความคาดหวังของใคร หากแต่บนความคาดหวังของตนเอง และดิฉันก็เชื่อเช่นนั้น หากวันหนึ่งโชคดีมีโอกาสได้มาพานพบกันอีก ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าไม่ใช่ เราก็ดำเนินชีวิตไปตามทางและแผนการของแต่ละคนไป
หลังเรียนจบและกลับไปทำงานต่างจังหวัดที่เมืองไทยดังเดิม ความทรงจำเกี่ยวกับอี๊ดก็ย้อนกลับมาในหัวของดิฉันอีกจนได้ เพียงเพราะรูปปักครอสติชท์ขนาดใหญ่ที่อยู่ในกล่องใบหนึ่ง ระหว่างที่ดิฉันรื้อข้าวของที่เก็บไว้ออกจากกล่องต่างๆ เพื่อจัดห้องพักที่ถูกเปลี่ยนสภาพไปเป็นห้องเก็บของในช่วงที่ดิฉันลาไปเรียนต่อ
รูปปักนั้นถูกเข้ากรอบเอาไว้อย่างสวยงาม เป็นรูปกวางแม่-ลูกยืนกินหญ้าในป่า และมีนาฬิกา เป็นสไตล์ในยุคนั้นที่หญิงสาวทุกวัย นิยมใช้เวลาว่างจากงานเพื่อทำงานฝีมือลักษณะนี้ แต่ไม่ใช่ผู้หญิงแบบพธูไทย เพราะดิฉันปักไม่เป็นและไม่อดทนที่จะทำให้ได้
"หนูให้เป็นของขวัญสำหรับพี่นะ หนูภูมิใจแทนพี่มาก"
เธอยื่นภาพปักเข้ากรอบนี้ให้ ในวันรับปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ เมื่อหลายปีก่อนหน้านั้น
"ปักเองเหรอ โห ทำไมต้องทำมาให้แบบนี้ สงสัยจะทำนานนะ ไม่เห็นต้องให้อะไรพี่เลย มาให้เห็นหน้าก็ดีใจแล้ว"
"หนูทำมาหลายเดือนแล้ว ทำตอนว่างๆ หนูอยากให้พี่ ให้เป็นกรอบอย่างนี้เลย และพี่ก็เอาไปติดข้างฝานะ พี่จะได้นึกถึงอี๊ดบ้าง อี๊ดคงจะคิดถึงพี่มากแน่ๆ เลย เพราะอี๊ดจะไม่มีใครแล้ว"
"ทำไมจะไม่มีใครล่ะ อยู่ที่ร้านก็มีเพื่อนแถวๆ นั้น มีลูกค้าที่แวะเวียนมาคุย แล้วก็ยังมีพี่นก"
ดิฉันหมายถึง ลูกจ้างประจำที่ทำงานที่ร้านที่อดีตเพื่อนชายของดิฉันเป็นหุ้นส่วนแห่งนั้น และอี๊ดไปช่วยงาน
"ไม่มีหรอกพี่ เพราะมันเทียบกันไม่ได้ สำหรับพี่ อาจเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย อี๊ดเป็นเด็กคนนึงที่พี่รู้จัก แต่สำหรับอี๊ด พี่เป็นเหมือนแม่และเหมือนพี่แท้ๆ"
"พอแล้ว ร้องไห้ทำไม ไม่มีใครที่ไหนตาย"
"หนูไม่เคยร้องไห้แบบนี้หลังจากแม่ตายเลยนะพี่ พ่อเอาหนูมาขาย หนูยังไม่ร้องไห้เลย..."
"แต่พี่ไม่ได้ตายนี่นา เลิกร้องได้แล้ว"
"พี่กำลังทำให้หนูเศร้า"
"จำเอาไว้นะ ตั้งใจเรียน อนาคตเป็นของเรา อี๊ดจะได้เลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง และอี๊ดก็กำลังทำอยู่ อย่าลืมบอกพี่ว่ารับปริญญาเมื่อไรนะ พี่จะมาทันที แต่พี่ไม่ปักภาพครอสติทช์ให้นะ มันทรมาน"
ดิฉันหยิบรูปปักขึ้นมา เอาผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดเอาฝุ่นออก และตัดสินใจติดเอาไว้ที่ข้างฝา ที่เคยถอดมันลงมาก่อนที่จะเก็บเข้ากล่อง ตอนเตรียมตัวจะไปเรียนต่อนั่นเอง