|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
HHR 17 - ครอบครัวกลางถนน : ศิลา โคมฉาย
ครอบครัวกลางถนน ศิลา โคมฉาย : เขียน สำนักพิมพ์มิ่งมิตร พิมพ์ครั้งที่ 10 มกราคม 2543 143 หน้า 90 บาท
ครอบครัวกลางถนนเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นสะท้อนภาพชีวิตคนเมืองในสังคมปัจจุบัน ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาครอบครัว เศรษฐกิจและการเมือง มาถ่ายทอดเป็นเรื่องสั้นจำนวนทั้งหมด 13 เรื่อง
- ขาซ้ายของแม่
เด็กหนุ่มจากบ้านนอกเข้ามาทำงานอยู่เมืองหลวง หลายปีดีดักไม่ได้ติดต่อหรือแวะกลับบ้าน จนกระทั่งพาว่าที่ลูกสะใภ้ไปให้คุณแม่ดูตัว พบขาข้างซ้ายที่คอยหาเลี้ยง-ส่งเสริมเริ่มแสดงอาการเจ็บป่วยอย่างเห็นได้ชัด จึงตั้งใจเก็บเงินไว้เป็นค่ารักษา แต่สุดท้ายความตั้งใจก็ยังคงไม่ส่งผลเพราะมีเหตุให้ต้องเลื่อนความตั้งใจนี้ลงไป ** อย่าเหลียวกลับมาดูดายต่อเมื่อท่านจากไป - มันไม่มีความหมายให้เรียกกลับมา **
- ถ้าผมเป็นพ่อ
เรื่องราวของลูกชายวัยรุ่นที่ถูกคุณพ่อเข้มงวดกวดขันว่าเป็นสิ่งไม่ดีและยังไม่ควรแก่เวลา แต่คุณย่าก็เล่าว่าตอนพ่ออายุเท่าผม - ท่านก็หนีไม่พ้นเรื่องราวเหล่านี้ หยิกแกมหยอกได้น่ารักดี โดนตรงที่เรื่องเดียวกันแต่ต่างวาระ ที่ท่านไม่อยากให้ทำเพราะว่าท่านเคยทำมาก่อนหรือจำตอนที่มีความรู้สึกนั้นไม่ได้
- ด่าน
เรื่องราวของช่างทาสีสองคน คนหนึ่งโสด ส่วนอีกคนมีคู่แล้ว คนที่มีคู่ตั้งใจจะหาเงินไว้ดาวน์รถให้หวานใจ แต่ก็โดนหนุ่มโสดยุยงให้ปลดปล่อยความกำหนัด ดีที่นายจ้างคอยเตือนสติ พออนิจจาเมื่อเหล้าเข้าปากสติก็ขาดความตั้งใจก็เลยหาย
- คืนเหน็บหนาว
หนุ่มหล่อผู้เป็นที่หมายปอง กับครอบครัวที่หลายคนเมื่อดูจากภายนอกก็บอกว่าอิจฉา แต่สิ่งที่เห็นมันต่างจากสิ่งที่เป็น เมื่อหน้าตาภายนอกไม่ได้การันตีว่าภายในจะดีเช่นที่เห็น สุดท้ายสิ่งที่ผู้คนอิจฉา แม้ว่าจะได้มาแต่ก็ไม่เหลือไว้ให้ครอบครอง
- ดอกเลือด
นักเขียนบทผู้รับหน้าที่พ่อ ที่ต้องการบ่มเพาะให้ลูกเติบโตมาอย่างที่ต้องการ เหมือนกับความรู้สึกของพ่อแม่สมัยใหม่ที่อยากให้ลูกได้ดีแต่ก็ยังห่วงนั่นห่วงนี่ เลี้ยงลูกตามตำรา เอาใจใส่ให้ความดูแลอย่างใกล้ชิด แต่สิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้ซึมซับเข้าไป อย่างที่ใจคิด เพราะการเลี้ยงดูมันต้องไปควบคู่กับการรับรู้ สักแต่ป้อนแต่ไม่เคยถาม เอาแต่ยัดเยียดไม่เคยรับรู้ว่าเขาต้องการหรือไม่ สุดท้ายการเอาใจใส่ก็เหมือนกับศูนย์เปล่า
- ผู้เข้าใจ
เมื่อเพื่อนเก่าสองคนต่างบังเอิญโคจรมาพบกัน คนหนึ่งตกงานไม่ต้องการพูดเรื่องราวของตัวเอง แต่อีกคนก็ยังซักไซร้ไล่เลียงเอาแต่ถาม คนหนึ่งดูเหมือนจะเข้าใจไปซะทุกคน มองทะลุปรุโปร่งไปซะทุกอย่าง แต่อีกคนกลับไม่ได้เข้าใจใคร นอกจากเข้าใจตัวเอง แต่สุดท้ายคนที่ไม่เคยเข้าใจใครกับย้อนถามว่าแล้วนายเข้าใจตัวเองหรือเปล่า ??
- ครอบครัวกลางถนน
ท่ามกลางเมืองหลวงที่ต้องแข่งขัน ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ มีเวลาอยู่บนถนนมากกว่าอยู่ในบ้าน ใช้เวลากับพวงมาลัย ซีดีและไฟแดงมากกว่าคนในครอบครัว สะท้อนมุมมองชีวิตที่รีบเร่ง นัดบ่าย 3 ออกจากบ้านตั้งแต่ 10 โมง จึงทำให้รถกลายเป็นสิ่งจำเป็นเพราะมันเหมือนบ้านหลังที่สองที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนนั้น ตั้งแต่พูดคุยกัน กินข้าว เข้าห้องน้ำยันกระทั่งมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
- อิสรภาพ
ชีวิตลูกจ้างที่มีชะตากรรมอยู่บนคำสั่งและตัดสินของนายจ้าง เมื่อผลประโยชน์ขาดหายแม้เพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับอย่างมหาศาล แต่ลูกจ้างก็คือลูกจ้าง อิสรภาพจะมาก็ต่อเมื่อนายจ้างมองข้ามไป
- มีดของนาย
ธุรกิจกับผลประโยชน์จัดว่าเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก ดังนั้นนักธุรกิจนอกจากจะวางแผนธุรกิจยังต้องวางหมากถือมีดประจำกาย หาช่องทางกอบโกย ผลักภาระถึงจะสมกับคำว่านักธุรกิจและผู้รับผลประโยชน์ตัวจริง
- มโนกรรม
ความคิดเป็นสิ่งน่ากลัว ทำให้เราทุกข์ใจและสบายใจได้เพียงเพราะความคิด คนเราจะไว้ใจใครได้ก็ต้องดูที่ความคิด คิดเหมือนกันทำคล้ายกันจัดเป็นพวกเดียวกัน แต่ถ้าความคิดแปลกแตกต่างท่ามกลางวงล้อมความคิดอื่น ความทุกข์เท่านั้นที่หาเจอ
- เทพธิดา
คนเรามักจะมองหาตามล่าสิ่งนำโชคดีเหมือนตามหาเทพธิดาให้คอยคุ้มครอง คอยมองหาจากทุกหนแห่งแต่การมีโชคดีไม่ได้อยู่ไหนเลยนอกจากการกระทำและตัวเราเอง
- เสียหมา
รู้หน้าไม่รู้ใจ คนเราตัดสินได้ด้วยการกระทำและสิ่งที่เห็น แต่สิ่งที่เห็นจะมีความจริงหรือมีความเป็นไปได้หรือไม่ จะมีใครหน้าไหนสักกี่คนที่จะค้นหา ที่มาและความเป็นไป ไม่ใช่เพียงแค่ตัดสินได้ด้วยตาตัวเอง
- เด็กหัวขี้เลื่อยกับกระดาษห่อหนังสือพิมพ์
บทนี้ขออภัยอ่านเท่าไหร่ก็ไม่สามารถรู้ได้ถึงสิ่งที่ผู้เขียนต้องการสื่อ นอกจากเด็กชายผู้ไม่มีความเฉลียวฉลาด ขาดความสามารถทำงานในโรงพิมพ์ กับเจ้าของและชายผู้หนึ่งที่วิจารณ์ผู้อื่นได้อย่างไม่ไว้หน้า
เป็นหนังสือรางวัลสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปี 2536 ลีลาการเขียน การถ่ายทอดคมคาย ภาษาสละสลวย เล่นกับตัวอักษรได้อย่างถึงอารมณ์ แต่ละบทละครแฝงข้อคิดและปรัชญาผ่านบทบาทของครอบครัวในสังคมเมืองกรุงที่อยู่ในระดับและฐานะปานกลาง มีบางบทที่ชื่นชอบและบางตอนที่ยอมรับว่าอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ พยายามอ่านซ้ำอ่านทวนก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ชอบตอนขาซ้ายของแม่และครอบครัวกลางถนน ถ่ายทอดได้ถึงอารมณ์และสร้างภาพจากตัวอักษรได้แจ่มชัด ประหนึ่งตัวละครเคลื่อนไหวมีลมหายใจใช้ชีวิตอยู่ต่อหน้าเรา แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังสือรางวัลซีไรต์และเป็นเรื่องราวสะท้อนสังคมที่จิกกัดได้แรง(ละมุน)จึงทำให้หนังสือเล่มนี้ จะบอกซะเต็มปากว่าอ่านง่ายก็ไม่ง่าย แต่จะบอกว่าอ่านยากก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่าใครอยากดื่มด่ำกับความกลมกล่อม ของชึวิตตัวละครผ่านตัวอักษรเล่มนี้ก็คงพอช่วยคุณฆ่าเวลาได้บ้างนะครับ
Create Date : 27 มิถุนายน 2553 |
|
6 comments |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2553 0:21:49 น. |
Counter : 39295 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: รักเธอคนเดียว IP: 118.175.131.236 3 กรกฎาคม 2553 15:25:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: น.ศ.ที่จำต้องวิเคราะห์ IP: 125.26.106.243 14 สิงหาคม 2553 0:20:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: tidtee_teetid@hotmail.com IP: 125.25.203.121 21 กรกฎาคม 2555 19:22:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: Printo IP: 125.24.115.87 5 ธันวาคม 2557 18:27:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
สวัสดีเพื่อนใหม่ทุกคนนะครับ ผมเป็นมือใหม่หัดเล่น จริงๆรู้จักมานานแล่ะ แต่ไม่ได้เล่น หลังจากแวะเวียนไปมาหาสู่บล็อกคนอื่นๆมานานชักอยากจะมีเป็นของตัวเอง ก็เลยจัดการสร้างซะเลย
ผมชอบอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลงมีความสุขดีครับ สำหรับคอเดียวกันทำความรู้จักกันได้นะครับ ยินดีอย่างยิ่งเลย
|
|
|
|
|
|
|