|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
12 กันยายน 2548
|
|
|
|
เล่นกับไฟ ออนไลน์ (จบ)...ไซเบอร์กิ๊ก
เป็นภาคจบของตอนที่แล้วครับ(คลิกอ่านตอนที่แล้ว เล่นกับไฟ ออนไลน์ ...Its up to you !)
ยาวหน่อยแต่น่าติดตามครับ
***************************
ไซเบอร์กิ๊ก เรื่อง > บุ๋ม Buchanan ภาพ > นวลพรรณ โอสถานนท์
หลังจากส่งต้นฉบับตอนที่แล้วให้เพื่อนคนหนึ่งช่วยอ่านปรู๊ฟ ดิฉันถูกเพื่อนเว้าวอนกึ่งข่มขู่นิดๆ ว่าไม่ควรจบความสัมพันธ์ออนไลน์กับหนุ่มคนนั้นลงง่ายดาย และทิ้งให้เป็นปริศนาอย่างนั้น เพราะเธออยากรู้ว่าฉันเองคิดอย่างไร ที่บอกว่า Up to you! ในนิยามของฉันนั้นเป็นอย่างไร
...อ่านไปแล้วก็เหมือนกับเธอหลอกล่อใครต่อใครหลายคนให้มีความหวัง ทั้งพ่อหนุ่มคนนั้น ตัวชั้น และก็คนอ่านอีกหลายคน แหม...ลุ้นซะจนตัวโก่ง ไอ้ฉากรักโรแมนติกที่เค้าทำกับเธอเนี่ย ถ้าเกิดขึ้นจริงก็คง อื้อหือ...โอ้...พระเจ้าเลยล่ะ ให้จบง่ายๆ แบบนั้นชั้นไม่ยอมนะ มันทรมานยังไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นเธอต้องเขียนมาอีก จะแฮปปี้เอ็นดิ้งหรือ Sadly ending ก็ว่ามาสักอย่าง อย่าง่ายๆ แบบนี้
เพื่อนอินขนาดหนัก เพื่อนคงไม่รู้ว่าในใจดิฉันก็ไม่อยากให้จบแบบนั้น ใครบ้างจะไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ มันวูบวาบหวิวไหวเวลาที่ได้คุยกัน อยากมีต่อภาคสอง ภาคสาม ภาคสี่ ไม่มีตอนจบ ใครจะว่าฉันบ้าหมกมุ่นกับแฟนตาซีในโลกไซเบอร์ก็ช่าง แหม...ก็ขนาดความฝันถึงฉากรักได้กุ๊กกิ๊ก สวีตหวานแหววกับคนที่เรารัก เรายังอยากนอนหลับฝันต่อไม่อยากตื่นเลย แล้วถ้อยคำหวานๆ ที่เขาหยอดมานั้นก็เย้ายวนชวนให้ลุ่มหลงยิ่งนัก ทว่าอีกใจลึกๆ ที่ยังพอรู้ชั่วดีอยู่บ้างก็อดคิดสับสนวกวนไปมาไม่ได้อีก จะทำไงดี พ่อหนุ่มคนนั้นก็คันยิกๆ อยากพบอยากเจอ ส่งข้อความตอดมาตลอดเวลา oh...baby we are so close, yet so far เป็นข้อความตัดพ้อที่ฉันปฏิเสธไปดินเนอร์กับเขา ก่อนหน้านี้ก็มีเหน็บๆ มาด้วยหาว่าฉันงู้นงี้ แบบเป็นผู้หญิงยั่วยวนแต่เล่นแบบ hard to get ที่เธอไม่รู้คือฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย จิตใจฉันนั้นโบยบินแทบกู่ไม่กลับอยู่แล้ว แต่ดิฉันกลัวความรู้สึก after ค่ะ กลัวอะไรไม่รู้เหมือนกัน มันเหมือนกับมีการต่อสู้กันภายใน ระหว่างอาการหวั่นไหว ยินยอม ต้านทาน สับสน จนทนไม่ไหวต้องเล่าให้เพื่อนฟังเพื่อขอความเห็น เพื่อนที่ลุ้นๆ อยู่แต่ละคนคิดเห็นกับเรื่องแบบนี้ต่างกัน
โถ...เรื่องเด็กๆ อยากไปเจอก็ไปเหอะพี่ ชีวิตนี้มันสั้นนัก ไม่งั้นจะรู้ได้ไงว่าเขาเป็นยังไง พอได้พบถ้าชอบกันก็ค่อยคบกันเป็นกิ๊กสิ...ยุคนี้ใครๆ ก็มีกิ๊ก สาวแก่แม่ม่าย ไฮโซ โลว์โซ โสดไม่โสดก็มี เขาว่ามันทำให้กระชุ่มกระชวย นัดพบเจอเห็นหน้าค่าตากัน ชอบพอกันเรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องธรรมดา ว่าแต่ว่าฟังที่พี่เล่าแล้วเนี่ยนะ ถ้าเสี่ยงไปเจอกันแล้ว เกิดถ้ากระบวนท่าอย่างว่าของเขาไม่ดีอย่างที่บรรยายมาทางเน็ตพี่ก็ต้องพยายามทำให้มันส์เข้าไว้นะ เสี่ยงทั้งทีต้องให้คุ้มนะพี่ ถือซะว่า เอ่อ...เอิ่ม...เผื่อหนูด้วยละกัน เพื่อนรุ่นน้องสุดจะ liberal ให้ความเห็นได้เปรี้ยวชนะเลิศมาก
ทว่าเพื่อนเกย์ไม่เห็นอย่างนั้น เธอว่าความรู้สึกช่วงนี้เป็นความใคร่ ถ้าฉันไปพบเค้าต้องเสร็จเค้าแน่ เพราะฟังจากที่ฉันเล่า ท่าทางชายหนุ่มคนนี้จะหื่นๆ แต่พอฉันเห็นสายตาเธอชั้นก็รู้แล้ว จะไม่ห้ามนะ คิดเอาเอง ถ้าไปมีอะไรกับเค้า เวลากลับไปมีอะไรกับสามี เขาจะต้องรู้ว่าเธอเปลี่ยนไปนะ เพราะในเรื่องการปฏิบัติภารกิจอย่างว่า คนสองคนต้องมีความแตกต่างกันแน่ แล้วเธอจะอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเปรียบเทียบกัน ดูแล้วมันจะจบไม่ค่อยสวยเลยนะเพื่อน เพื่อนเกย์พูด
ในขณะที่ความเห็นเพื่อนรุ่นพี่อีกคนนั้นมันเป็นความจริงที่สุด เป็นความจริงที่โหดร้ายและปฏิเสธไม่ได้ พี่แกว่าฉันกำลังทำผิดศีลธรรม แต่งงานมีผงมีผัวแล้ว ไม่ควรจะมานั่งคิดเรื่องแบบนี้ แล้วการที่จะไปพบหน้าค่าตากันนั้น เกิดว่าความสัมพันธ์ขยับขยายไปเป็นฉันชู้สาวจบไม่ได้ คาราคาซังแล้วจะไปกันใหญ่ เธอว่าเรื่องเกิดขึ้นเพราะฉันปล่อยให้มันเกิด ในเมื่อมีเกิดขึ้นก็ต้องมีหยุดได้ และฉันเท่านั้นที่จะต้องหยุดเอง
ถามตัวเองสิว่าไปพบเขาทำไม เพื่ออะไร ถ้าไปพบเพราะความคัน ก็หมั่นท่องศีลข้อกาเมฯ กาเมฯ เข้าไว้ มันเป็นบาป รู้หรอกนะว่าท้าทาย แต่เชื่อเถอะว่ามันจะไม่จบเท่านั้น ทางที่ดีตัดไฟเสียแต่ต้นลม ตัดขาดเสียแต่บัดเดี๋ยวนี้ก่อนที่จะลุกลามทั้งทุ่ง ทิ้งเบอร์ ตัดเขาออกจากคอนแทคลิสต์ไปซะ
ส่วนเพื่อนสาวสวยสายเลือดละตินเห็นว่าการที่ได้พบทำความรู้จักกับเพื่อนคนใหม่สักคนเป็นเรื่องที่ไม่น่าคิดมาก อยากไปพบก็ไป ทางเน็ตอาจจะฟังแล้วดี ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ว่าพบกันแล้วอะไรจะเกิดขึ้น
เธออาจไม่ชอบเขา หรือเขาอาจไม่ชอบเธอแบบอย่างว่า ใครจะรู้ และก็อาจเป็นไปได้เหมือนกันที่ถ้าเจอแล้วเกิดไฟฟ้าสองกระแสมันชอร์ตเชิร์ตขึ้นมาเทิร์นออนกันสุดๆ ก็ค่อยว่ากันอีกที ถึงเวลานั้นเธอสองคนก็รู้เองแหละว่าจะต้องทำอะไร ไปเถอะ ถ้าหัวใจมันเรียกร้องก็ไปเจอเค้า just follow your heart!เธอว่า
ความจริงเวลาที่ถามตัวเองทุกครั้ง ฉันก็มีคำตอบนะ แต่หลายคำตอบจัง แถมมันยังหมุนเวียนอยู่ในหัว แต่ละวันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา อารมณ์ประมาณผู้หญิงสับสน คิดวกวนจนน่ารำคาญ วันหนึ่งก็ตอบแบบเพื่อนสูงวัยในเรื่องศีลธรรม แต่อีกวันความเห็นของเพื่อนสาวเปรี้ยวกลับทำให้ตื่นเต้นท้าทายยิ่งนัก ยิ่งวันไหนเจอเค้ารุกแบบหยอดคำหวานมีการเรียกเบบี๋ ฮันนี่ ดาร์หลิง มาก็แทบอยากจะโบยบินไปหาเขาเสียเดี๋ยวนั้นให้รู้แล้วรู้รอด แบบคิดให้สั้นๆ ประมาณ เอาวะ...ถือว่าทำเพื่อเพื่อนที่ลุ้นรอฟังเรื่องเล่าฉากเซ็กซ์กลั้วแชมเปญจากฉันกันอยู่ด้วยใจจดจ่อ เอ...แต่ทำไงดีล่ะ ถ้าเกิดเจอตัวขึ้นมาแล้วเขาเทิร์นเราออฟสุดๆ ล่ะ เกิดเธอลงพุงมี Beer Belly แบบหนุ่มออสซี่ที่เอาแต่นั่งกระดกเบียร์เชียร์ฟุตบอลหน้าจอไร้เสน่ห์ ที่เคยเห็นในผับทั้งหลาย คงพากัน...อี๋...ยยยย แทบไม่ทัน
บ่ายแก่ๆ วันหนึ่ง เขาก็ส่งข้อความมาว่าสนใจอยากจะพบหาอะไรดื่มกันดีไหม ให้ฉันเป็นผู้เลือกสถานที่ ฉันตกปากรับคำแบบไม่คิดอะไรเลย ตกลงเรื่องเวลาสถานที่เสร็จสรรพ พอตั้งสติได้ใจฉันก็เริ่มเต้นเร็วระรัวเป็นกลอง...ถึงเวลาจริงๆ แล้วหรือนี่...
แล้วในที่สุดเราก็ได้พบกันจริงๆ ที่ผับแห่งหนึ่งย่านหลังสวน ฉันไปถึงก่อนเขาเลยสั่งว้อดก้าน้ำส้มแก้วใหญ่มาดื่ม สักพักเขาก็มาถึง ฉันโบกมือให้เขา พอเดินมาถึงที่โต๊ะก็ยื่นมือมาให้ฉัน ฉันยื่นมือออกไป แค่ฝ่ามือสัมผัสกันบนอากาศแล้วเราก็ประสานมือกันแบบที่ฉันมักจะทำกับเพื่อนสนิทอยู่เสมอเวลาเราพบกัน
เสียงเพลง Before I fall in love ของ Coco Lee แว่วมาจากเครื่องเสียงของร้าน บรรยากาศโล่งๆ สบายๆ บริกรชายหญิงจับกลุ่มพูดคุยหัวเราะกันกะหนุงกะหนิงหน้าจอทีวีที่กำลังถ่ายทอดสดฟุตบอล เราเป็นลูกค้าโต๊ะแรกและโต๊ะเดียว แสงเทียนวับแวมบนโต๊ะที่เรานั่ง บรรยากาศน่าจะโรแมนติก ทว่า...ณ เวลานั้นความรู้สึกวาบหวิว และจิตใจที่เคยสับสนกังวลมาก่อนหน้า หายไปไหนหมดก็ไม่รู้
เขาเป็นคนคุยเก่ง เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ คุยกันเพลินตั้งแต่เรื่องการเมือง รถติด ไปถึงเรื่องส่วนตัว ไม่มีฉากเอ็กซ์ ฉากอาร์ ไม่มีสายตากะลิ้มกะเหลี่ยหรืออาการเกาะแกะแทะเล็มจากเขาแม้แต่น้อย ความรู้สึกแบบกิ๊กๆ ภายในหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ เขาไม่ใช่ผู้ชายในสเปกฉัน แต่ไม่ใช่เพราะเขาเป็นผู้ชายน่าเกลียดอย่างที่ฉันหวั่นๆ อยู่ก่อนหน้า จะว่าไปเขาก็หน้าตาและบุคลิกดีคนหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับ...ว้าว...
อีกอย่างหัวข้อที่เราพูดคุยกันได้สบายๆ ทำให้ไม่รู้สึกเคอะเขิน ฉันไม่มีความรู้สึกว่าเราเป็นคนแปลกหน้ากันเลย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นกิ๊กเหมือนกัน มันเหมือนเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานนั่งคุยกันมากกว่า พอบริกรมาเสิร์ฟเครื่องดื่มแก้วใหม่ เราจะยกแก้วขึ้นชนกันก่อนดื่ม แล้วพากันคุยต่อหัวเราะกันต่อ เวลาผ่านไปจนเครื่องดื่มแก้วที่สี่หมดลง ฉันถึงขอตัวกลับ เราสัมผัสมือกันแบบเดิมอีกครั้งก่อนแยกย้าย
เขาบอกฉันว่า
keep in touch...
ฉันตอบเขาว่า
แน่นอนที่สุด
ฉันนั่งแท็กซี่กลับที่พักรู้สึกสดชื่นบอกไม่ถูก คงเพราะได้มีเพื่อนใหม่ที่พูดคุยถูกใจอีกคน...
ที่มา : www.marsmag.net
Create Date : 12 กันยายน 2548 |
|
9 comments |
Last Update : 12 กันยายน 2548 18:55:20 น. |
Counter : 1477 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: ว่าน 12 กันยายน 2548 19:22:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: keyzer 12 กันยายน 2548 22:35:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: hunjang 13 กันยายน 2548 8:36:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: err_or 13 กันยายน 2548 10:49:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: guide IP: 161.246.1.32 30 มิถุนายน 2551 16:15:57 น. |
|
|
|
| |
|
|
Nutty Professor |
|
|
|
Madagascar : The Island of Opportunity
|
|
|
|
บางที...มันก็ขึ้นอยู่กับการวางตัวของคนที่ไปพบด้วยนะค่ะ...ทุกฉากมันขึ้นอยู่ที่ตัวเราว่าเราอยากให้เรื่องมันเดินไปทางไหน???? ....