ความรู้มีไว้แบ่งปัน

CM Triplets
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
12 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add CM Triplets's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 
สาระของ “พี่เลี้ยง” คนที่ครอบครัวต้องฝากลูกไว้

สาระของ “พี่เลี้ยง” คนที่ครอบครัวต้องฝากลูกไว้

“พี่เลี้ยง” อาจกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ สำหรับหลายครอบครัวไปแล้ว โดยเฉพาะพ่อแม่ที่จำเป็นต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ทั้งวัน แต่ทว่า พ่อแม่หลายคนอาจยังกังวลในเรื่องของการ ‘ฝากเลี้ยง’อยู่พอสมควร

ดร.จิตตินันท์ เดชะคุปต์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชกล่าวว่า การที่คนเราจะรับสมัครพี่เลี้ยงเด็กสักคนหนึ่งนั้น ต้องดูหลายประการเหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนๆ นั้นต้องรักเด็กๆ จริงๆ วุฒิทางการศึกษาไม่ใช่ปัจจัยแรกที่จะตัดสินได้ว่า จะเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกเราได้หรือไม่

ส่วนเรื่องประสบการณ์นั้น หากไม่มีมาก่อนเลย แต่มีใจรักที่จะอยู่กับเด็กแล้ว เรื่องประสบการณ์ก็จะเป็นเรื่องที่สามารถฝึกฝนกันได้

“คนที่เป็นพ่อเป็นแม่แล้วจำเป็นต้องฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยงนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องรักเขาเสมือนญาติพี่น้องอีกคนหนึ่ง อย่าไปกดขี่ข่มเหงเขา เพราะการที่เขาต้องเลี้ยงลูกให้เรา เขาก็ต้องทำด้วยความรัก ซึ่งความรักและความสุขใจส่วนหนึ่งนั้น ก็มาจากการที่คนในบ้านหรือเจ้านายค่อนข้างเอ็นดูนั่นเอง”

ส่วนทางด้าน อาจารย์ธิดา พิทักษ์สินสุข นักการศึกษาและกรรมการบริหารสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย อีกหนึ่งผู้เชี่ยวชาญงานด้านเด็กแนะว่า ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือพี่เลี้ยง ทุกคนควรเข้าไปในโลกของเด็กให้ได้ เพราะเด็กแต่ละคนมีนิสัยที่ต่างกันออกไป

“ถ้าหากพี่เลี้ยงทำผิด พ่อแม่ส่วนใหญ่มักตำหนิเดี๋ยวนั้น ซึ่งหมายความว่า อาจจะว่ากล่าวเขาต่อหน้าคนอื่น ในขณะเดียวกัน หากพี่เลี้ยงของลูกทำดีอยู่แล้ว เราเองก็ควรชมเชยเขาทันทีเช่นกัน เพราะการชมเชยเป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้พี่เลี้ยงมีกำลังใจในการทำงาน และรักในสิ่งที่ทำมากขึ้น”

อย่างไรก็ดี หากครอบครัวไหนจำเป็นต้องหาพี่เลี้ยง เพื่อมาช่วยเลี้ยงลูกและทำงานบ้านทั่วไป แต่ไม่มีความมั่นใจเสียเลยว่า พี่เลี้ยงคนที่เลือกมานั้นจะทำงานได้ดีมากน้อยแค่ไหน เขาจะรักลูกเราเหมือนที่เขาพูดหรือไม่

“สิ่งที่พ่อแม่ควรคำนึงคือ ควรหยอดเมล็ดพันธุ์ความรักให้เขา โดยการชื่นชม สอนและให้กำลังใจ เพราะควรระลึกอยู่เสมอว่า คนเราสามารถพลาดได้ทุกคน ดังนั้น พ่อแม่ควรให้ความรู้ ความเข้าใจและเป็นตัวอย่างในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่สอนปากเปล่าอย่างเดียว” อ.ธิดา กล่าวเสริม

ขณะที่ คุณอรวรรณ วิทยากูร ผู้ประกอบการสถานรับเลี้ยงเด็ก (เนอสเซอรี่) เผยว่า สิ่งที่เป็นปัญหาอย่างหนึ่งของพี่เลี้ยงที่อยู่ไม่ค่อยทน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยมากเหมือนกันคือ คนที่มาเป็นพี่เลี้ยงส่วนมากจะเป็นสาวโสด ดังนั้น เมื่อมาอยู่กับเราสักพัก เขาจะเริ่มรู้สึกอยากออกไปสู่โลกกว้าง คบเพื่อนต่างเพศ มีธุระส่วนตัว ฯลฯ

“แม้ว่าปัจจุบันนี้ ยังพอเห็นพี่เลี้ยงเด็กที่เป็นผู้ชายอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมในหมู่พ่อแม่สักเท่าไหร่เพราะ ถึงอย่างไร ความเป็นเพศแม่ของผู้หญิงก็มีความละเอียดอ่อนมากกว่า ผู้ชาย และเชื่อว่าพี่เลี้ยงผู้หญิงจะสามารถเลี้ยงเด็กได้ดี และเต็มที่มากกว่า เพราะหากนึกถึงความเป็นจริงแล้ว หน้าที่ของพี่เลี้ยงเด็กนั้น มีมากมายก่ายกอง ตั้งแต่ล้างก้นน้อง ป้อนข้าว กล่อมนอน ตลอดจนงานบ้าน ปัด กวาด เช็ด ถู ด้วย”
อย่างไรก็ตาม ดร. สายสุรี จุติกุล ผู้นำด้านสตรีและเด็กและนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ฝากข้อคิดในเรื่องของการเลี้ยงเด็กอย่างมีคุณภาพ เพื่อที่ว่า พ่อ แม่และพี่เลี้ยง จะสามารถเข้าถึงและคุยภาษาเดียวกันกับเด็กได้เป็นอย่างดี ดังนี้

1.“รักไม่มีเงื่อนไข” พ่อแม่และพี่เลี้ยงไม่ควรต่อรองกับเด็กบ่อยจนเกินไป เช่น ถ้าหนูทำอย่างนั้น อย่างนี้ หนูถึงจะได้ของเล่น เพราะต่อไปเด็กจะทำอะไรก็มักจะต่อรองเป็นนิจ

2.“เอาใจใส่” ในกรณีของพี่เลี้ยงเด็กนั้น อย่าคิดว่าเด็กไม่ใช่ลูกของเรา หรือหลานของเรา พี่เลี้ยงที่ดีควรรักและมีใจที่จะเลี้ยง ดูแลเอาใจใส่เขาตลอดเวลา

3.“อุ้ม...กอด...ใกล้ชิด” นอกจากพ่อแม่แล้ว การที่พี่เลี้ยงได้อยู่ใกล้ชิดเขา และอุ้มบ้าง กอดบ้าง อย่าคิดว่าเด็กไม่รับรู้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว เขารู้ดีว่าใครรักเขา และเขาอยู่กับใครถึงจะปลอดภัย

4.“อ่อนโยน” ทุกคนควรปฏิบัติต่อเด็กอย่างอ่อนโยน เพราะไม่มีเด็กคนไหน ที่ชอบพี่เลี้ยงที่มีท่าทีแข็งกร้าว

5.“อย่าละเลย” คนที่มาเป็นพี่เลี้ยงได้ นั่นหมายความว่า พ่อแม่ไว้ใจที่จะให้ลูกของเขาอยู่กับคนๆนั้น โดยไร้กังวล ดังนั้น พี่เลี้ยงไม่ควรละเลยให้เด็กอยู่ตามลำพังคนเดียว แม้ว่าจะอยู่ในบ้านก็ตาม

6.“เข้าใจกระบวนการ” ไม่ว่าจะเป็นทักษะ พัฒนาการ กระบวนการของเด็กในด้านต่างๆ พี่เลี้ยงควรรู้จักสังเกตพัฒนาการและมีทักษะในการสื่อสารกับเด็กด้วย

7.“อ่านใจ” เนื่องจากภาษาเด็กเป็นภาษาที่ไม่เป็นภาษาแต่แฝงไปด้วยความหมายและความต้องการที่เขาพยายามสื่อกับผู้ใหญ่ พี่เลี้ยงที่ดีควรอ่านใจเด็กได้ด้วยว่า เสียงอ้อแอ้ หรือคำที่ไม่สามารถเรียบเรียงเป็นประโยคได้นั้น เขาหมายถึงอะไรกันแน่

8.“ปรับเปลี่ยน” การปรับเปลี่ยนไม่ใช่การตามใจโดยไร้เหตุผล แต่การเปลี่ยนในที่นี้คือ การเปลี่ยนตามที่เด็กเป็น ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า ผู้ใหญ่ควรดูธรรมชาติของเด็ก ตั้งเด็กเป็นศูนย์กลาง ดูลักษณะนิสัยของเขาว่า เป็นคนรักสนุก หรือชอบอยู่เงียบๆ ขณะที่เด็กบางคนชอบในกอด แต่อีกกลุ่มหนึ่งอาจไม่ชอบให้กอดก็มี เรื่องนี้พี่เลี้ยงก็ควรสังเกตด้วยเช่นกัน

9.“ถ้อยคำชัดเจน” ในช่วงที่เด็กเริ่มกำลังพูด แทนที่จะพูดให้ชัดเพื่อให้เด็กหัดพูดตาม ผู้ใหญ่หลายคนกลับเลือกที่จะพูดตามเด็ก เช่น คำว่า ‘สอง’ ที่เด็กๆ มักพูดเป็น ‘ฉอง’ ผู้ใหญ่ก็ควรสอนเขาไปเรื่อยๆว่า ‘สอง’ ไม่ใช่ ‘ฉอง’ เพราะเด็กอาจเข้าใจผิดได้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้องแล้ว

10.“อ่านหนังสือ” อ่านหนังสือสำหรับเด็กไม่ว่าจะเป็นนิทาน หรือหนังสือนับเลข ฝึกทักษะต่างๆ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พี่เลี้ยงสามารถนำมาเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในแต่ละวันได้

11.“ไม่บ่น...ไม่ดุ” การดุด่าว่ากล่าวไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาของเด็กๆ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงหรือพ่อแม่เอง ควรตระหนักเสมอว่า การเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่พูดจาและลงไม้ลงมือด้วยอารมณ์พาไปนั้น เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรกระทำ

12.“อย่าให้ทีวีเลี้ยงเด็ก” อีกหนึ่งประการที่พี่เลี้ยงไม่ควรหลงลืมนั่นคือ เมื่อพ่อแม่ของเด็กไว้ใจให้เราเลี้ยงลูกของเขาแล้ว อย่ามัวแต่ปล่อยเวลาทิ้งไปกับการนั่งดูโทรทัศน์ เพราะจอสี่เหลี่ยมจอนี้เป็นตัวการทำร้ายเด็กมานานมากแล้ว

13.“กิจกรรมสร้างเด็ก” ในช่วงเวลาว่างๆ พี่เลี้ยงอาจหากิจกรรมเสริมทักษะไม่ว่าจะเป็นการวาดภาะระบายสี หรือการออดมาเดินเล่นนอกบ้านบ้าง ก็เป็นสิ่งที่เด็กๆไม่ควรพลาด

14.“ให้โอกาส” เด็กๆแต่ละคนมีความคิดที่ต่างกันออกไป ดังนั้น พี่เลี้ยงควรให้โอกาสเขาได้แสดงความคิดเห็นของตัวเองด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าเขาต้องการอะไรและรู้สึกอย่างไร อีกทั้งยังทำให้เด็กๆ รู้สึกว่าเขามีส่วนร่วมเช่นกัน

15.“ไม่เปรียบเทียบ” อย่าเอาเด็กของเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะการเปรียบเทียบ นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังทำให้เด็กรู้สึกถึงความด้อยของตัวเองอีกด้วย

16.“ประโยชน์สูงสุด” เมื่อรับตำแหน่งพี่เลี้ยงเด็กแล้ว ก็ควรทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้สมกับการที่พ่อแม่ของเขาไว้ใจเรา

//www.sanook.com


Create Date : 12 มิถุนายน 2553
Last Update : 12 มิถุนายน 2553 9:16:56 น. 3 comments
Counter : 753 Pageviews.

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...



โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:9:53:04 น.  

 



แวะมาทักทายในวันหยุด มีความสุขมากๆ นะคะ



โดย: หน่อยอิง วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:13:18:12 น.  

 
รับเลี้ยงเด็กอ่อน ตั้งแต่แรกเกิดขึ้นไปแบบไป-กลับ แถวสุขุมวิท พระราม 4 พัฒนาการ พระโขนง พระราม 3 อ่อนนุช ศรีนครินทร์ มีประสบการณ์ ในการเลี้ยงเด็กมา 7 ปี ติดต่อคุณ ลาวัลย์ โทร 081-4988698 email: wit_ono81@hotmail.com


โดย: ลาวัลย์ IP: 125.25.129.53 วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:29:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.