ความรู้มีไว้แบ่งปัน

CM Triplets
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add CM Triplets's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 
อาหารสำหรับทารกและเด็กวัยก่อนเรียน

อาหารสำหรับทารกและเด็กวัยก่อนเรียน

ทารกหมายถึง เด็กที่อยู่ในวัยตั้งแต่เกิดจนถึงอายุหนึ่งขวบ ส่วนเด็กก่อนวัยเรียนหมายถึง เด็กที่มีอายุตั้งแต่ หนึ่งถึงหกขวบอาหารสำหรับทารกและเด็กก่อนวัยเรียนเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ ชีวิตในระยะนี้
และระยะต่อไปในปีขวบแรก ทารกจะมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 3000 กรัม ทารกที่ได้รับโภชนาการที่ดีจะมีการเพิ่มของน้ำหนัก ดังนี้

แรกเกิด หนัก 3 กิโลกรัม

5 เดือน หนัก 6 กิโลกรัม

12 เดือน หนัก 9 กิโลกรัม

2 ปี หนัก 12 กิโลกรัม

5 ปี หนัก 15 กิโลกรัม


อาหารสำหรับทารก

ควรใช้น้ำนมมารดา เพราะมีประโยชน์ดังนี้

น้ำนมที่มีสีเหลืองมีประโยชน์แก่ทารกมาก เพราะมีโปรตีนและเกลือแร่หลายชนิดสูงกว่าน้ำนมในระยะอื่น และช่วยในการระบายท้องให้ทารก

การเลี้ยงทารกดวยนมตนเองทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมารดาและทารกแน่นแฟ้นขึ้น

-ประหยัดเวลาในการเตรียมนมให้ถูกสัดส่วนและสะอาด

-ประหยัดเงิน

-ปลอดภัยจากเชื้อโรค

-ทารกที่กินนมผสมจะเป็นโรคกระเพาะมากกว่าทารกที่กินนมแม่

แต่ถ้าหากมารดาไม่สามารถให้นมทารกได้จริงๆ และจำเป็นต้องใช้นมผสม ควรปฏิบัติดังนี้

วิธีเตรียมนม

-ล้างเครื่องมือเครื่องใช้ทั้งหมดให้สะอาด แล้วต้มในหม้อมีฝา

-ล้างมือให้สะอาดก่อนผสมนม

-ใช้น้ำเดือดผสมกับน้ำสุกให้อุ่นสำหรับชงนม

-ตวงนมตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้ คนให้ละลายทั่วกันแล้วนำไปใส่ขวดนม

การเก็บนม

-นมที่เปิดใช้แล้วต้องปิดฝาให้สนิท

-นมที่เหลือต้องนำเก็บในตู้เย็น เมื่อเด็กต้องการกินให้นำขวดมาแช่น้ำอุ่นเพื่อให้มีอุณหภูมิลดลง

อาหารเพิ่มเติมอื่นๆสำหรับทารก

-ทารกอายุ 1 เดือน ให้น้ำส้มคั้นที่ไม่เปรี้ยวมากเกินไป 1 ช้อนชา ผสมน้ำสุกเท่าตัว ต่อมาจึงเพิ่มจำนวนส้มจนถึงประมาณ ครึ่งผลถึงหนึ่งผล

-ทารกอายุ 2 เดือน เริ่มให้น้ำมันตับปลาประมาณครึ่งช้อนชา

-ทารกอายุ 4 เดือน เริ่มให้ข้าวครูดหรือข้าวบด ในตอนแรกให้เพียง 1-2 ช้อนชาแล้วค่อยๆเพิ่มจนถึง 1-2 ช้อนโต๊ะผสมกับ น้ำต้มกระดูก น้ำต้มตับ น้ำต้มผัก หลังจากนั้นให้น้ำนมตาม เมื่อทารกกินข้าวกับน้ำซุบได้ดีแล้วก็เริ่มให้ไข่แดงต้มสุดบดละเอียด เริ่มด้วย 1 ช้อนชา และเพิ่มไปเรื่อยๆจนถึงไข่แดงวันละ 1 ฟอง

ข้าวครูดหรือข้าวบด

-ทารกอายุ 5 เดือน เริ่มให้เนื้อปลาบดละเอียด 1-2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับข้าวและน้ำซุบ

-ทารกอายุ 6 เดือน ให้อาหารผสมแทนน้ำนม 1 มื้อเริ่มให้ผักต้มบดละเอียดลงไปในข้าวประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ

-ทารกอายุ 7 เดือน เริ่มให้เนื้อสัตว์ต้มเปื่อยบดละเอียดและตับ1-2ช้อนโต๊ะ และให้ลองกินไข่ขาว ขนมปังกรอบ

-ทารกอายุ 8 เดือน เริ่มให้อาหารผสมแทนน้ำนม 2 มื้อ และเริ่มให้ของหวานหลังอาหารคาว

-ทารกอายุ 9 เดือน ให้อาหารเหมือนเมื่ออายุ 8 เดือน และให้เริ่มจับช้อนป้อนข้าวเอง และดื่มน้ำจากถ้วยเอง

-ทารกอายุ 10-12 เดือน ค่อยๆเพิ่มอาหารผสมแทนน้ำนมทั้ง 3 มื้อ

การหย่านม(การงดให้นมแม่แก่เด็ก)

ปกติมารดาจะผลิตน้ำนมได้มากที่สุดในช่วงเดือนแรกของการให้นมทารก หลังจากนั้นต่อมน้ำนมจะน้อยลง การให้นมทารกเป็นเวลานานทำให้น้ำนมมีคุณค่าทางอาหารต่ำลง และทำให้ร่างกายมารดาทรุดโทรม จึงควรหย่านมเมื่อเด็กอายุได้ 8-10 เดือน

สารอาหารที่ทารกต้องการ

-พลังงาน ทารกต้องการพลังงานวันละ 100-120 แคลอรีต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าผู้ใหญ่

-โปรตีน ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง ควรได้รับวันละ 2.5 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าวัยอื่นๆ

-วิตามิน ได้แก่

- วิตามินเอ ช่วยในการทำงานของเยื่อบุของตา และเยื่อบุผิวหนัง ทารกควรได้รับวิตามินเอวันละ 1000 หน่วยสากล

- วิตามินดี จำเป็นในการสร้างกระดูกและฟัน ควรได้รับวันละ 400 หน่วยสากล

- วิตามินบี1 ควรได้รับวันละ 0.3 มิลลิกรัม

- วิตามินบี2 ควรได้รับวันละ 0.4 มิลลิกรัม

- ไนอะซิน ได้รับอย่างเพียงพออยู่แล้วในน้ำนม ซึงมีปริมาณ 4 มิลลิกรัม

- วิตามินซี ต้องการวันละ 20 กรัม

- โฟลาซิน ได้จากผักใบเขียวและตับสัตว์

เกลือแร่ ได้แก่

- แคลเซียม ต้องการวันละ 400-500 มิลลิกรัม

- เหล็ก ต้องการประมาณ 1 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่ถ้าเป็นทารกที่คลอดก่อนกำหนดก็ต้องการ2มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว

- ไอโอดีน เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างฮอร์โมนไทรอคซินในระยะ6เดือนแรก
ทารกจะต้องการไอโอดีนวันละ 35ไมโครกรัม

น้ำ ควรได้รับวันละ 150 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม


เด็กวัยก่อนเรียน

น้ำหนักของเด็กวัยก่อนเรียน สามารถคำนวณได้โดย น้ำหนัก(กิโลกรัม) = 8+[(2)(อายุ)]

ส่วนมากเด็กในวัยนี้จะขาดโปรตีนและแคลอรี

สารอาหารที่ต้องการของเด็กวัยก่อนเรียน

- พลังงาน ควรได้รับวันละ 90-100 แคลอรีต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ควรให้ขนมหวานที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ได้รับน้ำตาลซึ่งเป็นพลังงาน

- โปรตีน ควรได้รับวันละ 1.3-1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โปรตีนที่ได้รับควรเป็น ไข่
น้ำนม ถั่วเมล์ดแห้ง และเนื้อสัตว์

วิตามิน ได้แก่

- วิตามินเอ การขาดวิตามินเอเป็นเหตุทำให้เด็กทารกและเด็กวัยก่อนเรียนตาบอด ส่วนใหญ่มาจากการที่มารดาเลี้ยงทารกด้วยอาหารเสริมที่มีวิตามินเอและไขมัน น้อย
เด็กวัยนี้ควรได้รับวิตามินเอวันละ 850-1000 หน่วยสากล

bullet02_pink.gif เกลือแร่ ได้แก่

- เหล็ก หากขาดเหล็กจะทำให้เด็กเป็นโรคโลหิตจาง เด็กวัยนี้ควรได้รับวันละ 4 มิลลิกรัม

- น้ำ ควรดื่มน้ำที่สะอาด หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น น้ำผลไม้ น้ำนม แต่ไม่ควรให้ดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีประโยชน์ เช่น น้ำหวานหรือน้ำอัดลม

-อาหารและปริมาณอาหารที่เด็กวัยก่อนเรียนควรได้รับ

-เนื้อสัตว์ต่างๆ ควรได้รับวันละ 2-4 ช้อนโต๊ะ และควรได้รับเครื่องในสัตว์ด้วย

-ไข่ ควรได้รับทุกวัน วันละ 1 ฟอง ไข่ให้ทั้งโปรตีนและเหล็ก

-น้ำนม ควรได้รับอย่างน้อยวันละ 2 ถ้วยตวง จะใช้นมถั่วเหลืองแทนก็ได้

-ถั่วเมล็ดแห้ง หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองก็ได้ ควรได้รับวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะ
-ข้าว ควรได้รับวันละ 2-3 ถ้วยตวง หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของเด็ก

-ผัก เป็นผักสีเขียวหรือสีเหลืองก็ได้ ควรได้รับวันละ 4-8 ช้อนโต๊ะ

-ผลไม้ ควรให้เด็กกินทุกวัน เพื่อให้ได้รับวิตามินซี

-ไขมัน ควรได้รับน้ำมัน(ซึ่งอยู่ในรูปของอาหารผัดหรือทอด)วันละ 2-3 ช้อนโต๊ะ


Create Date : 24 มกราคม 2553
Last Update : 24 มกราคม 2553 22:04:02 น. 1 comments
Counter : 1812 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: za zeed peed s.w *_* IP: 125.24.20.172 วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:16:02:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.