space
space
space
 
กุมภาพันธ์ 2567
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
2526272829 
space
space
12 กุมภาพันธ์ 2567
space
space
space

รักษาแผ่นดินไทย ให้เป็นแผ่นดินธรรม เยี่ยมพระนักศึกษาไทย ม.พาราณสี พุธที่ ๑๕ ก.พ. ๒๕๓๘ 235 ผู้
รักษาแผ่นดินไทย ให้เป็นแผ่นดินธรรม
 
เยี่ยมพระนักศึกษาไทย ม.พาราณสี
 
พุธที่ ๑๕ ก.พ. ๒๕๓๘
 

235 ผู้แทนพระนักศึกษา:  ถือว่าเป็นโอกาสดี เป็นมงคลที่พระเดชพระคุณได้มาเยี่ยมเยียน กระผมไม่มีปัญหาจะถาม แต่อยากจะขอความเมตตา อนุเคราะห์จากพระเดชพระคุณได้ให้พร ให้คำสั่งสอน คำเตือน เป็นกำลังใจให้กับพวกกระผม ขอนิมนต์ครับ
 
235 พระธรรมปิฎก:  ผมก็ไม่มีอะไรมาก  เบื้องต้นก็ขอบคุณขอบใจในน้ำใจของทุกท่าน ที่ได้ตั้งใจมีไมตรีต้อนรับ และในการต้อนรับ   ก็มีการแสดงออกพร้อมทั้ง ๓ ประการ คือ ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ตามหลักสาราณียธรรม คือ มีกายกรรมประกอบด้วยเมตตา วจีกรรม ประกอบด้วยเมตตา และมโนกรรมประกอบด้วยเมตตา จึงเป็นการปฏิบัติตามธรรม
 
     การประพฤติปฏิบัติอย่างนี้  เราทำเป็นแบบอย่างแก่ประชาชน เป็นเรื่องของการแสดงออกที่ไม่สงวนเฉพาะต่อพระด้วยกันเท่านั้น  แต่แสดงต่อญาติโยมด้วย  เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจในหมู่ชาวพุทธ  ทั่วพุทธบริษัททั้ง ๔ ทำให้มีความสามัคคีซึ่งกันและกัน
 
     ในฐานะที่เป็นพระ เท่ากับเป็นแกนในของพระศาสนา ถ้าเรารักษาหลักไว้ได้ก็ทำให้ชาวพุทธมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง


235 พาราณสี ที่พระไทยมาศึกษา
 
 - ชาวพุทธไทย  ใส่ใจบุญด้านทาน  แต่การศึกษาไม่เอา
 
     เป็นเรื่องที่น่าพิจารณาว่า  ทำอย่างไรเราจะเสริมกำลังให้พุทธบริษัทเข้มแข็งมั่นคงได้ พุทธบริษัทในเมืองไทยเองก็มีศรัทธาดี   จะว่าถึงในหมู่ชาวพุทธ  ญาติโยมไทยนี่มีศรัทธามาก เทียบที่อื่นก็ไม่มีประเทศไหนเท่า โดยเฉพาะในเรื่องการถวายทาน  การอุปถัมภ์บำรุง ซึ่งจัดได้ว่า เป็นความร่วมมือร่วมใจในระดับหนึ่ง คือ ในระดับของความเป็นอยู่  แต่ในเรื่องของการงาน เราคงจะต้องช่วยกันอีกมากพอสมควร
 
     ที่ว่านี้  เพราะว่า ญาติโยมในเมืองไทยนั้นหนักในเรื่องของทาน เรื่องของการถวายอุปถัมภ์ เกี่ยวกับความเป็นอยู่ทั่วๆไป  แต่ในด้านกิจการที่ลึกลงไปกว่านั้น อย่างเรื่องการศึกษา ในเมืองไทย  เท่าที่ดูแล้วยังให้ความสนใจน้อยอยู่  ในเวลาที่ญาติโยมจะบำรุงก็มุ่งไปในเรื่องของความเป็นอยู่ทั่วไป ไม่ได้มุ่งในเรื่องของสิ่งที่ลึกลง  ที่เป็นฐานของพระศาสนา คือ การศึกษา ในด้านนี้ยังให้ความเอาใจใส่น้อย
 
     แต่อีกด้านหนึ่ง  ก็ต้องมองที่พระด้วยว่า พระเราไม่ค่อยได้ชักนำให้ญาติโยมสนใจถึงสิ่งที่เป็นเรื่องของงานพระศาสนาระยะยาว เรื่องของการศึกษานี่ พุทธบริษัทในเมืองไทยเรายังให้ความสนใจกันน้อย

 
- แม้แต่รัฐ ก็ยังคอยตัด ไม่ให้เด็กได้เรียนศีลธรรม
 
     เวลานี้  การศึกษาของพระศาสนา ยังเรียกว่า อยู่ในภาวะที่ไม่ค่อยมั่นคง การศึกษาของคฤหัสถ์ชาวพุทธ ฝ่ายอุบาสก และอุบาสิกา เริ่มตั้งแต่เด็ก และเยาวชนยังบกพร่องอ่อนแอและมีปัญหามาก  ในฝ่ายโรงเรียนของรัฐ  หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการก็ยังมีภาวะที่เรียกว่า เป็นสภาพที่ไม่พร้อม


     แต่ก่อนก็ได้ทราบกันแล้วว่า ทางกระทรวงฯ ถึงกับเคยจะเอาหลักสูตรพุทธศาสนาออกหมด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว และก็มีการเรียกร้องจากองค์กรชาวพุทธ จนกระทั่งทางกระทรวงฯ ต้องตั้งคณะกรรมการ แล้วก็มีการจัดทำหลักสูตรขึ้นมา
 
     แต่ถึงแม้จะมีหลักสูตรเพิ่มเข้ามาแล้ว ก็มีปัญหามาก เช่น ไม่ค่อยมีคนที่จะสอน ขาดครูที่เหมาะกับหน้าที่  ไม่มีกำลัง  ไม่มีความพร้อม  จนกลายเป็นจุดอ่อนให้อีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่พอใจ มีช่องที่จะพูดในเชิงหาโทษว่า ไม่มีประโยชน์อะไร จัดทำไม่ได้ผล  ก็หมายความว่า ไม่อยากให้มี
 
     ที่ว่า  “ไม่มั่นคง”  ก็คือว่า  จะอยู่ได้แค่ไหน ฝ่ายที่ต้องการที่จะเอา หลักสูตรพระพุทธศาสนาออกไป ในวงงานของรัฐ ก็คงมีอยู่
 
     ถ้าหากว่าในระดับเด็ก และเยาวชน   ไม่มีการศึกษาพระพุทธศาสนาเพียงพอ   ก็น่าเป็นห่วง  แต่ก่อนนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะสอนจริยธรรมสากล จนกระทั่งวิชาพระพุทธศาสนาโดยตรงไม่มีมีแต่วิชาจริยธรรมต่างๆ
 
     คำว่า  จริยธรรม  นั้น  บุคคลในวงวิชาการให้ความหมายว่า  ได้แก่   หลักความประพฤติที่ไม่อิงศาสนา 
 
     แท้จริง   ความประพฤติดีงาม  ก็คือศีลธรรมนั่นเอง    แต่ที่ไม่อิงศาสนาใดทั้งสิ้น  ก็เรียกว่าเป็นจริยธรรม และก็ให้ความหมายของศีลธรรมว่า   คือหลักความประพฤติดีงามที่อิงศาสนา   ดังนั้น  เมื่อไม่ต้องการอิงศาสนา  ต้องการจะเป็นสากล ก็เลยเรียกว่า  จริยธรรม
 
     อันนั้นเป็นแนวโน้มที่มีมาก่อน   คือก่อนที่องค์กรชาวพุทธจะเรียกร้องกันขึ้นมา   จนทำให้วิชาพุทธศาสนากลับเข้าไป แต่ความต้องการของผู้ที่ให้มีจริยธรรมแบบที่เขาเรียกว่าสากลก็คงจะยังมีอยู่
 
     เรื่องนี้ก็อยู่ที่ชาวพุทธเอง   จะต้องมีความ   “เข้มแข็ง”    ซึ่งก็พระนั่นแหละจะต้องเป็นผู้นำ ว่าทำอย่างไรจะช่วยได้ คือ ทำให้เขาเห็นความ “จำเป็น”  ว่า ต้องมีวิชาพระพุทธศาสนา


     ความ “จำเป็น”  ก็เนื่องด้วยคุณค่า และประโยชน์คือ ต้องทำให้เขาเห็นคุณค่า เห็นประโยชน์ ว่าวิชาพุทธศาสนานั้นมีประโยชน์อย่างไร ช่วยเหลือสังคมอย่างไร
 
     การที่จะให้เขาเห็นคุณค่า ก็เกิดจาก  “ความพร้อม”   ของพวกเราด้วย   ถึงแม้จะมีผู้ที่ไม่ปรารถนาดี  แต่ถ้าเรามีความพร้อม   ก็จะทำให้เขาต้องยอมรับ
 
     ทีนี้   ถ้าเราไม่พร้อม ก็เป็นข้ออ้างให้เขาหาเหตุมาพูดคัดค้านหรือกีดกั้นได้ต่างๆ  นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่คิดว่าระยะยาวจะต้องช่วยกันหนุนให้ มาก คือสร้างความพร้อมในหมู่พุทธศาสนิกชน และในวงการศึกษาว่า เรามีบุคลากร มีอะไรที่จะสนองความต้องการได้
 
     สำหรับครูในโรงเรียนทั่วๆ ไปนั้น การที่จะพร้อมต้องอาศัยเวลามากอยู่ แต่คนที่จะช่วยให้พร้อม ก็คือ คนจากวงการพระนั่นเอง  ที่จะไปเสริมกำลังให้เกิดความพร้อม
 
     ที่ว่า   “เข้มแข็ง”  ก็เช่นเดียวกัน  ไม่ใช่แค่เข้มแข็งในการเรียกร้อง หรือในการที่จะยืนยัน แต่ความเข้มแข็งที่แท้จริง คือเราต้องทำได้ผลดีมี  คุณภาพสูง จนเขาต้องยอมรับ เมื่อมีกำลังแห่งคุณค่าและกำลังปัญญาที่ เหนือกว่าเขา ก็จะเข็มแข็งจริง และทั้งหมดนี้ก็ต้องมี “ความพร้อม” นั่นเอง
 
     นี้ก็เป็นเรื่องหนึ่ง  ที่เป็นเรื่องส่วนรวม เรื่องประโยชน์ของพระ ศาสนา และประชาชน ที่จะต้องหาทางช่วยกัน
 
 
- ชาวพุทธไทย ไม่รู้ว่าความเป็นชาวพุทธอยู่ที่ไหน
 
     แคบเขามาอีก ก็คือเรื่องของการศึกษาในหมู่พุทธศาสนิกชนทั่วไป  ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการของพระพุทธศาสนา รู้สึกว่ายังง่อนแง่นอยู่
 
     เวลานี้ ประชาชนที่เป็นพุทธศาสนิกชน   ไม่ค่อยรู้แม้แต่หลักศรัทธา  เริ่มแต่เรื่องพระรัตนตรัย ว่ามีความหมายเป็นอย่างไร คำสอนสำคัญในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างไร


     ข้อปฏิบัติพื้นฐานในหมู่ชาวพุทธก็ไม่มี จะเป็นชาวพุทธนี่ทำอย่างไรก็ได้  คนที่ชื่อว่าเป็นชาวพุทธไม่มีแกนทางความเชื่อและการปฏิบัติที่ จะยึดเหนี่ยวกันไว้
 
     สภาพอย่างนี้เป็นกันมานานแล้ว เป็นเรื่องที่จะต้องหาทางช่วยกันแก้ไข ว่าทำอย่างไรชาวพุทธจะมีหลักความเชื่อ หลักความประพฤติ และการปฏิบัติที่แสดงตัวออกมาให้เป็นที่ชัดเจน
 
     ขณะนี้ ความเชื่อก็ไปกันต่างๆ ที่เขวเฉไฉออกไปก็มากมาย  ซึ่งเป็นจุดอ่อนให้ภายนอกโจมตี หรือชักจูงให้ผิดพลาดยิ่งขึ้น และยิ่งมีภัยจากภายนอกเข้ามาด้วย ก็ยิ่งผุกร่อนโทรมลงไป
 
     นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ว่า พระเราคงจะต้องช่วยเหลือกันในแง่ดึงคน เข้ามาหาหลักการ มิฉะนั้นจะไปกันใหญ่ เวลานี้อะไรมาก็จูงกันไป ชัก กันไป เรื่อยเปื่อยไป จนหาหลักไม่ได้
 

- พระเณรไทยก็เคว้งคว้าง ไม่รู้จะตั้งต้นและจะตั้งตัวไว้ที่ไหน
 
     ทีนี้เข้ามาถึงวงการพระเอง การศึกษาของเราก็ไม่มีเอกภาพ อย่าง ที่เราทราบกันอยู่ว่า มีหลายระบบ หลายหลักสูตร จนกระทั่งแม้แต่ท่าน ที่ต้องการจะส่งเสริมการศึกษา จะเริ่มต้น ก็ไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไร
 
     เมื่อไม่นานมานี้ มีเจ้าคณะในบางจังหวัดท่านได้มาปรึกษา ท่าน ปรารภว่า จังหวัดนั้นเรื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ กำลังจะเข้าไป สภาพที่อยู่กันมาแบบเดิมเป็นไปตามประเพณี  ไม่มีความเจริญแบบสมัยใหม่เข้าไป ก็เป็นไปด้วยดี   แต่ตอนนี้การท่องเที่ยวเข้าไป   อุตสาหกรรมแบบใหม่เข้าไป  ชีวิตชาวบ้านจะ เปลี่ยนไป
 
     คนที่เคยอยู่ในท้องไร่ท้องนา   ก็เลิก เด็กหนุ่มเด็กสาวทิ้งนา  ไปโรงงานอุตสาหกรรม   ตอนเช้าก็จะมีรถมารับ  หนุ่มสาวก็ขึ้นรถไป   ไปอยู่โรงงาน   เย็นก็กลับมา   ไม่มีใครเอาใจใส่การทำไร่ทำนาอย่างเก่า  ชีวิตจะเปลี่ยนไปหมด
 
     นักท่องเที่ยวเข้ามา   ก็นำเข้ามาทั้งสิ่งของและพฤติกรรมใหม่ๆ แปลกๆ ทำให้วิถีชีวิตมีปัญหา  รวมไปถึงศีลธรรมด้วย เมื่อสิ่งใหม่ๆ เข้ามานี่ พระจะช่วยรับมือได้อย่างไร  ก็คุยกันว่าเรื่องสำคัญอย่างหนึ่ง  ก็คือ ต้องทำให้พระเราพร้อมที่จะ
 
        ๑. รักษาตัวเอง
 
        ๒. ช่วยประชาชน
 
      ในการที่จะฟื้นฟูเริ่มจัดการศึกษานั้น   เมื่อถามว่า ท่านจะเอา ระบบไหน ท่านก็บอกว่า ต้องไปคิดดูไม่รู้จะเอาอย่างไร แม้แต่จะคิดเริ่ม การศึกษาด้วยความตั้งใจจะเอาจริง ก็ยังไม่รู้ว่าจะจับจุดไหนดี เพราะ การศึกษาของเราสับสน ไม่มีเอกภาพ

 
 - พระมาศึกษาในต่างแดนนี้ ถ้าก้าวให้ดีจะเป็นที่ตั้งต้นความหวังแก่สงฆ์ไทย
 
     ผมมาที่นี่ทีไร ก็มานึกถึงว่า ปกติความหวังของเราก็อยู่กับพระที่มี การศึกษา ที่ได้เรียนรู้ที่ได้ออกมาอยู่ข้างนอก ได้เห็นโลกกว้าง เห็นการ ศึกษาในประเทศต่างๆ ที่เขาเจริญแล้วเป็นอย่างไร เป็นการช่วยขยาย ความคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ท่านที่มาในสายการศึกษาแบบนี้จะเป็นผู้ที่ ช่วยแก้ไขปัญหา หรืออย่างน้อยก็ช่วยเสริมกำลัง
 
     ดังนั้นในการมาวันนี้    เมื่อพบกัน ก็ขอถือโอกาสพูดเรื่องนี้ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของการพระศาสนาในเมืองของเรา
 
     ทุกท่านที่มานี่  ย่อมมีความรักในพระศาสนา และเป็นห่วงเรื่องกิจการของคณะสงฆ์  แม้ว่าบางท่านอาจจะรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้มาก่อน แต่ถึงอย่างไร   ใจลึกๆ ก็ยังมีความรัก  อยากจะให้การพระศาสนาเป็นไปด้วยดี
 
     การที่จะพูดนี้   จึงเป็นการมากระตุ้นเตือนหรือช่วยเสริม ซึ่งทุก ท่านเองก็มีความคิดอยู่แล้ว ในการที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหา แต่บาง ทีเราก็สะท้อนใจว่า เอ... เราไม่มีอำนาจในการบริหาร แม้แต่บางที สำเร็จกลับไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร เลยบางทีก็ท้อใจ


     ในยุคนี้ เราไม่มีเวลาที่จะมาท้อใจ มีอะไรทำได้ก็ทำ ในส่วนของเรา มีเรื่องทำได้แค่ไหนก็ทำไป แต่อย่างน้อยก็ตระหนักรู้ในปัญหา และมี ทิศทางที่จะช่วย ในหมู่ท่านที่มานี่ เมื่อมีใจร่วมกัน ก็จะเป็นแกน ประสาน คงจะค่อยๆ แก้ปัญหาไปได้
 

- พระเณรที่เรียนสายใหม่ ช่วยตรึงสถานการณ์ไว้
 
     ความจริง ที่ท่านมาเรียนแบบใหม่นี้สามารถช่วยการพระศาสนา ในยุคที่ผ่านมานี้ได้มาก ถ้ามิฉะนั้นการพระศาสนาจะตกต่ำลงไปกว่านี้ อีกลิบลับ ขอให้นึกดูเถอะ
 
     ในวงการสถาบันการศึกษาต่างๆ ถ้าไม่มีคนในวงการของเราไป ตรึงไว้บ้าง ป่านนี้ก็จะลำบากมาก
 
     ท่านที่สำเร็จการศึกษามาจากทางมหาวิทยาลัยสงฆ์และท่านที่มา เรียนต่อที่นี่ กลับไป จะไปอยู่ในสมณเพศต่อหรือไม่ก็ตาม ก็ไปช่วยพยุง สถานะของสถาบนสงฆ์โดยไปอยู่ในมหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ เช่น วิทยาลัยครู
 
     ในทางบ้านเมือง   เดี๋ยวนี้ยังมีผู้ไปตรึงไว้ได้บ้าง   ทำให้เรายังมีบุคคลในสายของสถาบันสงฆ์คงอยู่  ถ้ามิฉะนั้นแล้วจะหมดเลย  ถ้าเอาเฉพาะการ ศึกษาแผนเดิมของคณะสงฆ์แทบจะไม่มีกำลังคนออกไปช่วยได้เลย
 
     ฉะนั้น ในแง่นี้  ก็เรียกว่า ผู้เรียนในการศึกษาสายใหม่นี้ได้ช่วยเหลือมาก แม้ว่าในเวลาจะมาเรียนนั้น  หลายท่านต้องมาด้วยความดิ้น รนของตัวเอง อาจจะเรียกได้ว่าไม่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุน มีเพียง บางท่านที่ได้รับความสนับสนุนมา แต่เมื่อกลับไปแล้ว ก็ได้ไปช่วยตรึงไว้ อย่างที่ว่ามาเมื่อกี้ เป็นการช่วยเชิดชูรักษาสถานะไว้ได้บ้าง จึงเป็นการ ทำประโยชน์แก่พระศาสนา
 
     เพราะฉะนั้น เวลานี้จึงไม่ได้เป็นห่วงเรื่องที่ว่าใครเรียนแล้วจะอยู่ หรือจะไป และจะไปทิศไหนทางไหน ขอให้เรียนแล้วไปช่วย  ไปทำงานของตัวนั่นแหละ อย่างใดอย่างหนึ่ง

     เพียงแต่ขอให้มีจิตสำนึกในการพระศาสนาของเรา   มีความรู้สึกรับผิดชอบต่อพระศาสนา หรือมีจิตสำนึกในความมีส่วนร่วมในพระศาสนาอยู่ด้วย  เพียงเท่านี้ก็จะช่วยได้มาก   
 
     การมีจิตสำนึก ความรู้สึกมีส่วนร่วม และมีความรับผิดชอบนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยสถาบันสงฆ์และช่วยพระศาสนาโดยอัตโนมัติ แล้ว ยังจะช่วยรักษาตัวเองไว้ด้วย ให้มีความมั่นคงในหลักการของการ ศึกษาที่แท้จริง
 
 
 
 


Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2567
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2567 7:38:17 น. 0 comments
Counter : 59 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 7881572
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 7881572's blog to your web]
space
space
space
space
space