Group Blog
หลวงพระบาง 2547
My Gang
บาหลี 2548
สิงคโปร์
ออสเตรเลีย2548
ฮังการี-เชค-ออสเตรีย-เยอรมัน 2549
ฮ่องกง-มาเก๊า
เขาใหญ่ 2549
สวิส - เยอรมัน 2550
โรงแรมหรูที่เคยไป
มาเลเซีย
เขมร 2549
เวียตนาม 2551
ญี่ปุ่น 2551
กิน...กิน..แล้วก็กิน
Yogjakarta 2010
Taiwan 2010
Turkey 2011
Taiwan 2012
<<
กรกฏาคม 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
7 กรกฏาคม 2550
พาคนแก่เที่ยวสวิส-เยอรมัน วันที่3 Jungfrau Thun- Interlaken
All Blogs
พาคนแก่เที่ยวสวิส - เยอรมัน วันที่ 10 Fussen Back to Home
พาคนแก่เที่ยวสวิส - เยอรมัน วันที่ 9 Munich
พาคนแก่เที่ยวสวิส - เยอรมัน วันที่8 Nuremburg - Munich
พาคนแก่เที่ยวสวิส - เยอรมัน วันที่ 7 Nymphenburg - Munich
พาคนแก่เที่ยวสวิส - เยอรมัน วันที่ 6 Zurich Rhien Falls Stien am Rhien - Munich
พาคนแก่เที่ยวสวิส-เยอรมัน วันที่ 5 Zermatt Glacier Express - Zurich
พาคนแก่เที่ยวสวิส-เยอรมัน วันที่4 Schilthorn Golden Pass - Brig
พาคนแก่เที่ยวสวิส-เยอรมัน วันที่3 Jungfrau Thun- Interlaken
พาคนแก่เที่ยวสวิส-เยอรมัน วันที่ 2 Luzern Merringen -Interlaken
พาคนแก่เที่ยวสวิส-เยอรมัน วันที่1 BKK- Luzern
ไปทัวร์เดินตลาดที่สวิสกะเยอรมันกันดีกว่า
พาคนแก่เที่ยวสวิส-เยอรมัน วันที่3 Jungfrau Thun- Interlaken
วันนี้ก็ทรมานสังขารตื่นแต่เช้าอีกแล้ว วันนี้จะไปขึ้น Jungfrau ต้องนั่งรถไฟไปหลายทอดอยู่กว่าจะถึงยอดบนสุด ก็เลยขอไปแต่เช้าหน่อย คนจะได้ไม่แน่น ปรากฎว่าคิดผิด เพราะเราไปจ๊ะเอ๋กะทัวร์สารพัดชาติเอเชีย เพราะมากันหลายกรุ๊ปเหลือเกิน ทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น นี่ยังไม่ได้แยกว่าจีนไหนอีกนะเนี่ย เฮ้อปวดหัวคนเยอะไปหมด จะนั่งตู้ไหนก็แปะป้ายจองไว้เกือบหมด เดินไปจนเกือบสุดท้าย ไม่เห็นป้ายก็เลยขึ้นไป ปรากฎว่าหย่อนก้นลงไปไม่ทันไร ก็มีพนักงานรถไฟมาไล่ แล้วก็แปะป้ายจองอีก ตกลงจะให้คนมาเองขึ้นมั๊ยเนี่ย เราก็เลยระเห็จไปนั่งในตู้เก็บจักรยานกะสัมภาระ เป็นตู้โล่ง ๆ มีเก้าอี้พับติดฝากตู้ไว้กางเวลานั่ง ดูอนาถา เหมือนมาขอนั่งฟรีเลย แต่ว่าพอรถออกแล้ว อาเจ๊ทั้งหลายที่มาเบียดบังที่ของเราก็ต้องอิจฉา เพราะตู้อนาถาที่ไม่มีคนนั่งเนี่ย เวลารถไฟวิ่งไปตามทาง มันเป็นตู้ Panoramic ชั้นดีเลยหละ ไม่มีหัวคนบังวิว กระจกหน้าต่างก็บานใหญ่ แถมยกกระจกลงได้ด้วย ไม่ต้องเกรงใจใคร โฮ่ ๆ สะใจ อาเจ๊ตู้ข้าง ๆ เหล่ด้วยความอิจฉา มีหลายคนก็เดินเข้ามาถ่ายรูปที่โบกี้เราด้วย ก็มันสวยอ่ะดิ
วิวระหว่างทาง
นั่งรถไฟมาซักพัก ก็ต้องมาแยกขบวนกันที่ Zweilutschinen โดยขบวนที่เรานั่งจะไปที่ Grindelwald ในขณะที่อีกขบวนนึงจะไปที่ Lauterbrunnen ถ้าจะขึ้น Jungfrau ก็สามารถขึ้นได้ทั้ง 2 ทาง เพราะที่สุดแล้ว ทั้ง 2 ทางก็จะไปสุดสายที่สถานี Kl. Scheidegg เพื่อขึ้นไปยังยอด Jungfraujoch สำหรับรถไฟที่ขึ้น Jungfraujoch นี้ เราต้องไปซื้อตั๋วที่ Grinderwald โดยแสดงตั๋ว Swiss pass เพื่อจะได้ส่วนลดค่าตั๋ว 50% ค่าตั๋วคนละ 88 ฟรังส์
ส่วนรถไฟที่จะพาเราขึ้น Jungfraujoch ก็เป็น Panoramic Train แต่มองอะไรไม่ค่อยเห็นเพราะคนเยอะมาก ที่นั่งไม่พอ จนต้องยืนกันหลายคน บังวิวมิดเลย เลยดูได้แต่ตรงหน้าต่างของตัวเอง ซึ่ง 2 ข้างทางก็มีแต่หิมะเต็มไปหมด
วิวหิมะสองข้างทาง
แล้วเราก็มาต่อรถอีกขบวนหนึ่งที่ Kl. Scheidegg คราวนี้ต้องนั่งรถไฟลอดอุโมงค์ไปเกือบตลอดทางเลย และจะมีให้แวะระหว่างทางเพื่อลงไปชมวิว (ก็มีแต่หิมะขาวโพลนไปหมด แต่ก็ลงไปดูมันทุกสถานี) แล้วก็แวะเข้าห้องน้ำด้วย ไม่มีน้ำให้ล้างมือ มีแต่กระดาษเปียกแจกให้แทน เลยเก็บมาเป็นที่ระลึกซะเลย อิ อิ
วิวจากจอชมวิวที่รถไฟแวะจอดให้ลงไป
หิมะน่ากินเหมือนขนมเมอร์แรงค์
และแล้วเราก็ไต่ขึ้นมาถึงยอด Jungfraujoch ซะที บนยอดนี้เป็นที่ตั้งของ Sphinx ซึ่งในนั้นมีภัตตาคารและร้านขายอาหารแบบบริการตัวเอง ร้านขายของที่ระลึก จุดชมวิว และ ถ้าเดินไปอีกทางหนึ่ง ก็จะเจอ Ice Palace ซึ่งเราเริ่มต้นที่ Sphinx เป็นที่แรก เพราะเดินตามป้ายแล้วมันถึงก่อน
ออกไปชมวิวหิมะ กับดูคนเล่นสกีด้วยความอิจฉา วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส ฟ้าสีสวยตัดกับหิมะสีขาว สวยจริง ๆ
แล้วเราก็เข้ามาถ่ายรูปกับมุมสุดฮิต ถ้าไม่ถ่ายคงจะถือว่ามาไม่ถึง เลยต้องถ่ายไว้เป็นหลักฐานซะหน่อย
เดินต่อไปเที่ยว Ice Palace อยู่บนนี้ต้องเดินช้า ๆ เพราะอากาศบางมากเนื่องจากเป็นที่สูง ถ้ารู้สึกหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ควรหยุดพักทันที อย่าฝืนเดินต่อ แค่หยุดพักซักแป๊บเดียวก็หาย เดินต่อได้
ทางเดินเข้า Ice Palace เป็นโพรงน้ำแข็ง พื้นก็เป็น้ำแข็งด้วย กลัวลื่น ต้องเดินเกาะราวไป ลองจับพื้นดู เอ๊ะ น้ำแข็งไม่ละลายเลย แห้งสนิท แสดงว่าที่นี่ต้องเย็นมาก ๆ เลย ในนั้นก็มีรูปน้ำแข็งแกะสลัก
น้ำแข็งแกะสลักภายในถ้า
ครอบครัวเอสกิโม
ออกไปชมวิวอีกทีก่อนกลับ
เดินเที่ยวเสร็จแล้วก็กลับมารอรถไฟ ระหว่างรอก็เห็นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั่งโซ้ยบะหมี่ถ้วยกัน เป็นบะหมี่ยี่ห้อเกาหลี เอาใจนักท่องเที่ยวเอเชียสุด ๆ แล้วก็ขายดีซะด้วย นั่งซดกันเป็นแถวเลย แอบไปสำรวจราคาดู แค่ 7 ฟรังส์เอง เป็นราคาที่ในสวิสถือว่าไม่แพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอาขึ้นมาขายบนนี้ ถือว่าไม่แพง แต่อย่างไรก็ตาม กลับมากินที่เมืองไทยดีกว่า 50 บาทเอง ว่าแล้วก็ควักขนมปังแฮมที่ซื้อตุนไว้เมื่อวานขึ้นมากินดีกว่า
ขาลงจาก Jungfraujoch เราเลือกกลับทางใหม่ โดยกลับทาง Lauterbrunnen ก็ลงมาแล้วแยกที่สถานี Kl. Scheidegg โดยสายที่เราเลือกมีคนขึ้นค่อนข้างน้อย ก็ได้วิวที่แตกต่างไปจากขามา
ช่วงแรกวิวยังเป็นแนวหิมะอยู่
//i101.photobucket.com/albums/m80/poopy007/58.jpg
เริ่มมีสีเขียวแล้ว
เขียวชุ่มฉ่ำ
กลับมาจากขึ้น Jungfrau แล้ว เราก็ไปเที่ยวต่อ ตอนแรกกะว่าจะแวะไปแตะ ๆ กรุงเบิร์นซัก 3-4 ชั่วโมง แต่เราเสียเวลาที่ Jungfrau ไปเยอะ แล้วก็อยากล่องเรือทะเลสาป Thun ด้วย
วิวระหว่างทางไปThun
ระหว่างทางนั่งรถไฟไปกรุงBern เราก็เลยตัดสินใจกระโดดลงรถไฟที่เมือง Thun ซะเลย เมืองนี้เป็นเมืองเล็ก ๆ น่ารักตามแบบเมืองในสวิส มีสะพานข้ามแม่น้ำคล้าย ๆ Chapel Bridge แบบเมือง Luzern ด้วย แต่เล็กกว่าเยอะ
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ร้านส่วนใหญ่เลยปิด ส่วนที่เป็นร้านค้าดูเงียบเหงา แต่ส่วนที่เป็นร้านอาหารริมน้ำดูครึกครื้นดี
ต้นหลิวริมน้ำแถบ ๆ ย่านร้านอาหาร
ตึกสวย ๆ ในเมือง Thun
รูปดอกไม้สวย ๆ ตามทางเดินริมน้ำ
เราเดินเล่นในเมืองนี้จนคาดว่าจะได้เวลาเรือมาถึง ก็เลยมารอลงเรือ มีคนคอยอยู่ประปราย แต่เวลาผ่านไป ไม่มีเรือมาเลย เอ๊ะ ยังไง รอไปซักพักก็เริ่มถอดใจ ก็มีคนเดินไปถามที่ office ปรากฎว่าไม่มีเรือมาแล้วสำหรับวันนี้ เพราะยังใช้ตารางเดินเรือของหน้าหนาวอยู่ แต่ตามป้ายประกาศไว้แจ้งว่า ตารางเดินเรือในหน้าร้อน จะเริ่มในวันที่ 1 เม.ย. ที่เราไปก็วันที่ 8 เม.ย.เข้าไปแล้ว ทำไมยังใช้ของฤดูหนาวต่อ คนท้องที่เองก็ยังสับสนเลย แย่จัง (ซึ่งเราจะประสบปัญหาอย่างนี้ตลอดเวลาที่ไปเลยเลย เพราะช่วงต้นเมษายน เป็นช่วงเริ่มต้นการเปลี่ยนฤดูกาล)
พอแน่ใจแล้วว่าเราหมดหวังที่จะนั่งเรือล่องทะเลสาป Thun แน่ ๆ แล้ว เราก็เดินคอตกกลับมาขึ้นรถไฟกลับ Interlaken West ด้วยความผิดหวัง Bern ก็อดไปแล้วยังอดล่องเรือซ้ำสองอีก เศร้าเย็นนี้กิน Gyros แล้วก็นอน พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าอีกแล้ว
Create Date : 07 กรกฎาคม 2550
Last Update : 7 กรกฎาคม 2550 8:46:18 น.
6 comments
Counter : 2147 Pageviews.
Share
Tweet
ไม่มีผิดหวังอยู่แล้วครับ สำหรับที่นี่
สวยงาม หยดย้อยเลยล่ะครับ...
โดย:
pompier
วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:19:14 น.
อยากเป็นคนแก่...ให้เจ้าของบล๊อกพาไปเที่ยว ฮิฮิ
(พูดซะยังกะว่าผมหนุ่มแน่นซะงั้น
)
ภาพสวยงามมากๆ เห็นแล้วกระตุ้นต่อมท่องเที่ยวเป็นยิ่งนัก
ปีหน้าๆๆ ขอเก็บตังค์ก่อน
แต่เห็นค่ากาแฟแก้วละ 7ฟรังค์ก็หนาวๆเหมือนกันแฮะ
สงสัยไปเที่ยวเนี่ย ต้องเตรียมอาหารญี่ปุ่น(มาม่า)ไปสักแพคนึง
คงจะประหยัดค่ากินไปได้อีกโข
ขอบคุณที่นำเอาประสบการณ์มาแชร์ให้ชมครับ
โดย:
Dr.Manta
วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:36:24 น.
อีนเคยไปสวิสมาแล้วค่ะ
สวยมากๆเลย
อยากไปอีกจังเลย
โดย:
เด็กน้อยขี้แย
วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:44:38 น.
เห็นแล้วอยากไปจังเลยค่ะ
โดย:
princess gig
วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:07:59 น.
สวยจริง ๆ ด้วย
โดย:
maxpal
วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:47:33 น.
รูปสวยจังเลยคะ แวะมาทักทายคะ มีความสุขมากๆในวันหยุดนะคะ
โดย:
mintny_n
วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:12:03 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
นู๋Poopy
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
http://fastwebcounter.com
Friends' blogs
อุณากรรณ
wayo
ninaM
beebah
Devil Cupid
ตงเหลงฉ่า
O-HO
BlogGang.com
ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
มิถุนายน
หมาเลี้ยงแกะ
Picike
P_JUNG_PIGLET
มดx-v3
daonari
แตนต่อย
pinkyjung
รำเพย
ผู้สาวเมืองยศ
MONIQUE
invisible-angel
Webmaster - BlogGang
[Add นู๋Poopy's blog to your web]
Links
Blogอีกแห่งของเราเอง
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สวยงาม หยดย้อยเลยล่ะครับ...