<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
29 พฤศจิกายน 2553

Let Me In : กำเนิดใหม่แวมไพร์สวีดิช รีเมคชั้นดีจากฮอลลีวู้ด

..

บทความวิจารณ์กึ่งแนะนำ ยังไม่ดูก็อ่านได้



ความรักชนะทุกสิ่ง ... แม้กระทั่งกำแพงกั้นระหว่างมนุษย์กับอมนุษย์อย่าง “แวมไพร์”





ประโยคข้างต้น ที่เสมือนเป็นคำโปรยจากหนังแวมไพร์ชุดสุดฮิตเรื่อง “Twilight” (ซึ่งเชื่อว่า คอหนังตลาดส่วนใหญ่ก็น่าจะคิดว่ามาจากเรื่องนี้)

ทว่าความจริงแล้ว ประโยคดังกล่าวยังใช้ได้กับหนังแวมไพร์สุดแนวอย่าง “Let Me In” ได้อีกด้วย

หรือจะให้พูดกันให้ครบความ ก็ย่อมหมายถึงต้นตำหรับหนังสวีเดน อย่าง “Let The Right One In” ที่สร้างปรากฏการณ์จนกลายเป็นหนึ่งในหนังแวมไพร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล


.

ในปีนี้ (2010) Matt Reeves (ผู้กำกับ Cloverfield) หยิบเอางานชั้นยอดจากสวีเดนของ Tomas Alfredson มาทำใหม่ ในชื่อ “Let Me In” โดยคงเอาเนื้อหาดั้งเดิมไว้แทบครบถ้วน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90

... จะมีเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็เพียงชื่อตัวละคร สถานที่เกิดเหตุ และรายละเอียดปลีกย่อยเล็กน้อยเท่านั้น

.

ดังเช่นที่ผมเคยเขียนเรื่องย่อของ Let the Right One In ไว้ส่วนหนึ่งว่า

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวในหนัง คือ Okar เด็กหงอยๆที่มักถูกเพื่อนรังแกเป็นประจำ ได้มาเจอกับ Eli แวมไพร์วัยเด็กตลอดกาลที่ยังมีอารมณ์เหงาๆ ไร้เพื่อนฝูง

เมื่อต่างคน ต่างมาเติมในส่วนที่ขาดหาย ความโรแมนติกจึงบังเกิด โดยมีฉากความสยองเป็นเครื่องเคียง




อ่านบทแนะนำกึ่งวิจารณ์ Let The Right One In ได้ที่นี่

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pogghi&month=06-2009&date=18&group=6&gblog=42


สำหรับ Let Me In ก็ไม่แตกต่างกัน

เพียงแค่เปลี่ยนชื่อจาก Okar มาเป็น Owen และจาก Eli มาเป็น Abby เท่านั้น ... แล้วก็เลือกเอาสถานที่เกิดเหตุ เป็นรัฐนิวเม็กซิโกของสหรัฐอเมริกา แทนกรุงสต็อกโฮห์ม , สวีเดน

ส่วนองค์ประกอบอื่นๆก็แทบคงเดิมไว้เกือบทั้งหมด



มีเพียงการตัดประเด็นบางอย่างที่ไม่สำคัญต่อการเดินเรื่องมากมายออกไป (เช่น ความสัมพันธ์ระหว่าง Owen กับพ่อ) การเปลี่ยนสถานการณ์บางอย่าง บทสนทนา รวมถึงการตัดต่อสลับบางฉากเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ

จึงอาจเรียกได้ว่า Let Me In เป็นงานรีเมค ที่ทำได้ดีมากอย่างน่าชมเชย

โดยไม่ทำให้หนังดีๆต้นตำรับอย่าง Let The Right One In เสียของแต่ประกาศใด


.

จุดเสียที่ดูแล้ว อาจไม่ใช่ข้อด้อยมากมาย จึงกลายเป็นว่า

สำหรับคนที่เคยดูหนังแวมไพร์จากแดนไวกิ้งมาก่อนหน้านี้ ระดับความตื่นเต้น ความน่าลุ้น ความน่าติดตาม ก็ย่อมลดลงไปโดยปริยาย

... ขณะเดียวกันในงานด้านถ่ายภาพ บรรยากาศ และองค์ประกอบศิลป์ ก็ยังไม่ดูน่าหวั่นไหว ลึกลับ พรั่นพรึงมากเท่ากับหนังต้นฉบับ

.

ทว่าจุดเด่นที่ทำได้ไม่แพ้กัน คงเป็นนักแสดงนำทั้งสอง อย่าง Kodi Smit-McPhee (หนุ่มน้อยนักเดินทน จาก The Road) กับ Chloe Moretz (สาวน้อยสุดจี๊ด Hit – Girl จาก Kick-Ass) ซึ่งสามารถรองรับกับบทบาทที่เน้นการสื่ออารมณ์จากสีหน้า และแววตาได้เป็นอย่างดีทั้งคู่







บทสรุปของผลงานฮอลลีวู้ด “Let Me In”

จึงกลายเป็นหนังแวมไพร์รีเมคชั้นดี ที่นานทีจะมีหน

… แล้วคอหนังสยองขวัญจะพลาดได้อย่างไร








อนุญาตให้เข้ามา ... สัมผัสกลิ่นคาวเลือด กรุ๊ป B+

..






Create Date : 29 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2553 18:52:36 น. 4 comments
Counter : 2223 Pageviews.  

 
ชอบทั้งหนังสือ และหนังต้นฉบับ พอได้ยินเรื่องอเมริกาจะเอาไปทำทีแรกรับไม่ได้ แต่พอหนังออกมาแล้ว แล้วก็อ่านรีวิว ดูดีเกินคาด ต้องไปดูซะแล้ว (ให้มันครบทุกเวอร์ชั่น)


โดย: the right one IP: 58.11.13.168 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:10:46 น.  

 
น่าดูมากๆ ครับ (แต่ผมกลับรู้เฉยๆ กับต้นฉบับแฮะ) เป็นหนังรีเมคในไม่กี่เรื่องที่ไม่โดนคอหนังด่าเปิง
ปล.สบายดีใช่มั้ยครับ ไม่ได้เจอะคุณในหน้ารีวิวหนังมาสักพักละ


โดย: Nanatakara วันที่: 30 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:03:34 น.  

 
เกือบจะเลือดกรุ๊ปเดียวกัน อิอิ


โดย: ออสก้า IP: 119.46.91.4 วันที่: 1 ธันวาคม 2553 เวลา:15:29:49 น.  

 
อ่อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ขอบคุณที่ชี้แจงนะครับ หวังว่าความว่าง อารมณ์ และความคันมือของคุณจะมาบรรจบกันอีกไวๆ เน้อ อิอิ


โดย: Nanatakara วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:18:06:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

POGGHI
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




..

บทความ และผลงานภาพถ่าย โดย เจ้าของ Blog นี้
สงวนลิขสิทธิ์ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗

ห้ามผู้ใดละเมิด ด้วยการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความ และ ผลงานภาพถ่าย โดย เจ้าของ Blog ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร


POGGHI

..
[Add POGGHI's blog to your web]