<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
10 พฤษภาคม 2553

The Blind Side : เมื่อหัวใจ เชื่อมั่นในความดี

..

บทวิจารณ์กึ่งแนะนำ ยังไม่ดูก็อ่านได้






The Blind Side เป็นศัพท์ของอเมริกันฟุตบอล
อันหมายถึง “จุดบอด” ในสนาม
ซึ่งเป็นพื้นที่ด้านซ้ายของตำแหน่งสำคัญผู้ทำเกมส์อย่าง Quarterback

โดยจุดบอดตรงนี้
หากปราศจากตัวเล่นในตำแหน่ง Offensive Tackle แล้ว
โอกาสที่ Quarterback จะโดนจู่โจมจากแนวรับฝ่ายตรงข้ามก็มีสูง
Offensive Tackle จึงเป็นตำแหน่งสำคัญที่ช่วยปิด The Blind Side





ชีวิตมนุษย์ก็ไม่ต่างกัน
เราทุกคนล้วนมี The Blind Side
จะมากหรือน้อย จะอยู่ซ้ายหรือขวา ก็ว่ากันไปตามแต่ละคน ...
ซึ่งคนบางคนก็โชคดี
ที่มี Offensive Tackle คอยปิดจุดบอดของตัวเอง


.
.

The Blind Side เริ่มต้นให้เรารู้ว่า ครอบครัวสงเคราะห์ของ Michael Oher (Quinton Aaron)
เด็กหนุ่มผิวดำร่างใหญ่ (จนใครๆเรียกเขาว่า Big Mike .. แม้เจ้าตัวจะไม่ชอบก็ตาม)
พาเขามาฝากเข้า Briarcrest Christian School โรงเรียนคริสเตียนชื่อดังของคนผิวขาว

จากนั้นเรื่องราวก็ปูทางให้ทราบปูมหลังของเด็กหนุ่มเป็นระยะๆว่า
เป็นเด็กบ้านแตกสาแหรกขาด พ่อไปไหนไม่เคยรู้ แม่ติดยา พี่น้องกระจัดกระจาย
Big Mike ก็ได้แต่เข้าๆออกๆสถานสงเคราะห์ บ้านโน้นบ้านนี้ไปเรื่อย
ไม่มีแหล่งพักพิงถาวร




จุดเปลี่ยนเล็กๆซึ่งเป็นการเริ่มต้นอันยิ่งใหญ่ของเด็กหนุ่มผิวสี
อยู่ที่ Burt Cotton(Ray McKinnon) โค้ชฟุตบอลประจำโรงเรียนที่เล็งเห็นถึงศักยภาพด้านกีฬาว่า
เด็กคนนี้น่าจะเอามาปั้นเป็นดาวเด่นได้ไม่ยาก
จึงพยายามโน้มน้าวบอร์ดบริหารว่า อย่างน้อยๆการรับเด็กโข่งไอคิวต่ำคนนี้เข้ามา
ก็เป็นการทำความดีตามหลักของคริสเตียนที่ดีมิใช่หรือ


สุดท้ายแล้ว Michael Oher ก็ได้เรียนใน High School ชื่อดัง
... แม้ผลการเรียนของเขาอยู่ในขั้นน่าห่วงมากก็ตาม


แล้วจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของเด็กหนุ่มก็เกิดขึ้น
เมื่อ Leigh Anne Tuohy (Sandra Bullock) สาวนักธุรกิจไฮโซประจำเมือง เจอกับ Michael ในคืนที่เด็กหนุ่มกำลังเดินหาที่ซุกหัวนอนท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ

ความมีน้ำใจอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของ Leigh Anne ในคืนนั้น
กลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กหนุ่มไร้อนาคต





นอกจากนั้น บุคคลสำคัญอีก 3 คน ที่มีส่วนเปลี่ยนแปลงอนาคตเด็กไร้บ้าน คือ ครอบครัว Tuohy ซึ่งประกอบไปด้วย
Sean Tuohy (Tim McGraw) สามีสุดใจดีที่พร้อมยืนหยัดเคียงข้างภรรยาเสมอ หากเธอยืนยันว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ,
S.J. Tuohy (Jae Head) ลูกชายคนเล็ก ที่รู้สึกยินดีกระดี๊กระด๊ากับการได้พี่ชายสุดซี้มาเป็นคู่หูของตนเอง
และ Collins Tuohy (Lily Collins) ลูกสาวคนโต ที่ไม่ได้รังเกียจความแตกต่างของฐานะ สีผิว ทั้งยังพร้อมยอมรับ Michael ในการเป็นสมาชิกใหม่ เหมือนเป็นพี่ชายคนโต
... รวมไปถึงMiss Sue (Kathy Bates) คุณครูคนสำคัญที่มีส่วนพัฒนา Michael ในเรื่องทักษะการเรียน




Leigh Anne เปลี่ยนแปลงชีวิตของ Michael โดยมีครอบครัวคอยเป็นกำลังสนับสนุน
จนกระทั่งเด็กหนุ่มไอคิวต่ำ มีพัฒนาการเรียนที่ดีขึ้น
ขณะที่อนาคตของการเป็นนักอเมริกันฟุตบอลก็ค่อยๆฉายแววความโดดเด่นเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ


Leigh Anne เคยเล่านิทานให้ Michael ฟังว่า ...
Michael นั้นเปรียบเหมือน "กระทิงเฟอร์ดินานด์"
กระทิงตัวหนึ่งในสเปนดินแดนแห่งนักต่อสู้กระทิงดุ
ทว่าเฟอร์ดินานด์กลับชื่นชอบนอนอยู่ใต้ต้นคอร์กโอ๊ก สูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้
ไม่เคยโกรธ เกลียด หรือทำร้ายใคร

ไม่ต่างกับเด็กหนุ่มไร้อนาคต จากย่านเสื่อมโทรม ที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม คุณภาพชีวิตต่ำ
… แต่ Michael กลับผ่านสิ่งแวดล้อมอันเลวร้ายนั้นมาได้ ยังคงเปี่ยมไปด้วยจิตใจดีงาม
จนกลายมาเป็นลูกรักอีกคนของครอบครัวคนผิวขาว
(หากยึดตามหลักพุทธศาสนา คงไม่ต่างกับครอบครัว Tuohy
ไปเก็บเด็กข้างทางที่เป็นอภิชาตบุตรมาเลี้ยงดู)




เมื่อเปรียบชีวิตของทุกคนกับอเมริกันฟุตบอล

Leigh Anne มองเห็น The Blind Side ของ Michael
ที่ขาดโอกาส ขาดทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ที่จะเป็นปัจจัยนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตการศึกษา หรือการมีอนาคตที่ดี

เธอจึงเป็นเหมือน Offensive Tackle ปิดจุดบอดตรงนั้นให้กับเด็กหนุ่ม




ขณะเดียวกัน
ท่ามกลางความสำเร็จอันสมบูรณ์แบบตามขนบสังคมชนชั้นสูง
ซึ่งในขณะเดียวกันอีกฟากของเมืองกลับยังเต็มไปด้วยผู้คนที่ขาดโอกาส คุณภาพชีวิตย่ำแย่

นั่นก็นับเป็น The Blind Side ในเชิงอุดมคติของสังคมที่พัฒนาในเรื่องจิตใจ

Leigh Anne กับครอบครัว อาจไม่แตกต่างจากคนรวยทั่วไป ที่มุ่งแสวงหาความสุขให้กับตัวเองให้เพียบพร้อม
แต่ทว่า การรับ Michael มาเลี้ยงดูด้วยความเมตตา ทำให้ครอบครัว Tuohy แตกต่างจากคนรวยครอบครัวอื่นๆ

... Michael จึงไม่ต่างจากเป็น Offensive Tackle มาป้องกัน The Blind Side ตรงนั้นเช่นกัน

.
.

The Blind Side เป็นภาพยนตร์ที่สร้างความรู้สึกดี ตั้งแต่ต้นจนจบ
เดินเรื่องตรงดิ่ง ไม่หวือหวาแปลกใหม่ ไม่หักมุม ไม่มีลุ้นระทึก ...
เรียกว่าเดินตามสูตรสำเร็จมาตรฐานการทำหนัง feel good ทั่วไปทุกประการ

ดังนั้นหากมองในแง่ความเจ๋งของงานสร้างภาพยนตร์ The Blind Side คงไม่สามารถนับเป็นเป็นปรากฏการณ์ในด้านใดได้มากมายนัก

แต่สิ่งสำคัญ ไม่ได้อยู่ตรงนั้น
เพราะสิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดของ The Blind Side อยู่ที่

เรื่องราวทั้งหมดนี้ คือ เค้าโครงเรื่องจริง
จากอัตชีวประวัติของนักอเมริกันฟุตบอลดาวรุ่ง นาม ... “Michael Oher”
ผู้เล่นในตำแหน่ง Offensive Tackle หมายเลข 74
ของทีมดังอย่าง “Baltimore Ravens”
แห่งลีกสูงสุดระดับประเทศ NFL





เรื่องราวชีวิตที่จรรโลงใจ ดูแล้วสร้างกำลังใจดีๆ ราวกับเป็นบทละครของ The Blind Side

แต่ทว่ามันเป็นเรื่องจริง ที่ตอกย้ำให้ผู้ชมรับรู้ว่า หากเพียงเชื่อมั่นในความดี เรื่องมหัศจรรย์ในชีวิตย่อมเกิดขึ้นได้







ซื้อตั๋วชม Michael Oher แบบเกาะขอบสนามที่ โซน B

..







Create Date : 10 พฤษภาคม 2553
Last Update : 10 พฤษภาคม 2553 13:09:22 น. 13 comments
Counter : 24491 Pageviews.  

 


โดย: nuyza_za วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:47:39 น.  

 
แวะมาเยี่ยม ๆๆๆๆๆๆๆๆ
...(เสียงสะท้อนเหมือนอยู่ในหุบเขา)


โดย: moonpeace วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:37:24 น.  

 
ดูที่ไหนครับ อยากดูมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


โดย: komyooth วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:42:59 น.  

 
ชอบหนังเรื่องนี้ค่ะ
เป็นหนังที่อบอุ่นมากเลยค่ะ
คือดูแล้วfeel goodมากๆอย่างที่จขบ.บอกเลยค่ะ
ดูแล้วรู้สึกว่าสังคมไม่ได้โหดร้ายเกินไป
ยังมีคนดีๆที่พร้อมจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้ที่อ่อนด้อยกว่า
จะบอกว่าฉากที่ชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้(จขบ.แปะให้ดูด้วย)
คือฉากที่แม่ Leigh Anne Tuohy อ่านนิทาน
ให้ลูกโข่งและลูกน้อยฟัง ดูอบอุ่นมากๆเลยค่ะ
และขอบคุณสำหรับคำอธิบายของคำว่าThe Blind Side
ทำให้เข้าใจหนังเรื่องนี้ขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.173.95.21 วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:51:35 น.  

 
ดีกว่าที่คิดไว้มากเลยครับ
ลองอ่านที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amp-atom&month=04-2010&date=08&group=2&gblog=175


โดย: คนขับช้า วันที่: 17 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:25:44 น.  

 


ชอบนะ ดูแล้วซึ้ง

แอบนำตาเล็ดแบบไม่ให้ไครู้ตัว ^//^


โดย: กริ๊บ IP: 158.108.103.203 วันที่: 8 ตุลาคม 2553 เวลา:2:25:52 น.  

 
เมื่อวานเพิ่งได้ดูเรื่องนี้ ทำเอาตื้นตันใจไปหลายตอนเลยค่ะ
ขอ share link บทความนี้ให้เพื่อนๆได้อ่านนะคะ


โดย: Nuchio IP: 182.53.183.164 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:51:24 น.  

 
ครัยรู้ชื่อเพลงในตอนหนังจบมั้งคับ
ชอบมาก


โดย: พัดจ๋า IP: 101.108.135.224 วันที่: 29 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:31:04 น.  

 
To : พัดจ๋า

Chances - Five For Fighting


โดย: Kim IP: 61.90.87.197 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:05:40 น.  

 
ดีคับ


โดย: Dome IP: 180.183.89.165 วันที่: 5 กรกฎาคม 2559 เวลา:1:56:23 น.  

 
Apple Watch Strtap D4
47 St Stephens St
Norwich NR1 3SH
United Kingdom
apple watch brown leather strap 42mm


โดย: Gilberto IP: 150.107.28.145 วันที่: 10 มกราคม 2565 เวลา:23:19:14 น.  

 
D4 Diamond Apple watch band
47 St Stephens St
Norwich NR1 3SH
United Kingdom
vegan apple watch strap


โดย: Kathlene IP: 150.107.28.145 วันที่: 10 มกราคม 2565 เวลา:23:32:45 น.  

 
Apple Watch Strap D4
47 St Stephens St
Norwich NR1 3SH
Uniuted Kingdom
croc apple watch strap


โดย: Miriam IP: 85.209.178.177 วันที่: 11 มกราคม 2565 เวลา:0:17:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

POGGHI
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




..

บทความ และผลงานภาพถ่าย โดย เจ้าของ Blog นี้
สงวนลิขสิทธิ์ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗

ห้ามผู้ใดละเมิด ด้วยการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความ และ ผลงานภาพถ่าย โดย เจ้าของ Blog ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร


POGGHI

..
[Add POGGHI's blog to your web]