Frank Lucas เป็นเพียงอเมริกันชนผิวดำธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่มีอดีตอันเลวร้ายมาจากลัทธิเหยียดผิว แต่ด้วยโชคชะตา โอกาส หรือหนทางที่ไม่มีให้เลือกมากนัก ชีวิตของไอ้มืดในสายตาคนผิวขาว เข้าสู่เส้นทางการเป็นลูกน้องคนสนิทของเจ้าพ่อมาเฟียแห่งย่านฮาร์เล็มอย่าง Ellsworth Raymond Bumpy Johnson จนได้เรียนรู้วิถีแห่งการเป็นใหญ่ในเส้นทางเดียวกัน
Lucas กลายเป็นอาชญากรผิวสีที่ประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ส่วนหนึ่งมาจากการที่เขาเดินตามรอยของ Bumpy ด้วยการใช้ชีวิตฉากหน้าอย่างเรียบง่าย มีเวลาให้กับครอบครัว การกุศล การเข้าโบสถ์ และมักใช้เวลานอกบ้านคลุกคลีอยู่กับคนนอกวงการอาชญากรรม นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า เหตุใดราชาแห่งยาเสพติดคนนี้จึงรอดพ้นจากสายตาของเจ้าหน้าที่ทางการไปได้เสมอ แต่ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้อาชญากรอย่าง Lucas ประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันยาวนาน เพราะสังคมอเมริกันในยุคนั้น มีเจ้าหน้าที่เลวๆมากพอๆกับโจรนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เจ้าพ่อผิวสีก็หนีสัจธรรมไม่พ้น เพราะยิ่งเขาประสบความสำเร็จมากเท่าใด โอกาสที่มีคนรู้จักย่อมมากขึ้นเท่านั้น แล้วก็เป็นโชคร้ายที่ฟ้าส่งคนบ้าระห่ำพอๆกันอย่าง Richie Roberts มาเจอ Lucas
Roberts อาจเป็นแค่เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดในระดับปฏิบัติการ ไม่ได้มีอำนาจมากมาย แถมยังล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในชีวิตครอบครัว แต่บุรุษสุดห่ามรายนี้มีทีเด็ดตรงที่ เขาเป็นตำรวจตงฉินประเภทกัดไม่ปล่อย ลุยไม่เลิก โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งนั้น
สุดท้ายแล้ว Lucas และ Roberts ต่างมาบรรจบในเส้นทางเดียวกัน เพียงแต่เกมนี้ใครจะเหนือชั้นกว่าใคร ต้องไปพิสูจน์ใน American Gangster ผลงานระดับมาสเตอร์พีซอีกเรื่องของผู้กำกับมือทองอย่าง Ridley Scott ผู้เคยฝากผลงานอันลือลั่น เช่น Gladiator , Black Hawk Down , Kingdom of Heaven มาแล้ว แม้ American Gangster ไม่ประสบความสำเร็จในเวทีออสการ์ โดยเข้าชิงเพียง 2 รางวัล คือ องค์ประกอบศิลป์ และนักแสดงสมทบหญิง (Ruby Deeในบทแม่ของ Lucas) ทว่าในเวทีอื่น ภาพยนตร์แห่งโลกอาชญากรรมเรื่องนี้ สามารถเข้าชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นลูกโลกทองคำ หรือ BAFTA
ทั้งนี้ หากมองในแง่ของความแปลกใหม่ American Gangster อาจจะมาช้าไปประมาณ 10 ปี เพราะบรรดาคอหนังทั้งหลายคงเคยผ่านตาภาพยนตร์แนวนี้มานักต่อนักแล้ว