BlogGang.com : : POGGHI : ปัดฝุ่น Blog : ว่าด้วยหนังที่ดูระหว่าง ปลายเดือน กุมภาพันธ์ 52

ปัดฝุ่น Blog : ว่าด้วยหนังที่ดูระหว่าง ปลายเดือน กุมภาพันธ์ 52 - ต้นเดือน พฤษภาคม 52

..

Watchmen

หนังเข้มข้นถึงใจพระเดชพระคุณ โดยเฉพาะคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับอเมริกันมากหน่อย ก็สนุกขึ้นมาอีกนิด เพราะหนังสอดแทรกการเมืองอเมริกันไว้จางๆ พอเป็นประเด็นในจินตนาการ

แม้เนื้อหารุนแรงไปบ้างพอสมควร แต่ในความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น มีที่มาที่ไปสมเหตุสมผล และเป็นผลดีกับเนื้อหาในหนัง

สอดคล้องกับงานด้านเทคนิคภาพ ที่สวยงาม และได้ใจคอ นัวร์

หนังเรื่องนี้ ไม่เหมาะกับเด็กด้วยประการทั้งปวง และเป็นการย้ำอีกครั้งว่า หนังฮีโร่ ในยุคปัจจุบัน ไม่ได้หมายความว่า ต้องเป็นหนังสำหรับเด็กเท่านั้น

เพราะฮีโร่ เป็นเพียงหน้ากาก หากตัวตนที่แท้จริงภายใน ก็ยังมีส่วนของความเป็นมนุษย์ รัก โลภ โกรธ หลง กิน ขี้ xx นอน นั่นเอง

หนังมีแง่ลบบ้าง คือ เนื้อหายืดเยื้อไปในบางจุด จนชวนหลับได้เหมือนกัน และดูเหมือนจุคพีคของหนังจะลอยๆ เบาๆ หาไม่ค่อยเจอ

พลังของยอดมนุษย์ รวมกันได้ เกรด B+

..

ความจำสั้น รักฉันยาว

น่าเสียดายที่สุด สำหรับหนังเรื่องนี้

โดยส่วนตัวชอบเนื้อหา เรื่องราวน่ารัก ดูแล้วสดใส และเป็นการฉีกรูปแบบที่ดีมากสำหรับหนังไทย ด้วยการไม่ได้ใช้นักแสดงนำเพียงแค่คู่เดียว แต่กลับชูเรื่องราวนักแสดงนำอีกคู่หนึ่ง (ที่ตอนแรกนึกว่าเป็นแค่สมทบ) ให้โดดเด่น จนไม่ด้อยไปกว่ากันเลย

บทหนัง แม้จะง่ายไปบ้าง สูตรสำเร็จไปนิด แต่ไม่ใช่ข้อบกพร่องที่ต้องตำหนิมากมาย โดยภาพรวมถือว่าผ่าน ชอบ ซึ้ง คุ้มค่าเงิน และตัวหนังอาจมีดีพอที่จะลุ้นรางวัลใหญ่ๆได้ไม่ยาก

แต่.........สิ่งสำคัญที่ไม่สามารถจัดหนังเรื่องนี้ให้เป็นหนังที่ดีได้เต็มปากเต็มคำ เต็มใจ

อันเนื่องมาจากว่า "การโฆษณาแฝงในหนัง ทำออกมาได้ชัดเจน แจ่มแจ้ง ขาดศิลปะ จนทำลายความรู้สึกไปมากพอสมควร"

ดูจบ เกิดคำถามขึ้นในใจว่า นี่มันหนังที่เขียนบทเพื่อรองรับให้เป็นหนังโฆษณาขนาดยาว หรือว่าบทหนังมันเขียนมาก่อน แล้วโฆษณาค่อยมาแทรก ว่าจะเอาอะไรลงไปในบทภายหลัง

โดยเฉพาะการที่ไม่ได้ใช้ฟิล์มถ่ายทำ ยิ่งทำให้บางช่วง บางฉาก ให้ความรู้สึกว่า กำลังดูหนังโฆษณาได้แจ่มชัดมากขึ้น

ด้วยความเป็นคนที่เกลียดการโฆษณาแบบโจ่งแจ้งในหนังมากๆๆๆๆ น่าเสียดายจริงๆ .... ที่ทำให้ความดีของหนัง กลายเป็นความจำที่เลือนลาง

C+

..

Outlander

ดูแบบหลับๆ ตื่นๆ (แผ่นปี๋ที่เปิดบนรถทัวร์ - -")

เพลินๆ มันส์ๆ เนื้อหาแปลกดี คล้ายๆหนังสงครามไวกิ้ง ผสม เอเลี่ยนส์ ปะทะ พรีเดียเตอร์

แต่สูตรสำเร็จไปนิด ขาดสีสันไปหน่อย (หนังเล่นประเด็นแบบตรงๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนทั้งเรื่อง) จึงเหมาะมาก สำหรับดู "ให้ง่วง" บนรถทัวร์

D+

..

Knowing

หนังทำออกมาได้ดูดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่ค่อยสะเทือนสะทกสะท้านใจเท่าไหร่

อารมณ์ของหนังเนือยๆไปนิด ไม่มีจังหวะไหนบีบคั้นอารมณ์ให้ลุ้นระทึกได้มากพอ และข้อสำคัญ......รู้สึกว่า มนุษย์ต่างดาวชอบมีตรรกะประหลาดๆอยู่เรื่อย

สิ่งที่น่าชมเชย คือ งานโปรดักชั่นที่ดูดีราวกับเป็นหนังซัมเมอร์

C+

..

แต๋วเตะตีนระเบิด

ว่างจัด บวกกับไปดูกับคนอื่น จึงกลายเป็นการดูหนังของพจน์ อานนท์ ในโรง เรื่องแรก !!!

พจน์ อานนท์ กลับมาในสไตล์ถนัดอีกครั้ง ด้วยหนังเกินจริงเว่อร์ๆ สาระเบาๆ มีมุขขำๆกระจายอยู่ทั้งเรื่อง ฝืดบ้าง เป้กบ้าง ขำบ้าง ก็ว่ากันไป

ประเด็นบทของหนัง จัดว่าอยู่ในขั้นติดลบพอสมควร กระจัดกระจายสะเปะสะปะ ดูเลอะเทอะ โดยเฉพาะช่วงท้าย ที่พยายามแทรกมุขล้อการเมืองคล้ายจะแฝงสาระ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หนังดูดีขึ้นแต่ประการใด (ยิ่งบวกกับสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ หนังยิ่งดูฟุ้งเฟ้อ เพ้อฝันเหมือนความเห็นเด็กใสๆมากำกับ มากกว่าผู้ใหญ่เจนโลก)

นักแสดงหน้าใหม่ หนุ่มๆสาวๆ ดูน่ารักไปตามวัย แต่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ

สิ่งที่พอจะชมได้บ้าง คือ นักแสดงอย่าง ตุ๊กกี้ ซึ่งทำหน้าที่ได้ดี ดูแล้วขำพอสมควร รวมถึงงานด้านภาพ ที่ผู้กำกับภาพทำออกมาได้สวยงามน่าชม ติดอยู่ตรงที่ว่า ประหยัดฟิล์มไปหน่อย เอาภาพซ้ำๆมาฉายในบางช่วง

สรุปแล้ว แม้จะไม่คิดมากในการชม ... แต่หนังเรื่องนี้เหมาะจะลงแผ่น มากกว่าลงโรงอยู่ดี

D

..

บุปผาราตรี 3.1

เถื่อน หยาบ แรง โหด รสนิยมแย่

... ความจริงแล้ว เนื้อหาในภาคนี้ ย้อนไปทำความรู้จัก น.ส. บุปผา ทำได้ดีทีเดียว เชื่อมโยงเป็นเหตุเป็นผลน่าสนใจ และถ้าพี่ต้อม ยุทธเลิศ เล่นต่อในประเด็นนี้ บุปผา 3.1 น่าจะกลายเป็นหนังสยองขวัญ ดราม่าดีๆสักเรื่องได้ไม่ยาก

แต่ไม่รู้ว่า ขี้เล่นมากไป หมดมุข หรืออะไรไม่ทราบ พี่ต้อมมัวเสียเวลาไปกับ มุขตลกแย่ๆ ฉากรุนแรงไร้เหตุผล พยายามยืดเรื่องราวออกไป ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องแบ่งเป็นอีกภาคเลย

ด้านระดับความน่ากลัว แม้จะทำได้ดีในบางจังหวะ แต่อารมณ์หลอนๆ ด้วยบรรยากาศ หรือความกดดัน ถือว่าขาดเสน่ห์ไปมาก

ระดับความเฮี้ยนเริ่มถดถอย เหลือเพียงเกรด D+

..

Monsters vs. Aliens

เป็นหนังที่ได้ไปดูแบบ 3 มิติ เพิ่มความสนุกอีกระดับ ^^

หนังมีเนื้อหาน่ารัก ว่าด้วยสาวสวย ผู้กำลังจะได้สละโสดในพิธีวิวาห์ แต่ดันเจออุบัติเหตุจากอวกาศ ต้องกลายร่างเป็นสาวร่างยักษ์ ติดอันดับ Monster ของรัฐบาล .... การเดินทางสู่โลกใบใหม่ของเธอจึงเริ่มขึ้น

หนังได้ข้อคิดหลากหลาย โดยเฉพาะข้อคิดเรื่อง ทุกคนมีความสำคัญ และการทำงานเป็นทีม

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของความแปลกใหม่ หรือ ความสนุกในอารมณ์ที่ผู้ใหญ่ต้องการ หนังรองรับตรงนี้ได้ไม่ดีนัก เพราะเป็นมุขซ้ำๆ เชยๆ ที่เดาได้ไม่ยาก

รวมถึงระดับความขำ ที่(ตัวเอง)คาดหวังมากไปนิด จนรู้สึกว่า หนังมันไม่ค่อยจะขำเท่าไหร่ (คิดว่ามันจะฮากรามค้าง เหมือนกังฟูแพนด้า)

แต่ภาพอนิเมชั่นสวยๆ และระบบเสียงตามโรงดิจิตอลสมัยใหม่ ก็ทำให้รู้สึกว่า การดู 3 มิติ ในราคา 200 บาท ไม่น่าเสียดายนัก

C+

..

ก้านกล้วย ภาค 2

แม้ความสดใหม่ของก้านกล้วยภาค 2 อาจจะไม่ถึงกับตื่นเต้นเท่าภาคแรก แต่ก็นับเป็นหนังภาคต่อ ที่ทำได้ดีอีกเรื่อง

ความเด่นของภาคนี้ คือ ความกล้าที่จะสร้างสรรค์ความแตกต่างไปจากการนำเสนอเรื่องราวเดิมๆในประวัติศาสตร์ที่คนไทยคุ้นเคย

เหมือน ผู้กำกับ จะเข้าใจการทำหนังให้สนุกมากขึ้น โดยผนวกอนิเมชั่น และเรื่องจากประวัติศาสตร์ มาปรุงรส ตกแต่งใหม่ ไม่ให้เป็นเรื่องน่าเบื่อ

ความงามของภาพ ถือว่าสอบผ่านไปตั้งแต่ภาคแรกแล้ว งานระดับนี้ ขายเมืองนอกได้สบายๆ

แต่ข้อด้อย คงเป็นเรื่องของฉากแอ็คชั่น สู้รบ ต่างๆ ที่ค่อนข้างมีในปริมาณมากไป จนขาดอารมณ์เข้มข้นของประเด็นอื่นๆแบบภาคแรก แม้กระทั่งการ ลุ้น การเอาใจช่วยตัวเอก ก็มีอารมณ์ร่วมน้อยลงไป

กระนั้น โดยภาพรวม ก้านกล้วย ทั้ง 2 ภาค ยังเป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทย ที่นำไปขายได้ทั่วโลกอย่างน่าภูมิใจ

B
..

X-Men Origins: Wolverine

แม้หนังจะเปิดตัวโลแกนได้อย่างน่าสนใจ บอกที่มาที่ไปได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ข้อด้อยของ x-men ภาคพิเศษ ตอนนี้ คือ การพยายามใส่บรรดา x-men ตัวอื่นๆออกมามากไป จนเรื่องราวสะเปะสะปะออกทะเลไปพอสมควร

หักคะแนนมากสุด คงเป็นส่วนของวิคเตอร์ ที่ไม่ค่อยมีเหตุ มีผล รองรับการกระทำต่างๆ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวแค้น ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย จนขาดน้ำหนัก

งานด้านเทคนิค หลายคนมองว่าไม่เนียน แต่ผมคิดว่าพอกล้อมแกล้มผ่านไปได้ ไม่เลวร้าย (ถ้าไม่คาดหวังมากจนเกินไป) ... จุดเด่นที่น่าชม คือ เรื่องการถ่ายภาพ ออกมาดูสวยงาม

หากมองว่า นี่คือ หนังตลาดเรื่องหนึ่งที่เปิดตัวการแข่งขันในปีนี้อย่างเป็นทางการ .... X-Men Origins: Wolverine ก็ไม่ถึงกับแย่มากขนาดรับไม่ได้

แต่ด้วยข้อด้อยต่างๆที่มี จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ผู้สร้างจะรีบช่วงชิงเวลาฉายตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ไม่อย่างนั้น หนังอาจจะโดนฟอร์มยักษ์เรื่องอื่นเหยียบจมได้เหมือนกัน

กรงเล็บครั้งนี้คม แต่ไม่ขลัง พลังกลายพันธุ์เหลือแค่เกรด C+

.

Star Trek (2009)

ก่อนหน้านี้ เคยคลุกคลีกับ Star Trek บ้าง กับสมัยซีรีย์ชุด The Next Generation ของลุง Patrick Stewart แล้วก็ลืมเลือนไปตามกาลเวลา เพราะฉบับภาพยนตร์ ไม่เคยได้แอ้มตังค์ในกระเป๋า

สำหรับ Star Trek (2009) นี้ สืบข้อมูลมาล่วงหน้าว่า เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวก่อนซีรีย์ชุดแรกเสียอีก (The Original Series) ดังนั้น จึงไม่จำเป็นว่าต้องรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ Star Trek มาก่อนก็ได้

แล้ว J.J. Abrams ก็ทำสำเร็จ ด้วยการผูกโยงเรื่องราวของลูกเรือเอนเตอร์ไพรซ์ได้อย่างลงตัว เพียงระยะเวลา 2 ชั่วโมง ผู้ชมก็ได้รู้จักตัวละครเอกทั้งหมด และรู้สึกเอาใจช่วยลูกเรือทุกคนไปกับภารกิจต่างๆได้อย่างน่าประหลาดใจ

Chris Pine กับ Zachary Quinto แจ้งเกิดกันแบบแพ็คคู่ ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็กลายเป็นที่จดจำได้ไม่ยาก

งานด้านเทคนิคพิเศษ ถือว่าทำได้ดี สมราคาหนังแนวอวกาศ หากจะมีจุดด้อยบ้างนิดๆหน่อยๆ คงเป็นเนื้อหาบางช่วงที่จงใจบีบอารมณ์ไปนิด เดาทางได้ง่ายไปหน่อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแย่มากมาย เมื่อเทียบกับความสนุกในภาพรวม ... หรือ หากใครคาดหวังความมันส์ เข้มข้นแบบ Star Wars ก็อาจจะผิดหวังบ้างนิดหน่อย

อย่างไรก็ตาม J.J. Abrams ได้ปลุกชีพ Star Trek ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้สาวกรุ่นเก่าผิดหวังแล้ว Star Trek (2009) ยังได้สาวกรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเดินทางออกไปสำรวจอวกาศในภาคต่อไปอีกเพียบ

พลังขับเคลื่อนของ USS Enterprise อยู่ที่ระดับเกรด B+

..

The International

เรื่องราวของสายลับ Louis Salinger ที่ตามสืบคดีความไม่ชอบมาพากลของธนาคารที่เกี่ยวพันกับการค้าอาวุธ

หนังเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับการตามล่าหาความจริง การไล่จับอาชญากรที่เกี่ยวพัน นำไปสู่ต้นตอใหญ่ ... ดูได้เพลินๆ แต่ งงๆ และ เบื่อๆบ้างในบ้างช่วง (เพราะพูดๆๆๆ มากไปนิด)

แม้จะได้นักแสดงระดับ เข้าชิงออสการ์ Clive Owen กับ Naomi Watts ขึ้นจอพร้อมกัน แต่น้ำหนักเทไปข้าง Owen ให้น่าจดจำมากกว่า

จุดเด่น อยู่ที่การลำดับภาพ และดนตรีประกอบ ที่ปลุกเร้าอารมณ์เข้ากับเนื้อหาได้ดีมาก

ที่สำคัญ The International ควรแก่การได้รับการยกย่องว่า เป็นหนังที่มีฉากดวลปืน ยอดเยี่ยมอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว (สมจริงมากกกก)

ปฏิบัติการตามล่าข้ามชาติครั้งนี้ ระดับความเสี่ยงอยู่ที่เกรด B-

..

Create Date : 13 พฤษภาคม 2552

Last Update : 22 ธันวาคม 2552 18:50:39 น.

2 comments

Counter : 969 Pageviews.

ตามมาอ่านวิจารณ์ครับ น่าอิจฉาได้ดูหนังเยอะจริงๆ
ช่วงนี้ผมมีเวลาน้อย ต้องเลือกหนังมากๆๆจะดูหนังสักเรื่อง

เพิ่งเห็นภาพคุณ pogghi ในบล็อค ตัวจิงป่าวครับเนี่ย
หล่อเซอร์จริงๆเลยอ่ะ

โดย: joblovenuk

วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:18:11 น.

..

พี่ job สวัสดีครับ

พี่ไม่ค่อยได้ดูหนังก็เพราะเป็นคุณพ่อมือใหม่ใช่ม๊า อิอิ

ส่วนเรื่องรูปทางขวา ก็ผมเองล่ะครับ หัวฟูไปตามอารมณ์ แหะๆ

..

โดย: POGGHI

วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:27:41 น.