...ไหว...ไหว...ยอดหญ้าส่าย ในป่าฝน....เพียงยอดหญ้าไหว ที่บ้านปลายฟ้า.......

สุดท้าย...."คือเถ้าธุลีที่ลมพัดพา"




วันที่สายลมพัดผ่าน
วันที่สายฝนโปรยปราย
วันที่นำชีวิตและรอยยิ้มสู่ผืนดิน
วันที่ผืนฟ้ารอเถ้าธุลี

ชีวิต....เกิด...แก่...เจ็บ...ตาย..
เกิด....ดับ...นับเนื่อง...
ใครเลยเลี่ยงพ้น


พ้นผ่านไปแล้วสำหรับงานเศร้าๆ...ที่ทำให้เราฉุกคิดได้อีกมุมมอง เด็กหนุ่มจากไปในวัยเยาว์ ทิ้งโลกยุ่งรุงรังไว้เบื้องหลัง

"คนเกลียดๆแค่ชัก...มันอยู่กันเต็มบ้าน ทั้งเหล้าทั้งบุหรี่มันกินมันสูบแต่อยู่กันเต็มบ้านพื้ด....ไอ้คนดีๆไสมันไปเร็วนัก..."


เสียงพร่ำรำพันของคนเป็นย่าผ่านปากครั้งแล้วครั้งเล่า.....
ในความเศร้าทุกคนเฝ้าถาม....เราอย่าเป็นคนดีมากเกินไปถ้าอยากอยู่นาน แล้วเราก็หัวเราะ.....

เพราะแท้จริงในใจ...ทุกคนรู้ดีว่า....ต่อให้เป็นคนเลวสุดๆ ดีสุดๆ ไม่มีใครเลี่ยงวาระอันนี้ไปได้ ช้าเร็วทุกคนล้วนจากไป...แต่คนอยู่หลังพูดถึงเราเช่นไรคนจากไปย่อมไม่รู้.....
ในความทรงจำของคนอยู๋...รำลึกได้ว่าเราทำดี ทำเลวอะไรก่อนเราจะไป.....

บางคนอาจไม่สนใจเพราะถือว่าตายไปแล้วไม่รู้เห็น....ฉันจะชั่ว ฉันจะเลว ใครจะทำไม
บางคนอาจใส่ใจ....ทำดีให้มากไว้เพื่อเกิดใหม่ในภูมืภพที่ดีกว่า....
บางคน...อาจทำดีไว้ เพราะไม่ได้คิดอะไรนอกจากทำดี....

ทุกคน...มีเหตุและรับผลตามการกระทำของตนทั้งสิ้น...


เพราะสุดท้าย...เราต่างได้พื้นที่บนผืนโลกเพียงเท่านี้ทั่วถ้วนกันทุกคน





ศพน้องวุฒิมาจากภูเก็ตวันที่ 22 สิงหาคม 2550 และเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกิน เมื่อ 3 ปีที่แล้ว พ่อน้องวุฒิเสียชีวิต วันที่ 22 สิงหาคมเหมือนกัน และเป็นวันพุธตรงกับวันเกิดของคนทั้งสองเช่นกัน และปลงศพวันเดียวกันคือวันที่ 27 สิงหาคม

พระบอกว่า....เขาหมดอายุขัยของเขาจริงๆ ชะตาเขากับพ่อพ่วงกันมา เพราะก่อนที่เขาจะเข้าโรงพยาบาลเขาฝันว่าเห็นพ่อมายืนที่ปลายเตียงแล้วห่มผ้าขาวให้กับเขา.....

ไม่มีใครบอกได้ว่าเป็นเรื่องอะไร.......บอกให้ทุกคนฟังตามที่ได้ยินมา แล้วแต่ว่าจะพิจารณากัน



มาเฟียคุมมอญ.....พี่สาวคนโตของตระกูล แม่งานใหญ่ (ตระกูลคนจีนในย่านนี้ พี่สาวคนโต สะใภ้คนโต จะมีบทบาทในครอบครัวพอๆกับผู้ชาย และอาจจะมากกว่า)






แม่ครัว.....ในเขตพื้นที่ 60 UP (น้ำหนักต่ำกว่า 60 ห้ามเข้า!)





โต๊ะเตรียมบริการแขกมาในงาน.....ตักมือระวิง...เดินกันเป็นลิง.....เด็กเสริฟก็คือพี่น้องทั้งแก่ทั้งหนุ่ม และคนงานมอญ



เลี้ยงแขกในงานก่อนพระสวดตอนค่ำ



พระเริ่มสวดตอน 2 ทุ่ม



วันปลงศพ 27 สิงหาคม 2550


ย่ากับพระนำทาง





ก้อนน้ำตาในลำคอพี่ชาย.....กรวดน้ำครั้งสุดท้ายก่อนพาน้องสู่เชิงตะกอน






จุดธูป โยนเหรียญ...ขอข้ามสะพาน




บนเมรุ...วัดตำตัว



ชีวิต...เกิดแต่น้ำ...
จากด้วยไฟ.....
เจ้ามาเดียว...ไปก็เดี่ยว...





สุดท้าย...."คือเถ้าธุลีที่ลมพัดพา"





๑๑๑๑ ๑๑๑๑๑ ๑๑๑๑๑๑

ช่วงวันอันเหนื่อยหนัก..และเวลาของการจากพรากของครอบครัวน้องวุฒิ ลูกชายลุงของพี่นุก็ผ่านไปแล้ว.....
ปลายแปรงขอขอบคุณพี่ๆ...น้องๆ...มิตรที่ดีในบล๊อคที่เป็นแรงใจให้ คววามรู้สึกดีๆเหล่านี้จะนำไปมอบให้ครอบครัวน้องเขาอีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณทุกๆท่าน...ทั้ง พี่ยานา น้องนก(หทัยชนก สีน้ำฟ้า ลุงบูลย์ พ่อพเยีย พี่นกแสงตะวัน คุณดุสิตา คุณยายแพรฯ p tim สาวขอนแก่น แม่ปัน-ปอง ณณินธร และทุกๆคนที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

น้ำใจ...บางครั้งไม่ต้องรินหลั่งเป็นหยาดน้ำ เพียงเปิดผ่านแล้วทอดถอนใจในวาระเกิด-ดับ แห่งชีวิต ก็พึงผ่านซึ่งน้ำใจ




 

Create Date : 30 สิงหาคม 2550
25 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2550 9:31:42 น.
Counter : 3523 Pageviews.

 

ดูภาพ สุดท้าย สิครับ
สิ่งที่ล่องลอยขึ้นฟ้า คงมิเพียงแค่ หมอกควัน
ทุกคำตอบ ทุกความรู้สึก ของชีวิต อยู่ในหมอกควันที่ล่องลอยนั้นแล้ว

 

โดย: seaman IP: 218.90.236.54 30 สิงหาคม 2550 12:03:33 น.  

 

ชีวิตที่จากไป.....เหลือเพียงอาลัยในความหลัง
ชีวิตที่อยู่ยัง....เก็บความทรงจำไว้ในใจ
ชีวิตของเธอฉัน...เหลือกี่วันที่ยังอยู่
ชีวิตรู้วันที่มา....แต่ไม่รู้วันที่จะไป


ขอเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 30 สิงหาคม 2550 12:50:52 น.  

 

ปลายแปรงจ๊ะ..

พักผ่อนให้เยอะๆนะ ฝากบอกถึงทุกๆคนในครอบครัว
ของพี่ณุด้วย..

คนเราทุกคนใช่ว่าจะสามารถมีชีวิตอยู่ยืนยาวได้หมด
เราอาจจะคิดว่าน้องเขาจากไปด้วยวัยอันน้อยเกินไป

แต่บางทีแล้วน้องเขาอาจจะหมดอายูขัยของเขาเท่านี้จริงๆ
ยานาเคยอ่านหนังสือว่า ความตายมีทั้งหมด 4 อย่าง

ตายเพราะหมดอายุขัย

ตายเพราะหมดกรรม

ตายเพราะโรคภัย

ตายเพราะอุบัติเหตุ

แล้วเราควรหันกลับมาดูตัวเราเองบ้าง ว่าแล้วตัวเราล่ะจะมีชีวิตเหลืออยู่อีกกี่วัน...ไม่มีใครตอบเราได้เลย..





 

โดย: ยานา IP: 61.7.171.100 30 สิงหาคม 2550 16:50:37 น.  

 

เพิ่งทราบเรื่อง
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวคุณปลายแปรงด้วยค่ะ

 

โดย: สเลเต 30 สิงหาคม 2550 19:15:46 น.  

 

เพิ่งทราบเหมือนกัน เพราะไม่ได้เข้าบล็อกแรมเดือน ขอแสดงความเสียใจอีกคนครับ

 

โดย: ธารดาว IP: 203.146.63.185 30 สิงหาคม 2550 19:47:01 น.  

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

 

โดย: pichsud IP: 203.154.203.140 31 สิงหาคม 2550 11:28:51 น.  

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ

 

โดย: รุ้งสีที่แปด IP: 61.19.124.43 31 สิงหาคม 2550 15:46:41 น.  

 


มาส่งกำลังใจให้พี่ปลายแปรงค่ะ

คุณวุฒิไปแล้ว เหลือเราที่ยังต้องอยู่ แต่ใครจะอยู่เพื่ออะไรหรือเพื่อใคร คงต้องพิจารณากันเองเนอะ

..ชีวิตจะอยู่อีกกี่วัน และกี่วันนั้น ได้ทำอะไรให้แก่แผ่นดินบ้าง จงตรอง..(นกเก็บประโยคนี้ใส่ใจไว้เตือนตนเสมอค่ะ พี่ปลายแปรง)

 

โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) 31 สิงหาคม 2550 16:13:24 น.  

 

สวัสดีจ๊ะเจ้าหูตูบ ค.ป.ป.

ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวคุณปลาบแปรง
ด้วยที่สูญเสียคนในครอบครัวไป
เนทที่บ้านป้าชุมีปัญหาซะหลายวัน และก็อยู่ในช่วงที่กำลังเตรียมตัวสอบวีซ่าด้วย
สอบเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และวันนี้เนทก็ติดตั้งเพิ่งเสร็จ คิดถึงนะจ๊ะ ดูและสุขภาพตัวเองและคนข้างเคียงด้วย

 

โดย: ป้าชุ IP: 86.142.11.200 1 กันยายน 2550 1:37:37 น.  

 

ขออภัย พิมพ์ผิด หวังว่าคงเดาออก

 

โดย: ป้าชุ IP: 86.142.11.200 1 กันยายน 2550 1:40:38 น.  

 

สวัสดีเช้าวันเสาร์ค่ะ

วันหนึ่งวันที่ผ่านไป..มีเรื่องราวมากมายให้ขบคิด
แต่เรื่องราวของชีวิต...ย่อมไม่พ้น....
"เถ้าธุลีที่สายลมพัดพา"


นับครึ่งเดือนจริงๆที่เรื่องราวต่างๆผ่านเข้ามาในครอบครัวน้อง และเรื่องราววุ่นวายก็ยังคงดำเนินต่อเพราะคนอยู่หลังยังต้องอยู่

ใจจริง...อยากอัพบล๊อคนี้แค่รูปควันไฟจากเตาเผาในเมรุวัดมาไว้ภาพเดียว แต่ก็รู้สึกว่าอาจขาดหายไปบางอย่าง เพราะชีวิตที่จากไป....นั้นพัดพา...ไปแห่งใดเราไม่อาจรู้ได้
แต่ยังมีคนข้างหลังอยู่อีกมากมาย...รวมทั้งพวกเราชาวบล๊อคด้วยใช่ไหมคะ....

ร้องไห้ร้อยวัน....วันที่ร้อยหนึ่งต้องหยุดร้อง
เพราะไร้แล้วซึ่งน้ำตา....
เสียใจร้อยเดือน....เดือนที่ร้อยหนึ่งต้องเลือนลาง
เพราะชีวิตต้องเผชิญเรื่องเสียใจ ดีใจ อีกมากมาย....

รองแต่พอดี...เสียใจแต่พอควร...
แล้วดำรงชีวิตของเราอย่างมีสติต่อไป.....
เพราะเราไม่อาจรู้ได้..ว่าพรุ่งนี้...อาจเป็นเราที่จากจร.......



ขอบคุณ.....
++++++คุณ seaman ที่เฝ้ามองควันสุดท้ายที่ฉาบทาบเมฆหม่น...ภาพสุดท้ายจริงๆค่ะที่อยากให้ทุกคนเห็น

++++++ สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น ที่มาให้กำลังใจเป็นกำลังใจให้ท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานเช่นกันนะ

++++++พี่ยานา ที่เป็นกำลังใจให้สม่ำเสมอ และมากล้นจนต้องแอบเก็บไว้ในลิ้นชัก....ข้างใน!

++++++ คุณสเลเต ขอบคุณค่ะ...ไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนที่บ้านดอกไม้บาน เสียนานเหมือนกัน หมดเรื่องยุ่งๆแล้วคงได้มาเกาะแกะหน้าจอบ่อยขึ้นค่ะ

++++++ธารดาว ขอบคุณค่ะ การห่างหายจากบาวสิ่ง บางอย่างในชีวิตก็มีความหมายมากมาย...หรือเปล่า?

++++++คุณpichsud ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม ชอบรูปนกที่คุณเขียนจริงๆ...น่ารัก และอบอุ่นมาก

++++++รุ้งสีที่แปด คุณครูอย่าเพิ่งเหนื่อยนะคะ....เรายังต้องเหนื่อยกันอีกนาวนานเลย เพราะคุณครูก็ยังอายุวัยสะรุ่นอยูนี่นา

++++++นู๋นกโนอาห์ เรามาอยู่ต่อกับชีวิตเราใช่ไหมจ๊ะ.....

++++++ป้าชุ...ดีใจจังที่ป้าชุสอบเสร็จ น่าจะรอดแล้วนาครานี้....ชูนิ้วสองนิ้วข้ามโลกให้ไปค่ะ

ปลายแปรงเจ้าค่ะ...วันนี้จะเข้าสวนเสียหน่อย สงสัยฟักกะบวบที่ปลูกไว้ เลื้อยข้ามเขาไปอีกลูกแล้วแน่เลย.....

 

โดย: ปลายแปรง 1 กันยายน 2550 6:53:00 น.  

 

สวัสดี

เขียนอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ต้องหยุดอยู่ที่ภาพ

"ก้อนน้ำตาในลำคอพี่ชาย....."

แล้วผ่านเลยมากล่าวคำว่า สวัสดี

 

โดย: แพรจารุ 1 กันยายน 2550 8:44:20 น.  

 

ปลายแปรงจ๊ะ

ยิ่งเราอายุมากขึ้น
เราก็จะยิ่งพบเห็นเรื่องการจากพราก (จากตาย)

เมื่อเป็นเด็ก ๆ
เรานึกไม่ค่อยออกหรอกว่า
การจากพรากชั่วชีวิตเป็นอย่างไร

แต่พอเราเติบโต
เราค่อย ๆ ได้เรียนรู้
ยิ่งเมื่อเป็นผู้ใหญ่
ยิ่งเมื่อสูงวัยขึ้น
เราก็จะยิ่งเห็นชัดเจน
เพราะรอบข้างตัวเรา
คนของเรา
คนของเพื่อนเรา
จะค่อย ๆ จากไป
ทีละคน ทีละคน
เหมือนใบไม้ที่ปลิดใบร่วงหล่นไปทีละใบ

มีคนจากไป
มีคนเกิดใหม่
มันเป็นความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย

คนยังอยู่ก็ยังต้องมีชีวิตอยู่
และดำเนินชีวิตไปตามวิถีนั้น

คนตายสอนคนเป็น
ให้เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีคุณค่า
ในโลกสมมุติแห่งนี้

หวังว่าปลายแปรงและญาติพี่น้องคงผ่านพ้นห้วงทุกข์โศกนี้ได้ในเร็ววันจ้ะ

 

โดย: หนอนเมืองกรุงฯ 2 กันยายน 2550 9:47:04 น.  

 

สวัดีค่ะ
เห็นภาพจากบล็อกของลุงโดม
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ

 

โดย: ลูกของพ่อค่ะ (lukkongpoka ) 2 กันยายน 2550 12:04:04 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่..

แวะมาทักทาย.. บรรยากาศของความเศร้ายังคงเกาะกินในหัวใจ ..และคงยิ่งปวดร้าวเมื่อคิดถึง

แจมคงขอแสดงความห่วงใยพี่ได้อย่างเดียว
รักษาสุขภาพนะคะ.. เป็นห่วงค่ะ ฝนก็ตกบ่อย..อย่าเจ็บ อย่าไข้นะคะ..

 

โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.214 2 กันยายน 2550 12:52:15 น.  

 

ปลายแปรงจ๊ะ..

ยานา ขอยกกวีนิพนธ์กทหนึ่งกล่าวถึงความตายไว้ว่า..

เห็นกันอยู่เมื่อเช้า สายตาย

สายอยู่สุขสบาย บ่ายม้วย

บ่ายรื่นชื่นรวยราย เย็นดับ ชีพแฮ

เย็นเล่นกับลูกด้วย ค่ำม้วยอาสัญ..

 

โดย: ยานา IP: 61.7.173.183 3 กันยายน 2550 8:04:40 น.  

 

สวัสดีค่ะปลายแปรงที่รัก
นกแสงตะวันสัญจรร่อนเร่ไปนานวัน ฝากคำอาลัยไว้ก่อนเดินทาง...
ตีหาครึ่งกลับมาถึงบ้าน แวะมาที่บ้านนี้..ก่อนบ้านอื่น..

บรรยากาศเศร้าสร้อยยังจุกคอหอยเช่นกับ "พี่ชาย" ค่ะ
การพรากจาก แม้เข้าใจ.. แต่ทำใจยากนัก
เข้มแข็ง มีสติ เพื่อก้าวข้ามมันไป

ด้วยระลึกถึงเสมอมิตรชิดใกล้



 

โดย: นกแสงตะวัน 3 กันยายน 2550 8:41:42 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณปลายแปรง

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ




 

โดย: หนอนบ้านนอก 3 กันยายน 2550 11:39:49 น.  

 

บทสวดบทสุดท้ายของอนิจจา วะตะสังขารา...พระสวดว่า

"เตสังวู ปะสะโมสุขโข" แปลได้ง่ายๆ ว่า "การดับไปของสังขารเป็นความสุข" ซึ่งน่าจะสุขจริง ๆ และสุขแบบนิรันดร

ส่วนการเกิดมานั้นแท้จริงคือความทุกข์ แต่เราก็ยังอยากเกิด(ก็เกิดมาแล้วนี่) และไม่อยากตาย เรากลัวตาย...

ใครเคยคิดสักนิดหนึ่งไหมว่า ในชีวิตของคนเราตอนไหนที่สุขสบายที่สุด ตอบได้ไหม...

ขอค้างไว้ไม่เฉลย อยากให้คิดก่อน คำตอบขอยกไปไว้ตอนหน้า....

สำหรับลุง บางครั้งนึกจินตนาการไปว่า สงสัยตอนเราตายนี่น่าจะสุขจริงและคงจะสุขมาก ๆ และการอยู่ในสภาพมีความรู้สึก(วิญญาณ=ความจำได้ ระลึกได้) แต่ไม่มีสังขารนั่นแหละน่าจะประเสริฐที่สุด

แต่ถามว่า งั้นไม่มาเกิดเสียเลยได้ไหม จะได้ไม่ทุกข์ ไม่สุข เรียกว่า นิพพนาน

คำตอบคือ ไม่ได้ ต้องเกิด เพราะคุณยังมีวิบาก วิบากทำให้เกิด หมดวิบากกรรมเมื่อไร นั่นคือคุณเข้าสู่นิพพาน ไม่มาเกิดอีก กลายเป็นสุขนิรันดร์

แต่คุณจะเกิดเป็นอะไร ข้อนี่ไม่รู้ และไม่อยากตอบเช่นกัน เพราะไม่รู้จริง ๆ นอกจากเดาเอา ส่วนที่ว่าตายแล้วมีความสุขนั้น ที่มาคอคำพระสวด

ขอจบแค่นี้ ไปดีกว่า...

 

โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) 3 กันยายน 2550 15:13:57 น.  

 

 

โดย: ปลายแปรง 3 กันยายน 2550 17:10:34 น.  

 

ท่าจะเบลอยาแก้หวัดแฮะเรา.....

สวัสดีตอนเย็นๆวันจันทร์ค่ะ.....

ตั้งใจจะเข้าบล๊อคตั้งกะเช้า...แต่วันนี้ทั้งวันก็ขับรถพาแม่น้องวุฒิไปทำธุระจัดการมรดกของน้องเขา....เพราะพี่ๆคนอื่นเขาก็ทำงานกันหมด
ปลายแปรงกะตานุเป็นคนว่างงาน 365 วันก็เลยปฏิบัติภารกิจหลานดีเด่นเสียหน่อย (ยกหางตัวเองเสียเลย...ไม่มีใครชม...ชมเองได้ไม่สนนิ ฮิ...ฮิ


บ้านปลายฟ้า.....ฝนก็ยังตกเหมือนเคย....
หัวใจแม่...ฝนยังตกพร่างพรมดุจเดิม....
แต่สักวัน...ฝนก็ซา...ฟ้าก็จะใส.....

เหมือนความรู้สึกดีๆ...น้ำใจงามๆที่ทุกคนส่งมาให้บ้านปลายฟ้าอย่างไรล่ะ....
..............ขอบคุณจริงๆค่ะ...........


.......คุณยาย-แพร จารุ

ตอนที่เห็นภาพนั้นก็แทบจะกลั้นความรู้สึกไม่อยู่จริงๆ.....
เห็นพี่ชายน้องวุฒิข่มตาหลับกรวดน้ำ....กรามขึ้นเป็นสันโปน...แล้วลำคอก็ล่วงผ่านบางสิ่งไป....
เจ็บปวดเหลือเกิน....กับความรู้สึกที่เห็นยามนั้น...
เพราะเต็มตื้น...เลยเก็บภาพได้หลังจากน้ำตาล่วงผ่านลงอกไปแล้ว......

ผู้ชายร้องไห้.....ไม่มีน้ำตา...แต่สาหัสนัก.....


...........พี่หนอนเมืองกรุงคะ

ขอบคุณค่ะสำหรับถ้อยคำงามงดที่เอื้อนเอ่ย....
การจากพราก...คือวัฏฏะหนึ่งของการมีชีวิต.....

วันนี้...ปลายแปรงเห็นเป็นวัฏฏะหนึ่งของชีวิตที่สักวันอาจประสบ..
ซึ่งอาจเป็นพรุ่งนี้ ใช่จะหยั่งรู้ฟ้าดิน......
เพราะเราต่างถูกพรากตั้งแต่ยังเป็น จำได้ว่า....เมื่อยังเยาว์เคยมีผู้เฒ่าบอกกล่าวว่า คนเรายิ่งแก่ตัวลงยิ่งมีเพื่อนน้อยลง....
คนรอบข้างต่างจากหายไปในวิถีชีวิตทั้งที่ยังเป็น....สูญสิ้นไปทั้งจากความตาย.....

ปลายแปรงก็ปลอบแม่น้องวุฒิเสมอว่า...คนไปเขาไปแล้ว...เราต่างหากที่ต้องอยู่กับกรรม และทุกข์ต่อ.....น้องเขาหมดทุกข์แล้วต่างหากจึงจากไปด้วยวัยเยาว์

ทุกคนเข็มแข็งดีค่ะ.....


........ลูกของพ่อค่ะ (หนู jellyjam ของพี่โดมแน่เลย)

ขอบคุณค่ะที่แวะมาให้กำลังใจ.....
แวะไปเยี่ยมที่บ้าน "คุกสีขาว" ของหนูมาแล้วนะคะ คิดว่าคงมีอะไรมากมายได้คุยกันอีก
ตั้งใจเรียน...ขยันเขียนหนังสือนะคะ....จะเป็นกำลังใจให้
เพราะทางเดินของหนูเพิ่งเปิดกรุยผ่าน...

แต่วันเลา...เส้นทางของปลายแปรงต้องสร้างและซ่อมแซมใหม่...ไม่สวยสดเท่าหนูแน่ๆ....
ขยันนะคะ


........นู๋แจม สีน้ำฟ้า

หัวใจมีหลายซีกห้อง...แต่ละห้องมีประตูหลายบาน
มีหน้าต่างมากหลาย...
แล้วยังมีลิ้นชักมีกะเอ...ที่เอาไว้เก็บเรื่องราว

เรื่องเจ็บ ปวดร้าว....เศร้า...เหงา ซึม
หรือเรื่องรักหวานไหว....หัวใจหวานหวาม....
ย่อมเก็บได้..ในหลายๆชั้นในลิ้นชักหัวใจ......

นั่นแหละ..หัวใจมนุษย์
ของปลายแปรงด้วย.....มีหลายห้อง
แต่ประกาศหาคนเช่า...ไม่ยักกะมีใครหลวมตัว....
เผอิญว่า...ยามเฝ้าประตู..หน้าไม่ค่อยรับแขก....เหอ....เหอ....



........พี่ยานาคะ

หูตูบ...หูตก...แล้วยกได้....
แปรงลุดปลาย....จุ่มสีใหม่...ให้ซาบซับ...

ซำบายหายห่วง......แต่ที่ห่วงน่ะพี่ยานาตะหาก...
เหนื่อยไหมช่วงนี้...
เรื่องราวชีวิตผ่านพ้นไปถึงไหน.ไม่ได้คุยกับพี่เสียหลายวัน
เป็นห่วงน๊า...ขอบอก
เพราะเรื่องยุ่งๆในชีวิตปลายแปรง...เอาแปรงปัด..ซุกบ้าง...ทิ้งบ้าง...ไม่ค่อยกังวล
แต่เรื่องยุ่งๆของพี่....จะมีไม้ตีแมงวันสักวันไว้ค่อยไล่ไหมน๊อ.....
เดี๋ยวจังหวะดีๆ...จะปิ้งป่องไปนะคะ....


.........พี่นกแสงตะวันคะ
พี่นกเองก็รักษาสุขภาพนะคะ....กว่าจะทำงานเสร็จดึกดื่น อ้อ..เช้าเลยสินะ กว่าพี่นกฯจะเสร็จงาน ปลายแปรงก็ตื่นอีกรอบพอดี

กำลังกายดี...กำลังใจไม่ต้องห่วงค่ะ....
เพราะชีวิตคือชีวิต...มีเกิด...มีดับ...เกิดแล้วไปสู่ทางแห่งทุกข์ ดับแล้ว...ไปไหน...ไม่อาจรู้
รู้...เห็น...แต่ความเจ็บปวดในความทรงจำของคนอยู่..
เราปลงได้แต่ "พี่ชาย" ใกล้ชิดกว่า ย่อมยากที่จะทำใจ...
เวลา...เวลาค่ะพี่...ที่จะทำให้ "พี่ช่ย" คนนั้น ที่เราเห็น เข็มแข็งและปกครองน้อง ดูแลแม่อย่างดีต่อไป

พี่นกฯเองก็รักษาสุขภาพนะคะ อย่าเจ็บไข้ได้ป่วย....อย่าทุกข์โศกตรมกับเรื่องราวในวันเวลา.....
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ..ที่มาให้กำลังใจ


.........หนอนบ้านนอก คะ
กระดื้บหนอนมาจากม่านฝนเลยเหรอ.....
ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจที่ให้....
ปลายแปรงซำบายดี...ยังมีแรงกินหนอนทอดไดอีกหลายจานเลยล่ะ....

ดูแลตัวเองนะคะ...อย่าลอยน้ำไปกับปากน้ำโพ
ปีนี้น้ำแรง...ระวังคอนหวันจะเป็นทะเลเน้อ....



........ลุงบูลย์คะ

วัฏฏะสังสาร.....
คือเช่นนั้นจริงๆ.....
คนอื่นอาจไม่รู้สึก...แต่ปลายแปรงรับข้อเท็จจริงข้อนี้ตั้งแต่วันที่เสียพ่อเมื่อสี่ปีก่อน

พ่อไปอย่างสงบ...แต่พ่อไปไหน และมีความสุขไหม...ไม่รูค่ะ
เหมือนที่ตอบลุงบูลย์ไม่ได้เหมือนกันว่าเรามีความสุขที่สุดตอนไหน.....
เพราะครั้งหนึ่งในชีวิต....ตอนที่ลุงบูลย์มีลูกคนแรก ก็อาจจะบอกว่าสุขที่สุดในชีวิต...
แต่เมื่อเวลาผ่าน...ความสุขอื่นๆก็เข้ามา...จนไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ว่าสุขใดมากน้อยกว่ากัน...

อ่านในหนังสือ....แค่ความสุขบังเกิด...แล้วดับไป นั้นคือวาระเกิด-ดับ นับร้อยครั้ง พันครั้งในชีวิตหนึ่งวัน...เพียงแต่การเกิด-ดับนั้น เป็นกึ่งนามธรรม จับต้องไม่ได้เพราะพ่วงเกี่ยวกับอารมณ์
แต่การเกิด-ดับของสังขาร นั้นเป็นรูปธรรม รู้ เห็น จับต้องได้....จึงปะทะอารมณืมากกว่าการเกิด-ดับ ใดๆ

แต่เราเลือกเกิดได้ไหม...ไม่รู้เหมือนกัน
เอ...หรือลุงบูลย์รู้ จึงรีบเผ่นกลับไปก่อน....

แต่ถ้าเลือกได้...ปลายแปรงไม่เกิดแน่เลย เพราะการเกิดก็เป็นทุกข์
ขี้เกียจเป็นทุกข์น่ะ....ฮิ....ฮิ
ชีวิตมีวันว่างมากแน่เลย.....ขนาดจะทุกข์ยังรู้สึกขี้เกียจเลยนิ.....

 

โดย: ปลายแปรง 3 กันยายน 2550 17:54:32 น.  

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

ชีวิตเรามี เกิด แก่ เจ็บ ตาย..

เหมือนกันหมด แล้วแต่ท่านจะกำหนด
สิ่งที่เหนือกว่าที่เราคิด บ้างครั้งมันก็น่ากลัวเหมือนกันนะ

จงใช้ชิวิตที่เหลืออยู่อย่างมีค่า

 

โดย: บุญสิตา (ดาวกระพริบฟ้า ) 4 กันยายน 2550 8:17:55 น.  

 

ปุจฉา.....
ในชีวิตของคนเราตอนไหนที่สุขสบายที่สุด (ปลายแปรงตอบผิด ว่าไปไกล)

เฉลย....
ตอนนอนหลับซี รู้สึกไหม ลุงว่ามีความสุขที่สุดนะ แต่อย่าหลับแล้วฝันร้ายก็แล้วกัน....

หรือใครจะปฏิเสธว่า เวลานอนหลับไม่ใช่ความสุข

เพราะฉะนั้นถ้าหลับไปเลย หลับไปตลอด มันจะไม่สุขกว่าที่เราหลับคืนละ ๔-๕ ชั่วโมงหรือ น่าคิดนะลุงว่า

เพราะฉะนั้นเราทุกคนหมดกรรมเมื่อไหร่ได้หลับยาวทุกคน

 

โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.236.156 4 กันยายน 2550 15:22:06 น.  

 

สวัสดีค่ะ

เย็นวันนี้หนูพึ่งจะไปขายบัตรมินิมารธอนไนติงเกลที่ตลาดมณีรัตน์มาค่ะ
เป็นงานวิ่งมารธอนที่วิทยาลัยจัดขึ้นเป็นปีที่ 7 แล้วค่ะ
เส้นทางการวิ่งทั้งหมด 9 กิโลเมตรค่ะ
จัดงานวันที่ 23 ที่จะถึงนี้ค่ะ
ได้ประสบการอีกหนึ่งอย่าง คือการเสนอขายสิ้นค้า มีทั้งผิดหวังและสมหวัง
ลูกค้าคนแรกทำใจอยู่นานเลยค่ะถึงจะกล้าตัดสินใจเข้าไปถาม
แต่พอคนต่ดไปใช้เวลาทำใจน้อยลงกว่าคนที่หนึ่งค่ะ
มีผิดหวังบ้าง สมหวังบ้าง แต่แล้วก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ

 

โดย: ลูกของพ่อค่ะ IP: 61.7.231.130 4 กันยายน 2550 17:39:33 น.  

 

เพิ่งกลับมาถึงบ้านค่า...ไปงานที่ชุมพรมา


คุณบุญสิตาคะ

เมื่อก่อนเคยหวาด...แต่ไม่ถึงกับกลัวนะคะสำหรับความตาย
แต่ระยะหลังสัมผัสความตายใกล้ชิดมากขึ้น....ตัวเองเคยเฉียดตายมาก เลยรู้สึกนิ่ง สงบ กับความตายมากขึ้น เพราะเราทิ้งห่วงไปได้หลายห่วง จึงไม่กังวลกับความตายนัก...เพราะปลายแปรงไม่มีห่วงอะไรให้กังวลกับการอยู่หลัง

มีความสุขกับตัวเองและวันเวลาแม้ว่าจะมีเรื่องสุข และทุกข์.....คุณค่าก็ปรากฏมากล้นค่ะ...

แม้แต่ชีวิตต่างแดน...ได้สุขเล็กน้อยกับส้มตำสักจานรสชาติบ้านเกิดก็มีคุณค่า.......จริงไหมคะ


ลุ๊ง....ลุงบูลย์

แหม...ไม่ยักกะรู้ว่าเล่นมุข
ปลายแปรงก็คิดว่า ลุงบูลย์ซ๊เรียสน่ะสิ ก็เล่นไวยากรณ์ ไวยาวัจกร มัคทายก ซะเต็มตำราเลย....

ที่ไหนได้....ลุงเรา
ลูกเล่นเยอะนักนะ ปลายแปรงห่างบล๊อคไปไม่เท่าไร...ตามไม่ทันเสียแล้ว

ร่ำๆจะหาคนมาเช่าบ้านอยู่แล้วเชียว.....ช่วงนี้วังเวงพิกลอยู่
ลุงมาเช่าหน่อยสิ


น้องเบญจ์คะ (ลูกของพ่อค่ะ )

ประสบการณ์แรกๆน่าสนุกใช่ไหมล่ะ....
เดี๋ยวก็มีเรื่องสนุกๆอีกเยอะในชีวิตรอบรั้วมหาวิทยาลัยมาให้น้องเบญจ์เขียนได้หลายเรื่องเชียวล่ะ

ดีไม่ดีนะ...รวบเล่มได้ก่อนใครเชียวนา

แล้วจะแวะไปอานจดหมายน้องอีกค่ะ....

 

โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 5 กันยายน 2550 19:36:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ปลายแปรง
Location :
พังงา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สุดปลายของแปรง
อาจป้าย...ได้ภาพเขียนงาม
อาจปาด....ได้ภาพสะเทือนขวัญ

แปรงสุดปลาย....วาดในอากาศ
สูญญากาศของสีที่ว่างเปล่า

เพียง "ใจ" ผู้ป้ายแปรง
ว่างเปล่า....ไร้แปรง....ปราศจากปลาย
สรรพเรื่องราว...ว่างเปล่าในกาลเวลา
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
30 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลายแปรง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.