ธมฺมํ ปสฺสโต มโน สุขํ.
เมื่อมองเห็นธรรม ใจย่อมเป็นสุข ฯ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
2 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 

กฏแห่งกรรม

กฏแห่งกรรม

ถามว่า กรรมมีกี่อย่าง?บุคคลผู้ทำกรรมแล้วเข้าไปหลบที่ใด จะเป็นอากาสกลางแจ้ง ท่ามกลางมหาสมุทร ภูเขาแล้วจะพึงหนีพ้นไปจากกรรมอันลามก สถานเช่นนั้น มีหรือไม่? ตอบว่า

กฎแห่งกรรมนั้นเป็นหลักธรรมที่มีความซับซ้อนมีเหตุผลเชื่อมโยงกันมาก เพราะฉะนั้น เพื่อให้ผู้อ่านทราบถึงรายละเอียดแห่งกรรมเราจึงจะอธิบายถึงกรรม ๑๒ อย่าง ซึ่งจัดตามหน้าที่จัดตามความหนักเบาและตามกาลที่ให้ผล เมื่อทราบความหมายของกรรมประเภทต่างๆแล้ว ผู้อ่านอาจจะเข้าใจได้เลยทันทีที่อ่านจบก็ได้

กรรม ๑๒ ซึ่งกล่าวไว้ในคัมภีร์ทางพุทธศาสนานั้นท่านแบ่งเป็น ๓ หมวดๆ ๔ ข้อ

หมวดที่หนึ่ง คือ

๑.ทิฏฐธรรมเวทนียะกรรมแปลว่า กรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน

๒.อุปปัชชเวทนียกรรมกรรมที่ให้ผลในชาติหน้าหรือชาติที่ถัดไปจากชาตินี้

๓.อปราปรเวทนียกรรมกรรมที่ให้ผลที่หลังจากอุปปัชชเวทนียกรรม คือให้ผลไปเรื่อยๆ สบโอกาสเมื่อใด ก็ให้ผลเมื่อนั้น

๔. อโหสิกรรมกรรมที่ให้ผล คือเลิกแล้วต่อกันไป

กรรมทั้ง ๔ประการนั้น ข้อแรก เป็นกรรมที่ให้ผลในชาตินี้หรือที่เป็นกรรมในชาติปางก่อนแต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นกรรมในชาติปัจจุบัน

กรรมที่ให้ผลในชาติถัดไปคือ กรรมบางชนิด พอทำไปแล้ว ชาติในชาตินี้จะไม่ให้ผล เหมือนการกระทำบางอย่างของคนเราวันนี้ไม่ให้ผล แต่ให้ผลในวันต่อไป กรรมที่เป็นอุปปัชชเวทนียกรรมนี้ก็เหมือนกันจะไม่ให้ผลในชาตินี้ แต่จะให้ผลในชาติต่อไป พอชาติต่อไป เมื่อเกิดขึ้นมากรรมนี้จะให้ผลทันที คือ ทำให้เป็นคนขัดสน หรือเพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติทุกอย่างหรือมีร่างกายพิกลพิการ แต่ถ้าหากว่ากรรมนั้นรอให้ผลอยู่ พอถึงชาติหน้าแล้วมันยังไม่ถึงเวลาจะให้ผลกรรมนี้ก็เป็นอโหสิกรรมไป (เราหมายถึงกรรมเล็กน้อย) หรือเมื่อถึงชาติหน้าแล้วมันให้ผลเสร็จแล้วกรรมที่ให้ผลเสร็จแล้ว ก็เรียกว่าอโหสิกรรมเหมือนกัน

กรรมให้ผลในชาติถัดๆไปคือ กรรมที่ให้ผลต่อจากอุปปัชชเวทนียกรรม กรรมประเภทนี้ เปรียบเหมือนสุนัขไล่เนื้อหรือหมาไนที่มันวิ่งตามเนื้อทราย กวาง หรือเก้งเข้าไปในป่า ทันเข้าเมื่อไหร่มันกัดกินเมื่อนั้น

หมวดที่ ๒กรรมที่ให้ผลตามหน้าที่มี ๔ อย่าง คือ

๑.ชนกกรรมกรรมที่แต่งให้เกิด คือส่งให้เกิดในภพต่างๆ

๒.อุปัตถัมภกกรรมกรรมสนับสนุน คือหนุนชนกกรรม

๓.อุปีฬกกรรมกรรมบีบคั้น มีหน้าที่บีบคั้นชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรม

๔.อาสันนกรรมกรรมที่บุคคลทำเมื่อจวนสิ้นชีวิตหรือกรรมที่ระลึกเมื่อใกล้จะตาย

ชนกกรรมกรรมแต่งให้เกิด กรรมนี้แต่งให้มาเกิดอย่างเดียว คือ แต่งให้มาเกิดให้มาเกิดเป็นมนุษย์บ้างเป็นอมุษย์บ้างกรรมนี้จะทำหน้าที่แต่งสัตว์โลกให้ไปเกิดยังภพภูมิต่างๆแล้วมันก็หมดหน้าที่

อุปัตถัมภกกรรมกรรมสนับสนุน กรรมสนับสนุนนี้ คือ หนุนชนกกรรม กรรมนี้เป็นฝักฝ่ายกับกรรมข้อแรกคือ ถ้าเกิดมาเป็นลูกรัฐมนตรี แถมหัวดี รูปหล่อ รูปสวยอีกตางหากมันหนุนให้ดียิ่งขึ้นไป ถ้าเป็นลูกคนยากจน มันก็หนุนให้ลำบากอีก กล่าวคืออุปัตถัมภกกรรมนี้ ถ้าชนกกรรมแต่งให้มาเกิดดี มันก็จะหนุนให้ดีถ้าชนกกรรมแต่งมาไม่ดี มันก็หนุนให้ไม่ดี

อุปปีฬกกรรมกรรมบีบคั้น คือ บีบชนกกรรม และบีบอุปัตถัมภกกรรมไม่ให้ผลเต็มที่ บีบอย่างไร? สมมุติว่า ชนกกรรมแต่งให้เกิดมาดีอุปัตถัมภกกรรมสนับสนุนให้ผลดียิ่งขึ้น แต่อุปปีฬกกรรมตามมาทัน มันขัดขวาง คือชนกกรรมจะถูกบีบคั้น เช่น ขึ้นตำแหน่งที่สูงยิ่งกว่านั้นไม่ได้ มันขัดขวางไว้แต่ถ้าหากว่าชนกกรรมนั้น แต่งให้เกิดมาชั่ว สมมุติว่าเป็นลูกคนจนอุปัตถัมภกกรรมก็ทำให้ไร้การศึกษาเล่าเรียนซ้ำอีก แต่พออุปปีฬกกรรมนี้เข้ามาบีบมันก็กลับมีคนสนับสนุนขึ้นมาจนหาสถานเล่าเรียนได้ มีคนให้ทุนการศึกษา ถ้าป่วยหนักก็มีคนมาช่วยเหลือ คือมันบีบคั้นสิ่งที่เดือดร้อนให้เพลากำลังลง

อุปฆาตกกรรมกรรมตัดรอน เป็นกรรมที่ตรงกันข้ามกับสองข้อแรก แต่สนับสนุนข้อที่ ๓ อุปฆาตกกรรม คือกรรมฆ่า หรือกรรมเพชฌฆาต คือถ้ามีกรรมบีบคั้นแล้ว อุปฆาตกกรรมนี้จะทำลายเลย สมมุติว่าชนกกรรมแต่งให้มาเกิดดีเป็นลูกกษัตริย์ ได้ครองราชย์บัลลังก์ แต่พออุปฆาตกรรมตามมา ผู้นั้นก็ถูกล้างราชบัลลังก์บางคนเป็นเศรษฐีถึงกับหมดเนื้อหมดตัว เช่นถูกฟ้องล้มละลาย บางคนถึงกับตายเลยแต่ถ้าเป็นอุปฆาตกกรรมฝ่ายดีตามมา มันจะฆ่าฟันฝ่ายชั่วเสียเช่นบางคนเกิดมายากจนจนข้นแค้น ลำบากเดือดร้อน พอกรรมนี้ตามมาทันก็ทำให้เขามีฐานะดีและความเป็นอยู่ดีขึ้น เช่น ถูกหวยรวยเบอร์ กลับตรงกันข้ามไปเลยเพราะกรรมนี้มันตัดกรรมส่วนไม่ดีออกเสีย เป็นฆาตกกรรม

เพราะฉะนั้นบางคนเมื่อกรรมนี้ติดตามมา ใครๆก็ไม่คิดว่าเขาจะตายไว บางคนกำลังเจริญสูงสุดพอเราได้รับข่าว อ้าว.. เครื่องบินตก หรือรถชนตายเสียแล้ว เพราะกรรมนี้ตามมาทัน บางคนนั้น ใครๆก็คิดว่าจะตายแล้ว ใครไปเยี่ยมก็ว่าตายแน่เพราะป่วยหนักเหลือเกินแต่พอกรรมนี้ตามมา กลับหายไปได้อย่างปาฏิหาริย์ข้อนี้เป็นเพราะกรรมนี้มันตัดรอนกรรมฝ่ายไม่ดีนั่นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องกฎแห่งกรรมมันสนับสนุนกันหรือตัดรอนกันอย่างนี้ ถ้าเราไม่เข้าใจกฎแห่งกรรมก็พากันโทษว่าทำไมเป็นอย่างนั้น

หมวดที่ ๓กรรมที่ให้ผลตามลำดับ ๔ อย่าง คือ

๑.ครุกรรมหนัก

๒.อาสันนกรรมกรรมที่ตามระลึกได้เมื่อจวนจะตาย หรือกรรมที่ทำใกล้ตาย

๓.อาจิณณกรรม หรือพหุลกรรม กรรมที่ทำบ่อยจนเคยชิน

๔.กตัตตากรรมกรรมสักแต่ทำ

กรรมหนัก กรรมนั้น บอกแล้วว่ามีทั้งกรรมดีกรรมชั่ว ครุกรรมที่เป็นกรรมชั่วก็มี ครุกรรมที่ดีก็มี

ครุกรรมที่เป็นชั่วได้แก่ อนันตริยกรรม ๕ อันตริยกรรม แปลว่า กรรมที่มีโทษหนักจนนับไม่ได้ มี ๕ อย่างคือ

๑.มาตุฆาต ฆ่ามารดา

๒.ปิตุฆาต ฆ่าบิดา

๓. อรหันตฆาตฆ่าพระอรหันต์

๔.โลหิตุปปบาททำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงห้อพระโลหิต

๕.สังฆเภททำสงฆ์ให้แตกกัน

กรรม ๕ อย่างนี้ใครทำแล้ว เป็นฝ่ายอกุศลที่เป็นบาปหนัก เช่น ใครไปฆ่าพ่อแม่ด้วยความจงใจก็เป็นอนันตริยกรรม ตกนรกแน่ ไม่มีทางอื่นเลย แต่ถ้าผู้ที่ทำกรรมนั้นเกิดสำนึกได้ จึงรีบทำความดีเป็นการใหญ่เพื่อลบล้างกรรมชั่วนั้นเช่น ไปฟังธรรม ไปนั่งกรรมฐานเป็นต้น เพียงจะให้ได้หรือจะได้มรรคผลนิพพานเพราะการทำบุญนั้นไม่มีทางทำได้เลยเพราะจิตใจต่ำลงไปมาก

ถามว่าทำไมลูกฆ่าพ่อแม่จึงเป็นกรรมหนักอย่างนั้น ? ตอบว่า เพราะพ่อแม่มีคุณมาก ผู้มีคุณมากก็ย่อมมีโทษมากพระพุทธเจ้าจึงให้ถือพ่อแม่ว่า เป็นเหมือนไฟ เรียกว่า อาหุเนยยัคคี แปลว่าไฟที่ควรบูชา

ปรกติว่าไฟถ้าใครใช้เป็น ไฟก็ให้คุณประโยชน์มาก แต่ถ้าใช้ไม่เป็น ไฟก็เผาผลาญตัวผู้ใช้เอาได้พ่อแม่ของเราก็เหมือนกัน ถ้าเราเคารพ เชื่อฟัง ปฏิบัติดีต่อท่าน ก็เจริญรุ่งเรื่องมากถ้าปฏิบัติผิดต่อท่าน ก็จะเสื่อมมาก พระพุทธเจ้าจึงเรียกพ่อแม่ว่า อาหุเนยยัคคี

ส่วนครุกรรมที่เป็นกุศลกรรมได้แก่ สมาบัติ ๘ สมาบัติ ๘ ก็คือ ฌาน ๘ นั่นเอง ผู้ทำสมาธิขั้นได้ฌานตั้งแต่ ๑ถึง ๘ ท่านเรียกว่า ได้สมาบัติ ๘ อาจจะได้บรรลุฌานข้อใดข้อหนึ่งหรือฌานหลายข้ออย่างอาฬารดาบสและอุทกดาบสอาจารย์ของพระพุทธเจ้าเป็นต้นท่านผู้ได้สมาบัติเหล่านี้ ถ้าตายไปในขณะที่ฌานไม่เสื่อมก็ต้องไปเกิดในพรหมโลกแน่นอน

อาสันนกรรม แปลว่ากรรมที่ทำเมื่อจวนเจียนจะตาย หรือกรรมที่ระลึกได้เมื่อใกล้จะตาย กรรมนี้สำคัญมากถ้าไม่มีกรรมหนักขวางหน้าแล้ว กรรมที่ทำเมื่อจวนเจียนจะตายนี้จะต้องให้ผลก่อนสมมุติ เมื่อเราจวนเจียนจะตาย ทำกรรมดีไว้ ก็จะไปเกิดในที่ดีทันทีเลยถ้าทำกรรมชั่วก็ไปเกิดในที่ชั่วทันทีเลย แต่มีข้อแม้ว่าต้องไม่มีกรรมหนักมาขัดขวางสมดังพุทธภาษิตว่า จิตเต สังกิลิฏเฐ ทุคติ ปาฏิกังขา แปลว่า เมื่อจิตเศร้าหมองแล้วทุคติเป็นอันหวังได้ หมายความว่า ถ้าผู้ใดตายไปด้วยจิตเศร้าหมอง เช่น โกรธจัดโลภจัด หลงจัด หลงจัด วุ่นวายจัดตอนใกล้ตาย ก็ไปตกอบายแน่แต่ถ้าหากว่าเมื่อจวนเจียนจะตายจิตผ่องใสเบิกบาน ก็ไปสู่สุคติแน่ สมพุทธภาษิตว่าจิตเต อะสังกิลิฏเฐ สุคะติ ปาฏิกังขา แปลว่า เมื่อจิตไม่เศร้าหมองสุคติเป็นอันหวังได้

เพราะฉะนั้นถ้าใครทำกรรมเมื่อจวนเจียนจะตายก็ถือว่าสำคัญมาก ชาวพุทธเรา เมื่อญาติพี่น้องพ่อแม่หรือใครป่วยหนักก็มักจะนิมนต์พระมาสวดมนต์ให้ฟัง คือให้รับรู้แต่สิ่งที่ดีๆหรือบอกทางสวรรค์ให้ ซึ่งเราเรียกกันว่า บอกทาง เพราะว่าจะจากไปแล้ว ถ้าเรารู้เราเข้าใจว่าเขาใกล้จะตาย ก็บอกทางให้ บางคนให้ใช้ภาวนาว่า พุทโธๆอย่างที่เราภาวนาบ่อยๆ หรือภาวนาว่า อรหังๆ แต่บางคนไม่เคยได้ยินคำว่า อรหัง เลยพอลูกหลานบอกว่า คุณยายขอให้ภาวนาว่า อรหังๆไว้นะ คุณยายก็ฟังว่า อะไรหายๆคือยังงกอยู่ นึกว่าสมบัติมันจะหาย เพราะคิดไม่ถึงว่าเขาบอกทางให้ แต่กลับคิดไปว่าทรัพย์สมบัติที่เก็บไว้มันจะหาย

อาสันนกรรมนี้จึงจัดเป็นกรรมที่สำคัญมากแม้มันจะไม่มาก แต่มันอยู่ใกล้กับปากทางความตาย มันจึงให้ผลก่อน ท่านเปรียบกรรมชนิดนี้ว่าเหมือนกับฝูงโคที่แออัดยัดเยียดอยู่ในคอกเวลาเช้ามืด ถ้าตัวใดอยู่ปากประตูคอกแม้จะมีกำลังอ่อนก็ต้องออกก่อนเพราะมันอยู่ปากประตู กรรมที่เราทำไว้เมื่อจวนจะตายนี้ก็เหมือนกันแม้จะไม่หนักแต่มันอยู่ใกล้ เมื่อจวนเจียนจะตายมันจะพาไปก่อน เพราะฉะนั้น กรรมอันดับ๒ นี้จึงต้องระวัง

อาจิณณกรรม แปลว่ากรรมที่ทำจนเคยชิน คือกรรมที่ทำบ่อยๆ สมมุติว่า เราใส่บาตรทุกวัน รักษาศีลรักษาทุกคน ทำสมาธิ ก็ทำทุกวัน ปฏิบัติพ่อแม่ก็ปฏิบัติทุกวันกวาดลานวัดก็กวาดทุกวันทำจนเคยชิน ถ้าเป็นกรรมดี ก็ได้ไปเกิดในที่ดีถ้าเป็นกรรมชั่ว ก็ไปเกิดในที่ชั่ว แล้วแต่กรรมที่ทำประเภทไหนไว้ จะไปในที่ใดขนาดไหนอย่างไรก็แล้วแต่กรรมนั้นดีหรือชั่ว

กตัตตากรรมหรือกตัตตาวาปนกรรม กรรมสักแต่ว่าทำ คือ ทำโดยไม่เจตนา กรรมบางอย่างบุคคลทำไร้เจตนาก็จริง แต่ก่อผลสุขและทุกข์ให้ผู้อื่นได้ ผู้ทำกรรมเช่นนั้น ย่อมได้รับผลตอบแทนมาในทำนองเดียวกันคือ ได้รับสุขหรือทุกข์ซึ่งเกิดขึ้นโดยปราศเจตนาของผู้อื่น เช่นยิงนกแต่ไปถูกคนเข้าโดยเหตุบังเอิญ นี้เป็นผลแห่ง กตัตตากรรม ในคัมภีร์อภิธรรมมัตถภาวินีอธิบายความหมายกตัตตากรรมว่า หมายถึง กรรมที่ทำโดยไม่ได้เจตนาไว้ก่อน หรือกรรมที่ทำโดยเจตนาเบาบางคือกรรมบางอย่างที่เราไม่ได้ตั้งเจตนาไว้ก่อนว่าจะทำแต่แล้วก็ไปทำเข้าหรือเจตนาเบาบางเหลือเกิน ทำสักแต่ว่าทำ อย่างเขามาเรี่ยไรเราเราไม่มีศรัทธาเลย แต่ก็ให้เพื่อต้องการให้เขาไปพ้นๆ กรรมประเภทนี้มีกำลังอ่อนมันจึงรอคิวให้ผลอยู่ แต่ถ้าไม่มีโอกาสจึงเลิกแล้วต่อกัน คือ ไม่ให้ผลอีกกลายเป็นอโหสิกรรมไป เปรียบเหมือนเมล็ดพืชที่เราทิ้งในที่อยู่ของตนเมล็ดพันธุ์พืชเหล่านั้นอาจมีเมล็ดที่มีโอกาสเจริญงอกงามจนสามารถออกดอก ออกผลดอกและผลนั้นย่อมตกแก่เจ้าของ คือผู้ทิ้งนั่นเอง

เมื่อกล่าวโดยสรุปเนื้อความตั้งแต่ต้นที่อธิบายมาก็พอถือเอาเนื้อหาสาระได้ว่า กรรมดีหรือกรรมชั่วมิได้สูญหายไปไหนย่อมติดตามผู้ทำอยู่ประดุจเงาติดตามตัวฉะนั้นแต่กรรมจะให้ผลก็ต่อเมื่อสุกงอมเต็มที่ มันมีเวลาฝักตัวตามสมควรการรอคอยของกรรมอาจจะเวลาเป็นร้อยปี พันปีหรือหมื่นปีก็ได้ แม้รอคอยนานถึงปานนั้นและมีความสลับซับซ้อนมากเพียงใดกรรมก็สามารถตามหาตัวผู้กระทำได้ถูกต้องเสมอ ไม่ว่าผู้นั้นจะไปอยู่ ณ ที่ใดก็ตามเช่น จะไปหลบอยู่ตามถ้ำ ในมหาสมุทร หรือบนอากาศเขาผู้นั้นก็หาพ้นไปจากผลของกรรมไม่ สมพุทธภาษิตที่เรายกขึ้นเป็นบทเบื้องต้นว่าบุคคลเข้าไป ณ ที่ใด จะเป็นอากาสกลางแจ้ง ท่ามกลางมหาสมุทร ภูเขาแล้วจะพึงหนีพ้นไปจากกรรมอันลามก สถานเช่นนั้น ไม่มี จากคำอธิบายนี้ จะเห็นได้ว่าผู้ทำกรรมหาหนีกกรมที่ตนกระทำได้พ้นไม่ คือกรรมย่อมสามารถหาตัวผู้ทำได้ถูกต้องเสมอ เปรียบเหมือนลูกโคแม้จะอยู่ในฝูงโคเป็นมากก็สามารถหาแม่ของมันได้ฉะนี้แล

เอกมฺปิปาปํ กโรติ ปาโปเยวาติ วุจฺจติ.

บุคคลทำความชั่วแม้ครั้งเดียวเขาก็เรียกว่าคนชั่วเหมือนกัน

บรรยายโดย...ปีศาจน้อยจอมซน..

หมายเหตุ ..เดือนนี้ ..เป็นเดือนเกิดของปีศาจน้อย ..ใครที่เกิดในเดือนนี้ ..ขอให้มีความสุข.. มีความสำเร็จดังหวังขอรับ

ปีศาจน้อยไปเจอมาจากเวปนิพพาน *พระราชกรณียกิจของพระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ภูมิพโลภิกฺขุ) ธรรมราชา//www.nippanroad.com/forum.php?mod=viewthread&tid=1327&extra=page%3D2&page=1




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2557
1 comments
Last Update : 4 ธันวาคม 2557 0:00:38 น.
Counter : 918 Pageviews.

 

เทสจ้า

 

โดย: ปีศาจน้อย (คืนฝันปีศาจน้อย ) 2 ธันวาคม 2557 22:54:23 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


คืนฝันปีศาจน้อย
Location :
สมุทรสาคร Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




web stats
free counters
Friends' blogs
[Add คืนฝันปีศาจน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.