One Love One Life ... For You... Harley Babie and Bowling
<<
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
9 ตุลาคม 2552

เรื่องเล่าจากเวบ : คูก้าหมาคู่ชีวิต

กอปมาจากพันทิปนี้ค่ะ //www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J8413375/J8413375.html#31
ขอบคุณสำหรับทความดี ๆๆ ค่ะ

แวบแรกที่ผมเห็นเจ้าหมานั่น ..ผมยอมรับว่าไม่ค่อยถูกชะตากับมันซักเท่าไหร่เล้ย ผมว่ามันดูหยิ่งๆ
จองหองยังไงไม่รู้ มีอย่างที่ไหน....ตัวอื่นๆที่ดูตัวเล็กกว่ามัน (..สงสัยจะเป็นครอกที่เกิดทีหลัง)
พากันวิ่งกระดิกหาง วิ่งเข้ามาเล่นกับผม ....มันกลับทำหน้าเบื่อๆ มองผมแวบหนึ่งอย่างไม่สนใจ
แล้วก็หันกลับไปนอนต่อ

.......จะว่าไปแล้ว..ไอ้เจ้าลูกหมาบางแก้วตัวน้อยพวกนี้มันดูน่ารักเหมือนกันไปหมดทุกตัวเลย จน
ผมไม่รู้จะเลือกตัวไหนดี ผมมองตัวนู้นตัวนี้ที ...ในที่สุดผมก็เจอตัวที่ถูกใจที่สุด มันกำลังนอนกลิ้ง
ดูดนิ้วผมอย่างเอร็ดอร่อย ...ผมจึงจับมันอุ้มขึ้นอย่างเอ็นดู

แฮ่ ~~~บ๊อกก ...บ๊อกๆๆๆ !!! นั่นเป็นครั้งแรกที่ไอ้หมอนั่นเกิดสนอกสนใจผมขึ้นมา
มันลุกขึ้นยืนอย่างทะมัดทะแมง (...หรืออย่างน้อยก็คงทะมัดทะแมงที่สุดสำหรับลูกหมาตัวน้อยอย่างมัน)
มองสบตาผม แล้วเห่าไม่หยุด................
===========================================

ฉันอ้าปากหาวขึ้นมาอย่างสลึมสลือ หลังจากได้ยินเสียงคนคุยกันใกล้ๆ เลยหันไปมองแวบหนึ่ง เห็น
ผู้ชายหน้าตี๋ใส่แว่น กำลังเล่นกับน้องๆของผม

เอาอีกแล้ว หมอมาตรวจอีกแล้วเหรอเนี่ย มาบ่อยจริงแฮะช่วงนี้ ผมหันกลับมานอนต่ออย่างไม่
แยแส .............เอ แต่ทำไมคราวนี้ไม่มีกล่องอุปกรณ์มาด้วยหว่า

เฮ้ยย .......หรือว่า.........

....เฮ้ย ๆ!!... เจ้าหมอนั่นกำลังจับน้องฉันอุ้ม .....สัญชาติญาณบางอย่าง มันบอกฉันว่า นายคนนี้
ต้องไม่ใช่หมอแน่ๆ

ปล่อยน้องฉันลงเดี๋ยวนี้นะ เจ้าแว่น.. ฉันเริ่มเห่าเสียงดัง ...ไม่งั้นเอ็งมีเรื่องแน่

.........

สำเร็จ... เจ้านั่นดูจะเกรงกลัวฉันขึ้นมาบ้างแล้ว (แอบภูมิใจเหมือนกันนะเนี่ย) มันวางน้องฉันลง
แต่ยังไม่เลิกมองหน้าฉัน ... ฉันก็จ้องมันตอบอย่างไม่วางตา ...แววตามันช่างกวนประสาทได้ใจ
ซะจริงๆ แฮ่~~~!!!! อย่าเข้ามานะเฟ่ย กูสู้นะเฟ่ย ฉันครางขู่ในลำคอเบาๆ แล้วหันไปเตือน
พวกน้องๆที่ยังไม่เลิกเล่นกับเจ้าตี๋แว่นอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่

อย่าไปกับมันเชียวนะน้องๆ ......เจ้าคนนี่มันจะจับเราไปกิน

.........ถึงจะรู้ว่า น้องๆฉันยังไม่ค่อยรู้ความซักเท่าไหร่ แต่ก็ยังอยากจะเตือนเอาไว้ ....ไม่งั้นจะเป็น
แบบเพื่อนๆครอกเดียวกับฉัน ถูกจับไปกินทีละตัวๆ ...เหลือแต่ฉันที่รอดมาเพียงตัวเดียว

......ไม่ ไม่ ....ไม่ๆ ไม่นะ มันอุ้มน้องฉันขึ้นมาอีกแล้ว

เฮ้ยยยย......ไอ้หน้าตี๋ ฉันเห่าสุดเสียง รู้สึกของขึ้นจนรั้งไม่อยู่ ทำแบบนี้มันชักจะหยามเกิน
ไปแล้วนะเฟ่ยย!!!

ฉันเห็นพี่ชัย พี่เลี้ยงของฉันเดินมาคุยอะไรกับเจ้าแว่นซักพัก คงจะมาเกลี้ยกล่อมอะไรซักอย่าง
เพราะเห็นเจ้าแว่นตอบกลับไป ก่อนจะวางน้องฉันลง.....

============================================

...ความจริงผมก็ไม่ได้กลัวมันหรอกนะ แต่ด้วยเกรงสายตาจากคนอื่นรอบข้าง จึงวางเจ้าลูกหมานั่น
ไว้ตามเดิม พลางคิดในใจ อืมม คุณหมอนี่มันน่าสนใจเหมือนกันแฮะ
..........ผมมองหน้ามันซักพัก เห็นมันขู่ในลำคอเบาๆอย่างเอาเรื่อง ....ผมเลยแกล้งอุ้มลูกหมาอีก
ตัวที่อยู่แถวนั้นขึ้นมา

....บ๊อกกกๆๆ !!! ....มันเอาอีกแล้วครับ ผมชักเริ่มชอบใจไอ้เจ้านักเลงน้อยตัวนี้ขึ้นมาแล้วสิ ......
นิสัยเอาเรื่องแบบนี้ท่าจะเฝ้าบ้านได้ดี

พนักงานหนุ่มคนหนึ่งเดินหน้าตื่นเข้ามา แล้วบอกกับผมว่า ขอโทษด้วยนะครับ ไอ้คูก้ามันปากเปราะ
แบบนี้แหละ คือ.. มันหวงน้องๆมันนะครับ
ตกลงผมเอาตัวนี้ ผมตอบกลับไปอย่างทันควัน ขณะวางเจ้าหมาน้อยลงอย่างเก่า .......แอบเห็น
พนักงานทำสีหน้างงๆแกมดีใจราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง
.... ค...ครับ เดี๋ยวผมจะไปอุ้มมาให้ดู เขาอาสา พลางเดินตรงไปอุ้มมันขึ้นมา
ดูมันเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ยิ่งตอนที่พนักงานหนุ่มยื่นมันให้ผม มันยิ่งดิ้นพราดๆใหญ่ ทั้งเห่าทั้งดิ้น
.....แรงก็ไม่ใช่น้อยๆ จนผมแทบจะประคองไว้ไม่อยู่ ..พนักงานจึงรีบวิ่งไปตามหญิงสาวเจ้าของร้านที่กำลัง
คุยกับลูกค้าอีกคนอยู่ให้มาช่วย

เจ้าของร้านมาถึงก็เอามือลูบหัวเจ้าหมาเบาๆ มองหน้ามันแล้วพูดขึ้นว่า


โอ๋ๆ....คูก้า ไม่เป็นไรนะลูก พี่เค้าจะมาพาหนูไปรับเลี้ยงนะ เค้าไม่ทำอะไรหรอกนะ ไปกับพี่เค้านะ ......
ไม่เป็นไรน้า....ไม่ต้องกลัว

ฉันได้สติกลับคืนมาเมื่อได้ยินเสียงและ สัมผัสได้ถึงไออุ่นจากมือของแม่ ที่กำลังลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู
............ถึงแม้นั่นจะไม่ใช่ภาษาหมา แต่ฉันก็รับรู้ได้อย่างแจ่มแจ้ง

...ฉันรู้ว่าแม่ไม่ได้โกหก

ถ้าแม่พูดอย่างนั้น....ฉันก็จะยอมทำตามครับแม่

=====================================

หญิงสาวค่อยๆละมือจากหัวของมันลงมาแตะที่จมูกเบาๆ ..เป็นเด็กดีนะ
พอสิ้นเสียง...... มันก็หยุดดิ้นทันทีราวกับต้องมนตร์

=====================================

ฉันเงยหน้าขึ้นมองนายตี๋แว่นนั่น ........เขายิ้มให้ฉันแบบเป็นมิตร
......แล้วฉันก็หันหน้าไปมองแม่เป็นเชิงถามว่า หมอนี่ไว้ใจได้จริงเหรอครับแม่

แม่พยักหน้าเบาๆทีนึง ....ฉันจึงวางใจ หันไปเห่ากับนายแว่นนั่นครั้งนึงแล้วกระดิกหางให้
เป็นสัญญาณบ่งบอกมิตรภาพ

=======================================

............. และ นั่นยิ่งทำให้ผมแน่ใจว่า ผมเลือกไม่ผิดตัวแน่ๆ

=======================================

ฉันเติบโตขึ้นมาเป็นหมาหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา(จนสาวๆติดกันเกรียว) ด้วยการเลี้ยงดูประคบ
ประหงมอย่างดีของนายตี๋แว่น... คนที่ในที่สุดฉันยอมเรียกว่า เจ้านาย

ฉันเป็นหมาบางแก้ว แน่ล่ะมันเป็นสายพันธุ์ที่เลื่องชื่อลือชาเรื่องความดุ ....แต่มันก็ไม่จำเป็น
ต้องเป็นอย่างนั้นเสมอไปซะหน่อย ฉันจะดุจะเห่าเฉพาะคนแปลกหน้าที่มายืนกดกริ่งหรือมาทำ
ลับๆล่อๆหน้าบ้านเท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นแขกที่เจ้านายพามาด้วย ฉันจะเข้าไปทักทายและเล่น
ด้วยอย่างดี ...แต่ก็ยังไม่วายที่จะแอบมองทุกอิริยาบถไม้ให้คลาดสายตา คอยปกป้องนายอยู่ห่างๆ

บ้านใหม่ของฉันแม้จะไม่ใหญ่โตเท่าบ้านหลังเก่าที่จากมา แต่ก็พอมีบริเวณให้ฉันได้วิ่งเล่น
(มีซอกหลืบเพียงพอให้ฉันได้ซ่อนกระดูก ) และทุกๆเย็นเจ้านายก็จะพาฉันออกไปเดินเล่น
สูดอากาศข้างนอกบ้าน

เนื่องจากอยู่ในซอยค่อนข้างลึกห่างไกลเสียงรถราจากถนนใหญ่ บรรยากาศบ้านในวันธรรมดา
จึงค่อนข้างเงียบเหงา เจ้านายแกก็อยู่ที่นี่คนเดียวมานานแล้ว (ก่อนที่ฉันจะมาด้วยซ้ำ)
...แม้ว่าวันดีคืน ก็จะมีเพื่อนๆญาติๆมาพักบ้าง แต่อย่างมากก็อยู่แค่อาทิตย์นึงแล้วก็ไป
...บ้านก็จะกลับมาเงียบเหงาเหมือนเดิม นี่ยังดีนะเนี่ยที่ยังมีฉันคอยอยู่เป็นพื่อนเจ้านาย
ไม่งั้นแกก็คงจะเหงาแย่

แต่แล้ววันนึง ....อยู่ๆเจ้านายได้ลุกขึ้นมาจัดบ้านเป็นการใหญ่ เก็บนู่นปัดกวาดนี่สารพัด
ฉันได้แต่เอียงคอยืนดูอย่างงงๆ และแล้วในตอนเย็นฉันก็ถึงบางอ้อ..... เจ้านายพา
เพื่อนผู้หญิงคนนึงมาบ้าน วันนั้นแกดูจะทำตัวเลิ่กๆลั่กๆเป็นพิเศษ แถมกักบริเวณฉันไม่ยอม
ให้เข้าไปป้วนเปี้ยนในห้องกินข้าวอีก .......แล้วหลังจากวันนั้นเพื่อนหญิงของนายคนนี้ก็มา
แวะเวียนบ้านเราอยู่บ่อยๆ และทุกครั้งก็จะซื้อขนมติดไม้ติดมือมาติดสินบนฉันทุกคราไป ....

เฮ้อ! ฉันว่าอีกไม่นานฉันก็คงจะมีนายคนใหม่กะเค้าแล้วล่ะมั้งง??


==========================================

.....นี่ก็ห้าปีแล้วสินะผมเอาเจ้าคูก้ามาเลี้ยง จากวันนั้นที่ยังเป็นลูกหมาน้อยจอมซุ่มซ่ามเดินตุ
ปัดตุเป๋ไปมา ชนนู่นชนนี่ไปทั่ว ...และชอบมองผมตาขวางๆ เหมือนไม่ค่อยจะไว้ใจ จนวันนี้ที่มัน
ได้โตมาเป็นหมาหนุ่มขี้เล่น ขี้อ้อน ตะกละ ....แถมยังชอบแอบงัดแงะเข้ามานอนที่เตียงผมตอนเผลอๆ
,กระโดดงับกางเกงในจากราวตากผ้า.....แล้วยังรู้ที่ซ่อนทุกซอกทุกมุมในบ้าน จนผมหาตัวมันไม่เจออีก
ต่างหาก

โตไวจริงๆน๊าแกเนี่ย

ผมพึมพำขณะยื่นมือจากเปลญวนที่ผมนอนไปลูบหัวมันที่นอนหมอบอยู่ข้างๆ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะ
เอามันมานอนด้วยแล้ว .... ทว่าตอนนี้ น่ากลัวว่าจะถูกมันทับแบนแต๊ดแต๋ไปซะก่อน

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นจากโต๊ะกินข้าวในบ้าน ผมจึงลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วเดินเข้าไปรับ สงสัยว่าคงจะ
เป็น นุช แฟนผมล่ะมั้ง....=============================================

......ฉันตื่นขึ้นมาเพราะเสียงคุยโทรศัพท์ของนายที่ดังมาจากในครัว

ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนนายไม่เคยคุยโทรศัพท์เสียงดังแบบนี้ จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อน ..เป็นครั้งแรก
และหลังจากนั้นก็มีตามมาเป็นระยะๆ ...ฉันไม่รู้ว่านายคุยกับใคร และ คุยเรื่องอะไรกัน
...แต่ฉันสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่นายวางโทรศัพท์ นายจะต้องไปนั่งหน้าเครียดอยู่คนเดียวทุกทีไป

.......... ฮ้าววววว ..... ฉันลุกขึ้นบิดขี้เกียจ......เดี๋ยวฉันคงต้องไปปลอบซะหน่อยละ
=============================================

นุช ผมเองก็เข้าใจเหตุผลนุชนะ แต่ถ้าจะให้ผมทิ้งมัน ผมทำไม่ได้หรอก
ผมพยายามพูดดีๆกับนุช แต่เธอก็ไม่ยอมฟังเหตุผลของผมบ้าง....

อันที่จริงเราคุยกันเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้ซักที .......คือ พี่ชายของนุชที่อยู่ซิดนีย์
อยากให้ผมไปช่วยงานเค้าที่นู่น นุชเองเธอก็กะว่าจะไปต่อโทที่นู่นอยู่แล้ว จึงรบเร้าผมเรื่อยมา.......
ซึ่งผมก็ปฏิเสธเธอมาโดยตลอด เพราะเป็นห่วงเจ้าคูก้า ถ้าผมไปแล้วมันจะไปอยู่ไหน ญาติๆผมก็ไม่มี
ใครชอบหมา ....แล้วถ้าจะให้ผมทิ้งมันล่ะก็ ....ไม่มีวัน

มันไม่ใช่อย่างนั้น แต่....แต่ วีเลี้ยงมันมาตั้งแต่เล็กๆ มันอยู่เป็นเพื่อนวีมาตลอด จะให้ผมทิ้งมัน
ไปได้ยังไงล่ะ คราวนี้ผมเริ่มขึ้นเสียง

วีไม่รักนุชแล้วใช่มะ

เสียงจากปลายสายฟังดูโกรธจัด ผมนึกแล้วว่าเธอจะต้องงัดไม้นี้มาใช้อีกจนได้
นุช ..ผมพยายามรวบรวมสติให้พูดออกไปอย่างนุ่มนวลที่สุด เราเคยคุยกันเรื่องนี้มาแล้ว
ไม่ใช่เหรอ ......วียังรักนุชเหมือนเดิม ...แล้วเรื่องนี้มันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกันซักหน่อย

...วีจะอะไรนักหนาเนี่ย มันก็แค่หมาตัวนึงเองนะวี

....ผมนิ่งอึ้งไปทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น

.....หมาตัวนึง เสียงนั้นผมยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทผม ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามัน
จะออกมาจากปากของนุช

ไม่รู้ล่ะ .... อาทิตย์หน้า วีต้องให้คำตอบนุชว่าจะเอายังไง ..ผมกำลังจะพูดต่อ แต่เธอก็
พูดขัดขึ้นมาว่า

เลือกเอาเองละกัน ระหว่าง หมา กับ นุช

....เธอพูดตัดบทแค่นั้น ... แล้วก็วางสายไป

ผมวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ทรุดตัวลงนั่งกุมขมับ แอบรู้สึกไม่พอใจที่นุชเห็นคูก้าเป็นเพียงแค่
หมาตัวนึงเจ้าคูก้าเดินเข้ามาในครัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มันนั่งลงข้างๆผม เอาคางวางเกย
บนตักผมเพื่อปลอบใจ .....ผมยกมือขึ้นลูบหัวมันเบาๆ และตบต้นคอมันแทนคำพูดว่า ขอบใจนะ..............

วันนี้ผมตื่นขึ้นมาแต่เช้า เอาปีกไก่ย่าง 4 ปีกที่ซื้อมาเมื่อวานเข้าไมโครเวฟ อุ่นประมาณ 3 นาที
แล้วเอามาฉีกและคลุกกับข้าวสวยที่เตรียมไว้ จากนั้นก็เอาจานข้าวไอ้คูก้าออกไปวางข้างๆม้านั่ง
นอกบ้าน ที่(แอบ)นอนประจำของมัน

เอ้ากินซะ ... ไอ้คูก้า เดี๋ยวจะได้รีบไปกัน ผมนั่งลงพลางมองเหม่อออกไปยังสวนหลังบ้าน
มือก็ลูบต้นคอมันไปพลาง...

คูก้าใช้เวลากับอาหารที่อยู่ตรงหน้าในเวลาไม่ถึงนาที ผมมองมันกินอย่างเอร็ดอร่อยจนหมด
ไม่เหลือแม้กระทั่งเศษกระดูกให้เห็น

...........ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเลียปากแผล็บๆทำท่าจะขอผมอีก
ผมหัวเราะแล้วเดินไปหยิบส่วนของผมมาให้มันกินต่อ

..... เรานี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆน้า....
ผมว่าพลางตบหัวมันเบาๆ แล้วเดินไปหยิบสายจูงมาเกี่ยวกับปลอกคอมัน

========================================

วันนี้เจ้านายใจดีจังแฮะ ให้กินไก่ตั้งเยอะ แถมพามาเดินเล่นแต่เช้าอีกตะหาก

ฉันเดินนำหน้าเจ้านายลิ่วจนสายจูงตึง ....แวะดมตรงนู้น วกมาฉี่เสาเสาต้นนี้ตลอดทาง

พอหันไปมองเจ้านายทีไร ก็เห็นเค้ากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ สงสัยจะคุยกับนายหญิงล่ะมั้ง

แต่ช่างเหอะ ฉันเองก็ไม่ได้สนใจหรอก ..........ฉี่ใส่ล้อรถสนุกกว่าเยอะ

=======================================
"แน่ใจ แล้วเหรอนุช ผมไม่ค่อยอยากจะทำแบบนี้เลย" ผมว่าพลางถอนใจ

"ไม่เป็นไรหรอกนะวี" เสียงในสายนั้นนุ่มนวล ประหนึ่งว่าจะปลอบประโลมผมให้ไม่ต้องรู้สึกผิด

"ที่เราทำไป ก็เพื่ออนาคตเราเองไม่ใช่เหรอ"
ผมตอบเออออไปอย่างเสียไม่ได้ แล้ววางโทรศัพท์ไป ...ใจก็พยายามพร่ำบอกตัวเองว่า
มัน...ก็แค่หมาตัวนึง

ผมตกลงกับนุชไว้ว่าจะพาคูก้าไปให้นายป๋อง หนุ่มช่างไฟผู้แอบมีอาชีพรับจ้างพาหมาไปปล่อย
ซึ่งลูกค้าส่วนมากก็จะเป็นพวกคนมีตังค์ บ้าเห่อหมาไปตามแฟชั่น พอเบื่อแล้วก็เอาไปปล่อย
บ้านแกอยู่ถัดจากซอยผมไปไม่ไกลนี่เอง

ผมพาเจ้าคูก้าเดินมาถึงปากซอย ...เจ้านั่นมันจะเดินต่อไปทางแยกซ้ายซึ่งเป็นทางที่ผมเคยพามัน
มาประจำ แต่วันนี้ผมกระตุกสายจูงไว้แล้วพามันเดินข้ามถนนตรงไปยังฝั่งตรงข้าม มันก็หันมามอง
ผมอย่างงงๆแต่ก็ยอมเดินไป
==============================================

"เอ....ทำไมวันนี้เจ้านายพามาทางนี้หว่า ไม่คุ้นทางเลยแฮะ ถือซะว่ามาเปิดหูเปิดตา.....
เอ๊ะ.... แล้วสาวๆแถวนี้จะสวยมั้ยน๊า~~"
ฉันเดินทอดน่อง เหลียวซ้ายแลขวาไปตลอดทางที่เดิน

พอเดินผ่านบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีฝูงหมาฝรั่งตัวใหญ่ (ประมาณ 4-5ตัว)
มายืนออเห่ากันอยู่หน้าประตู เสียงขรมไปหมด

....บ้างก็ยืนตะกายประตูทำท่าจะพังลงมาให้ได้
"ชิ นึกเหรอว่าฉันจะกลัว" ว่าจะเห่าตอบกลับไปซะหน่อยแต่ยังไม่อยากมีเรื่อง ไม่ใช่ถิ่นเรา

เจ้านายพาฉันมาหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง เลยจากบ้านหมาฝรั่งมาไม่ไกลนัก พอเจ้านายกดกริ่ง
...ไม่นานก็มีชายหนุ่มมาเปิดประตู

เจ้านายยืนคุยกับหมอนั่นพักใหญ่ ปล่อยสายจูงไว้ ให้ฉันเดินเล่นแถวนั้น ...พอดีฉันได้ยินเสียง
เห่าดังมาจากในบ้านเลยแวะเข้าไปทักทายซักหน่อย

ข้างในบ้านมีหมาหลายตัว หลากชนิดด้วย พอเห็นฉันต่างก็เห่าทักทายกันใหญ่

....ฉันถามว่ามาทำอะไรกันที่นี่ พวกนั้นก็แย่งกันตอบให้แซ่ดไปหมดจนฟังไม่ได้ศัพท์

.....แต่แล้ว ในตอนนั้นเอง ... ฉันก็พลันได้ยินเสียงปิดประตู

ฉันรีบวิ่งกลับไปดู

แต่...... เจ้านายก็ไม่อยู่ซะแล้ว

===========================================

ผมรีบจ้ำออกมาจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว ราวกับจะพยายามเดินหนีความรู้สึกผิดให้พ้น
.....และเพื่อไม่ให้เจ้าคูก้าได้เห็นผมตอนเดินจากมา

ได้ยินเสียงเห่าดังมาจากหมาล็อตไวเล่อร์บ้านฝั่งตรงข้าม แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
ตั้งหน้าตั้งตาเดินออกมาซะให้พ้นๆ

ทันใดนั้นเอง....................โฮ่งงงๆๆ
ผมได้ยินเสียงเห่าทุ้มๆ ดังไล่หลังผมมา ....คิดว่าคงจะหูฝาดไปเองมั้ง

.........แต่พอผมหันกลับไปเท่านั้นแหละ
.....................หมาล็อตไวเล่อร์ตัวสูงเกือบเท่าเอวผม ก็พุ่งถลามาชนผมจนเสียหลัก
ล้มลงไปนอนกับพื้นตอนนั้นผมตกใจสุดๆ แต่พยายามรวบรวมสติลุกขึ้นยืนให้ได้

..........ผมยืนขึ้นอีกครั้ง ....และพบว่า
....กำลังตกอยู่ในวงล้อมของฝูงหมาล็อตไวเล่อร์ 5 ตัว
(...มันคงหาทางเปิดประตูออกมาจนได้ )


.....วูบหนึ่งของความคิด ผมนึกถึงสารคดีสัตว์โลก ตอนที่ฝูงหมาป่ากำลังไล่ต้อนเหยื่อให้จนมุม
ก่อนจะรุมเข้าขย้ำ เหยื่อ นั้น

.....ผม คือ เหยื่อ.??

ผมรู้สึกกลัวจนลนลาน ควบคุมสติแทบจะไม่อยู่
สายตาพวกมันที่จ้องผมนั้น ดุร้าย ราวกับสัตว์ป่าที่หมายปลิดชีวิตเหยื่อในบัดดล

.........หรือนี่มันเป็นกรรม.....

................กรรมที่ผมทอดทิ้ง "ชีวิต"หนึ่ง ที่ผมเคยเลี้ยงดูฟูมฟักมาตั้งแต่เด็ก

ผมหลับตา และเริ่มพยายามทำใจยอมรับกับผลกรรมที่ควรจะได้รับ
...และแล้ว...ผมก็รู้สึกได้ถึงแรงกัดที่น่องของผม จากขากรรไกรอันแข็งแรง
........รู้สึกได้ถึงคมเขี้ยวอันคมกริบที่เจาะทะลุเข้ามาในเนื้อน่องผม

............มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
......และด้วยสัญชาติญาณหรืออะไรซักอย่างไม่อาจทราบได้ ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงร้องของ
ตัวเองดังขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ก่อนที่ผมจะหมดสติไป

ช่วยด้วยย!!!

===========================================

เฮ้ยย... นั่นมันเสียงเจ้านายนี่นา
ฉันทำหูตั้งชันขึ้นมาฟังเสียงที่แว่วมาจากระยะไกล ..ไม่ผิดแน่ เจ้านายกำลังขอความช่วยเหลือ

.....ฉันวิ่งไปยังประตูเหล็กดัดตรงหน้า เล็งช่วงที่ดูเตี้ยที่สุด แล้วพุ่งตัวกระโดดขึ้นไปอย่างสุดแรงเกิด
.... ขาหน้าฉันเกี่ยวเข้ากับลวดลายเหล็กดัดที่เกือบจะถึงยอดสุดของประตู ขาหลังก็พยายามปัด
ป่ายหาที่เกาะ และค่อยๆกระดึ๊บๆตัวไต่ข้ามยอดประตู ...แล้วกระโดดผลุงลงไปยังพื้นเบื้องล่าง

....ด้วยความสูงขนาดนั้น ทำให้ฉันเซไปเล็กน้อย แต่พอทรงตัวได้ก็รีบวิ่งห้อตะบึงไปยังที่มาของเสียงทันที

ฉันวิ่งไป ...วิ่งไป..... ที่ตรงหน้าของฉันตอนนี้ เห็นหมาฝรั่งร่างใหญ่หลายตัวกำลังเดินวนขู่แยกเขี้ยว
ใส่เจ้านายฉันที่กำลังนั่งตะเกียกตะกายบนพื้น ...ที่ขาของนาย มีไอ้หมายักษ์ตัวหนึ่งกำลังกัดแน่นไม่ยอมปล่อย

ฉันวิ่งฝ่าวงล้อมเข้าไป แล้วกระโดดงับคอเจ้าหมานั่นอย่างโกรธจัด ...... มันจึงยอมปล่อยขานาย
แต่แล้วฉันก็ถูกตัวอื่นๆเข้ารุมทึ้งในทันที

ในตอนนั้น....ฉันแทบจะไม่รู้ตัวแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ....ลงพอเลือดเข้าตาแล้ว ฉันก็สู้แบบไม่ถอย
เอาแบบให้ตายกันไปข้างนึง .... มันแทบจะไม่มีความรู้สึกเจ็บ รู้สึกปวดอีกแล้วตอนนั้น
=============================================
ความเจ็บที่แล่นปรี๊ดขึ้นมาจากน่อง ทำให้ผมรู้สึกตัวขึ้นมาอีกที

.........ผมเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังช่วยกันกันหมาให้ออกไป และนั่น ...ไม่ไกลไปจากปลายเท้าผม

...ร่างเจ้าคูก้า ... กำลังนอนหมอบอยู่อย่างอ่อนระทวย ร่างของมันตอนนั้นเต็มไปด้วยสีแดง
สดจากเลือด ตามเนื้อตัวแขนขา มีแต่แผลเหวอะหวะไปหมด

...........ผมค่อยๆคลานเข้าไปใกล้ พยุงร่างมันขึ้นมาตระกองกอดไว้ในอ้อมแขน พลางเรียก
ชื่อมันแล้วเขย่าตัว

"คูก้า.....คูก้า อย่าเป็นอะไรนะ"
มันค่อยๆเผยอเปลือกตาขึ้นมาช้าๆ ราวกับมันเป็นเรื่องยากเย็นอย่างยิ่งในตอนนี้

..แม้ว่าร่างกายมันจะอยู่ในสภาพทรุดโทรมถึงเพียงนี้ ...แต่นัยน์ตาของมันยังฉายแววร่าเริงเหมือนทุกครั้งที่มันจ้อง
มองผมเพื่อชวนให้พาไปเดินเล่น

........ผมลูบหัวมันเบาๆ แล้วเอาหน้าไปแนบกับหน้าของมัน
และโดยที่ผมไม่รู้ตัว...น้ำตาหยดหนึ่งไหลเป็นสายออกมาจากนัยน์ตาผมไปสู่แก้มของมัน

"คูก้า .......ชั้น..ชั้นขอโทษนะ" ผมกระซิบที่ข้างหูมันด้วยน้ำเสียงแหบแห้งปนสะอื้น

........ผมไม่รู้ว่ามันรู้เรื่องรึเปล่า......มันยังคงมองหน้าผมด้วยแววตาอย่างร่าเริงอย่างนั้น
แววตาที่ฝืนพยายามบอกผมว่า..ไม่เป็นไร ไม่เป็นต้องห่วง

....ผมรู้สึกถึงหางที่กระดิกมาโดนแขนผมเบาๆ ...........ก่อนจะค่อยๆช้าลง ช้าลง
และแน่นิ่งไป พร้อมกับเปลือกตาที่คล้อยปิดลง

========================================

"..................... เจ้านาย........ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย"
========================================

ผมกอดร่างอันอ่อนปวกเปียกของคูก้าไว้ในอ้อมอก มืออีกข้างก็ลูบหัวมันไปเรื่อย ....

หวังลมแล้งๆว่ามันจะลืมตาขึ้นมาเห่าผมแล้วกระดิกหางให้อีกครั้ง

...เหมือนเมื่อตอนที่ผมจับมันอุ้มขึ้นมาครั้งแรก

ผมเหลือบมองร่างไร้ชีวิตของมันอีกครั้งด้วยน้ำตานองหน้า

....มัน.....อาจจะเป็นแค่ หมาตัวหนึ่ง

ทว่า....ใครเล่าจะรู้ว่า .......ชีวิต ๆหนึ่งของมัน ได้มอบให้กับคนคนหนึ่ง ไปแล้ว

............ตราบเท่าที่ชีวิตของหมาตัวหนึ่ง จะพึงทำ






 

Create Date : 09 ตุลาคม 2552
1 comments
Last Update : 9 ตุลาคม 2552 15:50:36 น.
Counter : 611 Pageviews.

 

ซึ้งสุดๆๆ
คูก้าต้องไม่ตาย แง้ แง้

 

โดย: aomjaija 9 ตุลาคม 2552 18:14:03 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


mooaoun
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




One Love One Life...
Love Harley Babie Angie and the Gangs
& Bowling...2 ka
Background.MyEm0.Com
[Add mooaoun's blog to your web]