ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
พฤษภาคม 2563
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
8 พฤษภาคม 2563
 
 
Love Sick หัวใจไม่ไร้รัก บทที่ ๕ (YURI)

 

แย่จริง ลืมขอเบอร์ขอไลน์คุณม่านฟ้า เอาอย่างไรดี?

ลลิตานึกขึ้นได้ หลังลงลิฟต์ไปถึงชั้นหนึ่ง แต่ยังไม่ทันตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อ พลันเจอกับผู้จัดการส่วนตัวของช่อทิพย์

“อ้าว! คุณตาสวัสดีค่ะ” เอกกี้ทักขึ้นอย่างคุ้นเคย ในฐานะที่หล่อนเป็นคนรักคนปัจจุบันของนางเอกสาว

หล่อนส่งยิ้มให้เขา

“สวัสดีค่ะคุณเอก”

ขี้แกล้งจริงๆ

ชายใจสาวแกล้งทำหน้างอ ยกมือขึ้นตีแขนอีกฝ่ายเบาๆ แบบไม่จริงจัง

“เอกกี้ค่ะคุณตา ไม่ใช่เอก”

สาวสวยหัวเราะเบาๆ แล้วยอมพูดแก้

“ค่ะคุณเอกกี้”

“ค่อยยังชั่วหน่อย” ผู้จัดการส่วนตัวของนางเอกสาวยิ้มกว้าง “นัดกับน้องช่อไว้เหรอคะ?”

“เปล่าค่ะ ตามาประชุมผู้ถือหุ้น” หล่อนตอบ

ลลิตารู้ตารางงานของคนรักว่า วันนี้มีคิวถ่ายละคร จึงไม่อยากรบกวนหรือทำให้เสียสมาธิ

...การเป็นคนรักกัน ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลาก็ได้ ต่างคนควรรับผิดชอบงานของตนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่ทำตัวงี่เง่าเป็นเด็กๆ

“อ๋อ” เขาพยักหน้า รู้ว่าอีกฝ่ายมีเอกสิทธิ์พิเศษที่นี่ เพราะบิดาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับต้นๆ ของธัญญากรุ๊ปตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง

“น้องช่อไปไหนคะ?” สาวสวยเอ่ยถามถึงคนรัก หลังไม่เห็นอีกคนแม้แต่เงา

“ไปห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวบ่ายต้องถ่ายต่ออีก” เอกกี้ตอบ ก่อนเอ่ยชวน “คุณตาไปทานกลางวันด้วยกันนะคะ แต่คงต้องทานแถวนี้ ไปไกลไม่ได้นะคะ”

เขาพูดดักคอไว้ก่อน ด้วยเกรงว่า สองสาวจะออกไปเถลไถลทานร้านอร่อยไกลๆ ข้างนอก ไม่อยากให้คนทั้งกองถ่ายรอช่อทิพย์คนเดียว หลังเคยมีประวัติทำแบบนี้มาหลายครั้ง

...ผู้จัดการหนุ่มใจสาวเข็ดขยาด ไม่อยากเป็นหนังหน้าไฟ แอบผวากลัวโดนเด้งจากตำแหน่งนี้

“เข้าใจแล้วค่ะคุณเอกกี้”

ค่อยยังชั่วหน่อย

เอกกี้ยิ้มโล่งใจ ที่สาวสวยคุยง่ายกว่าแฟนคนก่อนๆ ของนางเอกสาว

“ขอบคุณที่เข้าใจค่ะ”

“พี่ตา!”

เสียงหวานๆ ของช่อทิพย์เรียกชื่อคนรักมาแต่ไกล ยินดีมากที่ได้เจอหล่อนโดยที่ไม่ได้นัดไว้ก่อน

หนึ่งหญิงหนึ่งชายหันไปมองต้นเสียง ไม่กี่วินาทีนางเอกสาวก็มาประชิดตัวหล่อน แล้วกอดแขนไว้แนบอก

“คิดถึงค่ะ” ดาราสาวพูดอ้อนเสียงอ่อนหวาน หลังไม่ได้เจอหน้ากันมาหนึ่งวันเต็ม

“พี่ก็คิดถึงน้องช่อค่ะ”

“ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ ช่อหิวแล้วล่ะ”

“ทานแถวนี้นะคะ เดี๋ยวน้องช่อจะได้ถ่ายต่อ” คนงามพูดก่อน

“ก็ได้ค่ะ” ช่อทิพย์ยอมตามใจ ตาลายเกินกว่าจะออกไปหาอะไรทานไกลๆ

“ไปค่ะน้องช่อ” หล่อนชวน แล้วพยักหน้าให้กับเอกกี้ “ไปค่ะคุณเอกกี้”

“ค่ะ” นางเอกสาวรับคำ

ผู้จัดการหนุ่มใจสาวยิ้ม ผงกหัวน้อยๆ

ช่อทิพย์ควงแขนร่างบาง ดึงดูดนักข่าวสายบันเทิงให้หยิบกล้องเก็บภาพเธอกับลลิตาเพื่อนำไปเสนอข่าว ดาราสาวชอบเป็นข่าวอยู่แล้ว คลี่ยิ้มสวยให้กับกล้อง โพสต์ท่าด้วยการซบหน้าที่หัวไหล่ของสาวสวย

เอกกี้รู้งานเป็นอย่างดี เดินเลี่ยงไปรออีกทางแถวหน้าประตู

“ขอบคุณนะคะ ช่อขอตัวไปทานข้าวก่อนนะคะพี่ๆ” ช่อทิพย์บอกกับเหล่านักข่าวอย่างอ่อนหวาน แล้วพยักหน้าชวนหล่อน “ไปค่ะพี่ตา”

“ค่ะ” ลลิตายิ้มละไม

“สมกันหยั่งกับกิ่งทองใบหยก” นักข่าวคนแรกกล่าวชมกับเพื่อนร่วมอาชีพของตัวเอง

สวยรวยแบบคุณลลิตา หาได้ที่ไหน?

“ใช่” ผู้ชายพยักหน้า “แต่โคตรเสียดายที่สาวๆ สวยๆ สมัยนี้กินกันเอง ไม่แยแสเพศชายสักนิด”

หญิงสาวคนแรกยักไหล่ มองคนพูดอย่างขำๆ

“สวยเลือกได้ เข้าใจหรือเปล่า?”

“เชอะ!”

นักข่าวสองคนหยอกล้อกันพอหอมปากหอมคอ แล้วออกไปจากอาคาร หลังใกล้เวลาเที่ยง

ประชาสัมพันธ์สาวชื่อปูมองตามหลังสองสาว ที่เดินควงแขนกันอย่างแฮปปี้ ด้วยความเบื่อหน่ายสุดขีด

น่าอิจฉายายช่อชะมัด คุณตาไม่น่าเลือกยายนี่เลย ไม่เห็นมีอะไรดีสักอย่าง นอกจากหน้าตา ให้ตายสิ!

 

ขณะทั้งสามนั่งรับประทานอาหารในห้องปรับอากาศ ซึ่งมีอาหารอร่อยจำหน่ายในราคาย่อมเยา สำหรับพนักงานเกือบร้อยชีวิตและแขกของธัญญากรุ๊ป มีสารพัดอย่างตั้งแต่ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ไปจนถึงอาหารนานาชาติ อาทิ อาหารฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี

“อร่อยนะคะ” ลลิตาชมขึ้น หลังทานสปาเกตตีซอสครีมเห็ดของที่นี่เป็นครั้งแรก

หล่อนแวะมาทานอาหารที่นี่ไม่บ่อย ส่วนใหญ่พอประชุมเสร็จจะออกไปทานอาหารที่อื่น จนเมื่อหลังการประชุมสองครั้งก่อนคทาวุธชวนทานด้วย เกิดติดใจหลังทานสปาเกตตีไส้กรอกอิตาเลียน คราวนี้เปลี่ยนมาลองสปาเกตตีซอสครีมบ้าง รสชาติอร่อยมากไม่ต่างจากภัตตาคารชื่อดัง ตักให้เยอะแถมราคายังไม่แพงอีกต่างหาก จึงไม่แปลกใจที่ลูกค้าจะต่อคิวรอยาวกว่าหลายร้าน

“ค่ะ” ช่อทิพย์ยอมรับเสียงอ่อย

แม้จะชอบสปาเกตตีเป็นพิเศษ แต่นางเอกสาวไม่กล้าสั่งมาทานบ่อย หลังประเมินปริมาณแคลอรีของอาหารนั้น

“แบ่งกันไหมคะ?” สาวฮอตชวนอย่างใจดี

“ช่อกลัวอ้วนค่ะ ช่วงนี้เริ่มอ้วนนิดๆ แล้วด้วย”

ไม่ใช่อ้วนนิดๆ ค่ะน้องช่อ อ้วนมากต่างหาก ขืนบวมกว่านี้มีหวังต้องโละชุดใหม่ยกล็อตแน่...หลายหมื่นเลยนะคะ

เอกกี้คิดตอบในใจ

ทั้งที่เขานั่งร่วมโต๊ะกับสองสาว แต่ว่ารู้สึกเหมือนตนเป็นอากาศธาตุ ไม่มีใครสนใจคุยด้วย ได้แต่ทานอาหารตรงหน้าแบบเงียบๆ พร้อมเช็คมือถือเป็นระยะว่า มีใครส่งข้อมูลติดต่อเรื่องงานมาบ้าง บางทีก็อ่านข่าวบันเทิง เพื่อไม่ให้ตกข่าว

“ชิมคำสองคำคงไม่เป็นไรมั้งคะ?” ลลิตาเอียงคอถาม เลื่อนจานอาหารใบโตของตนเข้าใกล้นางเอกสาว เพื่อให้อีกฝ่ายตักชิม

“ไม่ดีกว่าค่ะ” นางเอกสาวตอบอย่างตัดใจ “ช่วงนี้งานยุ่งมาก ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายด้วย”

“ไม่รับแน่นะคะ?”

“ค่ะ”

สาวสวยจึงดึงจานของตนกลับ แล้วรับประทานต่อ

ประตูกระจกของห้องอาหาร เลื่อนเปิดหลังท่านประธาน ภรรยา และรองประธานสาวก้าวเข้ามา เรียกสายตาหลายคนในห้องนั้นให้หันไปมอง พร้อมรีบทักทาย

“ท่านประธาน”

“สวัสดีครับท่านประธาน”

“สวัสดีครับท่าน”

ฯลฯ

บางคนก้มหัวต่ำให้เจ้านายแทนคำทักทาย

คทาวุธโบกมือให้ลูกน้องอย่างเป็นกันเอง ไม่ชอบที่จะมีพิธีรีตองมากเกินไป

“สวัสดีทุกคน ทานตามสบายเถอะ”

“ครับ” / “ค่ะ”

ม่านฟ้าที่กำลังมองหาโต๊ะว่างเปรยขึ้น

“โต๊ะนั้นว่างค่ะ”

“ไปสิ” คทาวุธบอกเสียงนุ่ม

วันทนาปั้นยิ้มประดับบนหน้าอย่างแน่นหนา เดินตามคทาวุธกับลูกเลี้ยงไป

พนักงานบางคนสนใจหญิงสาวรุ่นลูก ที่ยืนอยู่กับสองสามีภรรยา จึงอดกระซิบกระซาบถามกันไม่ได้

“ผู้หญิงคนนั้นใคร?”

“ลูกสาวท่านประธานน่ะสิ เห็นว่าเพิ่งจบนอก”

“เหรอ สวยนะ เป็นนางเอกละครได้สบายๆ เลยนะแก”

“ไอ้สวยน่ะสวยหรอก แต่ให้มาเป็นรองประธานนี่ จะไหวรึเปล่า?” เขาเป็นหนึ่งในพนักงานที่รู้เรื่องในที่ประชุมวันก่อน กล่าวอย่างไม่มั่นใจนัก

...การเป็นพนักงานตัวเล็กๆ ไม่มีสิทธิ์ไปโหวตเลือกใคร หรือไล่ใครออกได้ แค่ทำงานของตนให้ดีไปวันๆ เท่านั้น

หา!

“รองประธานเชียว!” ลูกจ้างสาวทำหน้าแตกตื่น นึกเป็นห่วงปากท้องของตัวเอง หลังประเทศมีปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำเกิดคาด ทำให้ธุรกิจปรับลดคนงานลงเพื่อลดค่าใช้จ่าย ยังไม่รวมธุรกิจหลายพันแห่งประกาศปิดตัวไปก่อนหน้านี้ “หวังว่าเธอจะบริหารงานเป็นนะ ฉันยังไม่อยากตกงาน”

เพื่อนร่วมงานยักไหล่ ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้

“เรื่องนี้ใครจะรู้”

หญิงสาวถอนใจยาวเหยียด ได้แต่พึมพำแบบปลงๆ

“สงสัยฉันคงต้องหาลู่ทางหางานสำรองแล้วล่ะมั้ง”

“บ่นอะไรนักหนา รีบทานแล้วรีบกลับไปทำงาน ดีกว่ารึเปล่า” อีกคนพูดตัดบทอย่างรำคาญ

คนถูกว่าจึงค้อนน้อยๆ แล้วทานอาหารต่ออย่างเร็ว

 

ช่อทิพย์ที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้กับพนักงานสองคนนั้น ได้ยินทุกถ้อยคำชัดเจน ปรายตามองไปยังโต๊ะที่ม่านฟ้านั่งแวบหนึ่ง แล้วผุดยิ้มร้ายกาจมุมปาก

ดูกระจอกซะขนาดนั้น จะมีปัญญาทำอะไรได้ แค่โชคดีมีพ่อเป็นประธาน

ลลิตาที่บังเอิญเงยหน้าขึ้นพอดี เห็นสายตาของคนรักมองไปทางโต๊ะของรองประธานสาว จึงนึกสงสัย

มองไปทางคุณม่านฟ้าทำไม?

“มีอะไรเหรอคะ?” หล่อนถามเสียงนุ่ม

นางเอกสาวสะดุ้ง รีบกลบเกลื่อน

“ไม่มีอะไรค่ะ” ช่อทิพย์ยิ้มฝืด “วันนี้พี่ตาได้เห็นลูกสาวของคุณอาคทาวุธแล้วใช่ไหมคะ?”

“ค่ะ อาวุธแนะนำเธอในที่ประชุม เป็นรองประธานคนใหม่” สาวสวยตอบยิ้ม ก่อนพูดต่อ “เธอเป็นพนักงานร้านอาหารที่เราเจอวันก่อน”

จำแม่นไปนะ อย่าบอกนะว่าสวยถูกใจ

ดาราสาวนึกค่อนแคะคนรักในใจ

“เป็นลูกเศรษฐี แต่ลดตัวไปเป็นเด็กเสิร์ฟ แถมยังซุ่มซ่ามขนาดนั้น ไม่ไหวเลยนะคะ” เธอจีบปากต่อว่าอย่างดูแคลน “มาเป็นรองประธาน จะทำอะไรเป็น”

ทำไมต้องพูดแรงขนาดนั้นด้วย

ลลิตาขมวดคิ้วเรียว ไม่พอใจที่คนรักพูดจาถากถางคนอื่น ทั้งที่ไม่ได้รู้จักม่านฟ้าเลย แค่เจอกันครั้งเดียวเท่านั้น และเรื่องซุ่มซ่ามในวันนั้นไม่ใช่ความผิดของสาวผมสั้น

...แต่เป็นความผิดของช่อทิพย์ต่างหาก

สาวสวยเชื่อในสำนวนฝรั่งที่ว่า ‘Don’ t Judge A Book By Its Cover’ แปลว่า ‘อย่าตัดสินคุณภาพของหนังสือ เพียงแค่การดูหน้าปก’

หรืออีกอย่างก็คือ ‘อย่าได้ตัดสินสิ่งใดหรือบุคคลใด แค่เพียงสิ่งที่เห็นภายนอกหรือรูปร่างหน้าตา แต่เราควรตัดสินจากความสามารถ หรือประสิทธิภาพจริงๆ ของคนผู้นั้นหรือสิ่งนั้นๆ ต่างหาก’

...อันเป็นความคิดต่างจากผู้คนส่วนใหญ่ในสังคม

ในวันนี้ลลิตาได้เจอม่านฟ้าในที่ประชุม แม้ไม่ได้สนทนาเป็นการส่วนตัว หล่อนได้ยินคำพูดจา และตัวอย่างคลิปที่เธอนำเสนอในที่ประชุม บ่งบอกชัดว่า

...ม่านฟ้ามีกึ๋น มีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง ไม่ใช่แค่สวยแต่เปลือก หรือโชคดีเกิดเป็นลูกเศรษฐี เหมือนที่หลายคนเข้าใจ

เป็นยูทูปเบอร์ ที่มีผู้ติดตามห้าหกหมื่นคน มีผลงานที่คนดูไม่ต่ำกว่าล้านเกือบทุกคลิป หากไม่มีฝีมือจริง...คงทำไม่ได้

สาวสวยประเมินความสามารถของม่านฟ้า ต่างจากช่อทิพย์ และอีกหลายคน แต่ลลิตาไม่คิดจะโต้เถียงดาราสาว จึงก้มหน้าทานสปาเกตตีต่อไป

ช่อทิพย์มีนิสัยใจคอเป็นอย่างไรนั้น คนสวยย่อมรู้จักดีที่สุด หลังคบหามาหลายเดือน

หากหล่อนเผลอหลุดปากชื่นชมผู้หญิงใด ที่อีกคนไม่ชอบออกมา รับรองว่านางเอกสาวจะงอแงชวนทะเลาะไม่เลิกรา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมากในความคิดของสาวฮอต

‘หากต้องการความสงบสุขในชีวิต จงอย่าหาเรื่องเถียงกับผู้หญิง เพราะท่านจะไม่มีวันชนะ’ ...นักเขียนนิรนามกล่าวไว้

อธิบายไปก็คงไม่เชื่อ น้องช่อดื้อจะตายไป

ลลิตาอมยิ้มในหน้าเมื่อคิดถึงม่านฟ้า เหมือนมีความสุขมากมายหลั่งไหลมาในก้อนเนื้อที่อกซ้าย

ไปเจอกันตอนไหนอีกล่ะเนี่ย ทำไมน้องช่อถึงได้ว่า ลูกสาวท่านประธานเคยทำงานแบบนั้นด้วย? ว่าแต่รู้จักผิวเผิน แต่ไปวิจารณ์แบบนั้น ...จะใจแคบไปนะคะ

เอกกี้นึกคลางแคลง แต่ไม่คิดจะซักไซ้อะไร เพราะเชื่อว่าไม่นานช่อทิพย์ต้องหลุดปากเล่าออกมาเอง

ดาราสาวเป็นพวกปากโป้ง เก็บความลับไว้ในใจไม่ค่อยอยู่ ยามอยู่กับเขาสองคน จะหลุดปากเล่าเกือบทุกเรื่องให้เขาฟังเสมอ ซึ่งไม่พ้นเป็นเรื่องตีไข่ใส่โจ๊ก

หากพูดอีกนัยหนึ่ง เขาล่วงรู้ความลับของช่อทิพย์มากที่สุด ก็คงไม่ผิดนัก ถ้าเอกกี้ไม่ทำอะไรให้ดาราสาวขุ่นเคืองใจจนเกินไป เธอก็คงไม่ปลดเขาออกจากตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวง่ายๆ

การรู้จักตัวจริงของช่อทิพย์ ทำให้เอกกี้ไม่แน่ใจว่า ลลิตาสนใจดาราสาวคนนี้ตรงไหนกันแน่?

นอกจากหน้าสวยมีเสน่ห์ รูปร่างดี ปากดีพูดเก่ง แต่นิสัยไม่ดีเอาเสียเลย เก่งสร้างภาพลักษณ์ดูดีไปวันๆ

เอกกี้จำได้ว่าสองสาวคบหากัน หลังช่อทิพย์เป็นนางเอกดาวรุ่งที่ย้ายมาเซ็นสัญญากับธัญญากรุ๊ปไม่นาน

หลังเปิดกล้องละครเรื่องที่แล้ว ลลิตาซึ่งแวะมาที่นี่เพื่อประชุมได้พบกับช่อทิพย์บ่อยๆ สองสาวแอบไปทานข้าวด้วยกันหลายครั้ง จากนั้นนางเอกสาวก็ควงแขนกับสาวฮอตประกาศกับสื่อว่า...เราคบกันแล้ว

ไม่ใช่แค่เป็นข่าวใหญ่ในวงการบันเทิง แต่เป็นข่าวที่สร้างความเซอร์ไพรซ์ในวงการบันเทิงด้วย ขนาดเอกกี้ยังสับสนมึนงงว่า ทั้งคู่ไปโอเคกันตอนไหน เขาจึงได้แต่เออออห่อหมกตามน้ำไป

คุณตาไม่ได้โง่ แล้วก็ไม่ได้ตาถั่วสักหน่อย ชอบน้องช่อเข้าไปได้ยังไงกัน...แถมคบมาตั้งหลายเดือน

เขารู้มาว่า ลลิตาเป็นสาวฮอตสวย ที่บ้านรวยมาก แต่ไม่ค่อยจริงจังกับใครนานนัก

...สถิติคบนานที่สุด ไม่เคยเกินหนึ่งปี

หรือคุณตาคิดจะหยุดที่น้องช่อจริงๆ?

เขาเฝ้ามองความสัมพันธ์ของทั้งสองอยู่ห่างๆ ในใจแอบหวั่นไหวไม่ได้ และมีคำถามมากมายผุดขึ้นมาเรื่อยๆ

เอกกี้ไม่อยากให้ช่อทิพย์เสียใจ เพราะอาจส่งผลร้ายกับงานการแสดง

ที่ผ่านมานางเอกสาวอาจจะคบหากับหลายคน แต่เขาไม่เคยเห็นช่อทิพย์จริงใจกับใครมากเท่าลลิตามาก่อน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะร่างบางสวย รวย มีเสน่ห์ และเพียบพร้อม เป็นคนรักในอุดมคติของสาววายหลายคน

...จะไม่เพอร์เฟคก็ตรงที่ขี้เบื่อนั่นแหละ

เฮ้อ! หวังว่าฉันจะคิดมากเกินไปเอง

ผู้จัดการหนุ่มใจสาวอยากจะเชื่อแบบนั้น

ขณะที่เขากำลังอยู่ในภวังค์ความคิด พลันสะดุ้งหลังได้ยินเสียงใครบางคนที่นั่งร่วมโต๊ะเอ่ยขึ้น

“ดูท่าหมอนั่นจะคิดกินไก่ฟ้า” น้ำเสียงของดาราสาว แฝงความเยาะเย้ยเหยียดหยันอีกฝ่ายเต็มประดา

ใคร?

ลลิตากับเอกกี้นึกสงสัย มองตามสายตาของช่อทิพย์ เห็นชยันต์เดินตรงรี่ไปยังโต๊ะอาหารของม่านฟ้า ที่มีคทาวุธกับวันทนานั่งอยู่ด้วย ก็เดาได้ทันที

“คุณพ่อครับ คุณแม่ครับ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ก่อนหันไปพูดกับสาวหน้าคม ใบหน้าหล่อเหลาประดับด้วยรอยยิ้ม “คุณฟ้า”

ม่านฟ้าส่งยิ้มอ่อนให้พี่ชายคนใหม่ ค้อมหัวน้อยๆ

“สวัสดีค่ะ”

แต่งหน้าแต่งตาแล้วสวยขึ้นเยอะเลย

ชายหนุ่มอดนึกชื่นชมน้องนอกไส้ไม่ได้

“ชยันต์ทานข้าวหรือยัง มาทานด้วยกันสิ” คทาวุธชวนอย่างเป็นกันเอง พร้อมชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ว่างข้างลูกสาว ประธานหนุ่มใหญ่มองอีกคนเป็นลูกชาย โดยไม่คิดรังเกียจเดียดฉันท์ว่าเป็นลูกติดเมีย

พระรองทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ทันที โดยไม่สนใจสายตาดุๆ ของแม่ที่มองอย่างไม่พอใจ หลายครั้งที่ชยันต์จะดื้อเงียบใส่มารดา แล้วตัดสินใจทำตามใจตัวเองมากกว่า

...อย่างเช่นคราวนี้

“เรียบร้อยแล้วครับ ผมกำลังจะเตรียมเข้ากองถ่ายรอบบ่าย” ชายหนุ่มตอบอย่างสุภาพ “ผมแวะมาแสดงความยินดีกับคุณฟ้าครับ”

“อ๋อ!” ประธานหนุ่มยิ้ม หันหน้าไปทางลูกสาว แล้วเอ่ยชมอย่างภูมิใจ “วันนี้ฟ้านำเสนองานได้ดีทีเดียว”

“เหรอครับ” พระรองยิ้มกว้างกว่าเดิม แล้วเอ่ยกับน้องสาวนอกไส้ที่นั่งเงียบๆ “ยินดีด้วยนะครับท่านรองประธาน”

สาวร่างสูงคลี่ยิ้มบางให้กับชยันต์

“ขอบคุณค่ะ”

มันน่ายินดีตรงไหน!

วันทนาหรี่ตาเล็กน้อย ไม่สบอารมณ์ที่ลูกชายดูจะแสดงท่าทีเป็นมิตรกับลูกเลี้ยงมากเกินเหตุ แต่ระวังกิริยาไว้เต็มที่ ไม่กล้าแสดงอะไรไม่ดีกับลูกเลี้ยงต่อหน้าคทาวุธ

เธอรู้แก่ใจว่า ม่านฟ้าเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของสามี จึงไม่คิดจะประกาศตัวเป็นศัตรูอย่างโจ่งแจ้ง

“ถ้าโดนหมอนั่นแจกคำหวานไม่กี่คำ ก็คงเสร็จ” ช่อทิพย์เอ่ยยิ้มอย่างสะใจ เธอมองม่านฟ้าเป็นพวกใสซื่อ อ่อนต่อโลก ไม่น่าจะรอดอุ้งมือจอมเจ้าชู้แบบชยันต์ได้นานนัก

สาวสวยได้ยินชัดเต็มสองหู แต่ไม่ได้มีความคิดคล้อยตามคนรักแม้แต่น้อย กลับรู้สึกเห็นอกใจม่านฟ้ามากขึ้นไปอีก

หล่อนเผลอกำช้อนส้อมในมือแน่น ก่อนวางรวบในจาน แล้วยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ นัยน์ตาคู่สวยฉายแววที่ยากจะอ่านได้แวบหนึ่ง

ผู้ชายคนนั้นไม่คู่ควรกับคุณม่านฟ้า...แม้แต่ปลายเล็บ!

 

ไม่ชอบ

ไม่ชอบเขาที่มาหมายปองน้อง

นึกขัดข้องขัดตาบอกไม่ถูก

ไอ้หมอนั่นมีค่าแค่ขี้มูก

ไม่ควรปลูกต้นรักกับนงราม.

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตาม ขอบคุณสำหรับทุกหัวใจ และทุกคอมเม้นท์ รวมถึงโดเนทด้วยนะคะ ไรท์ยิ้มกว้าง ^____^

ตอนนี้พี่ตาชักจะยังไงนะ ไปโมโหชยันต์ซะงั้น อิอิ ส่วนตอนหน้า พี่ตาอยากช่วยน้องฟ้า แต่จะใช้วิธีไหนนะ? ...ต้องติดตามค่ะ

ไรท์จะส่งต้นฉบับทั้งหมดให้คุณพี่บอกอวันนี้ค่ะ น่าจะทัน 5555 ส่วนคุณพี่จะตรวจเสร็จเมื่อไหร่ไม่ทราบแน่ชัด แต่เดือนนี้คาดว่าได้อ่านแน่นอนค่ะ หยอดกระปุกรอได้เลยค่ะ 

ส่วน E-book อีก 15 เรื่องของไรท์ โหลดซื้อได้ที่ MEB นะคะ ถ้าอยากได้หนังสือ สอบถามได้ที่ เพจนิ้วนาง ค่ะ

ระยะนี้รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ไรท์เป็นห่วงค่ะ 

พบกันตอนหน้า ขอบคุณค่ะ 

นาง ^^

OoXoO




Create Date : 08 พฤษภาคม 2563
Last Update : 8 พฤษภาคม 2563 17:36:13 น. 0 comments
Counter : 611 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com