เป็นข่าวที่ไม่สู้ดีนักสำหรับคนงานของบริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ผู้ผลิตและประกอบอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ให้กับบริษัทในวงการไอทีโลก ที่เตรียมนำหุ่นยนต์หลายแสนตัวมาใช้แทนแรงงานคน โดยมีเป้าหมายในการใช้หุ่นยนต์ถึง 1 ล้านตัวภายในปี 2014
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม สำนักข่าวบีบีซี ของอังกฤษ รายงานว่า ฟ็อกซ์คอนน์ ผู้ผลิต และประกอบอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการไอทีโลก ไม่ว่าจะเป็น แอปเปิ้ล (Apple) โนเกีย (Nokia) เดลล์ (Dell) และโซนี่ อิริคสัน (Sony Ericsson) มีแผนที่จะนำหุ่นยนต์มาใช้ทำงานแทนแรงงานเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีใช้อยู่แล้ว 10,000 ตัว ให้เพิ่มขึ้นอีก 300,000 ตัวภายในปีหน้า อีกทั้งยังจะเพิ่มให้เป็น 1 ล้านตัวภายในปี 2014 อีกต่างหาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้นายเทอร์รี่ กู่ ประธานบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า ข่าวการเพิ่มจำนวนหุ่นยนต์ที่ว่านี้เป็นเรื่องจริง โดยทางบริษัทได้มีการวางแผนงานกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยทางบริษัทมองว่า การจ้างคนงานเพิ่มจะทำให้บริษัทต้องใช้ต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากอัตราค่าแรงของคนงานในปัจจุบันมีการปรับตัวสูงขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นายเทอร์รี่ กู่ ก็ไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเพิ่มจำนวนหุ่นยนต์ในครั้งนี้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ดีเหล่านักวิเคราะห์ทั้งหลายต่างก็เชื่อกันว่า สาเหตุน่าจะเกิดมาจากปัญหาการฆ่าตัวตายของคนงานในปีที่ผ่านมาซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง โดยเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมานั้น มีจำนวนคนงานฆ่าตัวตายมากถึง 13 คน จึงทำให้สังคมมองว่า ฟ็อกซ์คอนน์ ใช้แรงงานหนักเยี่ยงทาส จนทำให้คนงานเกิดภาวะกดดันขั้นรุนแรง รวมไปถึงปัจจัยด้านผลประกอบการของบริษัท ซึ่งในปี 2010 ที่ผ่านมา มีรายได้ลดลงกว่าปี 2009 มากถึง 8 % เลยทีเดียว
ด้านนาย อลิสแตร์ ธอร์นตัน นักวิเคราะห์จากองค์กรด้านเศรษฐกิจไอเอชเอส (IHS Global Insight) ประจำกรุงปักกิ่งมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากการที่ ฟ็อกซ์คอนน์ ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิตและเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป โดยเฉพาะปัญหาคนงานที่มักจะมีเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่บานปลายเกิดขึ้นมากมาย ผิดกับใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่เห็นผลตอบแทนได้เร็วกว่า แถมยังจัดการด้านงบประมาณในการบำรุงรักษาได้ง่ายยิ่งกว่าแรงงานคนอีกด้วย
ที่มาkapook.com
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
