:: (ไม่)วุ่นนัก รักข้างบ้าน6 ::





หมายเหตุ เรท 15+

เรื่องสั้นเรื่องนี้ ไม่มีพล็อต ไม่มีไคลแม็กซ์ ไม่มีจุดหักมุม เรื่องราวจะราบเรียบ ค่อยเป็นค่อยไปกับความสัมพันธ์ของตัวละคร ผู้เขียนต้องการเขียนเป็นเรื่องสั้นโรมานซ์ ดังนั้นจึงอัดแน่นไปด้วยความหวานและโรแมนติก ใครที่แพ้เรื่องสั้นแนวนี้ อ่านแล้วไม่อิน เลี่ยน จะอ้วก ไม่แนะนำให้อ่านค่ะ







...หวั่นไหวยกกำลังสอง...





...หนึ่งวินาทีหลังจากนี้ หนึ่งนาทีหลังจากนี้ หนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ ...



เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถ้าสายฝนเคยคิดว่าตัวเองมีความหวั่นไหวและไม่แน่ใจอยู่บ้างว่าความรู้สึกขณะนั้นเป็นแบบไหนกันแน่แล้วล่ะก็ วินาทีนี้ขณะที่กำลังยืนอยู่หน้าบ้านของพี่ปราณีพร้อมๆกับปลายฝันพี่สาว พี่เขยและหลานๆ จอมป่วนสองคน ใจที่เต้น ตุ่มๆ ต่อมๆ อย่างต่อเนื่อง ราวกับมีกลองใบใหญ่ถูกตีโดยนักดนตรีซักคนอย่างบ้าคลั่ง ก็คงเป็นคำตอบที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเธอมีความหวั่นไหวมากขนาดไหน


พี่ปราณีออกมาตอนรับด้วยรอยยิ้มของคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงรัก ลีโอหรือลีโอนาร์โด ว่าที่สามีคนใหม่ของพี่ปราณีเป็นชายร่างท้วมในวัยเกือบห้าสิบ อารมณ์ดีอยู่เป็นนิดและให้ความเป็นกันเองกับทุกคน ทักทายกันเรียบร้อย แขกในค่ำคืนนี้มีไม่มากมายนัก ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนคนไทย และคนที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว มีแปลกหน้าอยู่บ้าง ก็สองสามคนเท่านั้น


ปราณีพาทุกคนเข้าบ้าน บ้านของปราณีนั้นเป็นบ้านเดี่ยว ไม่ใช่บ้านกึ่งอพาร์ทเมนต์อย่างที่พบเห็นทั่วไปในแถบเมืองนี้ และหลังใหญ่กว่าบ้านของพี่สาวสายฝนถึงเกือบสามเท่าตัว บริเวณรอบบ้านเป็นสวนไม้ดอกสวยงาม ส่วนหลังบ้านถัดออกไป เป็นสวนหญ้าเขียวขจีไปหมด ทอดยาวไปมีสระน้ำเล็กๆน่าเล่น แต่อากาศในค่ำคืนนี้ยังคงหนาวเหน็บเข้าไปถึงทรวงใน ดังนั้นพี่ปราณีจึงเลือกทานอาหารกันในส่วนของห้องโถงแทน และมีการย่างบาร์บีคิวกันด้านนอกระเบียงกว้างขวางซึ่งห่างกันเพียงประตูกระจกแบบเลื่อนใบใหญ่กั้น เพื่อป้องกันกลิ่นควันในบ้าน


สายฝนทักทายเพื่อนใหม่อย่างพร่าเลือนราวกับตัวเองตกอยู่ในห้วงฝัน เหมือนไม่ใช่ความจริง กล่องของหวานทีรามิสุในมือถูกดึงออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่แน่ใจ มารู้ตัวอีกที ตัวเองก็กำลังนั่งอยู่เก้าอี้ตัวหนึ่งที่ริมระเบียงด้านนอก พร้อมเสื้อแขนยาวตัวหนึ่ง ไม่หนา ไม่บาง แต่ก็ไม่หนาวเกินไป เพราะนั่งอยู่ไม่ห่างจากเตาย่างบาร์บิคิวมากนัก ลีโอและพี่ปราณีกำลังยืนย่างเนื้ออยู่กับเพื่อนสองคน คุยกันเสียงดัง เฮฮา สนุกสนาน มีใครบางคนหยิบเครื่องดื่มมาส่งให้ถึงมือ สายฝนก็นั่งจิบไป พร้อมกับยิ้มให้ปราณีที่บ่อยครั้งหล่อนหันมายิ้มให้และถามไถ่แขกภ้วนทั่ว ว่าเป็นอย่างไร โอเคไหม


...ปากตอบไปว่าโอเค...แต่หญิงสาวรู้ดีว่ามันไม่โอเคหรอก...


ตั้งแต่บ่ายวันอาทิตย์มาแล้ว ที่สายฝนค่อนข้างรู้สึกแปลกๆ บางครั้ง ...ความเสี่ยง...มันก็น่ากลัวเกินไปซักหน่อยสำหรับการเรียนรู้ความรักครั้งแรก โดยเฉพาะเรื่องที่ค่อนข้างลึกลับซับซ้อนมากไปกว่าความรักแบบป๊อบปี้เลิฟในอดีต เลิฟซีนบทนั้นเริ่มต้นที่โต๊ะอาหารด้วยความอยากรู้และอยากลองของเธอและความคึกคะนองของเขา ก่อนจะไปจบลงที่เตียงในห้องนอนของสายฝนเอง


เวลาอ่านนิยายโรมานซ์ซักเรื่อง บทรักมักเริ่มต้นด้วยความชอบ และมันควรจะจบลงด้วยอิ่มเอมเสมอ เธอยอมรับแต่โดยดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบ่ายวันนั้นกับคริส มอบความรู้สึกแสนพิเศษให้ เป็นความรู้สึกมหัศจรรย์ที่ชีวิตในวัยสาวไม่เคยได้พบเจอ นอกจากในนิยายโรมานซ์และจินตนาการอันเพริศฝันของตัวเอง


...สิ่งที่ได้รับจากคริส มันดียิ่งกว่าที่เคยฝันถึง...


แต่สิ่งที่สะดุดและทำให้สายฝนอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ก็คือเมื่อตอนที่เธอพลิกตัวออกเพื่อเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ กลับออกมาอีกที เห็นคริสกำลังนั่งหน้าเครียดอยู่ริมขอบเตียงด้วยเสื้อผ้าที่ใส่เรียบร้อย ราวกับเตรียมตัวพร้อมจะกระโจนหนีในทุกนาทีที่มีโอกาส

...เกิดอะไรขึ้น? ...ในใจของหญิงสาวมีคำถามและรู้สึกราวกับถูกปิดประตูใส่หน้าปังใหญ่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเขา


ดูราวกับว่าชายหนุ่มต้องใช้เวลาคิดนานทีเดียว ก่อนจะเอ่ยประโยคแรกออกมาด้วยความลังเล "ผมไม่รู้ว่ามันจะเหมาะไหม คนไทยจะถือไหม...ถ้า..." เขาเกริ่นนำ "ถ้าผมจะถามอะไรซักอย่าง..."


...อะไรหรือ เขาอาจจะมีคำถามซักร้อยแปดพันเก้า แต่หญิงสาวไม่อาจเดาได้เลยว่า คำถามแรกหลังมีเซ็กส์กับผู้ชายซักคน จะเป็นคำถามแบบไหน แต่ก็ไม่มีทางที่สายฝนจะทำท่าหวั่นไหวให้เห็น หญิงสาวพยักหน้าอนุญาติ..."ว่ามาสิ"


"ผมเป็นคนแรกของคุณหรือเปล่า"


...ตึ้ง...ง...

ในบรรดาคำถามทั้งหมดที่รอฟัง สายฝนสาบานได้ว่า คำถามนี้ไม่ได้อยู่ในหัวหรือความคาดหวังในการรอฟังเลย ทำไมเขาถึงถามแบบนั้น เขารู้หรือ? รู้ได้อย่างไร หรือการมีอะไรกับเธอ มันให้ความรู้สึกแย่ ไร้ประสบการณ์จนเขาจับได้ ...ไม่นะ ...


คำว่าเวอร์จิ้น สาวบริสุทธิ์...สำหรับคนไทย ผู้ชายไทย คนแรก...อาจเป็นอะไรที่น่าภาคภูมิใจหรืออย่างน้อยก็น่าภาคภูมิใจอยู่ลึกๆ แต่กับผู้ชายตรงหน้า เขาเป็นลูกครึ่งฝรั่ง มันคงน่าขำน่าดู ถ้าเขาจะรู้ว่าเขาเป็นคนแรกของเธอ ผู้หญิงในวัยยี่สิบหกปี ...สายฝนรีบส่ายหน้า


"ไม่...แน่นอน...แน่นอนว่า...ไม่" ยืนยันเสียงหนัก ก่อนจะยึดเสื้อคลุมให้กระชับตัวยิ่งขึ้น ราวกับจะใช้มันเพื่อปกป้องความอ่อนไหวของตัวเอง และพยายามแกล้งยิ้มอย่างมีอารมณ์ขันเฝื่อนๆ เอ่ยกึ่งแซวแกมประชดทีเล่นทีจริง "แหม...นั่นเป็นคำถามที่ค่อนข้างห่วยมากนะ สำหรับคู่นอนที่เพิ่งลงจากเตียงได้ไม่ถึงสิบนาที"


คริสไม่พูดอะไร นอกจากใช้สายตาคมๆนั้น ตรึงหญิงสาวไว้ จนสายฝนไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ เลยเดินเฉออกไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแทน หยิบหวีขึ้นมาสางผม แต่โฟกัสสายตายังคงเป็นคนตัวสูงซึ่งลุกเดินมายืนซ้อนอยู่เบื้องหลัง ผมยาวเปียกพันกันยุ่งเหยิง จนหญิงสาวต้องกระตุกอย่างแรงอย่างคนร้อนใจ รู้สึกไม่ชอบสายตาของเขาที่จ้องมองราวกับจะจับผิด


คริสดึงหวีออกไปจากมือเธอ อีกมือหนึ่งของเขาเอื้อมมากำปลายผมปอยหนึ่งของเธอไว้ กระตุก...เสียงเขากระซิบเบาๆ แต่เข้มข้นร้อนแรงอย่างกล่าวหา "คนโกหก"


สายฝนกระชากปอยผมตัวเองออกมาจากมือเขา ก่อนจะหันหน้ากลับมา สายตาหวานสบสู้สายตาคมอย่างไม่ยอมแพ้ ยังไง เธอก็ไม่มีทางยอมให้เขารู้หรอกว่าเธอไม่ประสีประสาเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ และถ้าเขารู้ เด็กคนนี้คงมองเธอ อย่างสมเพชเวทนาเป็นแน่แท้ และเธอก็จะตกเป็นรองในความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้น


"ฉันไม่ได้โกหก และฉันยังสงสัยว่าเธอถามฉันด้วยความถามอย่างนั้นได้อย่างไร ทำไมหรือ ..." หายใจอย่างแรง ก่อนจะพยายามห้ามความอายของตัวเอง กระแทกคำถามที่อยากรู้ออกไปพร้อมๆ กับผลักอกเขาอย่างแรง


"ทำไม...มีเซ็กส์กับสาวแก่มันแย่ใช่ไหม มันจืดชืดใช่ไหม เธอถึงต้องมีคำถามหยาบคายอย่างนี้มาทำให้ฉันโกรธ หรือเธอต้องการให้ฉันยกเลิกข้อตกลงที่จะคบกันของเรา"


คริสคว้าข้อมือสายฝนไว้ "แย่เหรอ...จืดชืดเหรอ...ให้ตายเถอะ" เขาสบถอย่างหัวเสีย "คุณทำให้ผมรู้สึกอยากจะบ้าอยู่แล้ว สายฝน...แน่นอนที่ผมถามผมย่อมมีเหตุผล และเพราะผมอยากเปลี่ยนข้อตกลงระหว่างเรา เพราะว่า...ผมรู้ว่าผมเป็นคนแรกของคุณ...และคุณห้าม..."


เขาพูดยังไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ สายฝนก็สะบัดข้อมืออย่างแรงแต่ก็ไม่หลุดจากการเกาะกุมของอุ้งมือใหญ่ เขาอยากเปลี่ยนข้อตกลงยังไม่เท่าไหร่...แต่เขารู้...


...ถ้าคำถามแรกของเขาเป็นการผิดประตูใส่หน้าเธอ ประโยคนี้คงเป็นเหมือนการที่เขาเปิดประตูออกแล้วปิดกระแทกซ้ำสอง...


เงยหน้าขึ้นมองเขาชัดๆ "เธอรู้"

"อืม.." เขาพยักหน้าและชี้ไปที่เตียง สายฝนเพิ่งสังเกตุเห็นจุดแดงๆ บนผ้าปูที่นอน หน้าที่แดงอยู่แล้วด้วยความไม่พอใจเมื่อครู่ กลายเป็นแดงก่ำขึ้นไปอีก ด้วยความอับอายจนพูดไม่ออก


"..เอ่อ...อ่า..." อ้ำอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะ "อ๋อ...แบบนี้นี่เอง แบบนี้ใช่ไหม ก็เพราะเธอรู้แบบนี้ใช่ไหม เธอรู้ว่าเธอเป็นคนแรกของฉัน เธอก็เลยรู้สึกเหมือนติดกับ เธอเลย..."


"นี่คุณ..คุณคิดบ้าอะไรของคุณ" คริสถามอย่างไม่เข้าใจ แต่สายฝนไม่นำพา

"ก็ได้ ก็ดีเหมือนกัน ฉันก็ไม่อยากคบกับเด็กอย่างเธอหรอก ปัญญาอ่อน เหมือนที่ฉันเคยบอกไง ก็แค่อยากเล่นๆ เท่านั้น...ไม่คิดจะจริงจังอะไร ถึงตอนนี้ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม....อุ๊ย.."

สิ่งที่คิดจะพูด ไม่ว่าจะพูดตามความรู้สึกหรือเพื่อประชดชัน แต่ยังไม่ทันได้หลุดมันออกมาทั้งหมด ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเขาปล่อยข้อมือเธออย่างกระทันหัน และใช้สองมือแกร่งยกตัวเธอขึ้นนั่งบนโต๊ะเครื่องแป้งราวกับร่างกายของหญิงสาวไร้น้ำหนักอย่างสิ้นเชิง


"เด็กเหรอ.." เขาพูดด้วยอารมณ์กรุ่นๆ "งั้นเด็กอย่างผมนี่แหล่ะ จะสั่งสอนผู้ใหญ่ที่ชอบคิดเองเออเองโดยที่ยังฟังอะไรไม่จบ แล้วก็ชอบดูถูกสติปัญญาของคนอื่น" ว่าจบเขาก็ประกบปากลงมาอย่างเร็วจนสายฝนหลบไม่ทัน ขัดขืนแต่ก็สู้แรงของเด็กวัยรุ่นที่พละกำลังร้อนแรงไม่ได้


หรือบางที อาจเป็นตัวเธอเอง ที่ไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืน เพราะรสจูบของเขาที่มอบให้ มันทำให้การไหลเวียนในหลอดเลือดของเธอทำหน้าที่ผิดที่ผิดทางไปเสียหมด จูบรุนแรงนั้นหลอมเหลวไขกระดูกในตัวจนอ่อนระทวยในอ้อมแขนของเขา อยากรับรู้เพียงความอื้ออึงในสมอง และสัมผัสสายลมแผ่วๆ ที่ทั้งร้อนทั้งหนาวจนหาคำมาบรรยายความรู้สึกไม่ถูก


สิ่งเดียวที่พร่าพรายรรับรู้ คือสุภาษิตประโยคหนึ่งซึ่งเคยร่ำเรียนมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย กระหวัดเข้ามาในหัว ...เล่นกับหมา หมาเลียปาก...ใช่ไหม


...เล่นกับหมา หมาเลียปาก เล่นกับเด็ก เด็กจูบปาก...

...ริจะเล่นเกมส์กับเด็ก เด็กมันเลยย้อนรอยเสียนี่...









"อุ๊ย..ย.." อุทานอย่างตกใจ เมื่อไวท์แดงแก้วใหม่ถูกส่งมาตรงหน้า จากใครบางคน ผู้ชายตัวสูงใหญ่ ผมสีน้ำตาลอ่อน อ่อนมากจนแทบจะเป็นสีทรายยามต้องแสงแดดจ้า แต่ความเจิดจ้าของแสงแดด ก็คงสู้ไม่ได้กับประกายตาสีทองและรอยยิ้มเต็มสีหน้าที่ส่งมาให้ พร้อมๆ กับภาษาหนึ่งอันเป็นภาษาสากลของโลก ทำให้สายฝนไม่ต้องใช้ความพยายามในการทำความเข้าใจมากนัก เพราะภาษาอิตาลีของตนนั้นจำกัดเหลือเกิน

"คุณจำผมได้ไหม" เขาถาม หญิงสาวพยายามยิ้มรับและนึกทบทวนไปในตัว แต่ว่าท่ามกลางหน้าของผู้คนร้อยพันที่วิ่งผ่านเข้ามาในความทรงจำอย่างรวดเร็ว หญิงสาวกลับมองเห็นแต่หน้าผู้ชายที่ชื่อคริส เพียงคนเดียว...โอ๊ะ...แย่จัง

ยิ้มอย่างขออภัย "เอ่อ ขอโทษจริงๆ นะคะ ถ้าไม่รังเกียจ ช่วยบอกชื่อคุณอีกครั้งได้ไหมคะ คือว่าความจำของฉันสั้นเสมอเลยค่ะ "

"ผมฟรานเชสโก้ครับ" เขายื่นมือมาสายฝนจับมือทักทายอีกครั้ง

"สายฝนค่ะ ...อ๋อ คุณนั่นเอง คุณเป็นหลานชายของลีโอใช่ไหมคะ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งค่ะ"


ด้วยอัฐยาศัยที่ดี เป็นมิตรของเพื่อนใหม่ ก็ทำให้การสนทนาเป็นไปได้อย่างราบรื่น เด็กๆ หลายคนวิ่งวุ่นอยู่ด้านใน ส่วนปลายฝันพี่สาวก็วุ่นวายกับการพูดคุยกับเพื่อนๆ ปราณีเดินเฉียดผ่านมา พร้อมกับวางอาหารไทยสำหรับทานเล่นอย่างปอเปี๊ยะสดทอด ที่หั่นชิ้นเล็กอย่างสวยงามลงตรงโต๊ะตัวเล็กตรงหน้า

"ทานเล่นรองท้องไปก่อนเลยนะจ๊ะฝน" ก่อนจะหันไปบอกอีกคนที่ยืนพิงระเบียงอยู่ "ฟานเชสโก้ ดูแลเพื่อนฉันดีๆ นะคะ"

"ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ เอ...ว่าแต่ว่า แล้วนายคริสไปไหนครับนี่ ผมมาตั้งนานแล้ว ยังไม่เห็นเลย"


ปราณีหันมาตอบด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรัก แต่ก็ระอาใจอยู่ในที " ก็เพิ่งกลับมาจากข้างนอกเมื่อซักพักนี้เอง เหมือนเดิม ไม่รู้จะชกต่อยกับใครมาอีก ฉันล่ะเหนื่อยใจจริงๆ มีเรื่องให้ปวดหัวได้ตลอดเวลา ถ้าเขาน่ารักได้ซักครึ่งของเธอก็คงดี"

ว่าแล้วหันมากระซิบข้างหูสายฝนเป็นภาษาไทยเบาๆ แกมหยอก "ฝนจ๊ะ คนนี้ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งนิสัยดี อย่าให้หลุดมือไปเชียวนะ" แล้วก็เดินลอยชายจากไป


...ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งนิสัยดี...ดูเหมือนว่าประโยคนี้จะไม่ได้เข้าไปถึงหูของหญิงสาว เพราะมัวแต่ไปจดจ่ออยู่กับประโยคแรกที่ว่า ... ไม่รู้จะชกต่อยกับใครมาอีก ...

...ตายจริง เขาเป็นอะไรมากหรือเปล่านะ?...


"หนาวหรือเปล่าครับสายฝน" ฟรานเชสโก้ถาม เมื่อเห็นหญิงสาววางแก้วไวท์และยกมือขึ้นลูบแขนตัวเอง " เข้าไปด้านในกันดีไหมครับ"

...ไม่หรอก ไม่ได้หนาวหรอก...สายฝนคิด แต่ทำไมนะ เพียงแค่รู้ว่าคริสอาจจะไม่สบาย จะเจ็บเพียงเล็กน้อย เธอถึงได้หนาวข้างในและรู้สึกหัวใจกระตุกแบบนี้

...เกมส์ความเสี่ยงของความรัก ...เพียงแค่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เธอก็เตรียมจะแพ้ตั้งแต่ยกแรกแล้วหรือ ความเจ็บปวดทางร่างกายของเขา มีอิทธิพลกับหัวใจเธอถึงขนาดนี้ได้อย่างไรภายในเวลาเพียงชั่วไม่กี่คืน

"ฉันก็คิดว่าดีเหมือนกัน" ว่าแล้วขณะที่สายฝนลุกขึ้นยืน กำลังคิดว่าจะเดินเข้าไปด้านใน แต่ด้วยปลายหางตาที่เงยขึ้นพอดีและมองไปด้านใน เหมือนถูกตรึงไปชั่วขณะเพราะประตูเลื่อนฝั่งตรงข้ามมีใครบางคนยืนอยู่ ใครบางคนที่วิ่งวนอยู่ในหัวของเธอตั้งแต่บ่ายวันอาทิตย์ และยังไม่มีทีท่าว่าจะหายไปไหน


ร่างสูงของคริสยืนอยู่ตรงนั้นในชุดกางเกงสีดำสนิทและเสื้อสเวตเตอร์คอเต่าสีเดียวกัน ผมยาวละต้นคอเปียกชื้นถูกหวีและเสยไปด้านหลังทั้งหมด เปิดเผยใบหน้าคมสัน เขาดูแปลกไปจากเดิม ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นไปอีกด้วยใบหน้าเรียบสนิท ไม่มีรอยยิ้มแต่งแต้ม มองเผินๆ คล้ายๆ มัจจุราชที่โผล่มาอย่างไม่ได้รับเชิญ เพื่อมารับเอาวิญญาณของใครซักคนในงานนี้ลงไปสู่นรก


คงเป็นการเปรียบเปรยที่ออกจะน่าขันไปซักนิด แต่หญิงสาวก็อดคิดไม่ได้ ว่าถ้าเขาเป็นมัจจุราชจริงๆ เธอนี่แหล่ะจะเป็นคนแรกที่ยอมตายเพื่อจะได้เจอมัจจุราชตนนั้น

ขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้ขึ้น และกำลังเปิดบานเลื่อนประตูออกมาสู่ระเบียง เขากลับดูน่ารักและลดความน่าเกรงขามไปได้มากทีเดียว กับพลาสเตอร์สีขาวที่แปะอยู่ปลายหางคิ้ว และที่ต้นคอข้างๆ กรามแข็งแรง เถื่อน

...เหมือนอันธพาลไม่มีผิด...

สายฝนรีบกระพริบตา ขับไล่คริสออกไปจากโฟกัสสายตา หันมาทางฟรานเชสโก้... "เอ่อ...ฉันคิดว่านั่งอยู่ตรงนี้อีกซักนิดก็ดีนะคะ ไม่หนาวเท่าไหร่หรอก"


...ก็เขามาอยู่ตรงนี้แล้ว ฉันจะไปที่ไหนได้...จริงไหม?...


กระซิบถาม Angel และ Devil ในใจตน แล้วค่อยๆ หย่อนตัวลงอีกครั้งอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้ฟรานเชสโก้และคนหลายคนที่อยู่ริมระเบียงนั้นผิดสังเกตุ







เมื่อกี้นี้เธอตาฝาดไปหรือเปล่านะ ที่เห็นใบหน้าของเขานิ่งสนิทเหมือนโกรธใครซักคนมาสักร้อยชาติ เพราะเมื่อบานประตูเลื่อนเปิดออก คริสก็เปิดยิ้มออกมาทันทีราวกับเป็นคนละคนกัน แต่เขาไม่ได้ยิ้มให้เธอ รอยยิ้มของเขาส่งไปให้ชายหนุ่มข้างที่ยืนอยู่ข้างก้าวอี้ของเธอเสียมากกว่า

"เฮ้...ฟราน เป็นไง" ทักทายอย่างคุ้นเคย พอๆ กับกริยาที่ยกแขนขึ้นต่อยไหล่ฟรานเชสโก้เบาๆ เป็นเชิงทักทาย

"ก็เรื่อยๆ สบายดี นายล่ะ" ฟรานเชสโก้คุยตอบโต้อย่างไม่มีฟอร์ม ไม่มีการถือตัวว่าใครแก่กว่ากว่าใคร เขาสองคนคุยกันอย่างเพื่อนสนิทกันมากกว่า ทั้งๆ ที่ ถ้ากะด้วยสายตา ฟรานเชสโก้นั้นต้องอายุเท่าเธอหรือไม่น้อยกว่าอย่างแน่นอน


ในช่วงเวลาที่คริสเดินมายืนข้างๆ แทรกตรงกลางระหว่างสายฝนกับฟรานเชสโก้และทักทายถามไถ่พูดคุยกันนั้น จังหวะที่ไม่มีใครสังเกตุเห็น ของบางอย่างในมือข้างหนึ่งของคริสก็หล่นลงมาบนตักของสายฝนอย่างแนบเนียนและเป็นธรรมชาติที่สุด หญิงสาวตกใจรีบเหลือบตามองไปรอบๆ ตัว ไม่มีใครสนใจมองหญิงสาวเลย โดยเฉพาะปราณีที่กำลังง่วนอยู่กับคีบบาร์บิคิวใส่จานของเพื่อนบ้านอีกคน

สายฝนถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วจึงก้มลงมองตักตัวเอง สิ่งที่เขาหย่อนลงบนตักของเธอก็คือผ้าพันคอผืนเล็กลายสีเขียว ผืนเดียวกับที่เขาดึงออกไปจากคอของเธอในเช้าวันหนึ่งที่ป้ายรถบัสนั่นเอง

ชายหนุ่มเหลือบตามองหญิงสาวเพียงแว๊บเดียว คิ้วข้างซ้ายเลิกขึ้นเป็นคำถาม ที่สายฝนแปลได้ว่า ...หนาวไม่ใช่เหรอ?...

เขายังมีแก่ใจคิดถึง กลัวว่าเธอจะหนาวเลยเอาผ้าพันคอมาให้ แต่สิ่งที่อยู่ในห่อผ้าพันคอนี่สิ ทำเอาสายฝนแทบจะยิ้มแก้มปริ ดอกไม้เล็กๆ ขนาดใหญ่กว่าหัวแม่มือนิดเดียว สี่ห้าดอก กองอยู่ในนั้น...

...Oh..h..h...So Sweet...













Create Date : 08 มิถุนายน 2553
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 16:32:41 น. 5 comments
Counter : 1333 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์จ๊ะแจง...
เราขอเซฟก่อนค่อยย้อนมาอ่านอีกทีนะ ยิ่งจั่วหัวว่าเรท 15+ ยิ่งต้องรีบเซฟค่ะ 555..


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:7:26:52 น.  

 
คุณแจงค่ะ

รายละเอียดของการประกวดเรื่องสั้นขนาดยาวจากเพลงค่ะ

//www.phiilipda.com/forwriter/index.php?topic=2646.0

รายการนี้เริ่มแล้วค่ะ เดี๋ยวครั้งหน้า ตูนจะมาแจ้งข่าวสารแต่เนิ่นๆ


ปล.ตอนนี้กำลังชั้งใจที่จะซื้อหนังสือนิยายหมาป่าค่ะ แต่ราคาแพงเหลือเกิน



โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:8:47:11 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับน้องแจง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:15:57:49 น.  

 
กลิ้งมานอนอ่าน .. แบบเคลิ้มมมมม ไปเลย ^^
ผู้ชาย ผ้าพันคอ ดอกไม้ .. รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่ทำให้ผู้ชายดูอ่อนโยนไปเลยนะ

แอบกระซิบว่าเราชอบเรื่องนี้ของแจงจัง
อ่านไปยิ้มไป จนอดนึกไม่ได้ว่าตอนแจงเขียนจะยิ้มบ้างไหมหนอ

ปล. มีแอบถอนใจอยู่นิดนึงตอนบทพระเอกยกนางเอกปลิวแบบนุ่นนี่ อ่านแล้ว .. งึย ๆ เป็นนางเอกไม่ได้ก็ตรงเนี๊ยะ หนักซ้า พระเอกหลังยอกแน่ 5555


โดย: Paulo วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:21:22:42 น.  

 
แจงมาไทยเมื่อไหร่พาน้องจาด้าเที่ยวตลาดน้ำเลยจ้า ส้มว่าน้องน่าจะชอบนะคะ

รูปชัดเพราะอาศัย PS ด้วยจ้า แอบบอกความลับอย่างนึงว่าฝีมือส้มน่ะไม่ค่อยเอาอ่าวเลย จริงๆ นะ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:22:03:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nikanda
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ลายปากกา









New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
8 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nikanda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.