:: (ไม่)วุ่นนัก รักข้างบ้าน17 ::




ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผู้เขียนได้นำเอานิยายเรื่องนี้มารีไรท์ใหม่ มีการเพิ่มเติมตัวละคร รายละเอียดและตัดบางส่วนออกนิดหน่อย ทำให้ได้นิยายเพิ่มมาอีกหนึ่งตอน ตอนนี้จึงเป็นตอนที่ 17 แทน แต่ไม่ได้นำส่วนที่รีไรท์มาลงใหม่ เพราะว่าไม่ว่างพอที่จะทำทั้งหมด

จึงขอเรียนมาเพื่อทราบ เนื่องด้วยนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักเบาๆ ไม่ความซับซ้อนใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นแม้อ่านต่อจากตอนที่แล้ว และอ่านตอนนี้ต่อไปเลยก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะส่วนที่แก้ในบางจุด ไม่มีผลใดๆ ต่อโครงเรื่องเลย





...อยากหวั่นไหว...แต่หัวใจไม่ยินยอม...






เย็นวันอาทิตย์ฟรานเชสโก้มารับสายฝนออกไปข้างนอก เพราะว่าในค่ำคืนนี้จะมีการเดินขบวนในเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองหรือเรียกอีกอย่างว่าวันกู๊ดฟรายเดย์ เพื่อเป็นการสรรเสริญการฟื้นจากความตายของพระเยซูหลังจากตายไปแล้วสามวันตามความเชื่อของเหล่าชาวคริสต์ทั้งหลาย ซึ่งจัดขึ้น ณ นครรัฐวาติกัน

แม้เมืองนั้นจะไม่ใช่เมืองเดียวกันกับที่สายฝนอาศัยอยู่ แต่ก็เป็นข้ออ้างอย่างดีของฟรานเชสโก้ เขาโผล่มาที่หน้าบ้านของสายฝนพร้อมรอยยิ้มนุ่มนวล และคำชวนอ่อนโยน

...ไม่เห็นเป็นไรเลย พวกเขาฉลองกันที่โน่น เราก็ฉลองกันที่นี่ก็ได้...

สายฝนยิ้มรับแล้วส่ายหน้า "ฟราน..คุณนี่จริงๆ เลย ก็ได้ค่ะ แต่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ฉันยังยืนยันว่าฉันยังไม่พร้อม เพราะฉะนั้นห้ามชวนออกไปทานข้าวบ่อยนัก เดี๋ยวฉันก็เหลิงได้ใจกันพอดี"

"ก็ได้ครับ แต่ผมอยากให้คุณเหลิงนะ เห็นหลายวันมานี้คุณดูเหมือนไม่ค่อยสบายใจ มีอะไรทำให้เครียดหรือเปล่า มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ไหม" ชายหนุ่มถาม หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้า

...ไม่มีใครช่วยได้หรอก...

"เปล่านี่คะ.."

..นี่ ความรู้สึกห่อเหี่ยวของเธอ ฉายชัดถึงเพียงนั้นเลยเหรอ...


ก่อนที่จะขึ้นรถ ฟรานเชสโก้พาไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร้านแห่งนั้นคือ IL Mare Ristorante นั่นเอง ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องเป็นที่นี่ สายฝนก็คงไม่มีคำตอบที่ดีให้เหมือนกัน รู้เพียงแต่ว่าตอนที่ชายหนุ่มถามว่า อยากทานอะไร ที่ไหนดี คำตอบก็หลุดออกไปโดยที่ไม่ทันคิดก่อนด้วยซ้ำ

อาหารมื้อนั้นยังหน้าตาดีน่าทานเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าเพราะคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่คนๆ นั้นกระมัง คนที่เคยใช้มุกชวนไปทานอาหารเป็นการขอบคุณที่หญิงสาวเก็บมือถือไว้ให้เขา

...อาหารมื้อแรกของสายฝนและคริส...

อาหารหน้าตาสวยงามที่สายฝนเคยโปรดปราน รสชาติผ่านปลายลิ้นเข้าไปในมือนี้ จึงเป็นอาหารที่รสชาติงั้นๆ มิได้อร่อยมากมายดั่งเคย หรืออาจเป็นข่าวๆ นั้นก็ได้ ภาพยังติดตาอยู่ ภาพของคริสกับผู้หญิงคนอื่น คริสเป็นอะไรกับผู้หญิงคนนั้น เหตุใดจึงต้องโอบกอดราวกับห่วงใยกันหนักหนา

...คำถามที่ไม่มีคำตอบ...

"ดอกไม้ซักดอกไหมครับ"

เสียงถามดังแทรกขึ้นมา ท่ามกลางบทเพลงแห่งความรักที่ถูกเปิดคลอเบาๆ ในร้านอาหาร ทำให้สายฝนเงยหน้าขึ้นมอง ไม่แปลกใจเลยซักนิด เพราะในเมืองแถบนี้เท่าที่เคยเห็น มักมีชาวต่างชาติ อย่างชาวอาหรับหรือแอฟริกันมาอาศัยอยู่ โดยทำงานแบกของเร่ขายไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ไม่เว้นแม้แต่ดอกไม้งามๆ ในยามค่ำคืน ที่ร้านอาหารบางร้านยอมให้เดินเข้ามาขายด้านใน จะด้วยสงสารหรืออะไรก็แล้วแต่

ดอกไม้ถูกยื่นมาตรงหน้า หญิงสาวมองเห็นร่องรอยเหี่ยวเฉาของมัน

...น่าสงสาร มันเหมือนกับหัวใจของเธอยามนี้ใช่หรือเปล่า เหี่ยวเฉาเหลือเกิน...

"เอามาทั้งหมดเลย" ฟรานเชสโก้บอกและควักเงินจ่าย พอคนขายจากไป เขาก็วางมันลงบนโต๊ะ มิได้ยื่นมาให้สายฝน อย่างที่หญิงสาวคาดการณ์ไว้

"ฟราน คุณใจดีจังนะคะ" สายฝนว่ากึ่งแซวๆ "สงสารคนขายล่ะสิ"

"ใครว่า..."ฟรานเชสโก้ปฏิเสธด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก "ผมซื้อให้คุณต่างหาก"

สายฝนเลื่อนมือไปหยิบกุหลาบกำนั้นขึ้นมา หวังสูดดมกลิ่นหอมหวลบนกลีบดอก ได้ยินเสียงเขาบอกข้ามโต๊ะมาเบาๆ ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

"ลืมคริสซะเถอะ"

ดอกไม้ร่วงลงไปจากมือ กระจายลงบนหน้าตักก่อนหล่นลงสู่พื้นทั้งกำ สายฝนเงยหน้าขึ้นมองฟรานเชสโก้ด้วยสายตาที่ราวกับกำลังมองสิ่งแปลกประหลาด ราวกับว่าไม่เคยเห็นเขามาก่อน

"..เอ่อ...คุณว่าอะไรนะ...คะ..."

ฟรานเชสโก้เพียงแต่สบตากับสายฝนนิ่ง ไม่มีรอยยิ้มประดับที่ริมฝีปากอย่างเคย

"..คุณ..รู้..."

น้ำเสียงเขาเรียบสนิท "ผมไม่รู้ว่าระหว่างคุณกับนายคริสเป็นอย่างไร แค่ไหน ... แต่เท่าที่ผมรู้และจะบอกได้ก็คือ คุณสองคนไปกันไม่ได้หรอก"

"ฉัน...ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่"

หญิงสาวปฏิเสธในลำคอ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วย่อเข่าลงก้มเก็บดอกไม้ที่หล่นกระจายอยู่บนพื้นหินอ่อน

อะไรกันนี่ ที่ผ่านมา ผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้น เขารู้ทุกอย่างหรือ เขารู้ แต่เขาก็ยังคงยืนอยู่ข้างเธอมาตลอด โดยไม่มีการพูดถึงหรือแสดงความสงสัยๆ ใดเลย

...เขากำลังทำอะไร เขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่?...

มือสั่นน้อยๆ ขณะกำดอกไม้แน่นอยู่ในมือ และสายฝนต้องนิ่งงั้นไปเมื่อมือถูกทาบทับด้วยฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่ม ที่ไม่รู้ว่าเขานั่งชันเข่าแล้วก้มลงช่วยเก็บดอกไม้ข้างเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที ก็ตอนที่เขากระซิบบอกข้างหู

"ระวังหนามกุหลาบจะทิ่มนิ้วนะครับ เดี๋ยวก็ได้เลือดหรอก"

สายฝนเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาสีอ่อนทอทอดอยู่ไม่ไกล แววตาที่หวานล้ำจนทำให้ใครซักคนอยากหวั่นไหว แต่หัวใจลึกๆ ของหญิงสาวกลับไม่ยินยอม ...เขาอยู่ใกล้มาก ใกล้ ใกล้จนแทบชิด หัวเข่าของเขาเกือบติดหัวเข่าของเธอ แล้วหน้าเขาก็อยู่ไม่ห่างเลย อุปทานไปเองหรือเปล่าว่าเขากำลังจะก้มลงมา...จุม...พิต...

...ไม่นะ...

หญิงสาวอุทานในใจแล้วเบี่ยงหน้าหลบทันที จมูกโด่งคมสันนั้นจึงทำได้เพียงเฉียดๆ ไปบนแก้มนวลเท่านั้น จังหวะนั้นเองที่ไม่ใครสนใจรอบข้าง จึงไม่มีใครซักคนมองเห็นแสงแฟชจากกล้องสว่างวาบขึ้นมา ณ มุมหนึ่งของร้าน

สายฝนถอยออกนิดนึงแล้วลุกขึ้น มือข้างที่ว่างคว้ากระเป๋าและเสื้อคลุม แล้วหมุนตัวกลับจะเดินออกจากร้าน ทันใดนั้นก็ถูกคว้าหมับบนข้อมือ ...แน่น... นิ่ง...

"ผม...ขอโทษ" ฟรานเชสโก้เอ่ยคำนั้นออกมา เป็นเวลาเดียวกับที่สายฝนบิดข้อมือออกแล้วเดินจากไป เมื่อชายหนุ่มเช็คบิลแล้วออกมายังนอกร้าน แปลกใจเหลือเกินที่ยังเห็นสายฝนยืนพิงรถของเขาอยู่

...ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ...

สายฝนบอกเพียงเท่านั้น แล้วเปิดประตูรถเข้าไป ต่างคนก็ต่างอยู่ในความเงียบขณะที่รถวิ่งฝ่าแสงสว่างเลือนลางของถนนสายหลักของเมือง ในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผู้คนพลุกพล่าน รถราเต็มท้องถนนไปหมด

...ฟรานเชสโก้กำลังล้ำเส้น...

"ผมขอโทษอีกครั้ง ผม..." ฟรานเชสโก้เอ่ยซ้ำคำเดิม

"ไม่ค่ะ...ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก ความผิดของฉันเอง ที่ไม่แสดงจุดยืนให้ชัดเจน"

สายฝนบอกแล้วผินหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ด้านนอกแสงไฟสลัวเลือนลาง ด้วยการขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วของรถคันหรู ทำให้แสงสว่างเลือนลางนั้นวูบไปด้วยความเร็วสูง ตึกราบ้านช่องวูบวาบเป็นสีเหลือง ส้ม ละลานตา

"ไม่ใช่คุณหรอก..." ฟรานเชสโก้แย้ง "ผมเองต่างหากที่ไม่แสดงจุดยืนให้ชัดเจน"

นับแต่นั้น ก็ไม่มีใครพูดอะไรกันอีกเลย จุดยืนของแต่ละคนเป็นอย่างไร คงมีแต่คนพูดเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด







พอถึงหน้าบ้านฟรานเชสโก้ก็มาเปิดประตูให้อย่างเคยตามแบบฉบับของสุภาพบุรุษ หากแต่ครั้งนี้เมื่อสายฝนก้าวลงมาจากรถ เขากลับไม่ยอมถอยออกไปอย่างเคย มือเขายังคงจับอยู่ที่บานประตู และอีกมือหนึ่งยันหลังคารถไว้ เท่ากับกักหญิงสาวไว้ในอ้อมกอดกลายๆ

สายฝนเงยหน้ามองเขา

"ต่อไปนี้ ผมจะแสดงจุดยืนให้ชัดเจนกว่าที่เคย" เขาบอก

"เรื่องอะไรคะ?"

"ทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของคุณ ผมยังยืนยันนะ ว่าขอให้คุณจงลืมเด็กคนนั้นซะ" เขาพูดคล้ายสั่งกลายๆ พลางถอยออกมา เมื่อหญิงสาวเดินหน้าเข้ามา ราวกับเห็นเขาเป็นธาตุอากาศ

ลำตัวบอบบางอย่างสาวเอเชีย ตอนนี้แทบจะแนบสนิทกับเรือนกายสูงโปร่งของเขา ถ้าเพียงแต่เขาเอื้อมมือไปคว้าและกอดเธอไว้ เธอก็คงจะไปไหนไม่ได้ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ทำเช่นนั้น เขาไม่กล้าพอ ไม่ใช่เพราะกลัวหญิงสาวจะดิ้นรนขัดขืน ไม่ใช่เพราะกลัวคริสหรือใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่เขากลัวใจตัวเองต่างหาก ว่าถ้าเขาคว้าตัวเธอไว้ได้

...เขาคงไม่อาจห้ามใจตัวเองได้เลย...


สายฝนเม้มปากไม่พูดอะไร สายตาแน่วนิ่งมีวี่แววของความไม่พอใจ มองหน้าคนตรงหน้า เหมือนกับว่า นี่ไม่ใช่ฟรานเชสโก้ที่เธอเคยรู้จักมาก่อน เขาเปลี่ยนไป? หรือเป็นหญิงสาวเองต่างหาก ที่ไม่เคยมองเห็นตัวตนที่มั่นคง นิ่ง และจริงจังขนาดนี้ของเขามาก่อน

ตาจ้องตากันชั่วครู่ ก่อนที่ฟรานเชสโก้จะเป็นคนถอยหลังออกไปอีกก้าว สายฝนจึงเดินผ่านเขาออกมา แต่เมื่อเดินไปข้างหน้าได้เพียงสองก้าวเท่านั้นก็ต้องหันกลับมาหาเขาอีกครั้ง

...จุดยืนของเขา แล้วจุดยืนของเธอเล่า...

หญิงสาวบอก "ขอบคุณค่ะฟรานที่ตรงไปตรงมา เมื่อคุณชัดเจนอย่างนี้ ฉันก็ไม่ควรอ้อมค้อมเช่นกัน จุดยืนของฉัน ฉันยังยืนยันคำเดิม ว่าฉันยังไม่พร้อมค่ะ และฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะลืมเด็กคนนั้นด้วย"

ฟรานเชสโก้ส่งยิ้มอบอุ่นตอบกลับมา ราวกับว่าเขาค้นหาตัวตนเดิมของเขาเจอแล้ว

"วันเวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยนได้ แล้วผมจะทำให้คุณเห็นเอง ว่าคุณกับคริสน่ะ ไม่มีทางไปกันได้หรอกหรอก อายุไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไหร่หรอกนะ เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือสิ่งที่เขาเป็น คือสิ่งที่เขามีอยู่ คือสิ่งที่เขาต้องการอยากได้ และคือสิ่งที่เขาจะยอมแลกเพื่อมันต่างหาก"

เมื่อทิ้งประโยคนั้นไว้แล้ว ฟรานเชสโก้ก็กลับขึ้นรถ หักเลี้ยวกำลังจะขับออกไปช้าๆ สายฝนวิ่งตามไปเคาะหน้าต่าง เขาเลื่อนกระจกลง

"คุณหมายความว่าอย่างไร ฉันไม่เข้าใจ ...ยอมแลกอะไร"

"ไม่ต้องรีบร้อนหรอกครับฝน ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป แต่ผมว่าจากการที่คุณคุ้นเคยกับเขาในระดับนึง ผมว่าคุณก็น่าจะรู้จุดอ่อนของเขานะครับ หรือคุณจะเรียกมันว่าจุดแข็งของเขาก็ได้ เขาชอบการพนัน เขาชอบความเลี่ยงและความท้าทาย และเขากล้าได้กล้าเสีย...ถึงเขาจะเด็กไปหน่อย แต่นั่นคือสิ่งที่โดดเด่นที่ทำให้ผมชื่นชมเขาเสมอมา"

"..."

"เจอกันที่ทำงานพรุ่งนี้นะครับ แล้วเตรียมตัวไว้ด้วย อาทิตย์หน้าเราจะไปทำงานกันที่เกาะซาร์ดิเนียชั่วคราว"

ฟรานเชสโก้ไปแล้ว ขณะที่สายฝนยังยืนงง และไม่ค่อยเข้าใจอะไรทั้งหมด นี่มันเกิดอะไรขึ้น ในเวลาเพียงไม่กี่วัน มีเรื่องราวและความรู้สึกใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง

คริสที่หายเงียบไปอย่างห่างเหิน ในขณะที่ปราณีกลับพาตัวเองเข้ามาใกล้เธออย่างมาก การรับรู้ข้อมูลของพ่อคริส และภาพของคริสกับผู้หญิงคนอื่นที่ทำให้หัวใจร้อนรุ่ม

นั่นยังไม่มากพอ สุดท้ายคนๆ เดียวที่สายฝนคิดว่าเขาคือเพื่อน เขาอยู่ข้างเธอเสมออย่างฟรานเชสโก้ก็ท่าทีเปลี่ยนไป จากผู้ชายอ่อนโยน ยิ้มง่าย กลายเป็นใครซักคนที่มีแง่มุมบางอย่าง และถ้อยคำเล่านั้น ราวกับเขาพร้อมจะทำอะไรบางอย่างที่ไม่คาดคิด

...ราวกับเขากำลังจะเริ่มทำสงครามทางความรู้สึกกับเธอ...








ถ้าใครบางคนทางฝั่งโน้นกำลังหัวใจร้อนรุ่มและมึนงง ใครบางคนทางฝั่งนี้ก็หัวใจร้อนรนไม่ต่างกัน สายตาคมแน่วแน่จ้องนิ่งไปยังรูปภาพที่เพิ่งส่งเข้ามาในคอมพิวเตอร์ของเขา ในเวลาไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ รูปของชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่หนึ่งมากมายหลากหลายภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพในที่ทำงาน นอกสถานที่ทำงาน ในร้านอาหาร

โดยเฉพาะภาพสุดท้าย ภาพที่ทั้งสองคนกำลังก้มลงเก็บดอกกุหลาบที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ดูโรแมนติกน่าดู ภาพๆ นั้นแม้ไม่อาจบอกความรู้สึกของคนในภาพได้ จมูกโด่งคมสันของฟรานเชสโก้ บนแก้มนวลสีชมพูเรื่อของสายฝน ไม่ว่าจะด้วยมุมกล้องหรืออื่นใดก็ตาม

แม้ภาพถ่ายเพียงใบเดียว อาจจะไม่ครอบคลุมเรื่องราวทั้งหมด ว่าทั้งคู่กำลังทำอะไร คุยอะไรกัน แต่มันก็ทำให้จินตนาการของคนมองเห็นคิดไปไกล คำพูดประโยคหนึ่งลอยกลับมาในความทรงจำ

...แต่ฉันจะทำทุกวิถีทางให้นายเห็นว่า นายไม่เหมาะกับผู้หญิงคนนั้นหรอก ไม่ว่าจะมองทางไหนก็ตาม...

นี่ฟรานเชสโก้เอาจริงเอาจังขนาดนั้นเลยหรือ สายฝนสำคัญมากสำหรับผู้ชายคนนั้นจริงๆ หรือ เขากำลังเริ่มเกมส์แล้วใช่ไหม คริสถามตัวเอง หลังจากเห็นภาพที่เขาสั่งเพื่อนของเขาให้ตามแอบถ่ายมาเป็นระยะๆ ในช่วงหลังๆ ที่ผ่านมานี้ พร้อมๆ กับที่คริสเพิ่งรับรู้มาเมื่อประมาณซักหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าพ่อของเขายอมร่วมหุ้นโรงแรมบางส่วนในเกาะแห่งนี้กับฟรานเชสโก้

คำถามที่อยู่ในใจก็คือ พ่อเขาไปสนิทสนมกับฟรานเชสโก้ตั้งแต่เมื่อไหร่ และทำไมต้องยอมแบ่งหุ้นออกไป ในเมื่อพ่อเขาร่ำรวยมากมายโดยไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องทำอย่างนั้นเลย

และคำถามที่สำคัญกว่าคือ ..แล้วสายฝนล่ะ หญิงสาวยอมสนิทสนมกับคนอื่นมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...


บางทีสี่เดือนกว่าอาจจะเป็นเวลาที่ยาวนานเกินไป สำหรับการทดสอบหัวใจใครบางคน...ในเกมส์ของความรักครั้งนี้ คริสรู้สึกว่าอาจเป็นเขาเองที่ต้องยอมแพ้ เพราะเวลาแค่สี่เดือนที่ห่างไกลใครคนนั้น

...คนที่จะเป็นบ้าไปด้วยความคิดถึงก็คือตัวเขาเอง...

ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ามือถือเครื่องใหม่ที่แทบไม่เคยได้ใช้เลย ตั้งแต่สูญเสียเครื่องเก่าไปจากการเกิดอุบัติเหตุทางเรือเมื่อสองเกือบสามเดือนก่อน กดเบอร์ที่คุ้นเคยลงไปโดยไม่คิดและจดจำ เพราะทุกๆ หมายเลข มันสลักอยู่ในหัวใจส่วนลึกเรียบร้อยแล้ว กดโทรออก

...รอ และรอ...



เสียงมือถือดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด สายฝนซึ่งกำลังงีบหลับ สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางคันด้วยความงัวเงีย

...ใครกันโทรมา ป่านนี้แล้ว...

ควานมือไปคว้ามาจากหัวเตียง กรอกเสียงลงไปโดยไม่ได้สนใจดูหมายเลข ซึ่งเห็นผ่านๆ และไม่คุ้นตาเอาเสียเลย

"ใครน่ะ ... สายฝนพูด"


...ผมเอง คริส...

...







Create Date : 02 ธันวาคม 2553
Last Update : 2 ธันวาคม 2553 5:59:00 น. 7 comments
Counter : 975 Pageviews.

 
ไม่เอาหน่า หนักแน่น และมั่นคงหน่อย เด็กน้อย
เค้ายังรักตัวเองเหมือนเดิมนะ อิอิ


โดย: sakeena IP: 124.122.139.221 วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:10:18:15 น.  

 
ขอ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด .. ซักทีได้ไหมแจง
ลุ้นจนอกจะระเบิดอยู่แล้ว ^^


โดย: Paulo วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:18:05:46 น.  

 
อ่านไม่ไหวครับ สายตาหลังผ่าตัดยังไม่อำนวย
นี่แอบมามองๆว่าจขบ.จะอยากให้โหวตสาขาไหน
เป็นพิเศษไหมครับ

ยินดีมากเลยนะ ที่เห็นคุณแจงเข้ามาเดินถนนนักเขียน
ขนาดนี้แล้ว



โดย: nulaw.m วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:21:06:29 น.  

 
จาดาตื่นยังจ๊ะแจง วันนี้หลับสนิทเลยไม่รู้เรียนหนักหรือเล่นเยอะกันน๊า


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:23:04:38 น.  

 
กรี๊ดดด
ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย
ต่ออีกนิดก็ไม่ได้


โดย: ปันฝัน วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:14:05:48 น.  

 
ตามมาจากห้องสมุดคะ นึกว่าหายไปไหน ตามหากันข้ามปีเลยในที่สุดก็เจอ สวัสดีปีใหม่คะ ยังน่าติดตามเหมือนเดิมคะ


โดย: naikinya IP: 115.67.81.7 วันที่: 2 มกราคม 2554 เวลา:23:21:19 น.  

 
ถึงเวลาจะผ่านไปแต่เค้าก็ยังรักตัวเองเหมือนเดิมนะ


โดย: sakeena IP: 124.122.66.25 วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:15:01:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nikanda
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ลายปากกา









New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
2 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nikanda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.