:: เ จ็ บ นั ก ที่ รั ก เ ธ อ ::
๑. ระหว่างเรา คืออะไรกันแน่ ช่วยบอกกัน ก่อนที่จะย่ำแย่ไปกว่านี้ เหมือนเดิมหรือเปลี่ยนไป ก็เอ่ยมาซักที ปากบอกว่ารัก แต่เฉยเมยแบบนี้ หมายความว่าอย่างไร
๒. มาทำครึ่งๆ กลางๆ ค้างคา อยากเอ่ยคำร่ำลา แต่ไม่กล้าใช่ไหม ถ้าอยากเอ่ย ก็เอ่ยมาเถอะ อย่าลังเลใจ ฉันยอมรับฟังได้ แม้หวั่นไหวอย่างไรก็ตาม
๓. คิดอะไรในใจ บอกให้ฉันรู้ เธอจะไปหรือจะอยู่ อย่าให้ฉันต้องทวงถาม และไม่ว่าเธอ เลือกจะอยู่ หรือจะเดินจากไปก็ตาม คนที่ต้องเสียใจ ทรมาน ก็ต้องเป็นฉันอยู่ดี
๔. เราจบกันแค่นี้ดีกว่า... หากความรักที่มี ย้อนกลับมา ทำร้ายฉัน ทุ่มเท ทุ่มไป เท่าไหร่ ก็เจ็บใจ เท่าเท่ากัน แล้วฉันจะต้องทน ฝืนดึงดัน เพื่ออะไร?
๕. อกด้านซ้ายมันด้านชา ... นับตั้งแต่วินาทีแห่งการจากลา วันนั้น แค่คิดถึงนาทีข้างหน้า ว่าจะไม่มีเธอคอยผูกพันธ์ ครึ่งชีวิตที่เหลือของฉัน ก็แทบจะไม่มีความหมายอะไร
ถึงวันนี้ คงต้องขอบคุณวินาทีแห่งความเจ็บปวด ความร้าวรวด สอนให้ฉันเข้มแข็ง เป็นคนใหม่ ตอนนี้รู้แล้วว่า ควรจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เพื่อใคร ก็เพื่อคนที่ห่วงใย และไม่ไร้หัวใจอย่างเธอ
๖. ในวันที่เขา ก้าวเข้ามา เพิ่งรู้ว่าฉันเองมีค่า มากแค่ไหน เพิ่งรู้ว่า ทุกสิ่งที่ทุ่มเทไปทั้งใจ ไม่มีวันได้ความรู้สึกใด กลับคืน
กับช่วงเวลาที่ยาวนาน สิ่งตอนแทนแสนหวานคือความขมขื่น ใจเธอแปรเปลี่ยนไป ฉันไม่อาจทนฝืน จำต้องลุกขึ้นหยัดยืน...ทั้งน้ำตา
๗. อยากให้เธอ...ได้รับรู้ วันนี้ไม่มีเธออยู่ ฉันก็อยู่ได้ ไม่มีฉันอยู่ เธอก็คงไม่ขาดใจตาย เราต่างไม่เคย คิดเสียดาย กันและกัน
๘. วันนั้นฉันอาจรักเธอที่สุด... และคิดว่าชีวิตจะหยุดอยู่แค่นั้น แต่ความจริงความรัก มักมีปัญหาร้อยพัน ที่คอยกัดกร่อนความสัมพันธ์ ให้ขาดลง
๙. ฉันรู้...ว่าเธอเองก็เคยรักฉัน และมั่นใจว่า ความรักของเราจะคงมั่น คิดว่ารัก แต่ว่าไร้ซึ่ง แก่นแท้ของความผูกพันธ์ ก็ไม่อาจหาเหตุผล ว่าจะทนอยู่กับกันและกัน...เพื่ออะไร
๑๐. วันนี้ฉันกลายเป็นแค่...คนอื่น เจอกันอีกครั้ง ก็ต้องยิ้มสดชื่น เชิดหน้าอดทนไว้ เมื่อเขามีคนใหม่มาแทนที่ เป็นคนครอบครองหัวใจ วันนี้ พรุ่งนี้ วันหน้า วันไหน เราก็กลายเป็นแค่คน เคยรักกัน
ในช่วงจังหวะหนึ่งของชีวิต เวลาที่อากาศรอบตัวหมุนวนไปตามสายลมพัดพริ้ว ไม่ว่าสายลมจะพัดไปทางไหนก็ตาม อาจจะซ้ายบ้าง ขวาบ้าง สูงบ้าง ต่ำบ้าง ตามแต่ความโลเลหลายใจของอากาศ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยโลเลหรือลังเลเลย คือทุกช่วงจังหวะการพัดพริ้วของอากาศ ทุกวินาทีดำเนินไปข้างหน้าเสมอ ไปอย่างช้าๆ ช้าและบางเบาจนเราเองแทบไม่รู้ตัว
ขณะที่กำลังวุ่นวายอยู่กับชีวิตประจำวัน...วูบหนึ่งที่หันกลับไปมอง
อ้าว...เราแก่ขนาดนี้แล้วเชียวหรือ?
หลายวันก่อน ขณะที่กำลังเล่น FB ก็ได้รับแอดจากใครคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนม.หกในกลุ่มเดียวกันนั่นเอง แปลกแต่จริง...ที่ว่าวันเวลาที่เนิ่นนาน ทำให้เราทั้งสองเกิดความขัดเขิน หรือไม่...ความห่างเหินก็ทำให้เราไร้ซึ่งคำพูดต่อกัน หรือบางทีเราอาจตื้นตันใจจนพูดอะไรไม่ออก
วันนั้นที่เราแชทกัน...จึงมีแต่คำว่า คิดถึง...คิดถึง...คิดถึงแกนะ คิดถึงมากๆๆ คิดถึง บลา บลา บลา แล้วตบท้ายด้วยประโยคที่ว่า
คิดถึงสมัยเรียนม.หกจังเลย ไม่น่าเชื่อว่าเวลาจะผ่านไปเร็วอย่างนี้
ก็แค่คิดถึง...จริงๆ นะ
*บทกลอนด้านบน เป็นบทกลอนที่ฉันเคยเขียนเล่นๆ เมื่อสมัยยังเป็นวัยรุ่น เอามาลงบล็อกสู่กันอ่านค่ะ...ว่าครั้งหนึ่งเมื่อครั้งยังเยาว์วัย ฉันก็เคยทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน...จะอ่านไป ขำไป ก็ไม่ว่าอะไรค่ะ เพราะฉันอ่านเอง ยังอดขำสำนวนกลอนวัยรุ่นของตัวเองไม่ได้
Create Date : 29 พฤษภาคม 2554 |
|
4 comments |
Last Update : 20 กันยายน 2555 1:53:42 น. |
Counter : 719 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 29 พฤษภาคม 2554 8:27:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 29 พฤษภาคม 2554 15:59:55 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|