Bloggang.com : ณธีร์ : เรารักน่าน

เรารักน่าน

“อยากไปน่าน” จู่ๆ เธอก็เอ่ยขึ้นมา

“ไปสิจ๊ะ” เรื่องเที่ยวไม่มีขัดใจกันอยู่แล้ว

หลายเดือนต่อมา แผนการเดินทางไปน่านที่วางไว้ ก็สบโอกาสเหมาะ แล้วเราก็ไปน่านกัน ไปเติมเต็มความฝันของเรา…

ออกเดินทางวันแรก อิ่มอาหารเช้าจากบ้านแล้วเราก็ออกรถ แปดโมงครึ่ง ล้อหมุนไปตามแรงเหยียบคันเร่ง ซาฟีร่าสีทองออกท่องเที่ยวอีกแล้ว ครั้งนี้เราเลือกที่จะขึ้นด่วนบางนา ผ่าใจกลางเมืองบางกอกไปดินแดง แล้วต่อโทลเวย์ไปจนถึงดอนเมือง วิ่งไปตามถนนสายเอสอง ผ่านรังสิต อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี

ถึงอินทร์บุรี เราแวะชื่นชมห้องน้ำดีไซน์สวยที่ FN Factory Outlet พร้อมเดินชมสินค้าทั้ง brand name และ OTOP

พอสมควรแก่เวลาแล้วเราก็ออกเดินทางต่อ ครั้งนี้เราเลือกที่จะเดินทางไปบนถนนหมายเลข ๑๑ แทนที่จะเป็น ๑๑๗ เหมือนคราวนิราศสุโขทัย ดูระยะในแผนที่แล้วน่าจะไกลกว่า แต่หมายเลขสองตัวที่กำกับอยู่ น่าจะสื่อความหมายของความเป็นถนนระดับภูมิภาคได้ดีกว่า

ถนนหมายเลข ๑๑ เริ่มจากอินทร์บุรี ทอดยาวขึ้นเหนือ ผ่านตากฟ้า - ไพศาลี - หนองบัว – เขาทราย – ทับคล้อ – วังทรายพูน – สากเหล็ก ถึงสากเหล็กก็บ่ายพอดี เรากำหนดจิตไว้แต่แรกแล้วว่าจะแวะทานข้าวเที่ยงที่พิจิตร ไดร๊ว์เว่อร์รีบสั่งเนวิเกเต้อร์พลิกตำราพลังไทยพาเที่ยวไทย หาร้านอาหารอร่อยในเมืองพิจิตรทันที

สองร้านแรกที่เนวิเกเต้อร์โทรไป เลิกกิจการหรือไม่ก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไปแล้ว ร้านที่เราโชคดีโทรเจอคือ ร้านประยูรโภชนา ตำราพลังไทยพาเที่ยวไทยเล่มนี้ เราใช้นำทางเที่ยวมาเป็นสิบปีแล้ว ร้านที่เราโทรเจอจึงรับประกันว่าเก๋าเก่าชัวร์

ป้ายบอกทางชี้ว่าเข้าตัวเมืองพิจิตรอีก ๑๗ โล เนวิเกเต้อร์ชักหวั่นใจกับตัวเลข แต่ไดร๊ว์เว่อร์หักเลี้ยวแล้วเหยียบส่ง มาถึงขนาดนี้แล้ว มีหรือจะยั่น

กว่าที่เราจะหาร้านเจอ ก็วนเวียนอยู่ในตัวเมืองพิจิตรสองรอบ ร้านประยูรเป็นร้านห้องแถวเก่าแก่กว่ายี่สิบปี ขายข้าวมันไก่กับก๋วยเตี๋ยว เราขับโฉบผ่านหน้าร้านดูเชิงก่อน เห็นตัวร้านแล้วเนวิเกเต้อร์ชักหวั่นใจอีกครั้ง

“การที่ชื่อร้านนี้ จะไปปรากฏอยู่ในตำราได้ มันจะต้องมีอะไรดีซักอย่าง” ไดร๊ว์เว่อร์ฟันธง

เราค้นพบว่า ข้าวมันไก่ อร่อยมากครับร้านนี้ ไก่นุ่มมาก ผมว่าอร่อยกว่าข้าวมันไก่ตอนประตูน้ำอีกตั้งแยะ แต่น้ำจิ้มออกจะหวานไปนิด

อิ่มหนำสำราญแล้วเราก็ไปกันต่อ ย้อนรอยกลับออกมาอีก ๑๗ โล หักเลี้ยวซ้ายกลับเข้าถนนหมายเลข ๑๑ เส้นเดิม วิ่งเข้าวังทอง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข ๑๒ ที่รักเก่า เฉียดตัวเมืองพิษณุโลกสองแควเล็กน้อย แล้วก็เลี้ยวขวากลับเข้าถนนหมายเลข ๑๑ ต่อไป ผ่านวัดโบสถ์ ถึงอุตรดิตถ์ แวะซื้อทุเรียนหมอนทองอุครดิตถ์แสนอร่อย เนื้อเนียนละเอียด เข้มข้นถึงใจ ขับไปกินไปจนถึงเด่นชัย ผ่านสูงเม่น เฉี่ยวตัวเมืองแพร่ คิดถึงพระธาตุช่อแฮ

แวะเติมน้ำมันที่ร้องกวาง ก่อนจะเข้าเขตทางโค้งคดเคี้ยวแห่งเทือกเขาผีปันน้ำ เส้นทางช่วงนี้ทำให้คิดถึงเส้นทางไประนองปีกลาย ยังประทับใจกับน้ำตกปุญญบาลอันยิ่งใหญ่ริมถนนอันคดโค้งมิรู้ลืม

แล้วเราก็มาถึงเมืองน่านเวลาหกโมงเย็น ซึ้งแล้วที่เค้าว่า “มาเมืองน่าน ต้องตั้งใจมาจริงๆ”

โรงแรมเทวราชที่เราพัก ตั้งอยู่ในตัวเมืองตรงข้ามตลาดสด ดินเน่อร์ค่ำนี้เราไปทานอาหารร้านสุริยาริมลำน้ำน่าน กลับถึงโรงแรมแล้ว ชายหนุ่มแอบมานวดแผนโบราณชั้นล่างโรงแรม ขับรถเมื่อยมาทั้งวัน แถมเมื่อวานก็ออกรอบตีกอล์ฟ ๑๘ หลุม มานวดเมืองน่าน แต่ได้หมอนวดเมืองสุรินทร์

เช้าวันที่สอง จบเบรคฟาดที่โรงแรมแล้วเราก็ไปชมพิพิธภัณฑสถาณแห่งชาติน่าน หน้าพิพิธภัณฑ์มีซุ้มลั่นทมแดงร้อยปีอันสวยงามตระการตา มีวัดที่เล็กที่สุดในโลกใต้ต้นโพธิ์ ภายในพิพิธภัณฑ์มียุวมัคคุเทศก์สาวน้อยสองคนนำทางและอธิบายเรื่องราวต่างๆ

ออกจากพิพิธภัณฑ์ เดินข้ามถนนไปเป็นวัดช้างค้ำ เห็นวัดช้างค้ำแล้วก็คิดถึงวัดช้างล้อม ณ ศรีสัชนาลัย เข้าใจว่าเป็นศิลปะในยุคสมัยเดียวกัน เพราะเมืองน่านเป็นเมืองคู่ขนานกับกรุงสุโขทัยมาแต่สมัยเจ้าพระยาผากองกับพระมหาธรรมราชาที่ ๒ ตามหลักศิลาจารึกที่ ๔๕ และ ๔๖

จากวัดช้างค้ำ ข้ามไปอีกฟากถนนก็เป็นวัดภูมินทร์อันงดงาม รูปวัดภูมินทร์เคยปรากฏอยู่บนธนบัตรใบละบาทมาแล้ว กลางพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่สี่องค์ เบื้องพระปฤษฎางค์ชนกัน หันพระพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศ เคยเห็นองค์จำลองที่เมืองโบราณ มาวันนี้ได้เห็นองค์จริง เปล่งปลั่งงดงามน่าปิติยิ่ง มียุวมัคคุเทศก์หนุ่มน้อยอธิบายเรื่องราวบนภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังศิลปกรรมชาวไทยลื้ออย่างแคล่วคล่อง สอบถามได้ความว่าอยู่ชั้น ป ๖ เก่งจัง

เที่ยงแล้ว เราเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเทวราช แวะกินก๋วยเตี๋ยวหมูโกหมินฝั่งตรงข้ามโรงแรม แวะซื้อมะไฟจีนเชื่อมแห้ง แล้วเราก็ออกเดินทางไปพระธาตุแช่แห้ง วันนี้มีพิธีบวงสรวงจตุคามรามเทพที่วัด คนแน่นขนาดเป็นพิเศษ

ออกจากวัดพระธาตุแช่แห้งมาเดินชมผ้าลายน้ำไหล อ้อ! เข้าใจแล้วว่าทำไมเรียกลายน้ำไหล ไม่ไช่น้ำลายไหลนะ

ย้อนกลับมาเมืองน่าน ขึ้นเหนือต่อไป ระหว่างทางต้นไม้เขียวขจี เดินทางผ่านแนวทุ่งข้าวสีเขียวฉ่ำฝนของท่าวังผา เข้าสู่เขตอำเภอปัว คิดถึงน้องๆ จากโรงเรียนอำเภอปัวที่ไปเข้าแข่งขันเพลงลูกทุ่งชิงช้าสวรรค์ โถ อยู่ไกลถึงปานนี้ยังเก่งได้ถึงปานนั้น

ตลอดเส้นทางขึ้นดอยภูคา แลเห็นทิวเขาเขียวขจีสลับซับซ้อน หนทางคดโค้งสูงชัน ทิวทัศน์สองข้างทางงดงามตระการน่าตื่นตาตื่นใจ เราไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ จนเทียมเมฆ แล้วเราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เราแวะไปเช็คอิน เอากุญแจบ้านภูคา ๑๐๒ ที่เราจองผ่านอินเตอร์เน็ตไว้แล้ว แต่เราจะยังไม่เข้าที่พัก เพราะเราจะแวะไปชมวิวกันก่อน

เราแวะไปลานดูดาว เสียดายที่เมฆเต็มฟ้าและฝนพรำมาตลอดทาง เลยพลาดโอกาสดูฝนดาวตกเพอร์ซิอัสในค่ำคืนนี้ มีคนส่ง message มาว่า คืนนี้ขอให้โชคดี ฟ้าเปิด และได้ดูดาวสมใจ อยากจะส่ง message กลับไป แต่คิดว่ารอให้เธอรู้ตอนได้อ่านบันทึกเรื่องเที่ยวฉบับนี้จะตื่นเต้นกว่า

จากลานดูดาว เราขึ้นเขาไปต่อยัง ณ จุดสูงสุดของดอยภูคา ณ ที่นี่ ขณะนี้ เราเสมือนได้อยู่บนสรวงสวรรค์ สาวสาววิ่งไล่จับเมฆอย่างร่าเริง เรามองไม่เห็นวิวใดๆ นอกจากละอองเมฆขาวโพลนรอบกาย ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริงๆ

กาลครั้งหนึ่ง ณ น่าน
สวย หวาน ชมพูหวาม
ในอ้อมกอด ขุนเขา เงางดงาม
ฟ้าสีคราม น้ำสีนม ส้มสีทอง
จากยอดดอย ภูคา
กลางหมู่ เมฆา ทั้งผอง
ใต้แสง ตะวัน อันเรืองรอง
กู่ร้อง แน่นัก เรารักน่านฯ

อิ่มรักบนสรวงสวรรค์แล้ว เราก็ไปเข้าบ้านพัก บ้านภูคา ๑๐๒ เด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขา มีสองห้องน้ำ สามห้องนอน หกเตียง พร้อมลานกลางบ้าน ระเบียงชมดาวพร้อมโต๊ะเก้าอี้ไม้สองชุด ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน ชุดน้ำชา กาแฟ โอวัลติน และเครื่องต้มน้ำอุ่นประจำทุกห้องน้ำครบครัน ทั้งหมดนี้ในราคาคืนละสองพันบาท

อาบน้ำอุ่นสามสิบสององศาชื่นฉ่ำใจแล้วเราก็ไปดินเน่อร์กัน อาหารเย็นมื้อนี้อร่อยเพียบ เหนือความคาดหมายอย่างมากมาย อ้าว! ก็ไหนว่ามีแต่ไข่

ก่อนนอนคืนนี้ เรามีกิจกรรมสันทนาการกลางลานบ้านเสียงดังลั่นไพร ก่อนจะง่วงหลับไปในความมืดสนิทจนมองไม่เห็นแม้มือตัวเอง

ตีห้า แอบลุกขึ้นมาเดินระเบียงชมดาว มีแต่เมฆขาวพราวอยู่รอบกาย กลับไปนอนต่อ

หกโมงเช้า ออกมาเดินเล่นบริเวณบ้านพัก ไล่ตั้งแต่ ๑๐๑ ไปจน ๑๐๗ และ เรือนรับรองของอุทยาน

กว่าจะอิดเอื้อนอาบน้ำ แต่งตัว เก็บข้าวของออกจากบ้านได้ ก็แปดโมง เบรคฟาดเช้านี้ที่อุทยาน

เก้าโมงเช้า เราจึงได้ฤกษ์เดินทางลงจากดอยภูคา สัญญาว่าจะมาเยือนใหม่คราวหน้าคราดอกชมพูภูคาบานปลายเดือนกุมภาพันธ์

ขากลับเราใช้เส้นทางเดิม ไม่ลืมที่จะแวะซื้อทุเรียนหมอนทองอุตรดิตถ์แสนอร่อย เนื้อเนียนละเอียด เข้มข้นถึงใจ พร้อมแวะทานอาหารกลางวันในตัวเมืองอุตรดิตถ์ ไดร๊ว์เว่อร์ใช้มุขเดิมสั่งเนวิเกเต้อร์พลิกตำราพลังไทยพาเที่ยวไทยหาร้านอร่อยในเมืองอุตรดิตถ์ หลังจากวนเวียนอยู่ในตัวเมืองอุตรดิตถ์สี่รอบ เราก็เจอสองร้านใกล้ๆ กัน คือร้านคุณใหญ่ กับร้านร่มไม้ชายคาซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากร้านลับแล เราโฉบผ่านหน้าร้านคุณใหญ่แล้วไปจอดที่ข้างร้านร่มไม้ชายคา ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวอร่อยครับ

อิ่มแล้วฝนก็ไล่พอดี ออกจากอุตรดิตถ์ แวะเติมน้ำมันอีกครั้งที่พิษณุโลกสองแคว แล้วก็ยิงยาวมาแวะทานอาหารเย็นที่ FN Factory Outlet อินทร์บุรี เติมเสบียงติดรถแล้วเราก็กลับบ้าน ณ สุวรรณภูมิ

ขอบคุณ ซาฟีร่าสีทอง พาหนะเดินทางอย่างมั่นใจตลอดระยะทาง ๑,๖๒๔ กิโลเมตร
ขอบคุณ Sony Handycam DVD บันทึกการถ่ายทำตลอดเส้นทางการท่องเที่ยว
ขอบคุณ รองเท้า Nike รุ่น Air Max 360 นุ่มกระชับรองรับเท้า แม้จะออกอาการ “ลื่น” บนพื้นเรียบเปียกไปบ้าง โดยเฉพาะช่วง forefoot
ขอบคุณ นครน่านอันงดงาม สมกับความตั้งใจไปเยือน
ขอบคุณ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่นี่ เจ้าหน้าที่ทุกคนมีอัธยาศัยดีเยี่ยมกว่าอุทยานแห่งชาติใดๆ ที่ได้ไปเยือนมา
ขอบคุณที่สุด ทุกทุกคน รักกัน รักกัน ^_^

บันทึกการเดินทางโดย Sneaker Freaker
๑๑ – ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๐

Create Date : 27 เมษายน 2551

Last Update : 28 เมษายน 2551 22:36:01 น.

18 comments

Counter : 3898 Pageviews.

อ่านแล้วอยากไปเที่ยวมั่ง
เพิ่งซื้อโฟร์วีลมาเหมือนกันค่ะ
อยากไปเที่ยวแบบกางไกด์บุ๊ค หลงกัน 3-4 รอบก็จะไม่มีใครบ่น
ภาพสวยจัง

โดย: Malt Teaser IP: 125.24.26.159 วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:15:16:31 น.

บรรยากาศดีจังเลย
สวย สวย สวย

โดย: iamorange

วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:17:06:38 น.

...
ปีหน้าไปอีกมั้ยพี่...

โดย: น้องยา IP: 118.173.244.159 วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:17:46:17 น.

ตามมาชมบรรยากาศการท่องเที่ยวทั่วไทยค่ะ

โดย: รัตตมณี (kulratt

) วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:19:34:56 น.

สวยค่ะ

โดยเฉพาะ โต๊ะที่ Show

Air Max 360

โดย: iceblue IP: 117.47.194.182 วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:22:49:44 น.

ไปอ่านมาแล้วจ๊ะสุดยอดด

โดย: Opey

วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:23:52:48 น.

More Graphics Comment click here.

โดย: Opey

วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:9:23:35 น.

เพิ่งอ่านเทียวน่านจบตกลงว่าคุณณธ๊ร์ไม่ได้เขียนเอง มี อีกท่านหนึ่งเขียนอืมน่ารักดีค่ะ โอพีตั้งใจว่าจะอ่านแล้วไปขอชมนะค่ะสำนวนง่ายต่อกๅรอ่ๅนดี ขอบคุณค่ะ

โดย: Opey

วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:9:45:26 น.

ตามไปเที่ยวที่น่านครับ

บ้านย่าอยู่ที่นั่นครับ

สาวน่านสวยๆทั้งนั้นเลย จริงๆ

โดย: กระต่ายไม่ขูดมะพร้าว

วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:10:11:23 น.

...
นี่ก็น่าน.. //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6274186/E6274186.html

โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 61.7.133.119 วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:12:10:56 น.

โดย: Opey

วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:12:58:46 น.

Oh These are resort at national park?? Can't believe my eye, that's very beautiful.

How's the weather ka?

โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน

วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:16:10:07 น.

หมอกลง บรรยากาศดีจริง ๆ คะ

โดย: เซกิ

วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:16:23:23 น.

เราก็เป็นคนน่านนะ เห็นแล้วคิดถึงบ้านจัง อยากขึ้นดอย เหอ ๆ ว่าง ๆ ก็คุยกันได้ค่ะ rarin_2304@hotmail.com

โดย: รริลจ้า IP: 118.172.88.38 วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:10:54:17 น.

สวยน่าไปเที่ยว

โดย: ใต้ IP: 203.172.235.161 วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:16:47:41 น.

ดอยภูคาหนาวมากเลยที่ปัวตอนนี้นักท่องเริ่มมาทักทายลมหนาวที่ยอดดอยภูคา เมื่ออาทิตย์มีการเปิดตัวถ้ำหมา-ถ้ำยาง ข้างในสวยมากถ้าได้เข้าไปเที่ยวแล้วจะประทับใจในความสวยงาม
ทีพักเยอะเลย
www.nansuntisuk.siam2web.com

โดย: ที่ปัวหนาวแล้ว IP: 118.172.127.203 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:18:00:33 น.

สวยจังเลย...

โดย: guriko IP: 58.137.97.54 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:18:40 น.

ขอบคุณครับที่ชอบเมืองน่าน ...คนน่านไกลบ้าน

โดย: ต้องโชค IP: 119.46.56.100 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:52:26 น.