Bloggang.com : ณธีร์ : คืนหนึ่งในสิงคปุระนคร

คืนหนึ่งในสิงคปุระนคร

จดหมายฉบับนั้นวางอยู่บนโต๊ะ
บนโต๊ะมีกระติกน้ำแข็งอยู่ ๑ ใบ
ในกระติกน้ำแข็งมีเบียร์เสือแช่อยู่ ๒ ขวด
ผมเปิดจดหมายออกอ่าน
เป็นจดหมายจากผู้จัดการโรงแรม
ขอบคุณในการมาเยือนเป็นครั้งที่ ๑๐
โอวว์... หม่าย... ก้อดดํ!
ครั้งที่ ๑๐ แล้วรึนี่…

ผมเดินไปเปิดประตูกระจกออกไปยินที่ริมระเบียง
จากชั้น ๒๐ ที่ผมพักอยู่ มองลงไปข้างล่างเห็นสระว่ายน้ำสีฟ้าสวยบนชั้น ๘
เป็นครั้งที่ ๑๐ แล้วที่ผมมาพัก ณ โรงแรมแห่งนี้
แต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แลัวก็ไม่รู้ ที่ผมมาเยือนสิงคปุระนคร
ผมคิดว่าน่าจะเกิน ๒๐

หลังจากทานข้าวเย็นแล้ว ผมมาเดินเล่นบนถนนนักบุญแอนดรูว์
สิงคปุระนครคืนนี้ช่างสงบเงียบสวยงาม
ผมเดินผ่านศาลาประชาคม
แสงจันทร์กระจ่าง
เห็นดาวลอยห่าง
หนทางอีกไกล...

ถัดไปคือศาลสูง มองละม้ายพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นศิลปะยุคเดียวกัน…

มองย้อนกลับมายังด้านหลังเป็นหมู่ตึกอ่าวมารีน่า เห็นลายเส้นขอบตึกสวยงาม ปานวาด…

เดินมาเรื่อยจนถึงปากน้ำสิงคปุระ แสงไฟจากร้านรวงริมน้ำยามค่ำ สะท้อนงาม

ได้ยินข่าวมาไม่นานนี้ว่าเจ้าเมืองสิงคปุระ มีความเป็นห่วงกังวลเรื่องอัตราการเพิ่มประชากร ที่ลดต่ำลงอย่างน่าใจหาย

คืนนั้นที่ปากน้ำ...
อยากได้เธอเดิน เป็นเพื่อน...
อุ่นอกอุ่นใจ จะหาใดเหมือน
ร้อยไมล์ แม้ไกลสักหน่อย
จะดีไม่น้อย หากเธอยังคอย
เป็นเสมือน เพื่อนร่วมทาง...

เดินมาเรื่อยจนถึง น้ำพุแห่งความมั่งคั่งแห่งสิงคปุระนคร
ท่ามกลางหมู่ตึกซันเทค สูง ๑๓.๘ เมตร มีความยาวทั้งสิ้น ๑,๖๘๓ เมตร
ได้รับการบันทึกไว้ในหนังสือกินเนสว่า เป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก

น้ำพุเป็นสัญญลักษณ์แสดงถึงน้ำ อันเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของมวลมนุษยชาติ ไม่ว่ารูปใดนามใด
สัญญลักษณ์รูปวงแหวน แสดงถึงความเชื่อมโยงกันแห่งความมั่งคั่ง
รอบน้ำพุล้วนแวดล้อมไปด้วยหมู่ตึกทั้ง ๕ นามว่าซันเทค
เป็นอาคารห้างสรรพสินค้า, ภัตตาคาร, ห้องประชุม และห้องแสดงนิทรรศการขนาดใหญ่

นามซันเทค มาจากคำในภาษาจีน แปลว่าความสำเร็จชิ้นใหม่
หมู่ตึกซันเทคสร้างขึ้นโดยนักธุรกิจชาวจีนฮ่องกง ในปี ๒๕๒๗
ซึ่งนับเป็นโครงการพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดของเมือง
หมายจะให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งอุษาคเนย์

มองตามหลักฮวงจุ้ย วงแหวนน้ำพุเปรียบเสมือนกลางใจมือ
ขณะที่หมู่ตึกทั้ง ๕ เปรียบประดุจนิ้วมือ
อาคารแสดงนิทรรศการเปรียบประดุจข้อมือ
ทั้งหมดประกอบกันเป็นรูปมือซ้าย
ซึ่งตามความเชื่อจีนโบราณ ถือว่าเป็นมือรับทรัพย์

ทุกคืนที่วงแหวนน้ำแห่งความมั่งคั่งนี้ จะมีการแสดงปรากฏการณ์ม่านน้ำ
โดยการยิงแสงเลเซ่อร์ประกอบดนตรี
นับเป็นมหรสพอันน่าอภิรมณ์
เพรียบพร้อมไปด้วยแสง, สี, เสียง สัมผัสแห่งสายน้ำกระเซ็น และรสของน้ำ ถ้าอ้าปากชิม

ข้างใต้น้ำพุเป็นที่ตั้งของร้านอาหารมากมาย
มีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ร้านหนึ่ง ผมเคยไปนั่งทานเมื่อ ๕ ปีที่แล้ว
ที่หน้าร้านจะมีกระดานแผ่นใหญ่ให้แขกติดนามบัตรไว้เป็นที่ระลึก

ผมไปที่นั่นอีกครั้ง ยังเห็นนามบัตรเก่าผมติดอยู่เลย
ผมชมพนักงาน เธอยิ้มแป้น และกล่าวว่า

“มาสิงคปุระนครคราวหน้า อย่าลืมแวะมาดูนามบัตรตัวเองอีกนะ”

เมืองสิงคปุระนคร เริ่มได้รับการกล่าวขวัญถึงในปี ๑๙๐๘
เดิมเรียกว่า ทีมาเส็ก หรือ เมืองทะเล
เหตการณ์นี้ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ แห่งราชวงศ์อู่ทอง

ในอดีต เจ้าชายแห่งสุมาตราองค์หนึ่งทรงทอดพระเนตรเห็นเสือเป็นสิงโตด้วยสำคัญผิด
เมืองนี้จึงได้ชื่อเป็นภาษาสันสกฤตว่าสิงคปุระ หรือเมืองสิงโตนั่นเอง

ต่อมาในปี ๒๓๖๒ เซ่อร์ แสตมฟอร์ด ราฟเฟิ้ล เดินทางมาจากอังกฤษ
พบสิงคปุระนคร เล็งเห็นเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม
จึงเข้ายึดและสร้างเมืองท่าการค้าขึ้น เพื่อคานอำนาจกับอิทธิพลชาววิลันดา
เหตการณ์นี้ตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ ๓ แห่งราชวงศ์จักรี

เซ่อร์ แสตมฟอร์ด ราฟเฟิ้ล นับว่าเป็นผู้วางรากฐานและผังเมืองให้กับสิงคปุระนคร
เขาวางแผนที่จะสร้างศูนย์ธุรกิจการค้าบนฝั่งแม่น้ำสิงคปุระ
แต่เนื่องจากพื้นดินอ่อนเนื่องจากเป็นที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ
เขาจึงสั่งให้ขุดภูเขามาถมที่บริเวณดังกล่าว
ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวยังคงเป็นศูนย์กลางธุรกิจของเมือง

บุคคลต่อมาผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองแด่สิงคปุระนครอันสมควรแก่การกล่าวขวัญถึงคือ ลีกวนยู
เขานับว่าเป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในโลกขณะขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำ
และยังนับว่าเป็นผู้นำที่ครองอำนาจ ยาวนานที่สุดในโลก คือ ๓๘ ปี
เขาเป็นผู้ประกาศเอกราช นำสิงคปุระนครออกจากสหพันธรัฐมลายา
และสร้างความเจริญรุ่งเรืองจวบปัจจุบัน

สิงคปุระนครเป็นเมืองรุ่งเรืองติดอันดับโลก ติดต่อกันมานานนับทศวรรษ
นักเศรษฐศาสตร์ยกย่องสิงคปุระนครว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
เพราะก่อร่างสร้างความเจริญมาด้วยทรัพยากรเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่
นั่นก็คือ... คน

แล้วเมืองเราล่ะ?

Written by PRINCE IN THE MIST
June 2003

Create Date : 05 มีนาคม 2551

Last Update : 23 มีนาคม 2551 20:55:21 น.

3 comments

Counter : 1142 Pageviews.

ภาพสวย น่าไปจังเลยค่ะ

โดย: COCOSWEET

วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:9:02:46 น.

สวยมากค่ะ

โดย: แนน IP: 222.123.158.121 วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:11:21:41 น.

วิธีการเล่าเข้ากันกับรูป ชวนให้อยากไปอีกครั้ง

ชอบจังค่ะ

โดย: loma IP: 124.122.162.162 วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:17:49:34 น.