|
สายใยแห่งรัก ตอนที่ 3
ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 3 ปีผ่านไป แต่ในสายตาของเธอวันเวลาช่างผ่านรวดเร็ว มันเป็นอย่างนั้นเสมอ บัดนี้ไม่มีร่องรอยของผู้หญิงโง่ๆ คนนั้นอีกต่อไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเธอสามารถเอาชนะอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตไปได้ ผู้หญิงคนที่สามารถฟันฝ่าเรื่องร้ายได้ตลอดทุกเมื่อ ในวันนี้เธอเปลี่ยนไปแล้ว เธอใช้วันเวลาของเธอไปอย่างเรียบง่าย ความเจ็บปวดที่เธอเคยเจอนั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะที่สดใสร่าเริงของเธอ สิ่งที่เธอต้องการในตอนนี้ก็คือใครบางคนที่ให้ความเชื่อมั่นโดยไม่ต้องให้สัญญาใดๆกับเธอเหมือนที่ฮยอนจุงเคยให้เธอมานั่นเอง
ฮวางโบนั่งเอาหัวพิงกับกระจกหน้าต่าง ปล่อยให้ความทรงจำค่อยๆ ไหลผ่านเข้ามาหาเธอเหมือนแม่น้ำที่ไหลผ่านไปอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งมันคอยตามหลอกหลอนเธออยู่ทุกวัน เธอจ้องมองรูปถ่ายรูปหนึ่งที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงเธอและถอนหายใจออกมา ราวกับภาพนั้นบรรจุไปด้วยความเจ็บปวดที่คอยตอกย้ำอยู่ในใจของเธอเสมอ ภาพของเธอและเขาพร้อมด้วยเจ้าจินซึสุนัขตัวโปรดของเธอ เธอไม่สามารถโยนมันหรือเผาทำลายทิ้งได้ซักที
ตอนนี้เธอเข้าใจและรู้ดีทุกอย่าง เพราะตอนนี้เธอเป็นแม่คนแล้ว เธอต้องการให้ลูกชายของเธอมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับคนอื่นๆ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แน่ๆ เธอเฝ้าบอกกับตัวเองว่าจะเป็นทั้งพ่อและแม่ที่ดี เพื่อลูกชายคนเดียวของเธอ ผู้ซึ่งเป็นแรงใจให้เธอได้มีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้
น้ามินจี น้องสาวของแม่ ดูเธอจ้องมองรูปนั้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่าขณะที่เธอเดินไปที่เตียงอย่างเงียบๆ เธอค่อยๆ วางเทวดาตัวน้อยที่กำลังหลับสนิทในอ้อมแขนของเธอลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง และหญิงสูงวัยคนนั้นก็นั่งลงบนโซฟา ขณะที่เธอมองดูหลานสาวคนเก่งของเธอที่พยายามซ่อนน้ำตาที่ไม่พึงประสงค์ออกมาให้เห็น
“เธอรู้อะไรหรือเปล่า ผู้หญิงในรูปนั้นดูมีความสุขจริงๆ เลยน่ะว่าไหม” น้าสาวของเธอพูดด้วยเสียงแผ่วเบาและกำลังยิ้มให้รูปนั้น
“ใช่ค่ะ...แต่ผู้หญิงคนนั้นได้ตายจากโลกนี้ไปเมื่อ 3 ปีก่อนแล้วค่ะ”
“งั้นผู้หญิงคนที่กำลังร้องไห้อยู่ต่อหน้าฉันคนนี้เป็นใครกันล่ะ?”
“ผู้หญิงคนนี้คนที่กำลังบังคับตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้าหลังจากที่คนรักของเธอทิ้งเธอไป ผู้หญิงคนนี้พยายามอย่างดีที่สุดที่จะเป็นแม่ที่ดีให้กับลูกชายสุดที่รักของเธอไงค่ะ”
“และเธอก็รู้ดีว่าน้าภูมิใจในตัวเธอมากที่สุด ใช่ไหม?”
“ขอบคุณพระเจ้าที่ให้น้ามาอยู่กับหนูที่นี่ ขอบคุณจริงๆค่ะ” ฮวางโบพูดพึมพำขณะที่สวมกอดน้าสาวของเธอไว้ รู้สึกขอบคุณเธอที่คอยให้กำลังใจเธอมาตลอด หลายปีก่อน น้าสาวของเธอขอร้องเธอเสมอให้เธอมาช่วยงานที่ร้านอาหารของน้าที่ปารีส แต่ก็มีสองหรือสามครั้งที่เธอปฏิเสธกลับไปอย่างสุภาพ และในตอนที่ฮวางโบมาปรากฏตัวอยู่หน้าบ้านของน้าสาวของเธอเมื่อ 3 ปีก่อน ผู้หญิงสูงวัยคนนี้ดีใจอย่างที่สุดในวันนั้น
“แฮบปี้เบิรทเดย์จ๊ะ หลานรัก”
ฮวางโบกอดน้าสาวของเธอไว้แน่น
“เธอแน่ใจนะว่าเธอไม่อยากจัดงานปาร์ตี้น่ะ? เราสามารถเชิญเพื่อนๆ มาสนุกกันได้น่ะ” น้ามินจีพยายามพูดโน้มน้าวเธอ
“หนูไม่อยากจัดงานเลี้ยงฉลองที่หนูต้องแก่ขึ้นไปอีกปีนึงหรอกค่ะ” ฮวางโบหัวเราะเบาๆ ขณะที่หันกลับมา
“น้าต้องไปแล้วล่ะ เดี๋ยวเชฟคนใหม่ของเราจะรอนาน”
“ค่ะ เดี๋ยวหนูจะจัดการอะไรบางอย่างที่นี่ให้เรียบร้อยก่อน แล้วหนูจะตามไปที่ร้านอาหารน่ะค่ะ”
ทั้งสองคนยิ้มให้กันขณะที่น้าสาวของเธอเดินออกจากห้องไป
พูดจบเธอก็หันไปมองลูกชายของเธอ "จีฮยอน" เธอห่มผ้าห่มให้ลูกชายของเธออย่างเบามือและจูบลงบนแก้มยุ้ยๆ ของเขา
ตอนวันเกิดปีแรกของลูกชาย ฮวางโบสังเกตเห็นได้อย่างชัดเลยว่าน้องจีฮยอนมีดวงตาและจมูกเหมือนพ่อไม่มีผิด เธอบอกกับตัวเองว่าก็พอจะยอมรับได้เพราะเธอไม่สามารถป้องกันเรื่องการถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นได้ และปีที่สองตอนที่จัดงานฉลองวันเกิดครบ 2 ขวบให้ เธอก็สังเกตเห็นอีกว่าลูกชายรักกีตาร์ของเล่นเป็นพิเศษ อีกครั้งที่เธอพูดกับตัวเองว่า มันยังพอจะยอมรับได้ เพราะอย่างไรซะ ในอนาคตมันจะเป็นทักษะที่ดีให้กับเขาเมื่อโตขึ้น หากเขาอยากจะเป็นไอดอลที่มีชื่อเสียงเหมือนพ่อ แต่ไม่ควรจะมีความรักที่ล้มเหลวเหมือนกับพ่อ
แต่แล้วสิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันว่า น้องจีฮยอน คือตัวแทนของฮยอนจุงจริงๆก็มาถึง วันเกิดครบ 3 ขวบ ความจริงก็คือความจริง ลูกชายของเธอเกลียดและกลัวเจ้าแมลงพวกนั้นทันทีที่เห็น มีสิ่งมีชีวิตมากมายบนโลกใบนี้ น่าแปลกทำไมลูกชายของเธอถึงเลือกที่จะเกลียดและกลัวแมลงด้วย? ลูกน้อยของเธอเป็นเหมือนนาฬิกาเตือนความจำที่กำลังเดินได้อยู่รึเปล่าน่ะ เพราะหนุ่มน้อยคนนี้ถอดแบบพ่อของเขามาไม่มีผิด เธอจินตนาการถึงความคล้ายคลึงอะไรที่พอจะเป็นไปได้ต่อไป? ถ้าหากจียอนกลายเป็นเจ้าชาย 4 มิติเหมือนกันล่ะ? ฮวางโบถึงกับขนลุกกับความคิดนั้น เธอเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำเพื่อล้างความคิดนั้นออกไป สิ่งที่เธอควรจะคิดตอนนี้ก็คือ เธอต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ลูกชายเธอมีชีวิตที่ดี แต่อาจจะดีกว่านี้ถ้าเขาได้พบกับพ่อที่ร่ำรวยและสามารถให้สิ่งที่ลูกชายของเขาต้องการก็เป็นได้
ที่หอพักของ SS501, กรุงโซล
เสียงทุบประตูดังขึ้น มันดังจนสามารถปลุกผีที่อยู่ในรัศมีร้อยไมล์ให้ตื่นขึ้นมาได้เลยทีเดียว นั่นไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรกับสถานการณ์แบบนี้ เพราะตลอด 3 ปีที่เลวร้าย ฮยอนจุงออกไปปาร์ตี้ข้างนอกทุกคืน เขาดื่มเหล้าราวกับว่าเขาเป็นเจ้าของผับยังไงยังงั้น และก็กลับมาที่บ้านพักในเวลาดึกดื่นและมันเป็นการรบกวนการนอนอันมีค่าของสมาชิกทุกคน
มันจะดีกว่านี้ถ้าหากฮยอนจุงจะไม่ทุบประตูเสียงดัง สักพักก็จะมีสมาชิกคนใดคนหนึ่งตื่นขึ้นมาเปิดประตูให้ เขาเมาจนอาเจียนออกมา เขาผอมลงมากจนเห็นได้ชัดจากใบหน้า และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงข้อโต้แย้งที่เพิ่มมากขึ้นว่าใครจะเป็นคนไปเปิดประตูให้เขา สมาชิกทุกคนจึงตัดสินใจผลัดกันไปเปิดประตูและทำตารางเวลาทุกอย่างเอาไว้
“คยูจง ตานายไปเปิดประตู”
ท่าทางดูไม่ค่อยเต็มใจนักของชายหนุ่ม เดินงัวเงียมาเปิดประตูอย่างช้าๆ และรีบปิดตาเพื่อหนีภาพที่เตรียมจะอาเจียนของฮยอนจุง
แต่มันไม่ได้ผล ฮยอนจุงยืนอยู่หน้าประตู โดยที่มือขวาถือขวดเหล้าเตกีล่า และอีกมือหนึ่งถือแก้วเหล้าแล้วตะโกนออกมา “อ้าว ดื่ม หมดแก้ว เชียร์ส”
จองมินแทบอยากจะจิกผมของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้หัวหน้าวงพวกเขากำลังเมาเป็นตายไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังจะเอาเหล้าเข้ามาในบ้านราวกับว่าพวกเขากำลังมีปาร์ตี้หรืออะไรซักอย่างอยู่
ยองแซงจับเขาเอาไว้ก่อนที่เขาที่ร่วงลงไปกองกับพื้น และกำลังหน้าบึ้ง เขาพยายามดึงขวดเหล้าออกจากมือของฮยอนจุง แต่ฮยอนจุงก็ยังจับมันเอาไว้อย่างแน่นเหนียว
“เฮ้..พวกเรา...เราไป เฮิกกก ไป ปาร์ เฮิกกก ตี้กันเหอะ”
“นายนี่ ดูซิ ตอนนี้นายเหมือนกับ....ให้ตายซิ ทำไมนายเอากลิ่นตัวแบบนี้ติดตัวมาอีกน่ะ....ไร้สาระสิ้นดี” จองมินพูด
“ขอบใจ นายเองก็เหมือนกัน” ฮยอนจุงจัดการยิงตอบกลับเขาขณะที่จองมินได้แต่กรอกตาไปมา
แล้วสักพักเขาก็เริ่มร้องเพลงและทำให้สมาชิกทุกคนถึงกับตะลึงไปตามๆ กัน
“แฮบปี้เบิรทเดย์ทูยู..แฮบปี้เบิรท เอื๊อก...”
และหลังจากนั้นฮยอนจุงก็เริ่มร้องสะอื้นออกมาขณะที่เขาพยายามร้องเพลงต่อ “เดย์ทูยู...แฮบปี้เบิรทเดย์...” เขาพยายามระงับเสียงร้องไห้คร่ำครวญของตัวเอง
เขาวางขวดเหล้าและกำมือแน่นทุบที่หน้าอกตัวเอง เขาร้องถามพระเจ้าอย่างสิ้นหวัง
“พระเจ้าฮ่ะ ช่วยผมด้วย ช่วยให้โอกาสผมได้แก้ไขบางสิ่งได้หรือเปล่า ผมขอโอกาสให้ผมได้รักษาบาดแผลใจที่ผมได้ทำไว้กับเธอได้หรือเปล่า เมื่อผมได้โอกาสนั้นแล้ว ต่อไปผมจะไม่ร้องขออะไรอีกแล้ว ขอเพียงแค่ให้ผมได้ทำสิ่งเหล่านี้ แค่นี้ผมก็คงจะได้นอนตายตาหลับ พระเจ้ามารับผมไปลงโทษต่อในนรกก็ได้ ผมยอมฮะ ฮือ ฮือ” เขาร้องไห้คร่ำครวญกับพระเจ้า และตอนนี้ เขาร้องไห้และร้องขอจากผู้หญิงคนที่เขารัก และ ผู้หญิงที่เขาทำร้ายกับเธอได้อย่างสาสม ให้เธอได้เห็นใจ
“บูอิน ผมขอโทษ ผมไม่ได้อยากทำให้คุณเจ็บปวด เพราะผมเองก็เจ็บปวดไม่น้อยหรืออาจจะมากกว่าคุณด้วยซ้ำ ฮือ ฮือ”
“ได้โปรดเถอะน่ะ ขอโอกาสให้ผมได้รักษาแผลใจของคุณอีกสักครั้ง ขอแค่โอกาสเดียว..อีกครั้งเดียว ให้ผมได้ทำทุกอย่างเพื่อเป็นการไถ่โทษกับสิ่งที่ผมทำกับคุณไว้” เขายกขวดเหล้าขึ้นมาดื่ม และ คร่ำครวญอีกครั้ง ในขณะที่สมาชิกตาแดงกล่ำเพราะรู้สึกสงสารฮยอนจุงจับใจ
“บูอิน เมื่อผมได้ทำทุกอย่างเพื่อไถ่โทษแล้ว ถึงเวลานั้นหากคุณอยากจะทิ้งผมเหมือนที่ผมเคยทิ้งคุณไปเพื่อเป็นการแก้แค้น คุณทำได้เลย ผมจะไม่โกรธคุณ ให้โอกาสให้ผมได้รักษาแผลใจเถอะน่ะ “ เขาร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลไปทั่ว
“แฮบปี้เบริด์เดย์ บูอิน ฮือฮือ...นี่..พวกนายมาช่วยชั้นร้องเพลงวันเกิดให้บูอินเร็วเข้า” สมาชิกทุกคนรับช่วยกันร้องและน้ำตาคลอไปกับเขา พวกเขาอยากเป็นส่วนหนึ่งเพื่อร่วมแบ่งปันความทุกข์ หากลีดเดอร์เจ็บปวดแค่ไหน พวกเขาต่างก็เจ็บเช่นกัน เพราะทุกคนต่างก็รักและผูกพันกับเขาทั้งสองเช่นกัน
ความจริงก็คือความจริง ฮยอนจุงขอเลิกกับฮวางโบก็เพื่อวง SS501 ที่เป็นภาระหนักอึ้งของวง เหมือนว่าพวกเขาก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดด้วย
“พี่ฮะ พี่ควรไปล้างเนื้อล้างตัว...พี่อาบน้ำซะหน่อยไหมฮะ? คยูจงพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบที่ตามมา
“ฉันไม่อยากอาบ”
“พี่ฮะ พี่เป็นแบบนี้ไม่ได้น่ะ ถ้าหากพี่ฮวางโบกลับมา? พี่คิดหรือว่าพี่เขาจะชอบฮยอนจุงที่มีกลิ่นเน่าๆ และ เมาหัวราน้ำแบบนี้?”
ราวกับว่าเขาเข้าใจในเหตุผลที่เบบี้พูด ฮยอนจุงลุกขึ้นทันทีในสภาพแทบจะยืนไม่ติดพื้น เขาเดินตรงไปที่ห้องน้ำโดยมียองแซงช่วยประคองและพาเขาไปห้องน้ำ และปิดประตูซ่ะสนิท สักพักเสียงน้ำจากฝักบัวก็ไหลปกคลุมร่างของเขาไปทั่ว ราวกับจะชะล้างความเสียใจ ความเจ็บปวด และอีกหลายๆอย่างให้ไหลไปกับน้ำ เพื่อว่าวันหนึ่งผู้หญิงคนที่เขารักกลับมา จะได้ไม่ต้องผิดหวังกับสภาพที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้ แต่ แน่นอนว่าท่าทางแบบนั้นกำลังทำให้สมาชิกของเขาทุกคนถึงกับตกตะลึง
“ใครก็ได้บอกฉันทีว่าเขาไม่ได้บ้าใช่ไหม” จองมินร้องถามขึ้นมา
“โอ้ ใช่ เขาไม่ได้บ้าหรอก” ยองแซงตอบและมองดูประตูห้องน้ำด้วยใบหน้าที่เฉยเมยและครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
โปรดติตตามสายใยแห่งรัก ตอนที่ 3
Create Date : 03 มิถุนายน 2553 |
|
22 comments |
Last Update : 5 มิถุนายน 2553 18:16:51 น. |
Counter : 731 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: kim young bi IP: 180.180.49.158 3 มิถุนายน 2553 21:31:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: pran IP: 58.9.62.68 3 มิถุนายน 2553 21:35:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: แป๋ว IP: 124.122.22.221 3 มิถุนายน 2553 21:39:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jai > FC.Joongbo IP: 110.49.46.248 3 มิถุนายน 2553 22:01:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพร IP: 58.64.80.44 3 มิถุนายน 2553 22:39:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: giff IP: 58.9.85.216 3 มิถุนายน 2553 22:57:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: เมี่ยง IP: 61.90.36.236 3 มิถุนายน 2553 23:01:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: koi IP: 124.122.178.142 3 มิถุนายน 2553 23:45:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: pim_bk IP: 58.64.80.44 4 มิถุนายน 2553 0:36:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: lamlert29 IP: 87.171.127.41 4 มิถุนายน 2553 4:06:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: อัม IP: 172.16.34.112, 202.149.101.72 4 มิถุนายน 2553 9:45:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: มัม IP: 61.47.18.239 4 มิถุนายน 2553 10:58:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: speedy IP: 58.9.226.144 4 มิถุนายน 2553 11:57:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ต้นอ้อ IP: 202.28.62.245 4 มิถุนายน 2553 14:01:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่แมส IP: 118.173.163.141 4 มิถุนายน 2553 14:59:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: joy&yoo IP: 110.49.153.92 4 มิถุนายน 2553 18:27:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลาย(PLAI) IP: 222.123.250.97 4 มิถุนายน 2553 21:21:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: aeka(เอ๋กะดึก) IP: 124.121.99.115 5 มิถุนายน 2553 14:36:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: kanjabo IP: 192.168.182.72, 124.120.20.35 5 มิถุนายน 2553 21:19:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ning IP: 124.120.236.27 6 มิถุนายน 2553 13:50:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: yaya IP: 125.27.181.64 30 มิถุนายน 2554 19:50:31 น. |
|
|
|
| |
|
"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"
|
|
|
|
|
|
|
|
ขอบคุณนะค่ะยาย ที่ลงตอนนี้ให้ แฟนๆหลายคนเค้ารอคอยเหมือนกัน fighting