ใครจะเป็นแชมป์???
เชลซีสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี พร้อมกับสร้างผลงานและสถิติอันยอดเยี่ยมเอาไว้มากมาย
ทำคะแนนได้มากที่สุด 95 แต้ม จาก 38 นัด ทิ้งห่างอันดับ 2 อาร์เซน่อล 12 แต้มและอันดับสาม แมนฯ ยูไนเต็ด 18 คะแนนด้วยกัน
ปีเตอร์ เช็ก เสียท่าโดนคู่แข่งทะลวงไปแค่ 15 ประตูตลอดซีซั่นคิดค่าเฉลี่ยออกมาเท่ากับทุกๆ 2.5 เกม ถึงจะเสียประตู
29 เกมสุดท้ายเชลซีเล่นด้วยฟอร์มที่กร้าวแกร่งสุดๆ ไม่เคยพ่ายแพ้อีกทั้งไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้กับทีมคู่แข่งลุ้นแชมป์ด้วยกันอย่าง ปืนโต และ ผีแดง แม้แต่นัดเดียว
ซีซั่นนี้หลายคนจะมองว่ายังไงทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็มีโอกาสป้องกันแชมป์ได้อีกสมัยแล้วก็ประเดิมข่มขวัญไปก่อนด้วยชัยชนะเหนือ อาร์เซน่อล ที่มิลเลนเนี่ยม เมื่อวันอาทิตย์
แต่มันก็มีเหตุผลที่จะมาหักล้างสกัดกั้นโอกาสที้มูรินโญ่ จะรักษาถ้วยพรีเมียร์ชิพ เอาไว้ใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ เช่นกัน
ประโยคที่ว่า "การป้องกันแชมป์ยากกว่าการคว้าแชมป์" เรื่องนี้ลำบากแค่ไหนไปถาม อาร์แซน เวนเกอร์ ดูได้
สามครั้งที่ เวนเกอร์ พาทีม เดอะ กันเนอร์ส ครองแชมป์ พรีเมียร์ชิพ ปี 1998 , 2002 และ 2004 ปรากฏว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะรักษาถ้วยเอาไว้ได้ในปีถัดไป
ขุนพล สิงห์บลู ของ มูรินโญ่ แต่ละคนเก่งกาจยอดเยี่ยมกันทั้งนั้นแต่มีคำถามเกิดขึ้นว่าเขาจะทำไงให้ลูกทีมทุกคนพึงพอใจและแฮปปี้ที่จะอยู่ร่วมทุกร่วมสุขกัน
นักเตะทุกคนอยากลงสนามเป็นตัวจริงแต่มีที่ว่างเพียงแค่ 11 ที่เท่านั้นเมื่อซีซั่นที่แล้วก็มีปัญหานี้เกิดขึ้นแต่มูรินโญ่ก็แก้ไขเอาตัวรอดไปได้ซึ่งยังไม่รู้ว่าปีนี้จะเคลียร์กับทุกคนได้ดีแค่ไหน
โรมัน อับราโมวิช ประกาศออกมาแล้วว่าจะต้องครองเจ้ายุโรปให้ได้นั่นอาจเป็นประกาศิตที่ทำให้ มูรินโญ่ จำเป็นต้องเลือกถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นอันดับแรก พรีเมียร์ชิพ จึงอาจจะมีความสำคัญน้อยลง
มันเป็นบทพิสูจน์ที่ทุกคนอยากจะรู้ว่า เชลซี จะฟันฝ่าอุปสรรคผ่านไปได้หรือไม่?
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เดอะ ซัน มีสกู๊ปของ คริส วอดเดิ้ล ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ขาประจำพูดถึงตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ชิพ ซีซั่นหน้าและแนวโน้มต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นถือว่าน่าสนใจดี
ใครๆ ต่างมองไปที่ เชลซี แต่ ว้อดเดิ้ล กลับชี้ไปที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยจั่วหัวตัวใหญ่ว่า FERGIE WILL KO BLUES
งานนี้ ว้อดเดิ้ล มีเหตุผลมาประกอบด้วยว่า เชลซี อาจจะเป็นเต็งจ๋า แต่เขาเชื่อว่าถ้วย พรีเมียร์ชิพ จะกลับไปอยู่ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากห่างหายไปสองปีติดต่อกัน
อดีตปีกจอมเลื้อยบอกว่าซีซั่นที่แล้ว เชลซี มีโชคไม่น้อยที่ผู้เล่นแกนหลักอย่าง จอห์น เทอร์รี่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด และปีเตอร์ เช็ก รอดพ้นจากอาการบาดเจ็บและติดโทษแบน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ถ้าฤดูกาลใหม่นี้เหตุการณ์ยังคงดำเนินไปแบบเดิมคือผู้เล่นแกนหลักของ เชลซี ยังคงรอดพ้นไม่มีอาการบาดเจ็บและติดโทษแบนอีกจะเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรซ์อย่างมาก
ว้อดเดิ้ลยอมรับว่า มูรินโญ่ มีขุมกำลังที่แข็งแกร่งมีนักเตะระดับชาติรองรับถึงสองคนในทุกตำแหน่งสามารถสลับกันเล่นได้พูดง่ายๆ ว่าสามารถส่งทีม เอ-บี ลงเล่นได้แบบสบายๆ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าถ้าเพิ่มมาเป็นสามคนความไม่แฮปปี้จะเกิดขึ้นแน่นอน
หันมาดูทางด้าน ปีศาจแดง ซึ่งทางว้อดเดิ้ลมองว่าอาการอกหักติดต่อกันมาสองปีบวกกับการจบซีซั่นแบบมือเปล่าในปีล่าสุดจะเป็นแรงปะทุให้ทีมฮึดสู้อีกครั้ง
เมื่อยอดทีมและยอดนักเตะโดนวิจารณ์อย่างหนักและผิดหวังมาอย่างแรงเราจะได้เห็นปฏิกิริยาตอบโต้มีแรงมุ่งมั่นคุโชนมากขึ่นเช่นเดียวกับ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วย
ในมุมมองของ ว้อดเดิ้ล มองว่า พาร์ค ชี ซอง อาจจะโนเนม แต่การเข้ามาเปรียบได้ดั่ง ปีศาจแดง มีไดนาโมมาปั่นในแดนมิดฟิลด์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัวแถมยังเล่นได้สารพัดตำแหน่งอีกด้วย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกหนึ่งปีสั่งสมประสบอการณ์เพิ่มมากขึ้นบวกกับฝีเท้าที่ดีวันดีคืนเริ่มที่จะเล่นเพื่อทีมมากกว่าตัวเองตรงจุดนี้จะมีประโยชน์ต่อทีมมาก
รอย คีน อาจจะสังขารเพิ่มมากขึ้นแต่ ว้อดเดิ้ล มองว่าสภาพร่างกายยังดีเยี่ยมอยู่แน่นอนที่สุดคือมาตรฐานการเล่นที่คงเส้นคงว่ามิได้ตกหล่นลงไปมากมายนัก
รุด ฟานนิสตรอย ล้มเหลวเมื่อซีซั่นที่แล้วก็กลับมาหวังพิสูจน์ตัวเองและในสภาพที่ฟิตสมบูรณ์เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ต้นซีซั่นดังนั้นสามารถคาดหวังในตัวเขาได้อย่างเต็มที่และอย่าแปลกใจหากว่าดัตซ์แมนจะคว้าดาวซัลโวไปครอง
อย่างไรก็ตาม ว้อดเดิ้ล ไม่ได้กาชื่อ อาร์เซน่อล ออกจากกลุ่มลุ้นแชมป์แม้ว่าจะเสีย ปาทริค วิเอร่า ไปแต่ก็ยังมีดาวรุ่งพร้อมที่จะแจ้งเกิดขึ้นมาแทนที่อย่าง เชส ฟาเบรกาส และ มาติเยอ ฟลามินี่
ช่วงปรีซีซั่น ว้อดเดิ้ล มีโอกาสได้เห็นฟอร์มของ ปืนโต ที่ยังเล่นได้ในมาตรฐานที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คือความผิดหวังเมื่อซีซั่นที่แล้วจะเป็นแรงกระตุ้นให้นักเตะเน้นมากกว่าเดิม
ด้วยเหตุผลข้างต้น ว้อดเดิ้ล ยังเชื่อมั่นใน เฟอร์กี้ และลูกทีมว่าจะระเบิดความเก็บกดออกมาให้เห็นในสนาม...
ส่วนทีมที่จะเป็น "ม้ามืด" มาเซอร์ไพรส์ ว้อดเดิ้ล ยกให้อดีตทีมเก่าตัวเองก็คือ สเปอร์ส เรียกว่าท๊อปซิกส์ไม่หนีไปไหนแถมมีสิทธิ์ลุ้นถึงอันดับ 4 เลยทีเดียว
เด็กใหม่ของ มาร์ติน โยล อย่าง เอ็ดการ์ ดาวิดส์ จะช่วยทีมได้มากด้วยประสบการณ์ที่โชกโชนบวกกับกลุ่มผู้เล่นใหม่ที่เซ็นสัญญาเข้ามาอย่าง พอล สตัลเทรี่ , ตีมู เตนิโอ , เวย์น เราท์เล็ดจ์
สำหรับนักเตะที่ ว้อดเดิ้ล มองว่าจะเป็นดาวจรัสแสงในซีซั่นใหม่นี้ก็คือ เอ็มเร่ เบเลโซกลู มิดฟิลด์ซ้ายธรรมชาติตัวใหม่ของ นิวคาสเซิ่ล ด้วยทักษาอันยอดเยี่ยมจะสร้างสีสันให้พรีเมียร์ชิพ
เอ็มเร่เก่งกาจตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ ไม่เชื่อลองไปถาม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ดูได้ว่าดาวเตะไก่งวงคนนี้เป็นที่น่าหวาดหวั่นขนาดไหนถึงขนาดยกนิ้วให้ว่าสุดยอดในรุ่นบอลเยาวชนที่เคยเจอกันมากับทีมชาติ
มาถึงมุมมองของ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ล กันบ้างเขายกให้ เชลซี เปนแชมป์ด้วยเหตุผลที่ว่าทีมคู่แข่งอย่าง อาร์เซน่อล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แข็งแกร่งพอที่จะยืนระยะต่อกรได้
แม้ว่า มูรินโญ่ จะไม่สามารถเซ็นสัญญาหัวหอกระดับโลกได้แต่ เฮอร์นัน เครสโป จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาทีมประสบความสำเร็จอีกครั้งในซีซั่นหน้า
สำหรับปีศาจแดง เอลเทล ชี้ว่า รอย คีน โรยราลงไปเยอะจะส่งผลกระทบต่อทีมซึ่งเขาไม่เชื่อว่า อลัน สมิธ จะทำหน้าที่ทดแทนได้โดยเฉพาะในเรื่องของบารมีในสนาม
เอลเทล มองทางด้าน อาร์เซน่อล ว่าอย่างดีก็แค่ลุ้นอันดับ 2 การสูญเสีย วิเอร่า และไม่สามารถคว้าตัว ชูลิโอ บาปติสต้า มาร่วมทีมได้คือจุดพลิกผันเพราะเด็กดาวรุ่งในทีมยังขาดประสบการณ์
ในขณะที่ ลิเวอร์พูล เขามองว่าเต็มที่ก็แค่ลดช่วงห่างของคะแนนกับ เชลซี ที่โดนทิ้งขาดกระจุยเมื่อซีซั่นที่แล้วถึง 37 แต้มโดยที่ เอลเทล ชี้ให้จับตาดู ซาบี อลอนโซ่ ซึ่งเขายกย่องว่าเป็นตัวจ่ายที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ชิพ ตามสายตาของเขาเพราะคนนี้แหละจะทำให้ หงส์แดง แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
นั่นก็เป็นการมองต่างมุมระหว่าง ว้อดเดิ้ล กับ เอลเทล แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองแล้วคอยมาดูกันในอีก 9 เดือนเศษว่าการคาดเดาในครั้งนี้ใครจะแม่นยำกว่ากัน
ซัมเมอร์ฮิลล์ นสพ.สตาร์ซ้อคเก้อร์
^ ^ ขอบคุณนะคะ... เห็นว่าเค้าวิเคราะห์ว่ามีทั้งแมนยูฯ , เชลซี , อาร์เซน่อลแระหงส์แดง....มีโอกาสเปนแชมป์ แร้วก้อมีโอกาสแห้วแชมป์...น่าสนใจดี...เรยยเอามาลงbgให้แฟนๆ บอลทีม^^ที่เอ่ยถึงมานี้ได้ลองอ่านดู...ไม่เชื่อก้อไม่เปนไรเน้อออ...แต่จขบ.น่ะเชื่อ ว้อดเดิ้ล ค่ะ...อิ อิ
เพลงประกอบ : แม่เชื่อก็พอ (วงPink) สำหรับวันแม่ค่ะ
ปล. เปิ้ล....รัก...แม่...ที่สุดในโลกกกก
Create Date : 12 สิงหาคม 2548 |
|
24 comments |
Last Update : 12 สิงหาคม 2548 9:07:19 น. |
Counter : 593 Pageviews. |
|
|
|
เป็นลูกที่น่ารักของคุณแม่นะค๊า
คิดถึงน้องเปิ้ลนะจ๊ะ...จุ๊บๆๆๆ