ไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ .. ^^
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
3 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
REVIEW ตะลอนทัวร์ นครสวรรค์ สุขสันต์หรรษา



การเดินทางมักจะมีแง่งามของมันเสมอ
ทุกร่องรอยที่ก้าวย่างเรามักจะจดจำ หรือบันทึกเก็บไว้ให้ระลึกถึง
เหมือนดังเช่นทริปท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์แห่งนี้


“ทำไมถึงอยากไปเที่ยวนครสวรรค์”?
นครสวรรค์ มีที่กิน และที่เที่ยว หลากหลาย และมากมาย
ที่สำคัญ นครสวรรค์ มีแหล่งเรียนรู้ให้เราพาลูกชายซึ่งอยู่ในวัยกำลังเติบโต
ได้ไปเห็น สัมผัสและศึกษานอกสถานที่เกี่ยวกับสังคม ชุมชนที่หลากหลาย
และธรรมชาติที่สวยงาม ผ่านการท่องเที่ยวอันแสนสนุก
และมีความสุขร่วมกับครอบครัว


ตามครอบครัวเราไปเที่ยวกันเลยค่ะ !!

การท่องเที่ยวนครสวรรค์ครั้งนี้ เราวางแผนไว้ว่าจะท่องเที่ยวกัน 3 วัน 3 คืน

จุดหมายหลัก อยู่ที่พาลูกไปเรียนรู้ย่านเมืองเก่านครสวรรค์
ะล่องเรือชมเส้นทางการค้าเก่าและต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากน้ำโพ
ดูค้างคาวออกจากถ้ำที่เขาหน่อ-เขาแก้ว ชิมอาหารท้องถิ่นและปลาชนิดต่าง ๆ
ชมศิลปวัฒนธรรมชาวมอญผ่านผลงานเครื่องปั้นดินเผาและชุมชนมอญ

เราไม่ได้ไปท่องเที่ยวในฐานะของผู้รู้ แต่ไปในฐานะของคนอยากเที่ยว
ก่อนออกเดินทาง เราสืบค้นข้อมูลล่วงหน้าก่อนเพื่อค้นหาจุดหมายที่สนใจ
และวางแผนการเดินทางกันคร่าว ๆ ซึ่งหลายครั้งที่เราเที่ยวแบบ
ลองผิด ลองถูก ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป ...สนุกดีค่ะ !!


เราออกเดินทางกันตั้งแต่เย็นวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2553


เย็นวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2553

พ่อกับแม่ไปรับเกาลัดหลังเลิกเรียน แล้วขับรถตรงไปยังจังหวัดนครสวรรค์
โดยใช้ถนนสายเอเซีย ซึ่งขับรถสะดวกมาก จากลำลูกกา
ใช้เวลาประมาณเกือบสามชั่วโมงก็ถึงนครสวรรค์แล้ว เป็นเวลาหัวค่ำพอดี



อาหารเย็นมื้อนี้ของเราอยู่ที่ร้านอาหารปากซอยทางเข้าที่พัก
ชื่อ ร้านลาบเป็ดผู้ใหญ่แป๊ะ



อิ่มแล้ว เราเข้าที่พักกันที่ “บางรักรีสอร์ท”




วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2553

ชมความหลากหลายทางชีวภาพที่บึงบอระเพ็ด
อาคารจัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืด และสนุกกับกิจกรรมครอบครัว


ตอนเช้า เราสามคนพ่อแม่ลูก เช็คเอาท์ออกจากรีสอร์ท เข้าไปในเมือง
ผ่านถนนสวรรค์วิถี ถนนสายนี้ อุดมไปด้วยอาหารขึ้นชื่อมากมาย

ตรงไปที่ตลากปากน้ำโพ แล้วขับรถไปจอดที่ท่าเรือรับจ้างริมแม่น้ำเจ้าพระยา
บริเวณถนนมาตุลี เพื่อมากินอาหารเช้ากันที่ร้านแหลกี่



ร้านแหลกี่ เป็นร้านอาหารกวางตุ้งเก่าแก่ของนครสวรรค์
อยู่ในถนนมาตุลี เปิดขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อถ่ายทอดมาสู่ลูก สู่หลาน
และกำลังถ่ายทอดไปสู่รุ่นเหลนนับเป็นรุ่นที่สี่ ต่อเนื่องกันมากว่า 70 ปี



อาหารจานเด็ดที่เป็นสูตรเด็ดของครอบครัวมีมากมาย
เสียดายที่เราได้ลิ้มลองอาหารเพียงไม่กี่อย่าง
เนื่องจากมากันน้อยคน สั่งนิดเดียวก็อิ่มแล้ว



จากนั้นตบท้ายด้วยทาร์ตไข่ กาแฟโบราณและโอวัลตินที่ร้านกาแฟไทยนิยมอยู่ติดกันกับร้านแหลกี่นั่นเอง ร้านนี้คงความดั้งเดิมของการชงกาแฟสูตรโบราณหอมอร่อยสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น



เสร็จแล้ว เราเดินทางไปที่บึงบอระเพ็ด
วันนี้ครอบครัวของเราเที่ยวบึงบอระเพ็ดตลอดทั้งวัน ที่บึงบอระเพ็ดนี้
มีแหล่งเรียนรู้สำหรับครอบครัวหลายจุด ให้เที่ยว ให้ศึกษา



เราสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากการท่องเที่ยว ได้มากมาย
เพียงแต่เราใส่ใจ สังเกต จดจำ และนำไปคิดต่อ

เมื่อถึงบึงบอระเพ็ดแล้ว เราไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ดก่อน
สถานที่แห่งนี้บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์
ปัจจุบันมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม และสะดวกต่อการท่องเที่ยวมากขึ้น

แล้วเข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ฯ
ว่าสนใจอยากใช้บริการเรือนำเที่ยว



ช่วงที่รอเรือพร้อม ได้ขอไปชม และถ่ายภาพเรือนรับรองบึงบอระเพ็ด
เป็นเรือนไทยแบบล้านนา ตั้งอยู่ริมน้ำ ติดกับหาดทรายเทียม



เรือนำเที่ยวลำนี้ จุได้ 15 คน แต่ทริปนี้เราไปกันสามคนพ่อแม่ลูก
ไม่ว่าจะนั่งสามคน หรือสิบห้าคน
ค่าเรือ ก็คิดราคาเหมา ชั่วโมงละ 500 บาท



เรือออกจากท่าแล้ว วิ่งผ่านบ้านพักรับรอง หาดทรายเทียม



จุดแรกที่เราเห็นก็คือ สถานีประมง (บึงบอระเพ็ด) จังหวัดนครสวรรค์
ซึ่ง เป็นสถานีประมงน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย
ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์”



ต่อมาคือพระตำหนักแพที่สร้างขึ้นครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน




บึงบอระเพ็ดแห่งนี้ เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ
มีความหลากหลายทางธรรมชาติมาก มีทั้งพันธุ์ไม้น้ำ สัตว์น้ำ
และนกนานาชนิด และเมื่อก่อนเคยเป็นแหล่งน้ำที่มีจระเข้ชุกชุม

นกที่หายาก ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร พบครั้งแรกที่บึงบอระเพ็ด
และปลาเสือตอ ในช่วงฤดูหนาวจะมีนกเป็ดน้ำอพยพมาที่บึงแห่งนี้
เป็นจำนวนมาก และพื้นที่บางส่วนได้รับการประกาศให้เป็
นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า




ระหว่างทาง เราได้เห็นนกน้ำนานาชนิด เห็นปลากำลังฮุบเหยื่อ
และพืชน้ำชนิดต่าง ๆ ซึ่งคนขับเรือทำหน้าที่เป็นไกด์
อธิบายสิ่งที่พบเห็นให้เราฟังตลอดทาง






จุดสุดท้าย ที่แวะชม คือ เกาะ ดร. สมิท

ไกด์ของเราเล่าว่า เกาะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ
สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.ฮิวจ์ เอ็ม สมิท ชาวอเมริกัน
ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการประมง กระทรวงเกษตราธิการ
ที่ได้ออกสำรวจบึงบอระเพ็ดและได้รายงานผลการสำรวจ
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2466 ว่าบึงบอระเพ็ดเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่
และมีความสำคัญมากเกี่ยวกับเรื่องการประมง

ซึ่งนับว่าเป็นผู้ที่จุดประกายความคิดทำให้เกิดการบริหารการประมง
บึงบรเพ็ด และจุดกำเนิดสถานีประมงน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทยขึ้น
ที่บึงบอระเพ็ดแห่งนี้



ที่เกาะ ดร. สมิธ มีนกอาศัยอยู่จำนวนมาก
สังเกตต้นไม้ที่แห้งตาย ไกด์บอกว่า เพราะขี้นกเป็นกรด
จึงทำให้ต้นไม้ตาย







เราจอดเรือดูนกพักใหญ่ ๆ มองเห็นนกกำลังบิน
เห็นเหยี่ยวกำลังบินโฉบผิวน้ำ เห็นรังนกเยอะแยะ
มีลูกนก เล็ก ๆ อยู่ในรังด้วย





ดงดอกบัว จะสวยงามบานสะพรั่งช่วงฤดูหนาว
ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป




การแสดงจระเข้เจ้าเข่งโชว์ และละครลิงประกิตโชว์


เจ้าเข่ง เป็นจรเข้แสนรู้ของลุงเขียด มีโชว์ต่าง ๆ ที่ลุงเขียดกับเจ้าเข่ง
เตรียมมานำเสนอ นอกจากเราและลูกชายจะได้เห็นจรเข้แบบใกล้ ๆ ชัด
ได้เห็นลิ้นจรเข้แล้ว ลุงเขียดบังเปิดคอให้เห็นด้วยว่าจระเข้
มีช่องนำอาหารจากปากเข้าไปในท้องช่องทางใด



ส่วนละครลิง เป็นศิลปะพื้นบ้าน โดยใช้ลิงเป็นผู้แสดง
นิยมแสดงตามงานบุญ งานวัดต่างๆ ผู้แสดงจะเล่าเรื่อง และพากย์เสียง
เน้นความตลกขบขัน และความแสนรู้น่ารักของลิง
ซึ่งในปัจจุบันหาชมได้ยากมากแล้ว



บึงบอระเพ็ด เปิดให้ชมการแสดงจระเข้เจ้าเข่งโชว์
และละครลิงประกิตโชว์ ทุกวัน หลายรอบการแสดง
สามารถเข้าไปดูข้อมูลอัพเดทได้ที่เว็บไซต์บึงบอระเพ็ด
//www.bungborraped.net/




อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด

สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่บึงบอระเพ็ดที่ครอบครัวเรา
ตั้งใจที่จะมาเที่ยวมากก็คือ อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด
เป็นอาคารทรงเรือกระแชง ที่ได้นำพันธุ์ปลาน้ำจืดที่อาศัยอยู่
ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และบึงบอระเพ็ดมาไว้ให้ชมกัน
และยังมีโรงภาพยนตร์ 3 มิติ




บริเวณทางเข้า มีแผ่นป้ายแจ้งกฎกติกา ในการเข้าชมให้ทราบ
ซึ่งที่สำคัญมาก ก็คือ ห้ามถ่ายภาพและใช้แฟลชในอาคาร
เนื่องจากจะทำให้ปลาตกใจ และปลาอาจตายได้


อาคารชั้น 1 จัดแสดงตู้แสดงพันธ์ปลาน้ำเค็ม
บ่อปลา Touch Pool อุโมงค์ปลา (Big Tank)

ดูหนังสามมิติ



อุโมงค์ปลา
มีการดำน้ำให้อาคารปลาทุกวัน




ส่วนอาคารชั้น 2 มีห้องเกียรติคุณ
จัดแสดงรายชื่อผู้ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์
ห้องนิทรรศการสวนนกจำลองแสดงถึงพันธุ์นกภายในบึง
และนกอพยพที่พบบ่อยในบึงบอระเพ็ด
ชมวิวรอบเรือ และมีกล้องส่องนกหยอดเหรียญ 10 บาท

ในอาคาร ยังมีร้านขายของที่ระลึก ให้เลือกซื้อตามอัธยาศัย

อาณาจักรนก


ห้องเกียรคิคุณ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร



จุดชมวิว




ร้านขายของที่ระลึก



อาคารแสดงจระเข้

อาคารแสดงพันธุ์จระเข้ ภายในประกอบด้วยลานแสดงจระเข้
และบ่อเพาะพันธุ์จระเข้ มีการแสดงการแสดงจระเข้หวาดเสียวทุกวัน
แต่เราไม่ได้เข้าไปดู




ศูนย์แสดงสินค้าโอทอป

อันดับต่อไป เราไปที่ศูนย์แสดงสินค้าโอทอป
เป็นหมู่บ้านในแบบบ้านทรงไทย ไว้ใช้เป็นจุดจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองต่างๆ
แต่ว่าร้านปิด เราเลยขับรถไปชมจุดต่อไป
คือกรงแสดงพันธุ์นกและสัตว์แทน





กรงแสดงพันธุ์นกและสัตว์

มีกรงไก่ฟ้า และนกอื่น ๆ อีกสองสามชนิด เช่น เลิฟเบิร์ด นกขุนทอง





ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์

จุดเข้าชมสุดท้ายที่บึงบอระเพ็ดของเรา ก็คือ
ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ ด้วยความรู้สึกว่า
มาเที่ยวบึงบอระเพ็ดทั้งที ถ้าไม่ไปสถานที่แห่งนี้ เหมือนกับยังไปไม่ถึง



สถานที่นี้มีอาคารแสดงพันธุ์ปลาตู้ และบึงจรเข้ให้ได้ชม



แต่เนื่องจากหน้านี้เป็นหน้าน้ำ บึงจระเข้เลยปิดล็อกไว้ไม่ให้เข้าไปเดิน
ในทางเดินชมจระเข้ หากมาอีกครั้งตอนที่น้ำลด
ก็ได้จะเข้าไปเดินชมจระเข้กันอย่างใกล้ชิดกัน



ข้อมูลจากป้ายประกาศที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ฯ เขาบอกว่า
มาเที่ยวบึงบอระเพ็ด ต้องเที่ยวให้ครบตามนี้ คือ
ซื้อสินค้าโอทอปและของฝาก
เที่ยวชม Aquarium
ชมการแสดงจระเข้และละครลิงคุณประกิต
ล่องเรือชมบึง ส่องกล้องดูนก
บ้านพักรับรองบึงบอระเพ็ด
หาดทรายเทียมและเครื่องเล่นทางน้ำ

ทริปนี้เรายังเที่ยวไม่ครบ เก็บความประทับใจคราวนี้ไว้ก่อน
ครั้งต่อไป จะลองมาพักบ้านพักรับรอง หาดทรายเทียม
และเครื่องเล่นทางน้ำกันใหม่

ออกจากบึงบอระเพ็ดตอนเย็น ๆ เรารีบขับรถไปรับคุณยาย
(น้าของแม่เกาลัด) และผู้ติดตาม รวม 2 คนที่มาร่วมทริปกับเรา
แล้วก็ไปกินอาหารเย็น ที่ “ร้านนครสวรรค์ปลาจุ่ม”



อาหารที่ร้าน ปลาจุ่มอร่อยเด็ด



หลังกินอาหารกันเสร็จก็ค่ำพอดี คืนนี้เราพักที่ “พนากาพย์รีสอร์ท”




วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2553


ล่องเรือชมต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านเมืองเก่าปากน้ำโพ
ชมค้างคาวเขาหน่อ


วันนี้เราท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของปากน้ำโพ
โดยเฉพาะวิถีการดำเนินชีวิต ที่มีประวัติความเป็นมา
และมุมมอง ความศรัทธา ต่าง ๆ ของชาวปากน้ำโพ
ที่สืบทอดกันจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

เช้าแล้วจ้า ! อากาศยามเช้าที่พนากาพย์รีสอร์ทเย็นสบายและสดชื่นดี
เรากินอาหารเช้าที่รีสอร์ท

ช่วงที่รออาหารอยู่ เดินไปเจอแผงขายกล้วยไข่ บริเวณหน้ารีสอร์ท
ทั้ง 2 ฝั่งถนน มีเพิงขายกล้วยไข่ และหน่อกล้วย
ซึ่งปลูกกันมากแถวอำเภอโกรกพระ เราซื้อในราคาหวีละ 35 บาท
รสชาติดี หวาน หอม




อาหารเช้า



จากนั้นก็เช็คเอาท์ ขับรถไปที่ “ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม”
หรือหรือ “ศาลเจ้าพ่อแควใหญ่” อยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดปากน้ำโพธิ์
ที่ชาวจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดใกล้เคียง ให้ความเคารพนับถือ




ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม

แต่เดิมศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลไม้ตั้งอยู่ริมตลิ่ง
ต่อมาได้มีการทำนุบำรุงขึ้นมาใหม่
หลังคาสันกลางประดับด้วยมังกรคู่ชูลูกแก้ว สันหลังคาที่หลั่นลงมาทั้งสองข้างประดับด้วยหงส์ ปลายสันหลังคาเป็นมังกรหัวหงาย



ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ มีชุมชนดั้งเดิม เป็นห้องแถวไม้ ขายของชำ
ขนมและอาหาร จากที่สอบถามคุณยายที่กำลังขายกล้วยปิ้งอยู่
บอกว่า เมื่อก่อนท่าน้ำแห่งนี้ เป็นท่าเรือจ้าง หรือท่าเรือรับจ้าง
ที่มีผู้คนสัญจรไปมาตลอด ห้องแถวที่เห็นนี้จึงเป็นตลาดเล็ก ๆ
ค้าขายกันมาเนิ่นนาน

ขนมกินที่วางขายอยู่ตอนนี้ ทำมาจากสูตรดั้งเดิม
อย่างเช่น มะม่วงแผ่น ที่ลองซื้อมาชิมแล้ว หอม หวาน อร่อย




พุทธอุทยานนครสวรรค์

เราขับรถเข้าไปที่ “พุทธอุทยานนครสวรรค์” ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 เพื่อเป็นสถานที่ดำเนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกันกับพุทธมณฑลซึ่งตั้งอยู่ตำบลศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

มีการสร้าง "พระพุทธศรีสัพพัญญู" พระประธานพุทธอุทยานนครสวรรค์
ณ สถานที่แห่งนี้



จากพุทธอุทยาน เราขับรถไปที่ตลาดปากน้ำโพ
เพื่อมาลงเรือเที่ยวชมต้นแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ก่อนที่จะลงเรือ
เราไปจอดรถในซอยข้างวัดนครสวรรค์
ซึ่งเป็นวัดคู่เมืองจังหวัดนครสวรรค์ และเป็นพระอารามหลวง
เป็นที่ประดิษฐานพระผู้ให้อภัยยิ่งหรือพระหันหลังให้กัน



แต่วันนี้เราไม่ได้เข้าไปไหว้พระในวัด แต่เราไปกินอาหารกลางวันกัน
ในซอยนี้มีร้านผัดไทเจ้าอร่อย ชื่อ “ร้านผัดไทสุโขทัย”




อิ่มหนำกันแล้ว เราไปต่อที่ท่าเรือรับจ้าง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
แถวถนนมาตุลี เพื่อลงเรือรับจ้างไปชมต้นแม่น้ำ
ค่าเรือ คนละ 30 บาท เด็กและผู้ใหญ่ ราคาเท่ากัน




ต้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากน้ำโพ

นครสวรรค์เป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำเจ้าพระยา
เป็นที่รวมของลำน้ำปิง วัง ยม น่าน

โดยแม่น้ำวังไหลมารวมกับแม่น้ำปิงที่จังหวัดตาก
แม่น้ำยมใหลมาบรรจบกับแม่น้ำน่านที่หน้าวัดเกยไชยเหนือ
อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์
จากนั้นแม่น้ำทั้งสองสายต่างไหลมารวมกันที่ปากน้ำโพ
ผู้คนจึงนิยมเรียกว่านครสวรรค์ว่า เมืองสี่แคว อีกชื่อหนึ่ง



เมื่อก่อนสมัยที่ถนนหนทางยังไม่สะดวกเหมือนปัจจุบันนี้
การขนส่งและเดินทางทางน้ำจึงถูกใช้เป็นเส้นทางหลัก
ปากน้ำโพแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของการคมนาคมทางน้ำ
และยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้าข้าว การขนส่งไม้และสินแร่อื่น ๆ
ทำให้ปากน้ำโพ กลายเป็น "เมืองชุมทางการขนส่งทางน้ำ"
ศูนย์กลางกระจายสินค้าไปสู่ภาคเหนือ และบางส่วนของภาคอีสาน
รวมทั้งเป็นศูนย์กลางทางการเงินทางภาคเหนือที่สำคัญแห่งหนึ่ง
เป็นที่มาของอีกชื่อเรียก ชุมทางปากน้ำโพ




ผู้คนที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำน่าน มีทั้งบ้านเรือนแบบเรือนแพ
และบ้านที่สร้างอยู่ริมน้ำ มีโรงงานน้ำปลา โรงน้ำแข็ง
เห็นวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน ที่ยังคงมีหลงเหลืออยู่ให้เห็น



แม่น้ำน่านที่สีแดงขุ่นกว่า ส่วนแม่น้ำปิงจะใสกว่า
มารวมตัวเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ณ จุด ๆ นี้



เดินชมวิถีชีวิตชุมชนปากน้ำโพ

นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า นครสวรรค์เกิดขึ้นมามาตั้งแต่
ครั้งสุโขทัยเป็นราชธานี โดยเรียกว่า เมืองพระบาง
เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญในการทำศึกสงคราม
ตั้งแต่สมัยสุโขทัย, อยุธยา, ธนบุรี กระทั่งถึงกรุงรัตนโกสินทร์
ภายหลังเรียกชื่อว่า เมืองชอนตะวัน และเปลี่ยนเป็น นครสวรรค์ ในที่สุด


ชาวบ้านโดยทั่วไปมักเรียกกันว่า เมืองปากน้ำโพ ที่เรียกว่า “ปากน้ำโพ”
ก็คือว่าเป็นบริเวณที่แม่น้ำปิง วัง ยม และน่านมาบรรจบกัน
จึงเรียกว่า “ปากน้ำโผล่” และเพี้ยนมาเป็น “ปากน้ำโพ”

ชาวจีนที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากในบริเวณดังกล่าว
มักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำน่านเรียกว่า “แควใหญ่”
และบริเวณ “ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา” คือตลาดปากน้ำโพ
ซึ่งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก

ผู้คนที่ปากน้ำโพ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย และทำการประมง
เช่น เปิดร้านอาหาร ร้านทอง เลี้ยงปลาในกระชัง
หรือเลี้ยงปลาในบ่อปลา จับปลาในแม่น้ำ ขายเสื้อผ้า โดยร้านขายเสื้อผ้า
ที่เป็นแหล่งใหญ่ในจังหวัดนครสวรรค์อยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา



ที่ตลาดปากน้ำโพ เราได้ชมและชิมร้านค้า รถเข็น
และแผงลอยเจ้าดั้งเดิมหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำเลี่ยงจุ๊ยแก้ร้อนใน
ผลไม้แช่อิ่ม โมจิ ขนมไข่ ฯลฯ นับว่าเป็นสวรรค์ของนักชิมเลยทีเดียว




สมาคมไหหนำนครสวรรค์

ชาวไหหนำ หรือไหหลำเป็นผู้บุกเบิกสยามตอนบน
โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ด้วยความชำนาญทางด้านการประมง
การต่อเรือ และการทำโรงเลื่อย



เว็บไซต์สมาคม ฯ //hainan-nakhonsawan.com


เขาหน่อ-เขาแก้ว

เย็นวันนี้ เราเดินทางไปที่เขาหน่อ-เขาแก้ว
เพราะนัดกับสัตว์น่ารัก 2 ชนิดด้วยกัน
นั่นคือ เจ้าลิงน้อย เขาหน่อ และค้างคาว เขาแก้ว

เขาหน่อ ประกอบด้วย เขานางพันธุรัตหรือเขาลูกเล็ก
และเขาพระพุทธบาทหรือเขาลูกใหญ่
เมื่อครั้งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จภาคเหนือ
ทางชลมารคสายแม่น้ำปิง ได้เคยเสด็จประพาสบริเวณเขาหน่อเมื่อปี 2449



เจ้าลิงน้อย



เขาแก้ว

มีถ้ำซึ่งเป็นที่อยู่ของค้างคาวมากมาย ในเวลาเย็นใกล้พลบค่ำ
ฝูงค้างคาวจะพากันบินออกหากินนับล้านตัว
ค้างคาวบินออกหากินจากถ้ำ 30 นาทีก็ยังออกจากถ้ำไม่หมด
มีชาวบ้านนำอาหารมาจำหน่ายไว้บริการ
และมีศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP เฉลิมพระเกียรติ



เวลาค้างคาวออก



ระหว่างที่รอชมค้างคาวออกจากถ้า เราลิ้มรสส้มตำอร่อย ๆ
ของร้านค้าท้องถิ่นที่ขายบริเวณจุดชมค้างคาว
และซื้อไม้กวาด กล้วยกวน ลองชิมกันดู

ส้มตำอร่อย




ซื้อจิ้งหรีดทอด ที่ชาวบ้านเลี้ยงเอง ทอดขายเอง มากินเป็นมื้อเย็นกันด้วย




คืนนี้ เราพักที่ “บ้านสันคูรีสอร์ท”

ก่อนนอนคืนนี้ ลูกชายถามว่า “แม่รู้สึกไหมว่าวันอาทิตย์มาถึงเร็วจัง”
“แม่ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน” แม่ตอบ
วันเวลาแห่งความสุข มักจะผ่านไปเร็วเสมอ ใช่ไหมลูก ?


วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553

เรียนรู้การปั้นดินที่บ้านมอญ และ ของฝาก จังหวัดนครสวรรค์

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปกันแล้ว หลังจากกินอาหารเช้าที่รีสอร์ท
เราเช็คเอาท์ไปที่หมู่บ้านมอญ หมู่ 1 ต.บ้านแก่ง อ.เมือง จ.นครสวรรค์




ตามเส้นทางถนนนครสวรรค์ – บ้านแก่ง จะพบเห็นหน้าร้านขาย
เครื่องปั้นดินเผาของชาวบ้านมอญวางเรียงรายสองข้างทาง
ซึ่งพ่อค้าคนกลางจะมารับเครื่องปั้นดินเผาไปขายต่อทั่วประเทศ
อีกทั้งมีพ่อค้ารับซื้อส่งออกไปต่างประเทศ




ดูวิธีการทำ กว่าจะมาเป็นเครื่องปั้นดินเผา



นอกจากนี้ ยังมีสถานที่สำคัญในท้องถิ่น คือ “วัดเขาดิน”
ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
เคยประทับพัก เมื่อคราวเสด็จประพาสต้น



เราขับรถเข้าเมืองนครสวรรค์ เส้นทางนครสวรรค์-พิจิตร
จะพบแผงขายฝรั่งสด ๆ ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง
เราไม่รีรอที่จะแวะเข้าไปชิมและซื้อกลับบ้าน
ในราคา กิโลกรัมละ 20 บาท 6 ก.ก. 100 บาท
ฝรั่งสดใหม่ หวานกรอบ เมื่อกัดลงไปคำแรก เสียงกัด ดังกร๊อบ! เลย



จากนั้นไปจอดรถที่หน้า “อุทยานสวรรค์”
เพื่อไปกินอาหารกลางวันก่อนกลับกรุงเทพ ฯ ที่ “ภัตตาคารโกยี”
ข้างอุทยานสวรรค์ เป็นร้านอาหารชื่อดัง เก่าแก่ ดั้งเดิมของนครสวรรค์



..อร่อยสมดังคำร่ำลือ




ระหว่างทางที่ขับรถกลับกรุงเทพ ฯ ขากลับ
แวะซื้อของฝากที่ร้านศรีสง่า อ. พยุหะคีรี
มีของฝากจากสวรรค์จำหน่าย ของฝากจากร้านศรีสง่าเอง
มีหลายอย่าง ที่ขึ้นชื่อคือขนมเปี๊ยะ
และยังมีของฝากนครสวรรค์จากร้านอื่น ๆ วางจำหน่ายที่นี่ด้วย



ลูกชายหลับยาวในรถจนถึงวังน้อย
และอีกไม่นานก็ถึงบ้านของเราโดยสวัสดิภาพ



สรุปความประทับใจจากการท่องเที่ยวนครสวรรค์

1. ประทับใจอาหาร ปากน้ำโพได้รับฉายาว่า “เมืองอาหารอร่อย”
เมื่อได้ลองชิมแล้ว อร่อยจริง
2. ประทับใจแหล่งเรียนรู้และสถานที่ท่องเที่ยว
นครสวรรค์มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว
ทั้งโบราณสถาน ธรรมชาติ และแหล่งเรียนรู้สำหรับครอบครัว
3. ประทับใจความเป็นชุมชนดั้งเดิม ทั้งที่ปากน้ำโพ ชุมชนมอญ
และอัธยาศัยไมตรีของผู้คนในท้องถิ่นที่ได้พูดคุยกัน
4. ประทับใจที่พัก ที่พักที่นครสวรรค์ ไม่หรูหรา แต่ก็สะดวก
และประหยัด มีให้เลือกหลายรูปแบบ



ขอขอบคุณโครงการ 10 นักรีวิวพาแอ่วเหนือ เส้นทางสุดม่วน
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ที่มอบโอกาสให้ครอบครัวของเราได้ร่วมโครงการ



Create Date : 03 ธันวาคม 2553
Last Update : 3 ธันวาคม 2553 11:19:37 น. 7 comments
Counter : 8650 Pageviews.

 
Glitter Graphics




รักษาสุขภาพด้วยค่ะ อากาศหนาวแล้ว


โดย: Junenaka1 วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:14:23:13 น.  

 
ตามมาเที่ยว คอนหวัน ครับ


โดย: Kavanich96 วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:14:58:14 น.  

 
โห... เพิ่งทราบค่ะ ว่ามีที่เที่ยวเยอะขนาดนี้ เคยไปแต่เขากบแหะๆ


โดย: ด.ญ คณิตกร วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:12:04:34 น.  

 
สุดยอดครับ ครบรสจริงๆ แหล่งชาวไทยเชื้อสายจีน


โดย: singto IP: 180.180.117.87 วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:0:43:52 น.  

 
ขอบคุณที่มาเยื่อมเยือนนครสวรรค์บ้านเรา คราวหน้ามาเที่ยวใหม่นะคับ นครสวรรค์ยินดีต้อนรับ


โดย: นครสวรรค์ยินดีต้อนรับ IP: 182.53.165.241 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:43:56 น.  

 
♣คงจะสนุกมากสินะ♣


โดย: ♦♣♠♥ IP: 14.207.172.167 วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:19:45:14 น.  

 
♣คงจะสนุกมากสินะ♣

แง้ๆ


โดย: ฿฿฿฿฿฿฿฿ IP: 14.207.172.167 วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:19:47:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชมจันทร์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เดินทางสู่โลกกว้าง เพื่อไปเรียนรู้โลก ผู้คน เพื่อประสบการณ์ชีวิต

Friends' blogs
[Add ชมจันทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.