|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตามรอยพระเจ้าตากสินที่จันทบุรี
จันทบุรีถิ่นแดนนี้มีตำนาน พ่อกับแม่พาเกาลัดไปเที่ยวจันทบุรีครั้งแรก ก็ได้ไปชมแหล่งเรียนรู้มากมาย พอดีกับที่เกาลัดชอบเสียงกระหึ่มของเสียงดนตรีอินโทร (Intro) เพลงพระเจ้าตาก ของวงคาราบาวเป็นพิเศษ ทำให้ลูกชายเปิดเพลงนี้ฟังบ่อย ๆ จนร้องได้ จึงใช้เพลงนี้มาหลอกล่อให้ลูกกระตือรือร้นที่จะตามรอยเพลง ไปดูร่องรอยทางประวัติศาสตร์เรื่องนี้กัน
พระราชประวัติของพระบาทสมเด็จสมเด็จพระเจ้าตากสิน ประสูติในครอบครัวสามัญชน บิดาอพยพมาจากจังหวัดแต้จิ๋ว ประเทศจีน มีอาชีพค้าขาย มารดาเป็นคนไทย พระองค์บวชเรียนที่วัดเชิงท่า ต่อมาเป็นพ่อค้าเกวียน และรับราชการตำแหน่งเจ้าเมืองตาก พระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชร และพระเจ้ากรุงธนบุรี ตามลำดับ
เรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่เกี่ยวข้องกับท่านก็คือ เมื่อปี พ.ศ. 2310 พระเจ้าตาก หรือพระยาวชิรปราการในสมัยนั้น เห็นว่ากรุงศรีอยุธยาคงต้องเสียทีแก่พม่า จึงได้นำกำลังพล พร้อมทหารคู่ใจ ตีฝ่าวงล้อมของพม่าออกจาก กรุงศรีอยุธยา ไปทางทิศตะวันออก โดยตั้งใจว่าจะกลับมากู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนให้ได้โดยเร็ว แล้วยึดเมืองจันทบุรี ไว้เป็นที่มั่น เพื่อรวบรวมกำลังกลับมาตีพม่า
หลังจากรวบรวมกำลังพลและต่อเรือรบได้แล้ว ก็ยกทัพเรือเข้าสู่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาตีเมืองธนบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งค่ายของทหารพม่า และยกทัพไปตีค่ายโพธิ์สามต้น จากนั้นจึงปราบดาภิเษก เป็นพระเจ้ากรุงธนบุรี
พ่อบอกเกาลัดว่า ถ้ามาถึงจันทบุรีแล้ว อันดับแรก จะต้องไปที่ค่ายตากสิน หรือกองพันทหารราบที่ ๒ กรมทหารราบ ที่ ๑ กองพลนาวิกโยธิน เพื่อสักการะ อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยหน้าค่ายมีหมวกพระเจ้าตากขนาดใหญ่เด่นเป็นสง่า
ต่อมาเราพาเกาลัดไปเรียนรู้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายเนินวง กว่าจะหาทางเข้าได้ก็หลงทางอยู่พักใหญ่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี แห่งนี้ เป็นอาคารแฝด 2 ชั้น ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการค้าทางเรือของไทย ซึ่งมีการรวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ได้จากการดำเนินงานด้านการศึกษาค้นคว้าวิจัย ทางโบราณคดีใต้น้ำมาเป็นเวลากว่า 20 ปี
น่าเสียดายที่มีกฏห้ามถ่ายภาพภายในพิพิธภัณฑ์ จึงไม่ได้มีตัวอย่างภาพมาให้ชมกัน ชั้นล่างจัดแสดงให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนการลงไปสู่ใต้ท้องทะเลที่มีแสงสลัวลงและสามารถมองเห็น การปฏิบัติงานของนักดำน้ำที่กำลังทำงานอยู่ใต้ท้องทะเลได้อย่างใกล้ชิด มีการจัดแสดงแบบจำลองของเรือชนิดต่าง ๆ ทั้งเรือที่ใช้ในพระราชพิธีเรือพื้นบ้าน เรือที่ใช้ในการค้าขายระหว่างประเทศ ไปจนถึงเรือรบจำนวนมาก ซึ่งเมื่อได้ชมแล้วรู้สึกตื่นตา ตื่นใจ ชื่นชมความสามารถทางศิลปะของผู้จัดทำแบบจำลอง และความรอบรู้ถี่ถ้วนของผู้จัดแสดงเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้บริเวณชั้นล่างยังมีห้องของดีเมืองจันท์ ที่จัดแสดงของดีต่างๆ ของจังหวัดจันทบุรี อาทิ การทำเหมืองพลอย การทำสวนผลไม้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และเรื่องราวของชาวชอง ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมของจันทบุรีอีกด้วย นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ออกแบบได้ดีและน่าสนใจสำหรับผู้ที่เข้ามาศึกษา
ส่วนไฮไลท์ หรือห้องแสดงหลักอยู่ที่ชั้น 2 ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดสร้างเรือสำเภาขนาดเท่าของจริง ที่ผู้ชมสามารถเดินเข้าไปชมภายในลำเรือได้ เพื่อบอกถึงเรื่องราวการเดินเรือและการค้าขายระหว่างประเทศ
ในส่วนนี้แหละ ที่ถูกใจเกาลัดมาก ๆ เพราะทำให้เด็กน้อยรู้สึกเหมือนตัวเองได้เข้าไปอยู่ในเรือสำเภาจริง ๆ ได้เห็นตัวอย่างสินค้าที่บรรทุกอยู่ใต้ท้องเรือ ทั้งเครื่องเทศ เครื่องปั้นดินเผา และอื่น ๆ ได้เห็นว่าห้องพักของลูกเรือเป็นอย่างไร ลูกเรือที่ต้องรอนแรมอยู่กลางทะเลเป็นเวลานาน ๆ เขาจะต้องกินอยู่อย่างไร
เมื่อปีนบันไดขึ้นไปก็พบกับห้องของไต้ก๋ง หรือผู้บังคับเรือ สำเภอเรือ สมอเรือ และชิ้นส่วน ต่าง ๆ ที่สำคัญในการเดินเรือ
....เรื่องราวเหล่านี้ เมื่อได้เห็นด้วยตา ได้สัมผัสกับตัวเอง ย่อมดีกว่าอ่านจากหนังสือเป็นไหน ๆ พ่อแม่หรือคุณครู สามารถจัดกิจกรรมเสริมให้เด็ก ๆ ได้มากมายหลายเรื่อง ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์กับการเดินเรือ การค้าขายระหว่างประเทศ การทำงานของนักโบราณคดีใต้น้ำ ฯลฯ ขึ้นอยู่กับวัยและจุดมุ่งหมายที่จะให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้
นอกจากนั้น ที่จันทบุรียังได้ขุดพบโบราณสถานสำคัญ คือ อู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตาก สินมหาราช ตั้งอยู่ที่บ้านเสม็ดงาม อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี สันนิษฐานว่าเป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ใช้เป็นอู่ต่อเรือ เมื่อครั้งเตรียมยกทัพ ไปตีพม่าเพื่อกู้เอกราชชาติไทย โดยหน่วยโบราณคดีใต้น้ำ กองโบราณคดี กรมศิลปากร ได้ขุดค้นซากเรือและตรวจสอบชั้นดินทางโบราณคดีตามริมฝั่งอ่าว พบแอ่งน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ลักษณะคล้ายอู่เรืออยู่หลายแห่ง พร้อมทั้งส่วนประกอบต่างๆ ของเรือโบราณ และสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเรือสำเภาจีนแบบฟูเจียนขนาดเล็กใช้สำหรับบรรทุกสินค้า บริเวณใกล้เคียงมีโรงเก็บเรือจำลอง และเรือของชาวบ้านที่เคยใช้กันในอดีต
สิ่งที่หน่วยโบราณคดีใต้น้ำ กองโบราณคดี กรมศิลปากร ได้ขุดค้นพบนั้น ถูกนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ที่อู่ต่อเรือพระเจ้าตาก และยังได้มีการจัดทำเรือจำลองไว้ให้ชมด้วย
เมื่อได้ไปเรียนรู้ตามแหล่งเรียนรู้ดังกล่าว ข้อมูลที่เคยอ่าน และเก็บบันทึกไว้ในความจำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การกู้บ้านเมืองของสมเด็จพระเจ้าตากสินก็จะเกิดความเข้าใจมากกว่าเดิม และประทับใจมากขึ้น
ผู้สนใจพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี สามารถเข้าชมได้ทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 9.00-16.00 น. ติดต่อได้ที่ โทร. 0 3939 1431-3 โทรสาร 0 3939 1433 หรือเข้าไป ดูรายละเอียดได้ที่ //www.thailandmuseum.com
ภาพประกอบ ดูที่ลิงค์นี้ค่ะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=sineenart&month=10-04-2008&group=7&gblog=23
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 11 สิงหาคม 2554 15:45:53 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1687 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|