Bloggang.com : Metallurgist : Here Comes Metal: New Albums Updated

Here Comes Metal: New Albums Updated

ANOTHER NEW METAL STUFFS

TERRORIZER – Darker Days Ahead
Genre: Death metal/grindcore
Country: USA

นับเป็นเวลาร่วมสิบเจ็ดปีที่อัลบั้มไกรน์ดคอร์สุดคลาสสิค World Downfall (Earache Records – 1989 เป็นอัลบั้มแรกที่โปรดิวซ์โดย Scott Burns แห่ง Morrissound Studio) ออกมาสร้างปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ให้เป็นตำนานที่กล่าวขานมาจนตราบวันนี้ สมาชิกสมัยนั้นกลายเป็นเซียนในสาย extreme metal กันไปแล้วถ้วนหน้า ผมนึกว่าอัลบั้มนั้นจะเป็นัลบั้มแรกและอัลบั้มสุดท้ายซะอีก แต่แล้ว Pete Sandoval (มือกลอง Morbid Angel) กับJesse Pintado (อดีตมือกีตาร์วง Napalm Death) สองเพื่อนซี้กลับจับมือกันเดินเข้าสตูดิโอระลึกถึงสิบเจ็ดปีแห่งความหลังด้วยการออกอัลบั้มที่สองในนาม Terrorizer อีกครั้ง แม้สมาชิกเก่าอีกสองคนคือ David Vincent กับ Oscar Gacia จะไม่ได้ร่วมงานอัลบั้มใหม่นี้ด้วยแต่ก็ได้เพื่อนเก่า Antony Rezhawk (Antony Militia จากวง Resistant Militia ร้องนำ) กับ Tony Norman (มือกีตาร์ Morbid Angel/ex-Monstrosity มารับตำแหน่ง bass&guitar) มาแทนที่ โดยใช้ชื่ออัลบั้มใหม่นี้ว่า Darker Days Ahead เป็นอัลบั้มแรกในรอบปีที่ผมยังไม่ทันได้ฟังก่อนก็ควักกระเป๋าจ่ายมาเอามาครอบครองไว้อย่างง่ายดายยิ่งนัก

DDA นั้นออกกับสังกัด Century Media เป็นเมทัลสุดโหดที่ออกไปทางแบบโอลสคูลเดธเมทัลหนัก ๆ เน้นเทคนิคและฝีมือแพรวพราวมากกว่าจะเป็น grindcore ดิบ ๆ เถื่อน ๆ อย่างในอัลบั้มแรกครับ ดนตรีและซาวน์ดกระเดียดไปทางเดธเมทัลแบบมาตรฐานอย่าง Morbid Angel นั้นแหละครับบางช่วงนึกถึง Bolt Thrower ด้วยหนักหน่วงและอึมครึมดีครับ ยิ่งได้มือกลองเดธเมทัลที่ที่ถูกจัดอยู่ในหนึ่งผู้เยี่ยมยุทธที่สุดในโลกแล้วล่ะก็ไม่ต้องห่วงเลย ไม่ว่าเทมโปจะช้า ปานกลาง หรือเร็ว พ่อกระหน่ำกลองไม่ยั้งมือตีน ทำให้ดนตรีโดยรวมไม่หลวมกลวงครับ Antony เองก็สำรอกเดธได้โหดเหี้ยมน่าฟังครับ เพลงที่ทำให้นึกถึงซาวน์ดในแบบ World Downfall ด้วยส่วนผสมของริฟแบบ thrash ผสมไกรน์ดคอร์ก็มีครับอย่าง Crematorium, Mayhem, Fallout, Blind Army, Victim Of Greed, Nightmare และDead Shall Rise V.06 (เพลงเก่ามาทำใหม่) เพลง Outro มาแปลกหน่อยครับชื่อเพลง Ghost Train เป็นงานประเภททดลองที่ค่อนข้างรกหูหน่อยด้วยการชำเรากีตาร์ของ Sandoval กับ Piano สองนาทีกว่า ๆ ฟังแล้วปวดหัวชิบเป๋ง แม้ว่า Darker Days Ahead จะไม่ใช่ไกรน์ดคอร์ระดับมาสเตอร์พีซอย่างอัลบั้มแรกแต่ก็ถือว่าเป็นอัลบั้มเดธเมทัลที่เจ๋งใช้ได้เลยทีเดียวครับโชคดีมากที่เสียตังค์แต่ไม่เสียอารมณ์ ไม่รู้ว่าจะมีอัลบั้มลำดับที่สามหรือเปล่าก็ต้องคอยดูกันต่อไปแต่อีกกี่ปีไม่รู้นะ

ปล: Jesse Pintado ได้เสียชีวิตไปเทื่อสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง ถือโอกาส RIP ไว้ ณ ตรงนี้เลยครับ

SUFFOCATION – Suffocation
Genre: Death metal
Country: USA

ยังคงสร้างผลงงานที่เปี่ยมคุณภาพอย่างไม่หยุดยิ่งเช่นเคยครับ วงเดธเมทัลจากนิวยอร์คที่มีซาวน์ดเฉพาะตัวและเป็นอิทธิพลหลัก ๆ ของเยาวชนบรูทัลรุ่นหลัง กลับมาสร้างความบรรลัยให้กับหูของคุณ ๆ กันอีกแล้วด้วย Self Title ที่คุณภาพเต็มเปี่ยม 100/100 ภาคริทึ่มยังคงอ้วนหนาหนึบและซับซ้อนแถมด้วยโซโล่ไฟแลบที่เหี้ยมเกรียมเช่นเคยบางเพลงมีเมโลดี้สอดแทรกไว้หลาย ๆ ช่วงด้วยครับ ไลน์กลองละเอียดยิบ ทุกเพลงเป็นเดธเมทัลชั้นยอดครับ ความโหดและปราณีตนั้นไม่แแพ้ Soul Of Deny และ Pierced From Within แน่นอนครับ เหนือคำบรรยายจริง ๆ สำหรับวงระดับนี้แล้วไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ เก็บกะตังค์รอซื้ออัลบั้มเต็มได้เลย ยิ่งออกมาในปีเดียวกับ Kill ของ Cannibal Corpse แบบนี้คงกอดคอกันขึ้นโผอัลบั้มเดธเมทัลสุดยอดแห่งปีแน่นอน

SKINLESS – Trample The Weak, Hurdle The Dead
Genre: Death metal
Country: USA

พูดถึง Suffocation ไปแล้วก็คงต้องพูดถึงวงรุ่นน้องจากนิวยอร์คเหมือนกัน ผมติดตามงานของ Skinless มาตั้งแต่อัลบั้มแรก Progression Toward Evil (1998) สมัยที่ยังเป็นวงอันเดอร์กราวน์ดกวน ๆ ที่เล่นดนตรีโดนใจอย่างยิ่งด้วยส่วนผสมของฮาร์ดคอร์ ไกรน์ดและเดธเมทัลเข้าด้วยกันและสร้างสีสรรค์ด้วย movie samples ที่ตอนนี้กลายเป็นของคู่กันสำหรับวงประเภทเดียวกันนี้ไปซะแล้ว Foreshadowing Our Demise (2001) ทางวงได้มาอยู่ในชายคาของ Relapse Records เรื่องโปรดักชั่นจึงไม่ต้องพูดถึงครับ อัลบั้มนั้นสร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขามากเลยทีเดียว จนในปี 2003 อัลบั้ม From Sacrifice To Survival ยิ่งตอกย้ำความสำเร็จเข้าไปอีกด้วยภาคดนตรีและเนื้อร้องที่สุขุมกว่าและมีรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาของประสบการณ์

Trample The Weak, Hurdle The Dead คออัลบั้มล่าสุดที่เพิ่งออกมาหมาด ๆ กับการเปลี่ยนแปลงสมาชิกบางส่วน หลังจากทัวร์อย่างหนักจบสิ้นลงมือกลอง John Longstreth ก็ถูกเชิญให้ออกจากวงไป (ตอนนี้เล่นให้กับ Dim Mak) Bob Beaulac สมาชิกดั้งเดิมมารับตำแหน่งแทน ส่วนนักร้องนำที่ร่วมหัวจมท้ายกันมากด้วยกัน Sherwood Webster ก็ตัดสินใจลาออก (รู้สึกว่าจะไปเรียนต่อให้จบมั๊ง) Jason (น้องชายของ Joe Keyser มือเบส) จึงมารับหน้าที่แทนแถมมีส่วนช่วยเขียนเนื้อร้องด้วย แถมสำรอกได้ดีไม่แพ้ Sherwood เลยครับ theme และ artwork ของอัลบั้มออกไปทางการเมือง สงคราม และการทำลายล้างทั้งหลายครับ ดนตรีโดยรวมนั้นผสมผสานกันไประหว่างของเก่าโจ๊ะ ๆ แบบฮาร์ดคอร์ติดหูแต่เน้นเทคนิคริฟที่ซับซ้อนอย่าง Foreshadowing Our Demise กับความมืดหม่นในแบบ From Sacrifice To Survival แซมด้วย movie sample อยู่เช่นเคยครับเสียงปืน ระเบิด รถถังสร้างเสริมอารมณ์ได้ดีครับ ของแบบนี้ยังงัยก็ไม่เชยนะผมว่า เพลงแต่ละเพลงมีความยาวขึ้นครับ แปดเพลงในอัลบั้มมันส์หยดทุกเพลงไม่มีเพลงไหนเด่นหรือด้อยไปกว่ากันเท่าไรนัก ควบกันเร็วและต่อเนื่องทุก ๆ เพลงครับ ปิดอัลบั้มด้วยการคัฟเว่อร์เพลง Wicked World ของ Black Sabbath ในเวอร์ชั่นเดธเมทัลที่ผสมผสานด้วยซาวน์ดของพวกเขาเองกับท่อนริฟในแบบใกล้เคียงต้นฉบับแล้วท่อนจบแถมด้วยด้วยอินโทรเพลง N.I.B. เจ๋งใช่ย่อยครับ แนะนำอัลบั้มนี้สุด ๆ ครับสำหรับคอเดธเมทัล

NECRODEATH – 100% Hell
Genre: Thrash metal
Country: Italy

ไม่ค่อยได้ติดตามงาน thrash จากอิตาลีเท่าไหร่เลยครับ แต่วงนี้โดนแฮะเลยเอามาแนะนำซักหน่อย จริง ๆ แล้ววงนี้ก่อตั้งวงกันตั้งแต่ 1984 แล้วครับ (ถ้าเดาไม่ผิด น่าจะเป็นวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ตามชื่อเพลงอินโทรครับ) อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่หกแล้ว เคยได้ยินแต่ชื่อครับเพิ่งได้ฟังจริง ๆ ก็อัลบั้มนี้แหละ ดนตรีเนื้อแท้แล้วเป็นโอลสคูลแธรชแบบดั้งเดิม ผสมผสานกับเดธเมทัล และเมโลดี้เป็นกระตั๊ก เสียงร้องนำออกไปทางแบล็คเมทัลอยู่กลาย ๆ ครับ อาจจัดอยู่ในสาย black thrash ก็ได้ครับ ถ้าอธิบายง่าย ๆ ก็คือออกไปทาง Kreator เสียมากครับ แทร็คที่สอง “War Piant” Hyperbole และ “Beautiful – Brutal World”คือเพลงที่ครอบคลุมทางเดินของดนตรีทั้งหมดที่ผมกล่าวมาข้างต้นครับ กลอง blast beat กับริฟมันส์ ๆ เป็นส่วนประกอบหลัก ๆ ของอัลบั้มนี้ครับ ซาวน์ดเอฟเฟ็คเพื่อสร้างบรรยากาศก็มีให้ได้ฟังกันในหลาย ๆ เพลง ขฎะที่ “Master Of Morphine” คือดนตรีแธรชครบสูตรฟังแล้วอาจจะคุ้น ๆ หูเหมือนวงดัง ๆ หลายวงในสายนี้ทำกันขึ้นอินโทรด้วยอคูสติคเบา ๆ เพราะพริ้งไปด้วยเมโลดี้งาม ๆ แล้วค่อยเร่งจังหวะขึ้น ทีละนิด ๆ ดูเหมือนจะเป็นเพลงช้าที่สุดในอัลบั้มครับ Identity Crisis มีคีย์บอร์ดมาฉาบเป็นแบล็คกราวน์ดโดยไม่จำเป็นครับ แต่ก็ทำให้เพลงนี้มีความเด่นเฉพาะตัวออกไปครับ จริง ๆ ดนตรีของทุก ๆ ของเพลงในอัลบั้มนี้มีลักษณะเฉพาะตัวของที่แตกต่างกันออกไปครับ Hyperbole เป็นบทกล่าวลาอัลบั้มก่อนที่จะอัดกันด้วยไตเติ้ลแทร็คยาวถึง 9:38 นาทีครับ ภาคดนตรีหลากหลายมากน่าจะเป็นบดคัดย่อของอัลบั้มได้ครับ 100 % Hell อาจไม่ใช่งานระดับแธรชชั้นยอดเท่าไหร่ครับ แต่ฟังเอาความรู้และประสบการณ์ทางหูนั้นได้ประโยชน์อย่างยิ่ง

EYES OF FIRE – Prisons
Genre: Doom/Sludge metal
Country: USA

คุยเกี่ยวกับสายดูมเมทัลบ้างดีกว่าครับให้ได้ผ่อนคลายหูบ้าง (แต่ก็อาจมึนโสตประสาทแทนได้ครับ) อัลบั้มล่าสุดของอเมริกันดูมจาก Orange County วงนี้ได้รับการวิจารณ์ที่ดีมากครับ Prisons นั้นเป็นงานที่อุดมไปด้วยริฟดุดันหนักอึ้งและมืดอึมครึม ออกไปทางดูมโหด ๆ กราดเกรี้ยวหน่อยครับทั้งภาคดนตรีและร้องนำ อย่างไรก็ตามครับแทบจะทุก ๆ เพลงนั้นถูกสอดแทรกไปด้วย emotion เยี่ยม ๆ ละลื่นหูดีครับกลิ่นไอของ gothic และ progressive metal ก็มีอยู่เยอะเช่นกันเรียกได้ว่ามีความหลากหลายอยู่มากโข ดนตรีของ Eyes Of Fire นั้นอาจจะถูกจัดรวมไว้ในทิศทางเดียวกับ Isis หรือNeurosis ก็ได้ครับถ้าพูดถึงเรื่องความละเมียดละมัย ส่วนความดุดันอาจจะเปรียบได้กับ High On Fire และMastodon ประมาณนั้นดังนั้นใครที่เป็นแฟนของวงเหล่านี้ก็ย่อมต้องชื่นชอบ Prisons แน่นอน ทุก ๆ เพลงน่าฟังมากครับไม่น่าเบื่อเลยฟังแล้วไม่ง่วงแน่นอนครับ เรียกได้ว่าเป็นอัลบั้มที่สวยแต่ดุ เป็นงานที่ยอดเยี่ยมมากครับ

DAYLIGHT DIES – Dismantling Devotion
Genre: Doom metal
Country: USA

จากค่าย Candlelight Records วงดูมเชื้อสายอเมริกันอีกวงครับ วงนี้ออกไปสายเดธเมทัลปนเมโลดิคหน่อย Daylight Dies นั้นเป็นวงที่ตอกย้ำให้รู้ว่าดนตรี doom กับ progressive เดี๋ยวนี้กลายเป็นของคู่กันไปแล้วครับ Dismanting Devolution ก็เช่นกันครับ เพลงแต่ละเพลงยาวยืดตามสูตรสำเร็จรวมแปดเพลงล่อไปห้าสิบนาทีกว่า ๆ ส่วนผสมของดนตรีเดธเมทัลนั้นมีอยู่เยอะมากโดยเฉพาะเสียงร้องของ Nathan Ellis พาร์ทกลองดุดันหนักแน่นมาก ๆ เสริมความโหดให้ดนตรีดูมกลายเป็นดนตรีที่เกรี้ยวกราดได้เยี่ยมเลยทีเดียว อาจเรียกได้ว่าเป็นวงเดธเมทัลที่เล่นดนตรีเมโลดิคดูมก็น่าจะได้แต่ว่าอย่าไปสนใจชื่อแนวเพลงมากครับปวดกระบาลเปล่า ๆ กีตาร์คู่ผลัดกันทำงานได้ดีครับทั้งริฟเจ๋ง ๆ และเมโลดี้กีตาร์สวย ๆ ตลอดจนโซโล่อันแสนเศร้าสร้อยมีให้ฟังกันจนฉ่ำเยิ้ม เสริมด้วยซาวน์ดแบบ atmospheric และ melancholic แล้วทำให้อัลบั้มนี้มีรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก ๆ ครับ ใครที่ชอบ Katatonia ในยุคแรก ๆ (แต่เพลง Solitaly Refinement นั้นเสียงร้องแบบเคลียร์ทำให้นึกถึง Katatonia ในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง), Opeth หรืออเมริกันดูมเจ๋ง ๆ ในยุคนี้แบบ Novembre’s Doom ไปจนถึง Made in Thailand (ไม่ใช่คาราบาวเด้อ) อย่างวง Doomed Day ของพี่สมศักดิ์ แล้วควรหาอัลบั้มนี้มาฟังโดยด่วน แนะนำจากใจจริง ๆ ครับ

ANGMAR – Metamorphosis
Genre: Black metal
Country: France

วงแบล็คเมทัลหน้าใหม่จากนอร์มันดีประเทศฝรั่งเศสกับอัลบั้มแรกที่สุดตีนจริง ๆ ครับ พวกเขาเป็นวงประเภท unmark ที่เล่นดนตรีแบล็คเมทัลแบบโอลสคูลดิบเถื่อนแต่แฝงไปด้วยเมโลดี้อยู่ตลอดทั้งอัลบั้ม อัลบั้มนี้ออกมาเมื่อต้นปีนี้กับสังกัดอันเดอร์กราวน์ด Northern Silence โดยเมื่อปี 2003 พวกเขาเคยออกเดโมมาแล้วหนึ่งชุดชื่อว่า Aux Funerailles Du Monde… ได้ออกทัวร์กับวงดัง ๆ ระดับโลกหลายวงอย่างเช่น Enslaved, Satyricon, etc.. มาแล้วครับ ดนตรีของอัลบั้มนี้แน่นมาก ๆ แม้ว่าจะมีสมาชิกกันเพียงแค่สามคนเท่านั้นอันได้แก่ Hemreich (Guitars / Vocals / Piano), Welkin (Bass / Vocals) และFog (Drums /Vocals) เครื่องดนตรีทุกชิ้นทำงานกันอย่างเต็มที่ครับเมโลดี้มาจากกีตาร์และเบสล้วน ๆ ไม่ต้องพึ่งพาคีย์บอร์ดเลยครับ (แม้ว่าจะมีคีย์บอร์ดประกอบฉากอยู่บาง ๆ ก็ตาม) ทุก ๆ เพลงอัดกระหน่ำเร็วจี๋กันแบบ fast black แต่เคลือบด้วยเมโลดี้และริฟกีตาร์เจ๋ง ๆ อยู่ตลอดอย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้น Dead Nation เพลงเปิดตัวที่ได้กลิ่นไอของ Immortal มาไม่น้อย ฝีมือกลองของ Fog นั้นเข้าขั้นเซียนในสายนี้เลยทีเดียวคือ ส่วนเบสนั้นไม่ใช่ธรรมดาครับทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง ในทุก ๆ เพลง เรียกได้ว่าเด่นชัดไม่แพ้กีตาร์และกลอง โดยเฉพาะไลน์ของเพลง Homini Delenda Est นั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นตัวเอกเลยทีเดียวในท่อนท้าย ๆ When The World Overturns มี piano มาขับกล่อมบรรยากาศแบบ atmospheric ได้สวยงาม ก่อนที่จะต่อด้วยraw black ในเพลง Supreme Being ที่มีกลิ่นไอของ Immortal ในยุคต้น ๆ หึ่งเชียว ท่อนกลางของเพลงถูกผ่อนคลายด้วยท่อนริฟเฮฟวี่ซึ่งเรียบง่ายแต่หนักแน่นตึ๊บ In Die Unterwelt นั้นเป็นเพลงปิดอัลบั้มที่ท่อนจบแทรกด้วยเมโลดี้กีตาร์เบา ๆ ปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลายหูดีครับ ช่วงนี้ดนตรีแบล็คเมทัลสำหรับพวก purist เจ๋ง ๆ ไม่มีสารเติมแต่งหาฟังได้ก็จากวงอันเดอร์กราวน์ดโนเนมนี่แหละครับ Angmar คือตัวอย่างที่ดีและ Metamorphosis ก็คืออัลบั้มน่าฟังสำหรับแฟนแบล็คเมทัลพันธ์แท้ล่ะครับ

AZARATH - Diabolic Impious Evil
Genre: Death metal
Country: Poland

อัลบั้มล่าสุดของอีกหนึ่งวงหัวแถวแห่งวงการเมทัลของโปแลนด์ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกระดับเซียนในสายพันธ์เดธ/แบล็คเมทัลของบ้านเค้าล่ะครับ ดนตรีเป็น extreme death metal ที่แม่งโหดโคตร ๆ เลยครับ อัดกันเร็วจี๋และด้วยอิเมจและเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับความดีงามของโลกใบนี้ทั้งสิ้น ชื่อเพลงอย่างเช่น Whip The Whore, Baptized In Sperm Of Antichrist, For Satan My Blood และAnti-Human, Anti-God แค่นี้ก็คงอธิบายให้เห็นภาพได้คร่าว ๆ ไม่มากก็น้อยล่ะครับ ภาคดนตรีที่บุกตะลุยฆ่าล้างผลาญแบบ hyper-blast beat ของอัลบั้มนี้นั้นไม่ได้ปั่นขยี้กันแหลกลาญจนหาเนื้อความไม่ได้ครับ ท่อนโซโล่เก๋า ๆ นั้นมีให้ฟังอยู่ทุก ๆ เพลงครับพวกพี่แกไม่ได้เน้นเมโลดี้สวยงามเลยครับตรงกันข้ามเสมือนกับว่ายิ่งกราดเกรี้ยวชั่วร้ายเท่าไรยิ่งดี ส่วนพาร์ทกลองนั้น ใครที่รู้จัก Inferno แห่ง Behemoth ดีแล้วก็คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรเลยครับ ดนตรีของ Azarath นั้นเป็นสายพันธ์เดียวกับ Behemoth อยู่แล้วพี่ชายท่านนี้จึงทำงานได้สะแด่วเสมอไม่ว่าจะเล่นให้กับวงไหนก็ตาม อัลบั้มนี้รีบ ๆ เล่น ๆ รีบ ๆ จบลงด้วยความยาวเพียงสามสิบนาทีเศษ ๆ เท่านั้นแต่อาจทำให้โสตประสาทของคุณนั้นหยุดสั่งการได้นะครับทำเป็นเล่นไป ตั้งแต่ปีที่แล้วละวง Polish death/black metal ระดับชั้นนำต่างออกอัลบั้มมาผลักดันให้วงการเมทัลของประเทศได้คึกคักกันดีครับ ไม่ว่าจะเป็นวง Trauma, Hell-Born, Vader หรือ Vesania และก็แน่นอนล่ะครับ Azarath ต้องออกทัวร์ร่วมกับวงเหล่านี้อยู่แล้วซึ่งเรา ๆ ก็คงอดดู....ตามเคยครับพูดให้เซี่ยนอยากไปงั้น ๆ

INSOMNIUM - Above The Weeping World
Genre: Melodic death metal
Country: Finland

เปิดตัวอัลบั้มได้แสนเชยอย่างเสียงฝนตก (และปิดอัลบั้มด้วยแบบเดียวกัน) คลอเคล้าด้วยตัวโน๊ตจากเปียโนใน The Gale แต่อย่ากระนั้นเลยกีตาร์เมโลดี้สวย ๆ และกระเดื่องกลองที่แสนหนักแน่น และกลิ่นไอของดนตรีแบบโพรเกสซีพคือกุญแจที่สำคัญสำหรับการไขเข้าสู่ห้วงอารมณ์ลึกกับอัลบั้มลำดับที่สามนี้ของ Insomnium วงจากฟินแลนด์ที่เล่นเดธเมทัลในแบบโกเธนเบิร์กผสมผสานซาวน์ดแบบฟินนิชเมทัลอย่างที่ Sentenced และAmorphis เคยสร้างสรรค์ไว้ งานของ Insomnium นั้นจึงค่อนข้างไปทางเมโลดี้ที่ซับซ้อนและดนตรีที่หนักหน่วงกว่าถ้าเทียบกับวงสวีดิชโดยทั่วไป งานระดับนี้ถ้าเอาไปเทียบกับรุ่นใหญ่ก็คงไม่หนีห่างจาก Dark Tranquillity และOpeth ล่ะครับ (ได้รับอิทธิพลมาจากวงนี้ค่อนข้างเยอะครับโดเฉพาะในเพลง Last Ststement กับ In The Groved Of Death ความยาว 10:08 นาทีนั้นชัดแจ้งเลย) ดนตรีไม่หลวมหรือโมเดิร์นจนไร้แก่นสารแบบวงเมโลดิกเดธรุ่นใหม่ ๆ ทั่ว ๆ ไปแน่นอน และอย่าหวังว่าจะเป็นไสตล์เดียวกับ COB ครับคนละเรื่องเลย พวกเขากลายเป็นวงที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่งครับด้วยอายุน้อย ๆ กันทั้งนั้นแต่ความสามารถและไอเดียกระฉูดแท้ ๆ ฟอร์มวงกันตั้งแต่ปี 1997 โดย Niilo Sevänen (bass&vocals), Ville Friman (guitars), Ville Vänni (guitars) Markus Hirvonen (drums) แต่ละเพลงไม่มีความซ้ำซากจำเจแน่นอนครับภาคดนตรีเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดไม่วนไปวนมาส่วนภาคเนื้อร้องนั้นดูเหมือน Niilo รับหน้าที่นี้เป็นหลักไปซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลยครับเพราะเจ้าหมอนี่กำลังเรียนเกี่ยวกับ cultural history ใน University Of Turku คงมีไอเดียอะไรเยอะ ผมชอบดนตรีเมโลดิคเดธที่ไม่ต้องให้ความสำคัญกับคีย์บอร์ดแต่บรรยากาศที่ได้อรรถรสนั้นมาจากกีตาร์คู่อย่างวงนี้แหละครับเทมโประดับกลางดนตรีเป็นเดธเมทัลจริง ๆ ไม่ได้หลอกล่อด้วยเมโลดิคแธรชที่โหล ๆ จนเกินงามจนดนตรีเมโลดิคเดธถูกลดคุณค่าลงไปทั้ง ๆ ที่ดนตรีแนวนี้เมื่อก่อนครั้งอดีตมันน่าหลงไหลยิ่งนัก Above The Weeping World ของ Insomnia ช่วยรักษาและยกระดับมาตรฐานของสายพันธ์ได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ

Create Date : 03 ตุลาคม 2549

Last Update : 4 ตุลาคม 2549 22:56:46 น.

0 comments

Counter : 667 Pageviews.