Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
20 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
Here Comes Metal: Incredible Metal Albums of the Year 2005 (Part I)

2005 (พ.ศ.๒๕๔๘) นับได้ว่าเป็นปีที่อุดมไปด้วยอัลบั้มเมทัลชั้นเยี่ยมเข้าขั้นมาสเตอร์พีซนับไม่ถ้วน วงเมทัลหลายวงทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ต่างก็ผลิตผลงานที่ทรงคุณค่าออกมาให้สาวกกระโหลกเหล็กได้เสพสัมผัสกันจนเลือกแทบไม่ถูก

ผมนึกย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนสมัยที่เรียนอยู่ม.ปลาย เมื่อครั้งที่ดนตรี grunge, modern rock และAlternative ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตในสายเมทัลของผมต้องแคบตีบตันลง เมื่อทางเลือกในการเสพดนตรีที่ชีวิตนี้ได้ฝักใฝ่คล้ายกับเป็นทางธรรมส่วนบุคคลนั้นค่อย ๆ ลดลงจนแม้แต่การจะหาซื้ออัลบั้ม Divine Intervention ของเจ้าพ่อ Slayer ยังกลายเป็นเรื่องยากเย็นสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในกทม. ในช่วงนั้น นั่นคืออดีตที่ไม่เคยลืม

กระทั่งปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีส่วนช่วยผลักดันข่าวสารเกี่ยวกับดนตรีเมทัล (หรือแม้แต่ดนตรีสาขาอื่น ๆ ก็เหอะ) ให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายมากขึ้น ทำให้ณ วันนี้ผมได้เลือกที่จะเสพดนตรีที่ใจชอบได้อย่างไม่ยากเย็นอีกต่อไป อัลบั้มเมทัลของปี 2005 ที่น่าจับตามองและจับจองเป็นเจ้าของที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนั้น มาจากประสบการณ์ในการฟังด้วยตนเองทั้งสิ้น ทั้งที่กัดฟันน้ำตาเล็ดควักกระเป๋าจ่าย ยืมเพื่อนบ้าง หรือโหลดมาบ้างก็แล้วแต่ เป็นแค่ความคิดตึกตรองส่วนตัวเท่านั้นครับ ไม่มีเจตนาจะโฆษณาให้กับศิลปินรายใดทั้งสิ้นครับ ผลงานเหล่านี้อาจโดนใจผมแต่ในทางกลับกันมันอาจเป็นแค่ขยะเมทัลธรรมดา ๆ สำหรับหลาย ๆ ท่าน ซึ่งก็คงต้องยอมรับฟังความคิดเห็นกันไปครับ เอาล่ะครับพล่ามมากไปแล้วครับ ตามสบายเด้อ!!


NAPALM DEATH – The Code Is Red… Long Live The Code
(Grindcore/death metal)



จากวงพังค์แทรชอันเดอร์กราวน์ดที่ไร้ชื่อเสียงจากเบอร์มิ่งแฮม ประเทศอังกฤษ กระทั่งผ่านมากว่ายี่สิบปีที่ Napalm Death เจ้าพ่อ grindcore/death metal ได้สร้างปรากฏการณ์ความหนักกะโหลกให้เป็นที่กล่าวขวัญกันทั่วโลก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงเมทัลรุ่นหลังนับไม่ถ้วนในการสร้างสรรค์ผลงาน แฟน ๆ จำนวนมากต่างก็รอคอยที่จะได้พบกับอัลบั้มมาสเตอร์พีซอย่าง Scum ในปี 87 ที่พวกเขาได้ฝากไว้เป็นแม่พิมพ์ของดนตรีไกรน์ด ส่วนดนตรีในอัลบั้มยุคหลัง ๆ นั้นพวกเขากลายเป็นแค่วงที่เล่นเดธเมทัล ในปีนี้พวกเขากลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วย The Code Is Red… Long Live The Code กับสังกัด Century Media ด้วยไลน์อัพชุดปัจจุบันคือ Mark Barney Greenway (vocals), Shane Embury (bass), Mitch Harris (guitar), Jesse Pintado (guitar) และDanny Herrera (drums)
อัลบั้มล่าสุดนี้อาจนับได้ว่าเป็นงานที่แฟน ๆ รอคอยอย่างแท้จริง ทั้งอัลบั้มบรรจุด้วย 15 บทเพลงที่เร็วและเกรี้ยวกราดอย่างไกรน์ดคอร์แถมด้วยความหนักแน่นดุโหดอย่างเดธเมทัล แค่เพลงเปิดอัลบั้ม The Silence is Deafening ก็อัดกระหน่ำกันสะใจแล้วครับ ด้วยท่วงทำนองที่บ่งบอกถึงความเป็นรากฐานของพวกเขาอย่างชัดเจน ดนตรีเน้นเร็วด้วยท่อนริฟแบบเฮฟวี่สับแหลก กลิ่นพังค์ตลบอบอวล ท่อนจบเป็นจังหวะเนิบ ๆ ชวนโยกหัวครับ เนื้อหาของเพลงส่วนใหญ่นั้นเข้าเรื่องการเมืองตามสไตล์ของทางวงครับ กลองของ Danny อัดกันสะบั้นหั่นแหลก จนในบางจังหวะผมคิดว่าอาจจะรกจนเกินไป มีอีกหลายเพลงที่ผมชอบเป็นพิเศษก็เช่น All Hail the Gray Dawn, Climate Controller, Pay for the Privilege of Breathing, Right You Are, Pledge Yourself, Our Pain Is Their Power และMorale นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญยอดฝีมือมาร่วมงานในอัลบั้มนี้ด้วยครับได้แก่ Jello Biafra, Jamey Jasta (Hatebreed) และJeff Walker (Carcass) ครับ จริง ๆ แล้วจะให้กล่าวถึงเนื้อหาสาระของอัลบั้มนี้ยังมีอะไรอีกเยอะครับ แต่พอแค่นี้ดีกว่า เอาเป็นว่าใครที่อยากลิ้มรสความหนักกระโหลกในแบบ death metal/grindcore ที่สร้างสรรค์จากต้นตำรับแล้วล่ะก็อัลบั้มนี้ใช้ได้เลยครับ


CORROSION OF CONFORMITY – In the Arms of God
(Heavy/thrash/stoner/southern rock)



วงอเมริกันเมทัลวงนี้นับได้ว่าเป็นวงที่เปลี่ยนสไตล์ดนตรีของตัวเองบ่อยที่สุดวงหนึ่งก็ว่าได้ จากอดีต hardcore punk ในต้นยุค 90s มาเป็น thrash จนมาเป็น stoner/sludge metal เข้าจนได้ จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามที่พวกเขาหาจุดยืนของตัวเองไม่ได้เสียที อย่างน้อย C.O.C. ก็ยังคงผงาดอยู่บนหัวแถวของวงดนตรีหนักกระโหลกอยู่ดีครับ แม้อัลบั้มก่อนหน้านี้จะไม่ค่อยได้รับเสียงตอบรับที่ดีเท่าไหร่นักแต่ใช่ว่าพวกเขาจะถึงทางตันครับ หลังจาก Pepper Keenan (vol. & guitar) และผองเพื่อนซุ่มทำงานอยู่หลายปีเพื่อคลอดดนตรีที่เปี่ยมคุณภาพออกมา และได้ผลผลิตที่โคตรเฮฟวี่อย่าง In the Arms of god อัลบั้มล่าสุดนี้คือ master piece ของทางวงในรอบทศวรรษเลยก็ได้ครับ ด้วยสำเนียงมืดหม่นแบบ heavy/stoner อย่างที่ Black Sabbath ได้ทิ้งรอยทางเอาไว้ ท่อนริฟเจ๋ง ๆ ที่ถูกประดิษฐ์ประดอยผสมกับ southern rock ช่างได้อารมณ์จริง ๆ ครับ ทำให้ผมนึกถึง Zakk Wyde และ Down ขึ้นมาทันที ซาวน์ดในแบบ hardcore punk อย่างในอดีตก็โชยมาให้ได้กลิ่นอยู่หลายครั้งหลายครา ผมชอบทั้ง 12 เพลงในอัลบั้มนี้เลยครับโดยเฉพาะ Stone Breakers, Paranoid Opioid และIt Is that Way ภาคกีตาร์เด็ดมาก หนัก เหนียวหนืด แต่โยกหัวได้ ไม่น่าเบื่อซ้ำซากครับ C.O.C. ในระยะหลัง ๆ นี้เหมือนได้ตายไปแล้วแต่ว่าเกิดใหม่ก็เพราะอัลบั้มนี้แหละครับ

COMMUNIC – Conspiracy In Mind
(Progressive thrash metal)



เมื่อเปิดแทร็คแรกที่มีชื่อเดียวกันกับว่า Conspiracy In Mind ของวงเมทัล trio หน้าใหม่จากนอร์เวย์วงนี้ ทำให้ผมละทิ้งกิจกรรมอย่างอื่นเพื่อจดจ่ออยู่กับการฟังให้แน่ใจว่าพวกเขาเล่นดนตรีเมทัลสาขาไหนกันแน่ คร่าว ๆ ก็คือ ด้วยส่วนผสมของ melodic metal (โดยเฉพาะเสียงของนักร้องนำ/กีตาร์ Oddleif Stensland โดนใจผมมาก ๆ ครับ) ขณะที่ภาคดนตรีของซับซ้อนประมาณพวก progressive ผสม thrash metal ที่มีท่อนริฟหนา ๆ หวนให้นึกถึงวง doom อย่าง Memory Garden แม้ว่าอัลบั้มนี้จะมีเพลงอยู่แค่ 7 เพลง แต่ความยาวรวมแล้วร่วมชั่วโมงครับ ทุก ๆ เพลงยาวแต่ไม่ซ้ำซากน่าเบื่อ เพราะภาคดนตรีจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เป็นวงที่โชว์ทักษะทางด้านดนตรีกันเต็ม ๆ ปานนั้น Conspiracy In Mind อาจจะแปลกแหวกแนวไปจากสิ่งที่วง Norwegian ส่วนใหญ่ทำกัน แต่ว่าความแตกต่างนี้ท้าให้คุณลองค้นหาครับ Nuclear Blast รับประกันเมทัลดีมีคุณภาพแน่นอน

OBITUARY – Frozen In Time
(Death metal)



การกลับมาทวงถามความยิ่งใหญ่คืนอีกครั้งของวงเจ้าพ่อเดธเมทัลแห่งฟลอริดา นับได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่เหล่าสาวกเฮดแบงเกอร์ทั้งหลายกำลังรอคอยอย่างใจจดจ่อ ร่วม ๆ 8 ปีกับการหายหน้าหายไปตาจากวงการหลังจากสตูดิโออัลบั้ม back From The Dead (1997), อัลบั้ม Live (Dead live) และอัลบั้มรวมฮิตAnthology จนกระทั่งออกอัลบั้มใหม่เอี่ยมอ่องโดยใช้นามว่า Frozen In Time ในปีนี้ กับสังกัดเดิม (Road Runner) และด้วยไลน์อัพทีมเดิมจากอัลบั้มหลัง ๆ ที่ผ่านมาได้แก่ John Tardy (vocals), Allen West (lead guitar) , Trevor Peres (rhythm guitar) และ Frank Watkins (bass)

อัลบั้มนี้คือการกลับมาอย่างเต็มภาคภูมิและอัดแน่นไปด้วยอุดมการณ์ของความเป็นเจ้าตำรับดนตรีเดธเมทัลของโลก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมานักในภาคดนตรีของพวกเขา ที่ยังคงแฝงรากเหง้าของงานสุดคลาสสิคอย่าง Slowly We Rot กับ Cause Of Dead เดธเมทัลของ Obituary ไม่ได้เน้นที่ความเร็วครับแต่เน้นที่ความเจ๋งเป้งของท่อนริฟหนา ๆ แน่น ๆ ของกีตาร์คู่ ตั้งแต่เพลงอินโทรเพลงแรก (Redneck Stomp) ยาว 3:33 นาที เสมือนมีมนต์สะกดทำให้ผมคอเคล็ดได้ในเวลาอันสั้น นับเป็นเพลงอินโทรที่ยอดเยี่ยมเลยครับเสมือนกับว่ามีเสียงของนักร้องนำคลอตามกันไปกับท่อนริฟ และแล้วพอขึ้นเพลงที่สอง (On The Floor) เท่านั้นครับ บรรยากาศเก่า ๆ ก็กลับมาให้ผมได้คิดถึงวันแรก ๆ ที่ผมได้รู้จักกับดนตรีเดธเมทัล และกลายเป็นสาวกของวงนี้ด้วยอัลบั้ม The End Complete ที่ผ่านรูหูครั้งแรก เมื่อสิบปีที่ผ่านมา เสียงแหกปากของ John Tardy โคตรพ่อโคตรแม่ทรงพลัง จนปัจจุบันนี้ผมยังคงยกย่องบุรุษนามนี้ในฐานะของ “นักร้องนำเดธเมทัลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก” ครับ

เกือบทุก ๆ เพลงในอัลบั้มนี้เน้นไปในทางเดียวกันคือท่อนริฟที่ติดหูแต่ไม่โหล ภาคริทึ่มของเบสและกระเดื่องจอมพลังยังคงความเป็นมาตรฐาน และเป็นซาวนด์เฉพาะของทางวงซึ่งใครที่ติดตามผลงานของวงนี้มาโดยตลอดสามารถแยกแยะได้อย่างแน่นอนว่าวงนี้คือเจ้าแห่งวงเดธเมทัลระดับตำนาน Obituary แหง๋แท้ และแน่นอนครับ ท่านที่อยากศึกษาและลิ้มรสชาติว่าเดธเมทัลมันคืออะไรกันหนอ ก็จงทำความรู้จักกับ Obituary และ Frozen In Time อัลบั้มที่คุ้มค่าแห่งการรอคอยนี้เถอะครับ ควักกระเป๋าจ่ายหรือยืมเพื่อนข้างบ้านโดยด่วน


ABORTED - The Archaic Abattoir
(Death metal)



ขณะที่ผมกำลังเลือกซื้อซีดีมือสองแนวเมทัลอยู่ที่ร้านขายซีดีแห่งหนึ่ง ดวงมันจะเสียตังค์ครับเมื่อผมเหลือบไปจ๊ะเอ๋กับซีดีแผ่นหนึ่งครับแต่เป็นแผ่นคู่ขายในราคาที่ถูกมาก ๆ ซึ่งก็คืออัลบั้ม The Archaic Abattoir ของ Aborted วง brutal/grindcore จากเบลเยี่ยมที่เคยได้ยินกิตติศัพท์มาหลายครั้งหลายคราแล้วกับอัลบั้มก่อนหน้านี้ที่ชื่อว่า Goremageddon ซีดีอีกแผ่นด้านหลังเป็น Compilation ของวงชั้นนำจากค่าย Century Media ถึง 18 วง ภายใต้ไตเติ้ลว่า What Lies Beneath ดูแล้วโคตรจะขลัง ตัวซีดีทั้งนอกและในอยู่ในสภาพใหม่มากอย่างกับแกะกล่องแต่ขายต่ำกว่าราคาตั้งครึ่งนึงแน่ะ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้กระบวนการในการตัดสินใจซื้อของผมเหลืออยู่แค่ไม่ถึงคืบ

เมื่อกลับมาถึงบ้านผมรีบจับ The Archaic Abattoir ยัดเข้าเครื่องเล่นโดยทันที แต่สรรพเสียงที่ได้ยินในเพลงแรก (Dead Wreckoning) นั้น ... “ไหนว๊ะ บรูตัล/ไกรนด์???” เพลงแล้วเพลงเล่า จนจบเพลงสุดท้าย (Descend To Extirpation) ไม่มีอะไรที่ผมคาดหวังในตัวอัลบั้มนี้เลยครับสำหรับการฟังรอบแรก แต่ว่าสำหรับการฟังรอบสองและรอบต่อ ๆ มานั้นทำให้ผมมองเห็นภาพรวมของอัลบั้มนี้ชัดเจนมากขึ้นและลืมอดีตของ Aborted ที่เค้าเล่าขานกันมาจนเกือบสิ้นครับ Aborted ในตอนนี้หรืออย่างน้อยในอัลบั้มนี้ได้เปลี่ยนแนวทางของพวกเขาไปแล้วครับ โดยกลายเป็นวงเดธเมทัลที่ไม่ได้โหดเหี้ยมด้วยกลิ่นอายของบรูทัลหรือไกรน์ดคอร์เลย แต่กลับมีสัดส่วนทางดนตรีออกไปทางเมโลดิกเดธยันเมทัลคอร์ครับ มีเพียงเนื้อร้องที่เต็มไปด้วยเลือดสาด และเสียงสำรอกในบางช่วงของ Sven นักร้องนำเท่านั้นครับที่น่าจะอนุรักษ์ของดั้งเดิมไว้ แต่กระนั้นก็ตามฝีมือของพวกเขานั้นไม่เป็นรองวงเดธเมทัลหน้าไหนแน่ ๆ ครับ กระเดื่องสุดโหดของ Gilles Delecroix กระทืบไม่ยั้งน่าทึ่งมากครับ ขณะที่กีตาร์สองตัวทำงานประสานกันเยี่ยมอย่างกับพวกเมโลดิกเดธอย่างงัยอย่างงั้น (หรือว่าใช่???)

เพลงเด็ด ๆ ที่ผมชอบมีอยู่หลายเพลงด้วยกัน เช่น Dead Wreckoning, Threading On Vermittion Deception และ Descend to Extirpation ฟังไปฟังมาหลาย ๆ รอบมันส์ดีใช่ย่อยเลยครับ สำหรับแฟนเก่า ๆ ผมเดาเอาว่าอาจจะร้องยี้!!! กับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของทางวง (มันเลยเอามาขายทิ้งกะให้พวกโง่มาซื้ออ่ะดิ่) แต่สำหรับผมแล้วถือได้ว่าเป็นอัลบั้มเดธเมทัลที่คุณภาพคับแก้วอีกอัลบั้มหนึ่งก็ว่าได้ นึกแล้วก็ใจชื้นครับไม่เสียดายตังค์อ่ะ


NOVEMBER’S DOOM - The Pale Haunt Departure
(Doom metal)



โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยรู้รายระเอียดเกี่ยวกับวงเมทัลวงนี้เท่าไรนักครับ รู้แต่เพียงว่าพวกเขาเป็นวง 5 ชิ้นจาก Chicago, USA ที่เล่นดนตรีแบบ doom/dark metal โดยมีอัลบั้มออกมาหลายชุดแล้วครับ อัลบั้มที่ผมมีนี้นั้นก็ไม่แน่ใจว่าเป็นอัลบั้มที่เท่าไหร่แล้ว รู้แต่ว่าเป็นอัลบั้มล่าสุดที่เพิ่งออกมาในปีนี้แหละครับ มีวงเมทัลสัญชาติอเมริกันเพียงไม่กี่วงครับที่เล่นดนตรีในสายพันธ์นี้แล้วได้รับการกล่าวขวัญและการยอมรับในระดับสากล November’s Doom น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นครับ

ตัวงานภาคดนตรีเน้นออกไปทาง European doom metal ทั้งอิทธิพลจากเกาะอังกฤษด้วยซาวน์ดที่ไกล้เคียงกับ My Dying Bride และ Candle Mass รวมถึงกลิ่นอายแบบ Katatonia และ Opeth ด้วยครับ อย่างไรก็ตามครับ ดูมเมทัลของวงนี้ไม่ได้มีผลต่อระบบประสาททำให้เกิดอาการง่วงเซ็งเพราะความอืดอาดยืดยาดไม่ได้ดั่งใจตามแบบฉบับของดนตรีในแนวนี้นะครับเพราะ The Pale Haunt Departure นั้นเป็นอัลบั้มที่มีเทคนิคแน่นและโคตรเฮฟวี่เกินกว่าที่จะทำให้คุณเบื่อได้ ประมาณว่าเป็นเดธเมทัลที่เล่นกันแบบช้ากว่าปกติ แต่ภาคดนตรีมีความหลากหลายมากครับ อะไรประมาณนั้น แถมได้ยอดฝีมืออย่าง Dan Swano และJames Murphy มาช่วยงานด้วยระบบเสียงยิ่งหายห่วงครับ เสียงของ Paul Kuhr นักร้องนำนั้นเข้าข่ายเดธเมทัลเลยครับ แม้ว่าเขาจะร้องในหลาย ๆ ไสตล์ด้วยกันตลอดทั้งอัลบั้ม ซาวน์ดคีย์บอร์ดถูกนำเข้ามาสร้างบรรยากาศความมืดหม่นได้อย่างลงตัวแต่ไม่มากมายมายถึงขนาดขโมย scene ของท่อนริฟ และเมโลดี้เท่ห์ ๆ ไปได้

เป็นอัลบั้มที่คุ้มค่าแก่การลงทุนครับสำหรับท่านที่ต้องการหาผลงานดูมเมทัลเจ๋ง ๆ สักชุดมาศึกษา เพราะในปัจจุบันนี้วงดนตรีเมทัลในสายนี้ที่โด่งดังกันไปหลายๆ วงได้เปลี่ยนแปลงแนวทางของตนเองไปกันแล้วเสียเป็นส่วนใหญ่ The Pale Haunt Departure ของวงอเมริกันวงนี้จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่สำคัญอีกทางหนึ่งสำหรับคอเมทัลพันธ์แท้ครับ


DRACONIAN – Arcane Rain Fell
(Gothic/doom/dark metal)



วง doom/gothic metal อีกวงหนึ่งในสายพันธ์เดียวกันกับ November’s Doom แต่เชื้อสายสวีดิชครับ แค่ แต่ดนตรีของ Draconian ค่อนข้างละมุนละไมกว่าครับเพราะมีนักร้องสาวสวยมาช่วยกล่อมหูท่ามกลางดนตรีที่มืดหม่นตามสไตล์ดูมเมทัล อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มเต็มลำดับที่สองกับสังกัด Napalm Record เช่นเคย สมาชิกทั้งหมดมีถึง 7 คน (นักร้องนำชายและหญิง) อันได้แก่ Anders Jacobsson (vocals), Lisa Johansson (vocals), Johan Ericson (lead and rhythm guitars), Magnus Bergstr๖m (lead and rhythm guitars), Jesper Stolpe (bass guitar), Andreas, Karlsson (synthesizer and programming) และJerry Torstensson (drums)

การมีนักร้องนำชายหญิงเช่นนี้ทำให้นึกถึงวง Theatre Of Tragedy ในยุคแรก ๆ ดนตรีเองก็ไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่ครับ ขณะที่ Anders ร้องเสียงกดต่ำน่าสะพรึงกลัวอย่างเดธเมทัล อีกมุมหนึ่งเสียงกังวาลใสของ Lisa คล้ายตัดกันเป็นด้านสว่างให้กับดนตรี อาร์ทเวิร์คของคัฟเวอร์ก็สื่อให้เห็นถึงรายละเอียดภายในได้อย่างคร่าว ๆ แล้วครับ ทุก ๆ แทร็คในอัลบั้มนี้เป็นดูมเมทัลจังหวะช้า ๆ ล่องลอยเอื่อยเฉื่อยอุดมไปด้วยด้วยท่อนริฟยาน ๆ กับท่อนโซโล่ที่แสนเศร้าสร้อยปาดหู เพลงสุดท้ายยาวถึง 15 นาที คือ Death, Come Near Me ซาวน์ดคีย์บอร์ดไม่ได้เป็นพระเอกของอัลบั้มนี้ครับ Andreas รับหน้าที่เพียงงานฉาบตกแต่งพื้นหลังให้สละสลวย ณ ช่วงปัจจุบันนี้ Arcane Rain Fell คืออัลบั้มที่ผมเปิดฟังบ่อยมาก ๆ ครับ เหมือนมีมนต์มาสะกดให้หลงไหลเคลิบเคลิ้มได้อย่างไม่รู้ตัว งานดี ๆ อย่างนี้ผมว่าไม่พลาดมาสเตอร์พีซในสายพันธ์ดูม/กอธเมทัลแน่นอนครับ


DARK TRANQUILITY – Character
(Melodic death metal)



Dark Tranquility คือวง melodic death metal วงแรกที่ก้าวเข้ามาในชีวิตผมครับ จำได้ว่าเมื่อซักยุค 90 ต้น ๆ ขณะที่กำลังบ้า death metal อย่างหนัก ผมได้ฟัง อัลบั้ม METAL MILITIA - A TRIBUTE TO METALLICA ซึ่ง DT ได้เล่นเพลง My Friend of Misery ไว้อย่างน่าประทับใจมาก ๆ ครับ เครื่องดนตรีทุกชิ้นบทขยี้กันเต็มที่ ผมเลยรีบรี่ไปหาซื้อเทปร้าน JU พันธ์ทิพย์เผื่อว่าจะมีผลงานของวงสวีดิชขายบ้าง และโชคดีสมใจครับที่ค่าย VMP ได้ทำอัลบั้ม Skydancer กับ The Gallery สองอัลบั้มโคตรคลาสสิคออกมาขาย ตั้งแต่นั้นมาผมก็เป็นแฟนของวงนี้มาโดยตลอดเพราะมนต์ขลังของ Swedish melodic death ในสาย Gothenburg ที่ DT เป็นเจ้าแรกครับที่ผลิตออกมา ผลบุญนี้ยังส่งให้ผมได้รู้จักกับวงในสายพันธ์เดียวกันอื่น ๆ อีกเช่น At The Gate, Soilwork, In Flames, etc… ซึ่งนักดนตรีก็คือพวก ๆ กันนี่แหละครับ แต่ในขณะที่ At The Gate แตกวงไปแล้ว ส่วน In Flames ก็เข้าไปหาเมทัลที่ทันสมัยมากขึ้น แต่ Dark Tranquility ยังคงยืนหยัดอยู่บนเส้นทางเดิมครับ

ภาคดนตรีในอัลบั้มยุคหลัง ๆ ของ DT นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดอาจจะหลุด ๆ รั่ว ๆ ไปบ้าง กระทั่งในปี 2002 กับอัลบั้ม Damage Done ทางวงได้กลับเข้าไปหารากเหง้าของตัวเองมากขึ้นครับ กระทั่งอัลบั้มล่าสุด Character เป็นอัลบั้มที่บ่งบอกถึงความเป็น DT และ Gothenburg death metal sound ได้อย่างเด่นชัดครับ คุณภาพซาวน์ดยอดเยี่ยมมาก ๆ ทำให้เข้าถึงอารมณ์เมโลดี้เจ๋ง ๆ ที่ผสมผสานกับ pure thrash/death ไปจนถึงเฮฟวี่เมทัลแบบ Iron Maiden ขลังและอมตะเช่นในอดีต ตั้งแต่แทร็คเปิดอัลบั้ม “The New Build” จนไปถึงแทร็คอื่น ๆ ผมรู้สึกว่าชอบเพลงทุกเพลงในอัลบั้มนี้ครับ The Endless Feed ก็ดี My Negation ก็เนียน ส่วน Lost of Apathy คืออีกหนึ่งของโปรโมแทร็คที่คุณหาโหลดฟังกันได้ Michael Niklasson กับ Niklas Sundin คือกีตาร์คู่ที่ทำงานได้เข้าขากันอย่างมากครับ Mikael Stanne ร้องได้ดีครับออกจะโหด เหี้ยมมากกว่าอัลบั้มก่อน ๆ ด้วยซ้ำ กับเนื้อหาเชิงปรัชญาเช่นเคย ส่วน Martin Brandstrom ในที่สุดก็กลายเป็นมือคีย์บอร์ดสมาชิกโดยถาวรของทางวงไปแล้ว เจ้าหมอนี่สร้างบรรยากาศเพลงได้ทั้งแบบหวานชื่นมื่น และมืดหม่นหมองมัว ได้หมดครับ แต่ไม่ได้ซ่าส์มากเกินไปจนทำให้ดนตรีของ DT ลดความหนักลง The Character คืออัลบั้มที่กลั่นกรองมาจากฝีมือและประสบการณ์ล้วน ๆ ครับ น่าจะเป็นอัลบั้มเมทัลยอดเยี่ยมแห่งปี 2005 ได้แน่นอนครับ



BEHEMOTH – Demigod
(Death metal)



เดธเมทัลจากโปแลนด์อีกคณะหนึ่ง (อดีตเป็นแบล็คเมทัล) ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามไม่แพ้เพื่อนร่วมชาติอย่าง Vader และDecapitated อัลบั้ม Demigod คือการกลับมาสร้างความสำเร็จอีกครั้งด้วยสำเนียงแห่งความตายในแบบเทคนิคัลบรูตัลเดธ ท่อนริฟเท่ห์ ๆ กับภาคริทึ่มจากสมาชิกทั้งสี่ซึ่งมี Nergal (vocal/guitar) หัวหอกของวงคือจุดแข็งของอัลบั้มอย่างเห็นได้ชัด ท่อนโซโล่แบบเหนือชั้นคือจุดเด่นเช่นกัน ขณะที่การฟาดฟันอุปกรณ์และกระเดื่องกลองสุดโหดของ Inferno น่าทึ่งครับฟังแล้วชวนให้ปวดกบาลยิ่งนัก โดยรวมแล้ว อัลบั้มนี้คือการเปลี่ยนแปลงทางด้านดนตรีไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบการเป็นวงแล็คเมทัลอย่างในอดีตจนกลายมาเป็นวงเดธเมทัลอย่างเต็มตัว ดนตรีของ Demigod อาจเปรียบได้กับซาวน์ดของ Morbid Angel ในยุคหลัง ๆ ครับ การบันทึกเสียงเยี่ยมมากครับเคลียร์ชัดทุกเม็ดโลหะ Sculpting The Throne Ov Seth, Demigod, Conquer All และSlave Shall Serve คือตัวอย่างของความหฤโหดที่ชาวเดธเมทัลไม่ควรพลาดครับ

Akercocke – Words That Go Unspoken, Deeds That Go Undone
(Death/black metal)



เซตานิคเมทัลสุดโหดจากเมืองผู้ดีกับผลงานลำดับที่สี่ที่ยังคงรวบรวมความหนักกระโหลกไว้แทบจะทุกเนื้อเม็ดของตัวโน๊ต แม้ในบางแทร็คจะสอดแทรกเมโลดี้เข้าไปบ้างก็ไมได้ทำให้รากฐานของพวกเขาเสียสมดุลย์หรือเบาบางลงแต่อย่างใด..............................................................

The Part II is coming up next!!!




Create Date : 20 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2548 8:05:59 น. 11 comments
Counter : 991 Pageviews.

 
Metalism โรคนี้เป็นแล้วหายยากมากครับ


โดย: เครา IP: 61.91.142.64 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2548 เวลา:18:05:13 น.  

 
อิๆ

กิ้วๆ ทานข้าวให้หร่อยน้าคร้า

อินู๋เปส แวะมาซน..


โดย: ~oกิ๊กกะโป๋ โลเปสo~ วันที่: 20 พฤศจิกายน 2548 เวลา:18:19:02 น.  

 
มาทีเป็นชุดเลยนะท่าน....
ในข้างบนนี้ ดูเหมือนผมซี้กะ COC ของเจ้า Pepper ที่สุดครับ...
ตอนหลายปีก่อนยังคิดเลยว่า ถ้ามันเกิดผ่านที่ไป ออดิชั่นเล่น Bass ให้ Metallica แล้วจะออกมาหยังไงวะ..


โดย: สาหร่าย (แร้ไฟ ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:14:10 น.  

 
โอว ว๊าววววววววววววววววววววววววววววว

หร้อยจัง


โดย: หงา คารูวาน IP: 61.90.223.50 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:33:23 น.  

 
หูยยยยยยย......สุดยอด


โดย: กี๋พกแป้ง วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:1:44:38 น.  

 
ยอดจริงๆครับ ผมชอบอยู่สองวง คือ NAPALM DEATH
กับ DARK TRANQUILITY ชอบสองวงนี่เลยครับ
โดยเฉพาะวง DARK TRANQUILITY เนี่ยพอฟังเสร็จ
เเล้วไม่รู้เป็นไร ต้องหยิบเอาวง IN FLAMES มาฟังร่วมกันด้วย
ได้บรรยากาศดีจริงๆ ขอบคุณที่นำมาเปิดทัศนะการ
ฟังเพลงของผมนะครับ


โดย: Dark Secret วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:5:38:32 น.  

 
ด้วยจังหวะและโอกาสในชีวิตที่ผ่านมา ทำให้ผมละเลยทิ้งเมทัลไปซะนาน กว่าจะกลับลำมาก็แทบตามกันไม่ทันแล้ว จะลองหามาฟังครับ


โดย: StrayBird วันที่: 1 ธันวาคม 2548 เวลา:21:34:48 น.  

 
เป็นตัวอย่างไว้ให้หูผมศึกษา ได้เป็นอย่างดีเลย เพิ่งหันมาฟังmetalได้ไม่นานครับ....


โดย: MooG.G วันที่: 7 ธันวาคม 2548 เวลา:23:42:25 น.  

 
เจ้าของกระทู้ใช่คนเดียวกันกับ ที่ใช้ชื่อเกรียนแมนไหมครับ
เห็นโพสไว้ที่Linkนี้
//www.musichelptv.com/webboard/index_reply.php?QID=OTQz

ก็เลยอยากจะขอเมลล์คุแลกเปลี่ยนความรู้น่ะครับ
ยังไงผมขอแอดจากprfileนะครับ


โดย: DarkLord IP: 125.26.238.125 วันที่: 27 เมษายน 2550 เวลา:2:12:00 น.  

 
โอ้ว บล็อคผมโนไอ้เกรียนก๊อปปี้เอาไปแอบอ้างซะแล้ว ฮ่า ๆๆๆ ช่วงนี้โดนบ่อยแฮะ

จริง ๆ แล้วขอกันดี ๆ ก็ได้น๊า


โดย: Metallurgist IP: 203.122.108.34 วันที่: 28 เมษายน 2550 เวลา:11:10:23 น.  

 
สุดยอดวะเพลงอะเเต่เราไม่ค่อยชอบเดธเท่าไรนักเราชอบอีโมพั้งเมทัลมากกว่า


โดย: ไกด์ IP: 118.172.180.111 วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:13:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Metallurgist
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Friends' blogs
[Add Metallurgist's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.