Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
มือถือ , ลูคีเมีย , อีสทีเรีย

เปิดเผยผลวิจัย ชี้คุยโทรศัพท์มือถือนานๆ อันตราย เสี่ยงเป็น "ลูคีเมีย" โรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาวอย่างเฉียบพลัน รวมทั้งอยู่ใกล้กับสายไฟฟ้าแรงสูงก็เสี่ยงเช่นกัน เมธีวิจัยอาวุโส ศิริราชพยาบาล เผยสาเหตุคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับ "ดีเอ็นเอ" ในร่างกาย ไขกระดูกผิดปกติ สร้างเม็ดเลือดขาวอย่างไร้ขีดจำกัด ลามรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ปัจจุบันพบผู้ป่วยมากขึ้น เกิดได้ทุกเพศทุกวัย แนะนำให้หลีกเลี่ยงคุยมือถือเป็นเวลานาน และอยู่ห่างบริเวณที่มีรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูง

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่โรงแรมรีเจ้นท์ชะอำ จ.เพชรบุรี จัดการประชุมวิชาการนักวิจัยรุ่นใหม่ พบเมธีวิจัยอาวุโส สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) โดย ศ.น.พ.สุรพล อิสรไกรศีล เมธีวิจัยอาวุโส สกว. และอาจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากการวิจัยล่าสุดของทีมวิจัย เรื่อง ระบาดวิทยาของโรคลูคีเมียเฉียบพลัน จำนวน 300 ราย พบว่าการรับรังสีแม่เหล็กไฟฟ้า อาทิ การใช้โทรศัพท์มือถือ หรือการอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีสายไฟฟ้าแรงสูงผ่าน มีแนวโน้มว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคลูคีเมียชนิดเฉียบพลันมากกว่าคนปกติ เนื่องจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านั้น เป็นคลื่นอิเล็กโทรแมกเนติก ความแรงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับดีเอ็นเอในร่างกาย ซึ่งในขณะนี้งานวิจัยดังกล่าว อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ในต่างประเทศ

"งานวิจัยนี้เริ่มเก็บข้อมูลเรื่องโรคลูคีเมียในช่วงปี 2544-2545 จึงเก็บข้อมูลในเรื่องของพฤติกรรมต่างๆ เข้าไปในประวัติคนไข้ด้วยเทียบกับพฤติกรรมของคนปกติ ซึ่งขณะนั้นปริมาณการใช้โทรศัพท์มือถือในไทย ยังไม่มากเท่าปัจจุบันนี้ สิ่งที่อยากแนะนำคือ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานและไม่จำเป็น พร้อมกันนี้ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูงด้วย" ศ.น.พ.สุรพล

*** ข้อมูลได้มาจากเว็บของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) ***



----------------------------------------------------


เช้าวันเสาร์ หลังจากซดกาแฟเสร็จ ก็แบกเป้ไปยังขนส่งพัทยา ตีตั๋วรถกลับกรุงเทพ

ตรงประตูทางขึ้นรถทุกคัน จะมีป้ายกระดาษมีข้อความเขียนไว้ว่า
"กรุณาคุยโทรศัพท์เท่าที่จำเป็น เพราะเสียงของท่านอาจรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น"
คงจะเขียนเตือน "คนขี้เหงา"


ตอนซื้อตั๋วผมมักจะบอกคนขายตั๋วว่าขอที่นั่งติดหน้าต่างทุกครั้ง
ขึ้นรถเสร็จแล้วก็งัดเอาเจ้า "e-จิ๋ว" มายัดใส่หู
พอได้เวลารถใกล้ออก ก็มีสตรีนางหนึ่ง ดูจากรูปร่างแล้วก็...ฮือ มานั่งที่นั่งติดกับผม คิดในใจว่าวันนี้ฤกษ์ดีแฮ่ะ ได้นั่งติดกับสาว


รถวิ่งออกมาได้ซักพัก .. เธอก็หยิบโทรศัพท์มากดๆ เธอกลายเป็น "คนขี้เหงา" ทันทีครับ
ดีว่าในหูผมมี "e-จิ๋ว" ยัดหูเอาไว้ ช่วยให้ไม่รำคาญเสียงพูดคุยโทรศัพท์ของเธอ

เหมือนกับฟ้าดินกลั่นแกล้งครับ แบต "e-จิ๋ว" ของผมดันหมดครับ ไฟแดงกระพริบ ว๊าบบบ ๆ ...
เอาล่ะซิ เป็นอันว่าผมต้องนั่งฟังสาวขี้เหงา คุยโทรศัพท์
ดูท่าแล้วเธอคงจะน้ำลายเริ่มแตกฟองซ่ะด้วย


เมื่อเช้าตอนนั่งจิบกาแฟที่ออฟฟิต อ่านบทความจากหนังสือพิมพ์อยู่บทความหนึ่ง
ที่บอกว่าพวกคุยโทรศัพท์นาน มีโอกาสเป็นโรค "ลูคีเมีย" สูง


ผมนั่งฟังจากเรื่องราวที่เธอพูดโทรศัพท์แล้ว ไอ้ลูคีมง ลูคีเมียน่ะ เธอเป็นหรือไม่เป็นก็ไม่รู้
แต่ที่แน่ๆผมว่าเธอน่าจะเป็น "อิสทีเรีย" ด้วยครับ



นี่คื่อ "e-จิ๋ว" กิ๊กใหม่ของกระผม



Create Date : 27 มีนาคม 2550
Last Update : 27 มีนาคม 2550 9:45:23 น. 15 comments
Counter : 878 Pageviews.

 
จริงๆแล้วโรค ฮิสทีเรีย หลายคนคงอาจจะเข้าใจในทางอย่างว่า ซึ่งผมก็เคยเข้าใจแบบนั้นมาก่อน แต่ถึงขณะนี้แม้ว่าจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ผมก็ยังเข้าใจไปในทำนองแบบนั้นอยู่ดี เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เข้าใจในข้อมูลที่ผิด ก็เลยข้ออ้างอิงข้อมูลจากท่าน "Bua_love_you" ใน//postjung.com มาให้อ่านกันนะครับ

โรคฮิสทีเรีย ใครหลายคนเคยคิดว่านี่คือโรคของผู้หญิงที่ไม่รู้จักพอในเซ็กซ์ หรือผู้หญิงที่มากรักว่า และสามารถติดต่อกันได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือ (นิมโฟมาเนีย) Nymphomania โรคที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็น ฮิสทีเรีย…

ฮิสทีเรียนั้นมีอยู่ 2 ลักษณะ คือ

1. โรคประสาทฮิสทีเรีย จะแบ่งเป็น Conversion Reaction

คือคนที่มีความเครียด กังวลใจ หรือเกิดความขัดแย้งในจิตใจอย่างรุนแรง พวกนี้จะเกิดการผิดปกติที่ระบบการเคลื่อนไหวหรือรับรู้ เช่น เป็นอัมพาต ชาตามแขนและขา และ Dissociative Type คือสูญเสียความจำในบางเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจจนไม่ต้องการรับรู้

2. บุคลิกภาพแบบฮิสทีเรีย

คนพวกนี้จะมีลักษณะการแสดงออกที่มากเกินความจริง เพื่อดึงดูดความสนใจ มีความเป็นเด็กสูง ชอบเรียกร้องความสนใจและแสดงออกทางอารมณ์ค่อนข้างมาก ซึ่งอาจเกิดจากการขาดความรัก ความอบอุ่นในวัยเด็ก


คราวนี้ลองมาดู Nymphomania กันบ้าง Nymphomania เป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ซึ่งวงการแพทย์ในสมัยนั้นถือว่า Nymphomania เป็นโรคทางกายภาพ (แต่ในวงการแพทย์ปัจจุบันถือว่า Nymphomania เป็นอาการป่วยทางจิต) เพราะมีกรณีศึกษาของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกสาวชาวนาในรัฐแมสซาชูเซตส์ เธอกล่าวคำพูดลามกอนาจารต่อหน้าสาธารณชนด้วยการเสนอร่างกายและแสดงความคิดเห็นในเรื่องเพศโดยปราศจากการควบคุมและมีอารมณ์ขุ่นหมอง
หลังจากการวินิจฉัยจากแพทย์ซึ่งตรวจสอบร่างกายของเธอปรากฏว่า มดลูกของเธอขยายใหญ่ขึ้น ช่องคลอดหลั่งสารหล่อลื่นมากผิดปกติ และคลิตอริสที่ขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นอาการที่บ่งบอกถึงความต้องการทางเพศ

คำว่า Nymphomania มาจากคำว่า Nympho หมายถึงผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูงและ Mania ซึ่งหมายถึง ความคลั่งไคล้หรือความบ้าคลั่ง Nymphomania จึงหมายถึงผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูงเกินปกติ คลั่งไคล้ในเซ็กซ์เกินปกติถึงแม้ว่าจะได้รับการตอบสนองทางเพศหลายครั้งแล้ว ก็จะเกิดความต้องการทางเพศขึ้นอีก ผู้หญิงที่เป็น Nymphomania จะเปลี่ยนคู่นอนบ่อยจนเรียกได้ว่าสำส่อนทางเพศ รวมไปจนถึงการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองหลายครั้งต่อวันด้วย
ผู้หญิงที่ป่วยเป็น Nymphomania อาจมีสาเหตุมาจากทางกายภาพ คือ ความผิดปกติของกลีบสมองในส่วนขมับซึ่งจะพบได้น้อยมาก หรืออาจจะมาจากการได้รับยาบางชนิดมากเกินไป เช่น แอมเฟตามีน หรือติดสารเสพติต
ส่วนสาเหตุที่มาจากสภาพจิตนั้น จะเกิดจากความผิดปกติทางอารมณ์ที่มีความต้องการทางเพศมากเกินไป อารมณ์ไม่คงที่ สภาวะซึมเศร้าที่ทำให้สารเคมีในสมองเปลี่ยนไป หรือการได้เห็นคนร่วมรักกันตั้งแต่เด็ก

โรคนี้ในผู้ชายก็เป็นได้ แต่เรียกว่า สไตเรียซิส (Satyriasis) ซึ่งมีอาการคล้ายกับผู้หญิง แต่ต่างกันตรงที่ว่ามดลูกไม่หดตัว(สิทธิเท่าเทียมไง ^O^)

ฉะนั้นรู้อย่างนี้แล้วอย่าสับสนกันระหว่างผู้ที่เป็นโรคฮิสทีเรีย เป็นนิมโฟมาเนียนะจ๊ะ^^ ....


โดย: merf1970 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:9:56:01 น.  

 


โดย: โสมรัศมี วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:10:29:18 น.  

 
คุณเมิร์ฟก็เลยแกล้งหลับแล้วเอียงหูตั้งใจฟังมาตลอดทางเลยละสิ


โดย: ST.Exsodus วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:10:31:41 น.  

 

สวัสดีครับ
........
สงสัยคุณเธอกำลังเรียกร้องความสนใจจากคุณแน่เลย
......
ปล. เห็นด้วยครับ การศึกษาบานปลายจริงๆ... ค่าเรียนไม่เท่าไหร่นะ .....ค่าอย่างอื่น ดิ่...บานปลาย


โดย: มารบูรพา (เซียน_กีตาร์ ) วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:10:46:27 น.  

 
ต้องเปลี่ยนมาใช้แบบโทรออกแล้วเสียเงินแพงหน่อย นาทีละห้าบาทประมาณนั้นคะ จะได้โทรน้อย ๆ คะ

เปียกปูนคงยังไม่งอนหรอกคะที่บ้านตอนนี้คนเยอะคะ คงตื่นเต้น แต่พอสักหลาย ๆ วันก็คงตามหาคะ


โดย: nakwan6 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:10:46:34 น.  

 
หมาชิท่าทางจะเป็นฮิสทีเรียเหมือนกันอะคับ เพราะขาดคนไม่ได้เรย ต้องอยู่ใกล้ๆคนอะ

ท่าทางหมาชิคงไม่เป็นไข่เค็มหรอกค้าบบ เป็นไข่เยี่ยวม้าตะหาก

ฮี่ๆๆๆ (หมานุ้ยเจี๊ยนไปแระ อดเยย)


โดย: เออ-ออ IP: 203.155.220.235 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:13:45:10 น.  

 
สวัสดีครับคุรนิ้ง
ลุงกล้วยก็ฟังนะครับ ตามหาข้อมูลเหมือนกันครับ สุดท้ายมีคำตอบ 99% มีโอกาสรอดยากครับ เพราะถนัดสุดก็เอาวางบนตักเน๊าะ แล้วมันใกล้ส่วนสำคัญนะครับ.....


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:14:43:01 น.  

 
เรื่องคุยโทรศัพท์นี่ ขึ้นรถทัวร์ทีไร เห็นน้ำลายแตกฟองกันทุกที
ไม่รู้เค้าให้โทรฟรีหรือไง


โดย: mungkood วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:20:57:33 น.  

 
เริ่มฟังเค้าคุยใหม่ๆ ก็ดี แต่ว่าฟังไปนานๆ เบื่อเลย เพราะเค้าสนุก เราเซ็งอ่ะคะ

ไม่เข้าใจเหมือนกันนะค่ะว่าทำไม๊ คนขี้เหงาถึงได้เยอะ ว่างเป็นไม่ได้คว้ามือถือ
กดทันที แล้วก็นานมากด้วยคุยกันทีลิงหลับเลยอ่า


โดย: JewNid วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:22:42:05 น.  

 
สวัสดีครับคุณนิ้ง
มีกิ๊กใหม่แล้วเหรอครับ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:23:31:39 น.  

 
อ่อ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง เคยได้ยินมาเหมือนกันครับเฮีย ว่าจริงๆ แล้ว ฮิสทีเรีย มันไม่ใช่อย่างที่ชาวบ้านว่ากัน แต่ตอนนั้นเพื่อนผมที่เป็นหมอมันพูดเร็วไปหน่อย จับใจความไม่ทัน
ขอบคุณครับ เฮียเจ๋งจริงๆ เล้ยยย
e-จิ๋ว ของเฮียก็ท่าทางจะเจ๋งเหมือนกัน


โดย: T_Ang วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:1:46:44 น.  

 
กิ๊กใหม่เล็กกะรัดทัดเหมาะกะผู้ชายดีจังเลย ^0^



... ...


โดย: Malee30 วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:14:31:54 น.  

 
แต่ถ้ามีคนคุยใกล้ๆหูเรา และไม่ใช่คนที่เรารู้จัก เอ๋อก้ออยากโดดกัดคอมันเหมือนกันอะ เพราะน่าจะรู้จักเกรงใจกันมั่ง คนจะนอน (แต่ถ้าไม่นอนก้อพอให้อภัย)


โดย: err_or วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:16:06:00 น.  

 

โชคดี ... ป๋าไม่มีโทรหั่นให้คุย เพราะ .... ไม่รู้จะคุยกะใคร (ไม่มีใครคบ) T_T


โดย: สยึมกึ๋ย วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:16:44:31 น.  

 

น่าเบื่อเนอะคะ....

พวกขึ้นรถปุ๊บก้อคุยปั๊บ

คนจาหลับจานอน

อิอิ


โดย: น้ำหวานพิษ วันที่: 29 มีนาคม 2550 เวลา:20:45:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merf1970
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




Friends' blogs
[Add merf1970's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.