M@RK : Life is short, let make everyday as the last day in your life!!
Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
18 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
ถ้าสิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็นล่ะ?น่าคิดนะ

วันนี้ฝึกงานไปก็นั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยครับ ว่าเออสิ่งที่เราเป็นนี่ของจริงมันเป็นอย่างที่เราเห็นหรือเปล่า?

ว่าแล้วลองมองไปนอกหน้าต่าง เจอใบไม้ มันสีเขียวจริงเหรอ ที่เราหลายคนว่ามันสีเขียวเพราะเรามีตาแยกแยะสีได้สีเขียวจริงๆ ใครทุกคนในโลกก็เห็นว่ามันสีเขียว แต่ในความเป็นจริง โลกที่เราจับต้องได้ (ลองหลับตานึกหน่อยนะครับ) มันมีสีเขียวจิงเหรอ มันอาจมีสีแดงแป๊ดก็ได้นี่นา แต่ตาทุกคนในโลกมองว่ามันมีสีเขียว เราเชื่อว่ามันสีเขียวเพราะคนทั้งโลกมองว่ามันสีเขียว

แน่ใจเหรอว่าสีผิวคนเราเป็นสีเนื้อ อาจเป็นสีม่วงหรือน้ำเงินก็ได้นี่นา น่าคิดนะเนี่ย เออ ไม่รู้ผมบ้าหรือเปล่าที่คิดเรื่องแบบนี้

เรายึดติดและเชื่อในสิ่งที่คนทุกคนรอบๆตัวเราและรวมเราไปด้วยว่าสิ่งที่เราเห็นมันคือสิ่งที่เป็นแน่ๆ แต่ก็ยังหาความจริงไม่ได้อยู่ดีครับว่าตกลงมันใช่อย่างที่เราๆคิดกันหรือเปล่า

มันเหมือนหน้าของเรานะครับ ผมว่าเกิดมาผมยังไม่เคยเห็นหน้าตาจริงๆของตัวเองเลยนะ นอกจากถ่ายรูป(ตัวเอง) ไม่ก็ส่องกระจก แต่ว่ารู้ได้ไงว่านั่นน่ะหน้าเราเพราะในกระจกมันกลับด้านนี่นา ตกลงเราไม่มีโอกาสเห็นหน้าเราอย่างจริงๆซักที หูก็เหมือนกันเคยเห็นหูตัวเองมั้ยครับ นั่นสิ คิดมาได้ไงวะเนี่ย ท่าจะบ้าไปแล้ว เฮ่อ กำมาก

แต่ผมว่ามีสิ่งๆนึงที่คิดได้ในตอนนี้คือสิ่งที่คนทุกคนเห็นและผมคงเห็นเหมือนๆกันกับคนอื่น มันคือการกระทำครับ เราทำเองเราเห็นเอง และคนรอบข้างเราก็เห็นว่าเราทำอะไร มันไม่มีทางกลับด้านแบบภาพในกระจก มันไม่มีทางถ่ายเก็บไว้ได้แบบรูป แต่มันจะอยู่กะเราเสมอ ไม่ว่าเราจะทำอะไร และคนรอบๆตัวเรารับรู้และรู้สึกถึงมันได้ คงจะดีถ้าเรามีสิ่งที่เห็นเป็นสิ่งที่เป็น ไม่ต้องเสแสร้ง บางคนเรียกสร้างภาพ แต่ละวันในชีวิตคงมีความสุข

พอและเพ้อเจ้อเกิน

ลองมองกลับที่ตัวเองนะครับ สิ่งที่เห็นเป็นอันเดียวกับสิ่งที่เป็นหรือเปล่า ลองปรับดูครับ ดึงเอาความเป็นตัวเองออกมา ชีวิตจะได้มีความสุขทุกวันที่ได้เป็นตัวของตัวเอง

"มาร์คเป็นตัวของตัวเอง มาร์คผิดตรงไหน?"

ขอให้คนที่เข้ามาอ่านมีสิ่งที่เห็นที่เป็นสิ่งที่เป็นนะครับ ผมว่าคงมีความสุขมากกว่าการมีสิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองเป็น

คิดได้ไงวะ

อ่านไปอ่านมางงอ่ะเดะ ไม่ต้องตกใจครับ ตอนเขียนก็งงเหมือนกัน


Create Date : 18 เมษายน 2549
Last Update : 18 เมษายน 2549 22:20:08 น. 19 comments
Counter : 422 Pageviews.

 


โดย: โสมรัศมี วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:17:19:31 น.  

 
เป็นไปได้ค่ะ ว่าสิ่งที่เห็น ..ไม่ใช่สิ่งที่เป็น

เคยอ่านเจอในหนังสือเซนคะ
เขาเปรียบให้ฟังประมาณว่า

เวลาที่คุณมองดวงดาวกระพริบบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
คุณรู้ไหมว่า ณ เวลานั้น ดวงดาวดวงนั้นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว มันขยับไปตำแหน่งอื่นแล้ว

แต่เนื่องจากระยะห่างระหว่างดวงดาว กับโลกของเรามันไกลกันมาก แล้วยังกว่าภาพนั้นกว่าจะมากระทบเลนส์ตาเรา มันใช้เวลาเป็นกี่ปีแสงไม่รู้กว่าภาพที่เกิดขึ้นจริงนั้น มันจะเป็นภาพที่เราเห็นอยู่ตอนนี้

แม้แต่บางครั้ง เราอาจเคยมองเห็นเชือก เป็นงู เพราะมองครั้งแรกแว๊บๆ เห็นไม่ชัดไรงี้

ดังนั้น บางที สิ่งที่เราเห็น ที่เรารับรู้ จึงอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นเสมอไปคะ


โดย: ล ม ห า ย ใ จ ...อุ่ น อุ่ น วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:20:45:21 น.  

 
อ่านไปอ่านมางงคะ


โดย: ชาจัง (สุรัสวดี ) วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:22:54:47 น.  

 
สาธุ !!! ไอ้น้องเอ๋ยคิดได้ไง แต่ก้อนะ เป็นจริงนะเนี่ย



โดย: cholny วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:0:24:17 น.  

 
อืม มีจิตนาการที่ดีนะครับ


โดย: Bluejade วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:4:22:15 น.  

 
อ่านแล้วน่ารักดีค่ะ อิอิ แต่แอบงงเล็กๆน่ะค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ นอนหลับฝันดีน่ะค่ะ


โดย: หนุอุ๋ม (tenno_jung ) วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:21:27:55 น.  

 
คิดมากจังเด็กสมัยนี้....
แต่ถือว่าสร้างสรรค์ อันนี้อนุโลมให้
ผมก้อเคยคิด... คงไปแก้อะไรที่เค้าว่ากันมาคงไม่ได้
เพราะมันก้อคงไม่ได้ทำให้มีอะไรดีขึ้น...
เด็กยังเคยคิดเลยว่า เวลานั่งรถน่ะ
จริงๆเราไม่ได้เคลื่อนที่ แต่ทุกอย่างรอบๆเราตะหากที่เคลื่อนที่...คิดยังกะนักปราชญ์ชาวกรีกสมัยโน้นเลย


อนิจจัง ทุขขัง อนัตตา


อย่าว่าแต่เรื่องที่ตาเราเห็นเลย
สุข จริงรึป่าว ทุกข์ จริงรึป่าว
ก้ออยู่ที่เรากำหนดมันขึ้นมา
ทั้งๆที่มันก้อไม่มีตัวตนจริงๆ

คนเราคิดได้ ก้อพยายามคิดๆๆๆๆ
แล้วก้อสื่อสารให้มันเป็นรูปธรรมที่สุด
หาข้อกำหนด ข้อจำกัดให้กับทุกๆอย่างรอบตัว
เขียวต้องเป็นอย่างนี้นะ...แดงต้องเป็นอย่างนั้นนะ
ยึดติดกับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
ลองดูธุรกิจบันเทิงทั้งหลายที่ทำมาสนองเรื่องพวกนี้สิครับ
สร้างกำไรยิ่งกว่าปัจจัย 4 ซะอีก
ถ้าจะว่าไปมันก้อ กิเลส ดีๆน่ะเอง

ที่ว่ามาผมเอาหมดเลย อิ อิ
ทั้งกิน ทั้งดู ทั้งดื่ม ทั้งฟัง ทั้งเต้น ก้อมันอดไม่ได้นิ๊
อย่างน้อยก้อถือว่ารู้ตัวไว้ก่อน ทำพองามๆ
ตามประสามะนุดโลกตาดำๆ อิ อิ

พระท่านบอกว่า
ถ้าเรารู้ว่าเหล็กมันร้อน เราจะจับมันมั๊ย
ถึงถ้าจะจับ เราจะจับมันแรงๆมั๊ย หรือใส่ถุงมือก่อนจับ
แต่คนที่ไม่รู้ว่ามันร้อนล่ะ...ก้อคงจับไปเต็มๆ

อันนี้ถือว่า คิดก่อน รู้ก่อน ก้อได้เปรียบครับ



โดย: superjack วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:22:42:45 น.  

 
แวะมาบอก good night จ้า คืนนี้ฝันดีนะจ้ะ


โดย: corfinia วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:23:58:04 น.  

 


โดย: Bluejade วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:6:28:38 น.  

 
แวะมาเยี่ยมสุดหล่อ
ขอบคุณที่ไปเที่ยวเล่นที่สวนดอกไม้น๊ะครับ
เฮียตี๋จะปิดบล็อกไปเที่ยวอีกแล้วครับ เร็วๆนี้ กลับมาแล้วจะเอาปราสาทราชรถมาฝากกันคับ


โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:7:57:20 น.  

 
แวะมาเยี่ยมสุดหล่อ
ขอบคุณที่ไปเที่ยวเล่นที่สวนดอกไม้น๊ะครับ
เฮียตี๋จะปิดบล็อกไปเที่ยวอีกแล้วครับ เร็วๆนี้ กลับมาแล้วจะเอาปราสาทราชรถมาฝากกันคับ


โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:7:57:31 น.  

 
True (ความจริง) บางครั้งก็ไม่สำคัญเท่า
Perception (การรับรู้)
ยิ่งมนุษย์ให้ความสำคัญกับอารมณ์ยิ่ง
กว่าเหตุผลเท่าไร Perception ยิ่งมีอิทธิพล
กับเรามากกว่า True เท่านั้น
และอะไรที่มันเลวร้ายยิ่งกว่า ก็คือมนุษย์
เลือกที่จะรับรู้ (selective) เสียด้วย ยกตัวอย่าง
มาร์ค ในตัวตนจริงอาจจะเป็นนักเลงหัวไม้ เกเร
ไล่ฟันหัวชาวบ้าน เมาหยำเป ไม่ทำงาน ลักวิ่ง
ชิงปล้นเค้าไปวันๆ (นี่คือ True หรือ Fact) แต่
ในสายตาการรับรู้ (Perception) ของแม่เจ้า
มาร์ค ไอ้มาร์คก็ยังเป็นลูกรัก กลับบ้านมา
ก็มากอดแม่ มาหอมแก้มแม่ ได้เงินโกงชาวบ้าน
เค้ามา ก็แบ่งให้แม่ แม่ไม่รู้ไม่เห็น ว่าแต่ละวัน
เจ้ามาร์คออกไปทำไรมา แต่อยู่บ้านมันดีทู๊กที
วันดีคืนร้าย ชาวบ้านย่านนั้นก็คาบข่าวเรื่อง
ความรายัมตำบอนของเจ้ามาร์คมาบอกแม่
บ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่เชื่อ แถมไล่ด่าเค้ากลับไป
อีกว่ามาใส่ร้ายลูกเค้าได้ไง หนักๆเข้าตำรวจมาที่
บ้านบอกถูกจับข้อหาปล้น แม่ยังไม่เชื่อ (Selective)
เพราะเลือกที่จะเชื่อแต่การรับรู้แต่สิ่งที่ดีๆของลูก

พร่ำเพ้อมายืดยาวเนี่ย ไม่รุว่าใช่แบบเดียวกับ
สิ่งที่เห็น กับสิ่งที่เป็นของ markabyte ปล่าว




โดย: หากผมรักคุณจะผิดมากไหม วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:10:08:54 น.  

 
Markabyte เชื่อมั้ยครับว่าคิดแบบนี้

คิดแบบปรัชญากรีกเลยนะครับ

โดยเฉพาะเรื่อง "รูปแบบที่สมบูรณ์" ของเพลโต

ม้าที่เราเห็นทุกวันนี้ ตรงไหนที่เราเรียกว่าม้า สิ่งที่เราเห็นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของม้า ม้าที่สมบรณ์แบบไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ ต้องเห้นด้วย "ปัญญา" (งง? ละซิครับ)

เพ้อเจ้อ ไปเรื่อยแล้ว เดี๋ยวยาว

แวะมาทักมายครับ


โดย: Thus Spoke Eitthakorna วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:22:23:23 น.  

 
ผมว่าผมเริ่มเห็นคนที่คิดคล้ายๆ กันหลายคนแล้วนะในบล๊อกแก๊งค์แห่งนี้...
คนที่คิดเห็นแตกต่างจะกระแสหลัก...

สิ่งที่เราเห็นล้วนเป็นภาพลวงตา.. อยู่ที่หลักปรัชญาที่เราจะเลือกยึดถือว่าเราจะเอาของใครมาเป็นกฏเกณฑ์...
เหมือนศาสนานั่นแหละครับ

ยินดีที่ได้รู้จัก.. แล้วจะเข้ามาสนทนากันใหม่ครับ


โดย: biggg วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:22:49:51 น.  

 
แอบเข้ามาบอกว่า วันไหนท้องผูกแวะไปฟังได้แล้วนะครับ งง ละสิ


โดย: superjack วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:23:40:00 น.  

 
แวะมาดูอีกแล้วจ้า


โดย: Bluejade วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:4:01:02 น.  

 
แวะมาบอกว่า เอียตี๋จะปิดบล็อกสิ้นเดือนนี้ไปถึงกลางเดือนหน้าครับ ไปเที่ยวยุโรปครับ


โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:6:15:55 น.  

 
จินตนาการ เลอเลิศครับน้อง


โดย: POL_US วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:12:36:49 น.  

 
อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น

อย่าตัดสินคนที่ภายนอก

เกี่ยวกันมั้ย??? อิอิอิ


โดย: แฟนพี่บีม วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:18:31:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Markabyte
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




+ Electrical Engineering Kasetsart University(E59) KU63

+ Master's Degree in Marketing(MIM23)/Thammasat University

+ Kasikorn Thai Bank Scholarship Student 2009

+ Interests: Marketing/Cooking/Singing/Movie/Healthy Living/Traveling
Friends' blogs
[Add Markabyte's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.