ทำงานก่อน สัมภาษณ์ทีหลัง
หลังจากไปเขียนอะไรเลอะเทอะไว้มากมายในนิราศแคนาดา กลับมาทำงานหามรุ่งหามค่ำตัดเนื้อดูสไลด์แล้วก็ลืมสไลด์ทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ (โดยไม่ได้ส่งช่องอาจารย์) ตามปกติ ชีวิตก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจนกระทั่งนายแพทย์พี่ปั๋ม (นพ สุริยา รุ่นพี่ที่เอาทุนมาเรียนพร้อมกัน) โทรมาแจ้งวันสมัครแล้วก็วันสัมภาษณ์ก็เลยมีเรื่องอะไรๆพอให้เขียนเล่าได้บ้างหลังจากไม่อยากจะเล่าอะไร (แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรให้เล่า แต่มันเล่าไม่ได้ มันปวดใจ มันทรมาน มัน...เฮ้อ...) มาเป็นเวลานาน การสัมภาษณ์นั้นก็ต้องถ่อไปไกลถึงองครักษ์ วัดเป็นระยะทางจากบ้านไอติมก็หกสิบกิโลเมตรกว่าๆ จากศิริราชก็ราวๆแปดสิบ ซึ่งถ้ารถวิ่งโดยไม่มีอะไรมากีดขวางก็ควรจะใช้เวล่ราวๆชั่วโมงเดียวเท่านั้น แต่ก็อย่างที่เราๆท่านๆทราบกันดีว่าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลของเรานั้นมันช่างรถติดบัดซบขนาดไหน ขอไปออกจากบ้านก็ใช้เวลาสองชั่วโมง ขากลับศิริราชนี่แย่กว่า ล่อเข้าไปสี่ชั่วโมง การเดินทางนี่มันโหดร้ายจริงๆ โชคดีว่า Resident ไอติมแทบจะไม่ต้องทำงานตัดเนื้อที่ศิริราชแล้ว ก็เลยผ่อนหนักเป็นเบา ถ้าเดินทางขนาดนี้แล้วกลับมาตัดเนื้อต่อก็อาจถึงตายได้ คือถ้า Resident ไอติมไม่ตายก็เนื้อที่ตัดนั่นแหละตาย พอเดินทางไปถึงเก้าโมงครึ่งยังไม่ถึงเวลานัดสัมภาษณ์ ก็มีผู้ป่วยเดินกระย่องกระแย่งมาตามผลอ่านชิ้นเนื้อที่ภาควิชา อาจารย์นันทนาเจ้าของเนื้อได้ทีไหนๆก็มากันแล้วให้ Resident ไอติม กับ Resident พี่ปั๋มนั่นแหละอ่านผลชิ้นเนื้อซะเลย (เอ่อ...ยังไม่มีใบวุฒิบัตรเลยนะฮะ) โชคดีว่ามันแค่เคสติ่งเนื้อในลำไส้ที่ไม่ยากนัก สองคนจึงรวมพลังกันอ่านและพิมพ์ผล ซึ่งอาจารย์ก็รับไปดูหน่อยนึงแล้วก็ส่งออกไปเลย เป็นอันว่าทำงานเสียตั้งแต่ยังไม่ได้สัมภาษณ์งาน อ่านชิ้นเนื้อกันตั้งแต่ก่อนจะสอบเสร็จเลยทีเดียว และปีนี้ทาง มศว(ไม่มีจุด) ก็รับอาจารย์พาโธรวดเดียวถึงสามคน ทำให้ปีหน้าจะมีอาจารย์เต็มภาคไปหมดและน่าจะหาข้ออ้างที่จะไม่อ่านเนื้อได้ยากขึ้น แถมตอนนี้โรงพยาบาลเจริญขึ้นมากแบบผิดหูผิดตา คนมาจากไหนไม่รู้เยอะแยะไปหมด การผ่าตัดก็เริ่มมีการผ่าตัดยากๆ มีเนื้อชิ้นใหญ่ๆเยินๆมามากขึ้น (Resident ไอติมนึกในใจ ซวยแล้วทีนี้) อนึ่ง ตอนนี้ตึกใหม่สร้างเสร็จแล้ว สวยดีน่าอยู่ แต่ไม่รู้จะมีคนมาอยู่เมื่อไหร่เพราะน้องๆคงต้องเรียนที่ประสานมิตรอีกนาน ยังไม่ทันได้สัมภาษณ์ หัวหน้าภาคก็แจกหน้าที่ให้ผู้เข้าสมัครโดยเร็วพลัน Resident ไอติมคงหนีไม่พ้นถูกส่งไปเรียน Hematopathology เนื่องจากเป็นศาสตร์มืดที่ไม่มีใครเอาและไม่น่าจะมีใครที่ มศว (ไม่มีจุด) อยากไปเรียนในช่วงห้าถึงสิบปีนี้ ส่วนไอ้เรื่องอื่นๆก็ต้องทำคู่กันไปด้วยเพราะยังไงๆคนก็มีไม่พออยู่แล้ว ส่วนการสัมภาษณ์นั้นจัดเป็นเหมือนพิธีกรรมอะไรสักอย่าง ภาควิชาอื่นก็มีคนมาเหมือนกันก็ล้วนแต่คุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้น ส่วนมากก็เป็นแพทย์ใช้ทุนที่จบจากที่นี่ไปแล้วก็ไปเรียนเฉพาะทางกลับมา ดังนั้นการสัมภาษณ์จึงง่ายมาก ต้อนผุ้สมัครเข้าห้องทีละภาค ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็เสร็จแล้ว หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ ก็เดินทางกลับภาควิชา และขนของกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวกลับมายังศิริราชต่อไป เฮ้อ... ภาคผนวก บันทึกการสนทนาในห้องสัมภาษณ์ อ.ภาวิน(ฝ่าย HR) "เอ่อ อาจารย์นันทนามีอะไรจะถามผู้เข้าสมัครไหมครับ" อ.นันทนา(หัวหน้าภาค) "ไม่มี ถามไปหมดแล้ว รับหมดเลย" ผู้เข้าสมัครทั้งสาม "????" อ.ภาวิน งั้นก็หวังว่าจะเรียนให้จบแล้วรีบกลับมาช่วยงานโดยด่วนทั้งสามคนเลยนะ จบการสัมภาษณ์
Create Date : 03 เมษายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 3 เมษายน 2555 13:37:14 น. |
Counter : 1183 Pageviews. |
|
|
|