สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

8 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความงาม


 ข้อปฏิบัติเพื่อความงามที่ทำเป็นกิจวัตรทำให้ดูแย่ลงแทนที่จะดูดีขึ้นหรือเปล่ามาดู 8ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความงามที่อาจทำผิดจนเป็นนิสัย


1.ชโลมครีมนวดผมตั้งแต่โคนจรดปลาย : โดยปกติเวลาสระผมเรามักจะชโลมครีมนวดผมตั้งแต่โคนจรดปลายเหมือนเวลาใช้แชมพูสระผม แต่แท้จริงแล้วบริเวณโคนผมจะแข็งแรงเนื่องจากเพิ่งงอกใหม่ ส่วนปลายผมต่างหากที่ต้องการการดูแล เพราะงอกออกมานานแล้ว และเป็นส่วนที่ได้รับความเสียหาย การชโลมครีมนวดผมตั้งแต่โคนผมจะทำให้ผมมันและดูลีบแบน ทางที่ดีควรชโลมครีมนวดผมบริเวณหูลงไปจรดปลายผม ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผมมีน้ำหนักและไม่มันง่าย จึงไม่ต้องสระผมบ่อย


2.ลงรองพื้นทันทีหลังทาครีมบำรุงผิว: ความชุ่มชื้นในมอยเจอไรเซอร์จะทำให้แต่งหน้าติดไม่ทน ถ้าไม่รอให้มอยเจอไรเซอร์ซึมลงสู่ผิวเสียก่อน ดังนั้นหลังทาครีมบำรุงผิวแล้วควรรอประมาณ 60วินาทีก่อนลงรองพื้น หรือหากไม่มีเวลาก็ให้ใช้กระดาษทิชชูซับหน้าเบาๆ แล้วจึงลงรองพื้น


3.ฉีดน้ำหอมหลังสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว:น้ำหอมอาจทำให้ผ้าเป็นรอยด่างดวง และเส้นใยผ้าก็อาจทำให้น้ำหอมมีกลิ่นแปลกออกไป เพราะน้ำหอมถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้กับผิวหนัง ความร้อนของร่างกายจะส่งผลให้น้ำหอมส่งกลิ่นหอมรวยรินตลอดทั้งวัน จึงควรฉีดหรือแต้มน้ำหอมบนร่างกายก่อนแต่งตัวบริเวณจุดชีพจร เช่นข้อพับหัวเข่า ซอกคอ หลังใบหูและข้อมือ ที่สำคัญไม่ต้องถูข้อมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันหลังจากฉีดน้ำหอมเสร็จ เพราะจะเป็นการทำลายโครงสร้างโมเลกุลของน้ำหอม


4.ถอนขนคิ้วใกล้ๆ กระจก:การจ้องมองอะไรใกล้ๆ จะทำให้เราไม่เห็นภาพรวมของสิ่งๆ นั้น ซึ่งเมื่อใช้วิธีนี้ถอนขนคิ้ว จึงมีโอกาสสูงที่คิ้วทั้งสองข้างจะไม่เท่ากัน หรือถอนจนคิ้วบางเกินไป ดังนั้นหากอยากให้คิ้วสวยเป็นรูปทรง ขณะถอนควรส่องกระจกใหญ่ๆ ที่วางใกล้หน้าต่าง คอยถอยออกมาจากกระจกเพื่อดูรูปทรงของคิ้วอยู่เสมอ และควรถอนขนคิ้วให้มีรูปทรงและขนาดที่เข้ากับใบหน้าเพื่อความสมดุลและเป็นธรรมชาติ


5.ไม่ดูแลลำคอ:เมื่อทาครีมบำรุงผิวหน้า อย่าหยุดแค่ที่คาง เพราะผิวหนังบริเวณลำคอบอบบางกว่าผิวบริเวณหน้าเสียอีก ดังนั้นจึงเกิดริ้วรอยง่าย ทางที่ดีควรดูแลผิวที่ลำคอให้เหมือนกับใบหน้า หากทาครีมกันแดดก็เลื่อนมือลงมาบริเวณลำคอด้วย โดยไม่จำเป็นต้องใช้ครีมสำหรับทาคอโดยเฉพาะ ยกเว้นถ้าครีมที่ใช้มีส่วนผสมของกรดอัลฟ่า ไฮดร็อกซี่หรือเรตินอล ให้ลองทดสอบก่อนว่าจะไม่ทำให้เกิดอาการแพ้บริเวณลำคอ


6.ทามอยเจอไรเซอร์รอบดวงตาเพื่อลดอาการบวม:ความชุ่มชื้นในครีมจะเพิ่มน้ำให้ผิว ดังนั้นการทามอยเจอไรเซอร์อาจทำให้รอบดวงตาบวมยิ่งกว่าเดิม ถ้ารอบดวงตาบวมแต่ไม่แดงหรือระคายเคืองให้ใช้น้ำแข็งประคบเป็นเวลา 10-15นาที หรือใช้อายเจลที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน แต่ถ้ารอบดวงตาบวมแดงและคัน สันนิษฐานได้ว่าเกิดจากการแพ้อะไรสักอย่าง


7.อาบน้ำและสระผมจนกว่าจะรู้สึกสะอาดมากๆ :การขัดถูร่างกายหรืออาบน้ำนานจนเกินไป อาจทำให้รู้สึกสะอาดและสดชื่นก็จริง แต่ก็จะเป็นการทำลายน้ำมันตามธรรมชาติที่จะช่วยปกป้องผิวและทำให้ผิวชุ่มชื้นด้วย ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำพวกใยขัดตัวหรือแชมพูยาก็ยิ่งมีโอกาสที่จะทำลายน้ำมันบนผิวมาก ข้อแนะนำคือไม่ควรอาบน้ำนานกว่า 10นาที และใช้เวลาน้อยกว่านั้นถ้าอาบน้ำอุ่น 


8.ประโคมยารักษาสิวเต็มที่:ถ้าสิวผุดขึ้นมาบนใบหน้า ไม่ว่าเม็ดเล็กหรือใหญ่ สิ่งที่คนทั่วไปมักจะทำคือโปะยารักษาสิวให้มากและบ่อยเข้าไว้ โดยหวังว่าสิวเม็ดนั้นจะยุบลงโดยเร็ว แท้จริงแล้วยารักษาสิวมีกรดซึ่งจะค่อยๆ ซึมลงสู่ผิวโดยใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะซึมลงหมด การทายามากเกินไปจึงอาจทำให้สิวปะทุมากขึ้น และเกิดอาการแพ้ ผิวหนังแห้ง และระคายเคือง ดังนั้นต้องปฏิบัติตามวิธีใช้อย่างเคร่งครัด โดยส่วนใหญ่จะให้ทาแค่วันละหนึ่งหรือสองครั้งเพื่อป้องกันผิวแห้ง


 


 







ขอบคุณข้อมูลจาก
//www.cpfamilyclub.com/index.php/
lifestyle/portal/content/6542




 

Create Date : 04 มิถุนายน 2554
1 comments
Last Update : 4 มิถุนายน 2554 8:15:24 น.
Counter : 873 Pageviews.

 

กระซิบ คุณกบ
ทำมาตั้งหลายข้อแหนะ
อย่าบอกใครน่ะ อิ อิ

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 4 มิถุนายน 2554 16:38:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
4 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.